ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #86 : ตอนที่ 86 บ้าคลั่ง

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 66


       โต๋วเจิ่งที่พุ่งเข้ามายังมุมอันแปลกประหลาด หากเป็นคนปกติอาจจะตอบสนองอย่างเชื่องช้า และ ถูกแทงไปสักแผฃสองแผล 

    แต่สำหรับหลินมู่แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยากใดๆที่จะตอบโต้ แม้นการขยับท่วงท่าของอีกฝ่ายจะแปลกพิสดารราวกับเป็นคนไร้กระดูก ขยับตัวรวดเร็วในองศาที่กายวิภาคของมนุษย์ไม่น่าจะสามารถทำได้

     

        ทั้งคู่สบตากันเพียงเสี้ยวอึดใจก็เข้าใจจุดประสงค์ของกันและกัน นั้นคือออกอาวุธแล้วสังหารอีกฝ่ายลงเสีย ดวงตาสีหมึกที่เปล่งประกายดุจทะเลมวลดารา 

    สาดแสงอันคมกริบเป็นเวลาเดียวกันที่ปราณฟ้าดินเริ่มปั่นป่วน กลายเป็นกระแสอัสนีแปลบปลาบ สร้างพื้นที่นี้ให้กลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม โต๋วเจิ่งที่อยู่ใจกลางอาณาเขต

     

        เริ่มโคจรลมปราณอย่างบ้าคลั่ง บิดตัวกลางคันราวกับจะเปลี่ยนตนเองเป็นดอกสว่าน จ้วงแทงมีดสั้นเข้าไปยังใต้รักแร้ด้วยความเร็วดุอสรพิษร้าย

    ลมปราณสีเขียวหม่นเคลือบอยู่บนใบมีด พุ่งเข้าหวังปลิดชีพชายหนุ่มมือกระบี่ผู้นี้ เปรี้ยง!! แต่ยังไม่ถึงฝั่งฝันเสียงอัสนีกัมปนาทก็ดังขึ้นเสียก่อน มาพร้อมคมกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาราวกับทัณฑ์สายฟ้าจากฟากฟ้า

     

        ปัง!! ร่างของโต๋วเจิ่งกระโดดถอยหลัง ตีลังกาในท่วงท่าผิดมนุษย์บิดข้อเท้า ถอยห่างออกจากระยะของอีกฝ่าย เปรี้ยง!! ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอดี ชายหนุ่มชุดคลุมเทาก็พุ่งออกมาจากหมอกควัน

    พร้อมคมกระบี่ที่สาดประกายคมกริบและประกายอัสนี ฟิ้ว!! แต่โต๋วเจิ่งไม่ได้อยู่เพียงคนเดียว เขายังมีมือเกาทัณฑ์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ และ ลูกสมุนอีกนับร้อย ลูกเกาทัณฑ์สีดำอาบยาพิษพุ่งเข้ามายังจุดหว่างคิ้วของชายหนุ่ม

     

        ไอสังหารและเค้าลางความตายเข้มข้น เสมือนกับความตายของเขากำลังจะมาถึง ดวงตาสีหมึกนั้นสาดประกายแสงที่ไม่รู้จัก ปลดปล่อยเส้นสายสีฟ้าใสบางราวกับริ้วคลื่น

    ตัดลูกเกาทัณฑ์แบ่งเป็นสองส่วน โดยที่ความเร็วที่ตนพุ่งไปข้างหน้าไม่ได้ลดลงเลย เขากระโดดม้วนตัวกลางอากาศง้างกระบี่ฟาดฟันลงไปอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง!!

     

        บังเกิดเป็นเสียงอัสนีกัมปนาทอีกครั้ง คมกระบี่สีขาวนวลดุจหิมะขาว ฟาดฟันลงมาเปรียบเสมือนภูเขาหนักนับพันชั่ง สะกดไม่ให้สิ่งมีชีวิตหน้าไหนหลบหนี

    โต๋วเจิ่งสูดหายใจเข้าจนสุดปอด โคจรลมปราณปลดข้อต่อขยับแขนขาและกล้ามเนื้อ ด้วยท่วงท่าพิศดารพันลึกยกมีดสั้นทั้งสอง ขึ้นไปเบี่ยงวิถีของคมกระบี่

       

       ปัง!! น้ำหนักอันมหาศาลกดทับลงมา ทำให้ชายวัยกลางคนหลังค่อมจะต้องถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะเบี่ยงตัวปัดคมกระบี่ไปยังทิศทางอื่น พร้อมทั้งโจมตีสวนกลับด้วยเคล็ดวิชามีดสั้น

