ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #81 : ตอนที่ 81 เดรัจฉานน้อย

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 66


       “เมื่อเจ้าเดินไปตามเส้นทางนี้ เพียง 3 วัน เจ้าก็จะไปถึงหมู่บ้านศิลานิลได้ไม่ยาก หากมีอะไรสงสัยเจ้าสามารถถามข้าได้เลย” นักประเมินเฒ่ากงฉิว

    พูดขึ้นพร้อมลูบเครายาวของตน ในขณะเดียวกันนักประเมินเฒ่าก็ยกถ้วยชา ขึ้นมาจิบให้ลำคอที่แห้งผากของตนกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง

     

       ตรงข้ามคือชายหนุ่มชุดคลุมเทาสะพายกระบี่ กำลังแสดงท่าทีไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเปล่งเสียงถามนักประเมินเฒ่าด้วยความสงสัย

    “อาวุโสกงฉิวไม่ทราบว่า ข้าสามารถคัดลอกแผนที่ได้หรือไม่? หรือต้องจ่ายราคาเท่าไหร่กันจึงจะได้สำเนาคัดลอก?” นักประเมินเฒ่าวางถ้วยชาลงก่อนจะตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

     

       “หากเป็นยามปกติ หากเจ้าต้องการแผนที่ของมณฑลใดมณฑลหนึ่ง ต้องจ่ายประมาณ 10 ถึง 20 ตำลึงทอง แต่ด้วยเจ้าถูกแนะนำมาจากชายชราผู้นั้น ข้าจะคิดราคาพิเศษโดยจะลดเหลือ 3 ส่วน”

    ชายหนุ่มที่ได้ยินก็แสดงท่าทางตกใจไม่ใช่น้อย เหลือ 3 ส่วนเลยหรือ? แปลว่าจากราคาที่ควรได้ 20 ตำลึง ทางหอการค้าก็ได้เพียง 6 ตำลึงกว่าๆเท่านั้น แบบนั้นจะไม่มีปัญหาภายหลังตามมาแน่นะ?

     

       บนใบหน้าของหลินมู่ถูกฉาบไว้ด้วยความสงสัย จนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างเด่นชัด นักประเมินเฒ่าที่เห็นถึงความกังวลก็ยิ้มก่อนจะพูดขึ้นมา 

    “แน่นอนว่าไม่มีผลใดๆตามมาแน่นอน นี้ยังอยู่ในขอบเขตที่หอการค้าต่วนเจิ่น จะทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง มากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เอาไงเจ้าจะรับไหม?”

     

       นักประเมินเฒ่ากงฉิวพูดด้วยคารมคมคาย หลอกล่อให้ชายหนุ่มควักเงินจ่ายเพื่อซื้อแผนที่ โดยภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มที่นิ่งสงบนั้น ส่วนลึกของแววตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

    คาดเดาได้ไม่ยากว่าหากสามารถดึงดูดจนชายหญิงจ่ายได้ ทางหอการค้าคงจะจ่ายค่านายหน้าให้ไม่มากก็น้อย ซึ่งหลินมู่ก็สังเกตเห็นความกระตือรือร้นที่แฝงอยู่ และพอจะคาดเดาได้เล็กน้อย

     

       เขาไม่ได้คิดหยุมหยิมใดๆอีก นำตำลึงทองออกมาจากถุงเงิน จำนวน 20 ตำลึง “อาวุโส คัดลอกแผนที่เส้นทางไปยังมณฑลซ่งหลุยให้ข้าที”

    นักประเมินเฒ่ากงฉิวแสดงรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะนำกองตำลึงทองมานับเขาเก็บไว้กับตนเอง 2 ตำลึง ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานสาว

     

       เมื่อพนักงานสาวมายืนอยู่ด้านหลัง นักประเมินเฒ่าก็บอกให้เธอไปยังหอข้อมูลให้พวกเขา คัดลอกสำเนาแผนที่ มณฑลเจ๋อตง มณฑลกวนซาง และ มณฑลซ่งหลุย

    เมื่อได้รับคำสั่งพนักงานสาวก็เตรียมจะออกจากห้องไป แต่ก็ถูกนักประเมินเฒ่าเรียกไว้ก่อน เขาหันหน้ามาถามหลินมู่ด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

     

       “สหายน้อย แม้นี้จะไม่ใช่เรื่องที่ข้าควรก้าวก่าย แต่เจ้าจะไปมณฑลซ่งหลุยทำไมหรือ? หากทางต่วนเจิ่นของเรามีข้อมูล ข้าจะขอให้เขาระบุไว้ในแผนที่ของเจ้าด้วย”

    ชายหนุ่มที่กำลังจิบชาอยู่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับอย่างสุภาพ “ข้าจะไปเยี่ยมคนรู้จักที่สกุลหลัว” นักประเมินเฒ่าทำท่าทางครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า

     

       “เหมือนหอการค้าของเราจะเคยติดต่อค้าขายกับพวกเขาอยู่ ข้าจะบอกให้คนทำแผนที่คัดลอกสำเนาพร้อมระบุจวนตระกูลหลัวให้เจ้าด้วยแล้วกัน แน่นอนนี่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”

    หลินมู่ป้องหมัดให้อีกฝ่ายเป็นการขอบคุณ นักประเมินเฒ่ายกมือขึ้นเล็กน้อย บอกเป็นนัยว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เขาหันไปสั่งกับพนักงานสาวที่อยู่ด้านหลัง 

     

       ก่อนจะหันหน้ากลับมาพูดกับชายหนุ่ม ปล่อยให้พนักงานสาวออกจากห้องธุรกรรม ไปทำตามคำสั่งของนักประเมินเฒ่ากงฉิว “ถึงแม้เจ้าจะซื้อแผนที่จากเราไปแล้ว แต่ข้าอยากจะเสนอบางอย่างเจ้าอยากฟังหรือไม่?” หลังจากนักประเมินเฒ่าพูดจบ หลินมู่ก็ขบคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า

    “ในเมื่อสหายน้อยมีเป้าหมายคือ มณฑลซ่งหลุย ซึ่งเจ้ามาได้จังหวะเหมาะ หอการค้าของเรากำลังจะส่งกองคาราวาน ไปยังสาขาที่อยู่ยังเมืองหวู่มณฑลซ่งหลุย เพื่อเติมและขนย้ายสินค้าบางส่วน โดยระหว่างทางผ่านเส้นทางไปยังหมู่บ้านศิลานิล ข้าจึงอยากถามสหายน้อยว่า เจ้าอยากจะเดินทางพร้อมกองคาราวานหรือไม่?”

     

       หลินมู่ที่ได้ยินข้อเสนอจากนักประเมินเฒ่า ก็ถามคำถามกลับทันทีหลังจากอีกฝ่ายปิดปากไม่กี่อึดใจ “อาวุโส ข้าต้องจ่ายเท่าไหร่หรือ แล้วต้องใช้เวลาเดินทางเท่าใด?”

    นักประเมินเฒ่าขยับนิ้วคิดคำนวณ ก่อนจะพูดขึ้นมา “3 ตำลึงทอง เจ้าจะได้รับป้ายไม้เพื่อบอกว่าเจ้าจะเดินทางติดไปกับกองคาราวานด้วย ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 3 สัปดาห์กว่าๆ หากไม่แวะที่ใดเลย”

     

       หลินมู่ที่ได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อย เขาคิดคำนวณกับตนเองซ้ำอีกครั้ง หลังจากเห็นขนาดของทวีปทางฝั่งตะวันตกแล้ว มันทำให้เขารู้ว่าอาณาเขตของมันเล็กกว่าตะวันออกมาก

    ระยะเวลาในการเดินทางจากมณฑลหนึ่งจะไปอีกมณฑลหนึ่ง จึงไม่ต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ เหมือนภูมิภาคอื่นๆ หลังจากคิดเล็กน้อยชายหนุ่มก็หยิบออกมาอีก 3 ตำลึงทอง ส่งให้นักประเมินเฒ่า

     

       แม้จะไม่มีบทสนทนาใดๆ พวกเขาทั้งสองก็เข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย นักประเมินเฒ่ารับ 3 ตำลึงทองมา ก่อนจะสั่นกระดิ่งเรียกพนักงานสาวอีกคนเข้ามา

    สั่งให้เธอไปนำป้ายไม้ขอเดินทางกับกองคาราวานมาหนึ่งอัน หลังจากนางจากไปหลินมู่ก็เปิดปากพูดขึ้นมา “อาวุโส ข้าจะขอถามคำถามได้หรือไม่?” นักประเมินเฒ่าเอนตัวลงพร้อมผายมือ