    จ้วงแทงไปยังบริเวณใต้ลำคอ ด้วยสีหน้าอำมหิตโหดเหี้ยม ดวงตาอันแดงก่ำเต็มไปด้วยกลิ่นอายอำมหิต สบประสานกับ ดวงตาสีหมึกอันราบเรียบที่อัดแน่นไปด้วยประกายแปลกตา

     

        ความรู้สึกถึงความตายบังเกิดขึ้นในใจของโต๋วเจิ่งอย่างกระทันหัน ร่างกายขยับไปตามสัญชาตญาณ เบี่ยงหลบคมกระบี่ที่ถูกฟาดฟันขึ้นมา ราวกับเขาไม่มีกระดูกและสามารถขยับตัวได้ตามใจนึก 

    โดยไม่มีข้อจำกัดทางสรีระทางร่างกาย แต่ไอความตายเข้มข้นที่สัญชาตญาณของเขารับรู้ ยังคงไม่สลายหายไปเพียงเสี้ยวอึดใจ คมกระบี่ก็ถูกจ้วงแทงเข้าหาด้วยความเร็วสูง

     

       โต๋วเจิ่งบิดตัวส่วนบนอย่างหวาดเสียว หลบพ้นคมกระบี่ได้อย่างทุลักทุเล เขาใช้วิชาตัวเบากระโดดถอยหลังทิ้งระยะห่าง พร้อมทั้งมีเหล่าลูกน้องนับสิบ พุ่งมาประกบขวางเส้นทางเอาไว้

    ชายวัยกลางคนหลังค่อมใช้ปลายนิ้ว สัมผัสบาดแผลยาวบริเวณหน้าอกที่มีเลือดสีแดงสด ไหลย้อมอาภรณ์จนเป็นสีแดงฉาน สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความประหลาดใจปนสับสน

     

       เขามีความรู้สึกคล้ายมีหนอนตัวเล็กๆชอนไชอยู่ในเส้นลมปราณ กัดกินและบั่นทอนลมปราณของเขาไปทีละเล็กทีละน้อย ดวงตาเริ่มสาดประกายความบ้าคลั่งล้ำลึก “ฮ่าฮ่าฮ่า!! ราชายุทธ์!! วันนี้ข้าได้เผชิญหน้ากับราชายุทธ์!!”

    โต๋วเจิ่งโพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันบ้าคลั่ง จนผู้คนโดยรอบต่างเปลี่ยนสีหน้าไปมาไม่หยุด ความรู้สึกเช่นนี้มีเพียงราชายุทธ์เท่านั้นจะทำได้ การส่งลมปราณทำลายอวัยวะภายใน คืออภิสิทธิ์ของขอบเขตราชายุทธ์ขึ้นไปเท่านั้น!

     

        “วันนี้โชคเข้าข้างข้า ส่งราชายุทธ์รุ่นเยาว์มาเป็นเกียรติยิ่งแล้ว” โต๋วเจิ่งคำรามราวกับคนเสียสติ เสียงกระดูกข้อต่อดังกระหึ่ม เสียงกรอบแกรบราวกับบางสิ่งแตกหักดังไม่หยุด

    เพียงไม่กี่อึดใจร่างที่เคยหลังค่อมนั้น ก็ยืนตรงราวกับเสาค้ำฟ้า มัดกล้ามอัดแน่นใบหน้าคมคาย เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง หล่อเหลายากจะพรรณนา ดวงตาสีน้ำตาลแดงสาดประกายความบ้าคลั่ง

     

        ลมปราณสีเขียวแปลกประหลาดพวยพุ่งออกมาไม่หยุด มาพร้อมเสียงตะโกนของอีกฝ่าย “ข้าขอแนะนำตัว ข้ามีนามว่าโต๋วเจิ่ง เป็นคนบ้าวรยุทธ์!! ขอคำแนะนำด้วย!” ดวงตาแดงก่ำของอีกฝ่าย

    มองไปบนหลินมู่ที่ยืนในท่วงท่าประหลาด ด้วยความละโมบโลภมาก บนตัวราชายุทธ์จะต้องมีเคล็ดวิชาระดับสูงไม่มากก็น้อย ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าการต่อสู้กับอีกฝ่าย ก็เป็นประสบการณ์จากจะได้รับมาง่ายๆ

     

        โชคหล่นทับเสียแล้ว สิ่งที่เขาจะได้จากชายหนุ่มตรงหน้า มันมากกว่าการปล้นสะดมเสียอีก โต๋วเจิ่งเลียริมฝีปากดวงตาเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น

    หลินมู่เลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะขยับปาก พูดออกมาด้วยเสียงเอื่อยเฉื่อย “มือกระบี่ แซ่หลิน” โต๋วเจิ่งหัวเราะดังสนั่น ป้องหมัดให้อีกฝ่ายพร้อมพุ่งเข้าหาด้วยกำลังดุจสัตว์เดรัจฉาน