     

       หลินมู่ที่เห็นสัญญาณก็ขยับปากเปล่งเสียง ถามคำถามหนึ่งออกมาทันที “หากข้าจะไปยังเมืองหลิวบรรพต หลังจากไปถึงจวนสกุลหลัว จะต้องไปทางไหนจึงจะไปถึงรวดเร็วที่สุด”

    นักประเมินเฒ่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบไปมองด้ามกระบี่ที่ชายหนุ่มสะพายไว้อยู่ เขาพยักหน้ากับตนเองเงียบๆ แม้จะรู้สึกสงสัยทำไมอีกฝ่ายจึงไม่ซื้อแผนที่ แต่เขาก็เลือกจะตอบกลับ “ข้าจะตอบให้เจ้าโดยไม่ทีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมละกัน หลังจากเจ้าเสร็จธุระของเจ้าแล้ว หากตำแหน่งคือจวนสกุลหลัว ให้เดินทางตรงขึ้นเหนือ เพราะตำแหน่งของจวนสกุลหลัวอยู่ขนานพอดีกับเมืองหลิว”

     

       ชายหนุ่มที่ได้รับคำตอบเขาก็พูดขอบคุณนักประเมินชรา หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยสัพเพเหระ รอเวลาให้พนักงานสาวกลับมา เพียงไม่นานพนักงานสาวอีกคน 

    ก็กลับมาพร้อมป้ายไม้อันหนึ่ง และ หลังจากนั้นไม่นานนัก อีกคนก็กลับมาพร้อมม้วนแผนที่สามม้วน หลินมู่รับป้ายไม้มาห้อยไว้บนสายรัดเอวข้างตัว ก่อนจะนำแผนที่มาคลี่ออกเพื่อดูเส้นทาง

     

       ชายหนุ่มพยักหน้าม้วนแผนที่ แล้วจึงเก็บแผนที่ทั้งสามม้วนเข้าอกเสื้อ “เอาหล่ะในเมื่อเจ้าประเมินของแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปยังกองคาราวาน อีกไม่กี่ก้านธูปพวกเขาก็จะออกเดินทางกันแล้ว”

    ระหว่างเดินตามหลังนักประเมินเฒ่ากงฉิว ชายหนุ่มก็พลันฉุกคิดขึ้นได้ว่า เขาทิ้งเจ้าลาซุยโก๋ไว้ตรงทางเข้าหอการค้า เขาจึงขอแยกทางกับนักประเมินเฒ่า พร้อมถามทางไปยังจุดรวมพล และ บอกเหตุผลที่ตนต้องแยกทางตอนนี้

     

       หลังจากได้ฟังเหตุผลของชายหนุ่มแล้ว นักประเมินเฒ่าก็หัวเราะร่วน พร้อมบอกตำแหน่งรวมพลของกองคาราวาน 

    ก่อนจะจากกันไปหลินมู่ก็ป้องหมัดให้อีกฝ่าย แล้วจึงเดินย้อนกลับไปยังหน้าการค้า แต่พึ่งมาถึงเขาก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายด้านนอก พร้อมคำก่นด่าสาปแช่งของผู้คุ้มกันทวารประตูทั้งสอง

     

       “เดรัจฉานน้อย!! เจ้าจะทำอะไร!? คิดเรอะว่าจะขโมยของต่อหน้าพวกข้าได้!?” หนึ่งในผู้คุ้มกันตะโกนขึ้น

    พร้อมปล่อยลมปราณอันหนักอึ้งออกมา หลินมู่ที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบพรุ่งตัวออกจากหอการค้า เพื่อออกไปสังเกตสถานการณ์ และ อีกอย่างต้องออกไปดูในแน่ใจว่า เจ้าลาซุยโก๋ของตนไม่ใช่เดรัจฉานน้อยที่ว่า 

     

     

     

    โย่วๆ นี้ไรท์เอง ไม่มีอะไรมากแค่จะมาบอกว่า สุขสันต์ปีใหม่ย้อนหลัง ขอให้สุขภาพแข็งแรง แค่นี้ล่ะบั้ย ᕙ⁠(⁠@⁠°⁠▽⁠°⁠@⁠)⁠ᕗ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×