     

        ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าลูกน้องของตนจะเป็นตายเช่นไร แม้แต่เหล่าลูกน้องของโต๋วเจิ่งยังดวงตาแดงก่ำ นั้นคือราชายุทธ์เพียงรอดไปได้ พวกเขาก็จะได้รับชื่อเสียงมากมาย

    ไม่ต้องพูดถึงการสังหารอีกฝ่ายได้เลย มันคือเกียรติอันไม่รู้จบ ทวีปนี้เคารพผู้แข็งแกร่งเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า และวันนี้พวกเขาจะเป็นฟ้าอีกผืนปราบปรามฟ้าสูง!! ต่อให้อีกฝ่ายเป็นคชสารคลั่ง หากมีมดมากพอคชสารก็จะถูกมดกัดตาย

     

        เหล่าโจรนับร้อยพุ่งเข้าใส่หลินมู่ราวกับปีศาจหิวกระหาย ง้างอาวุธในมือโจมตีออกไปอย่างไม่กลัวตาย แม้แต่มือเกาทัณฑ์ที่หลบซ่อนตัวตนอยู่ยังต้องปรากฏตัวออกมา

    ดวงตาใต้ชุดคลุมสีดำลวดลายแปลกตา จับจ้องไปยังร่างในวงล้อมอย่างตกตะลึง “ราชายุทธ์…” นั้นคือขอบเขตที่เหล่าผู้ฝึกฝนพเนจรได้แต่ใฝ่ฝันวันแล้ววันเล่า

     

        หากสังหารอีกฝ่ายลงได้ อาจจะได้รับวิชาฝึกฝนที่จะทำให้ไปถึงยังขอบเขตนั้นได้! ความโลภเข้ากลืนกินหัวใจของมือเกาทัณฑ์ทมิฬผู้นี้

    เขาง้างสายเกาทัณฑ์จนมันกลายเป็นจันทร์เต็มดวง ควบแน่นลมปราณอัดลงไปยังลูกเกาทัณฑ์โลหะสีดำ ก่อนจะปล่อยสายส่งลูกเกาทัณฑ์ พุ่งตัดอากาศเข้าหาร่างนั้นสร้างเป็นเส้นทางสีดำสายยาว

     

        ร่างในชุดคลุมเทาที่พัลวันอยู่กับเหล่าโจรอยู่ ก็สัมผัสได้ถึงไอความตายคละคลุ้ง ไอความตายและจิตสังหารเข้มข้น ไม่ได้มาเพียงทางเดียว แต่พวกมันมาถึงสองทาง

    ดวงตาสีหมึกเปล่งประกายราวกับทะเลดวงดาวนั้น หรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะใช้วิชาตัวเบา กระโดดม้วนตัวถอยหลังดึงจิตกระบี่ควบแน่นปราณฟ้าดิน ให้กลายเป็นลมปราณสร้างเป็น อาณาเขตทะเลอัสนีขนาดย่อมอีกครั้ง

     

       ฟิ้ว!! ปัง!!! ร่างอันดุดันพุ่งผ่านทะเลอัสนีมาอย่างง่ายดาย บนใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มอำมหิต “จับได้แล้ว…” โต๋วเจิ่งพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

    พร้อมกับใช้เคล็ดมีดสั้นแทงเข้าหาร่างของอีกฝ่ายโดยไร้ความลังเล เพียงอีกเสี้ยวพริบตาลูกเกาทัณฑ์สีดำทมิฬ ที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหารมากกว่าครั้งไหนๆ ก็พุ่งตัดผ่านทะเลอัสนีเข้ามาหวังเด็ดชีวิตน้อยๆของชายหนุ่มไป

     

       “ฟู…ลำบากเจ้าแล้วตงหยู” หลินมู่พึมพำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โคจรจิตกระบี่นับสิบเส้นอย่างบ้าคลั่ง ดึงเอาทะเลอัสนีอัดแน่นไปในคมกระบี่ พร้อมผสานกับจิตกระบี่ที่มีความแหลมคมอันบริสุทธิ์

    ปณิธานมุ่งมั่นบังเกิดขึ้นในแววตา ที่ราวกับมวลทะเลดวงดารานั้น เป็นอีกครั้งที่เส้นริ้วราวกับสายน้ำสายบาง ที่พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้พุ่งออกมาจากดวงตาของอีกฝ่าย

     

        มันเข้าปะทะกับลูกเกาทัณฑ์ราวกับสายฟ้าฟาด สะกัดกั้นวิถีสังหารของลูกเกาทัณฑ์ได้อย่างเฉียดฉิว พร้อมทั้งที่ชายหนุ่มออกกระบี่ สร้างเป็นคลื่นราวกับอยู่ท่ามกลางทะเลสายฟ้าอันบ้าคลั่ง

    คมกระบี่สีขาวดุจหิมะขาว อัดแน่นไปด้วยความแหลมคมและประกายอัสนีละลานตา ถูกฟาดฟันเข้าใส่อีกฝ่าย โต๋วเจิ่งแสยะยิ้มดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แสดงเคล็ดวรยุทธ์ออกมาอย่างไม่กัก คมมีดสั้นเปล่งประกายด้วยลมปราณที่หนักอึ้ง

     

        ฟันเข้าปะทะกับคมกระบี่ เปรี้ยง!! คลื่นเสียงระเบิดสั่นสะเทือน ราวกับทำให้ฟ้าเปลี่ยนสี ประกายสายฟ้าแตกกระจายพร้อมความแหลมคมที่สิ่งมีชีวิตใดยากจะต้านทาน

    เพียงเสี้ยวพริบตาที่อาวุธทั้งสองปะทะกัน มีดสั้นของโต๋วเจิ่งก็พ่ายแพ้ในชั่วพริบตา รอยแตกปรากฏขึ้นบนใบมีดก่อนจะถูกตัดแบ่งเป็นสองส่วน ราวกับมีดร้อนๆถูกผ่าก้อนเนย

     

        คมกระบี่ที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันเด็ดขาด พุ่งเข้าหาลำคอของโต๋วเจิ่งรวดเร็วดุจสายอัสนีกัมปนาท ที่พาดผ่านฟาดลงมายังผืนโลก แกร็ก!! เสียงกระดูกข้อต่อดังขึ้นอีกครั้ง

    หัวของโต๋วเจิ่งบิดและงอในองศาน่าหวาดเสียว หลบพ้นคมกระบี่ได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด รอยแผลยางบนลำคอที่เลือดสีแดงสดไหลรินไม่หยุด แต่ไม่นานแผลนั้นเลือดก็หยดไหล บนตัวเต็มไปด้วยรอยกระบี่สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

     

         น่าเสียดายที่ฟันไม่ถูกจุดสำคัญ ความแปลกประหลาดของเคล็ดวิชากายาพิสดาร ช่างพิสดารสมชื่อหลินมู่เตรียมจะพุ่งเข้าสังหารอีกครั้ง แต่ต้องหยุดลงอย่างกระทันหันเพราะลูกเกาทัณฑ์สีดำสนิทสองลูก

    พุ่งเข้าหาเขาอีกครั้งชายหนุ่มขยับท่าเท้าแปลกตา สะบัดกระบี่ปัดป้องตนเองอย่างง่ายดาย ดวงตาสีหมึกนั้นสาดประกายความคิดบางอย่าง ย่อตัวกระโดดถอยหลังตัดผ่านฝูงชน หายไปภายในป่ารกทึบ

     

        “ตามเขาไป!!!” โต๋วเจิ่งที่กำลังขับเศษเสี้ยวจิตกระบี่ในร่างออก คำรามสั่งให้ลูกน้องของตนตามอีกฝ่ายไป โชควาสนาและเกียรติยศชื่อเสียงก้อนใหญ่อยู่ตรงหน้าแล้ว ไฉนพวกเขาจะไม่ตามไป

    มือเกาทัณฑ์ทมิฬของกองโจรพิสดารขยับตัวเป็นคนแรก พุ่งเข้าไปในป่าไล่ตามอีกฝ่ายไปอย่างโลภมากในเคล็ดวิชาของอีกฝ่าย เพียงไม่กี่สิบอึดใจร่างของคนนับร้อยก็หายไป เหลือไว้เพียงร่างสองท่อนบนถนนหนทาง และ ม้าหนึ่งตัวข้างศพที่ถูกเฉือนลำคอ

     

       หลินมู่วิ่งสลับไปมาบนต้นไม้ภายในป่ารกทึบ กำลังวางแผนสังหารมือเกาทัณฑ์ที่เขาคิดว่าอันตรายออกไปก่อน คิดแผนสักพักเขาก็ดิ่งตัวลงพื้น ใช้เชือกวิเศษผันตัวเองไว้กับต้นไม้ โคจรจิตกระบี่ดึงปราณฟ้าดิน

    กลมกลืนหายไปกับป่าทึบ เพียงไม่นานเหล่าโจรหลายชีวิตก็ผ่านทางมา ดวงตาที่อยู่ในความมืดสาดประกายอันคมกริบ จนแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าขนาดเล็กๆยังถูกตัดออกเป็นเสี่ยงๆ

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×