ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #72 : ตอนที่ 72 ช่วยเท่าที่ช่วยได้

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 65


       หลินมู่กลับมายังห้องพักของตนเอง พร้อมคันเบ็ดแกะสลักลวดลายคลื่นน้ำ จากไม้ที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆเพียงสูดดม จิตใจของคนผู้นั้นก็รู้สึกสงบลงมาหลายส่วน

    เขาวางเบ็ดนั้นไว้บนโต๊ะ กองรวมกับของขวัญมากมายที่ได้รับมา ก่อนจะเดินไปขอผ้าพันแผล และ ยาสมุนไพรแผลจากห้องยาบนเรือโดยสาร

     

       เพียงหลินมู่เอ่ยปากขอ หมอยาชราผู้ดูแลห้องยาก็ตอบรับขับสู้อย่างดี ต่างจากชายหนุ่มเมื่อกี้ ที่หลินมู่บังเอิญเห็นเข้า อีกฝ่ายมาขอยาบรรเทาอาการเจ็บปวด และ พวกเครื่องหอม แต่กลับถูกปฎิเสธไปอย่างไม่ใยดี

    โดยหมอยาชราให้เหตุผลไว้ว่า อีกฝ่ายไม่ได้ออกแรงอะไรเลย ตอนอสูรปลาโจมตีเรือ ขนาดผู้ฝึกวรยุทธ์ท่านอื่นๆ ยังพากันโคจรลมปราณปกป้องเรือจากการต่อสู้ หากไม่มีพวกเขาเพียงผลกระทบ ครั้งสองครั้งก็มากพอจะทำให้เรือโดยสารลำนี้ จมลงใต้ทะเลสาบแบบไม่ได้หวนคืนอีกเลย

     

       แล้วอีกฝ่ายทำอะไร? กอดเด็กสาวสภาพตายมิตายแหล่ แถมมีเงินซื้อได้เพียงป้าย และ ห้องพักราคาถูกที่สุดที่เป็นห้องรวมอีกด้วย ไม่มีค่าพอจะเสวนาด้วย ถ้าให้ยาและเครื่องหอมอีกฝ่ายไป ก็เสียดายเปล่าๆ แถมเขายังเคยให้ไปครั้งหนึ่ง แค่ดูก็รู้ว่าเด็กสาวผู้นั้นไม่น่ารอดแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้ยาสมุนไพรเสียเปล่าอีก เก็บไว้ใช้รักษาคนอื่นดีกว่า

    ชายหนุ่มชุดคลุมเขียวที่ได้ยิน ก็ได้แต่ถอนหายใจเงียบๆกับตนเอง ไม่ว่าที่ไหนก็มีสินะ พวกหัวสูงดูถูกคนอื่น หากหลินมู่ตอนนั้นไม่ได้บังเอิญ เดินไปบนดาดฟ้าเรือถูกมัดมือชกกับปลาตัวนั้น สภาพคงไม่ต่างจากชายหนุ่มเมื่อกี้ ที่ไม่ถูกให้ความสำคัญใดๆเลย 

     

       หลินมู่คาดเดาสถานการณ์ของอีกฝ่าย แล้วจึงถอยหายใจให้กับความโชคร้ายของอีกฝ่าย ก่อนจะจากไปหลินมู่ได้พูดขอร้อง หมอยาชราอย่างละมุนละม่อมว่า 

    “ท่านเป็นหมอยาที่น่าเคารพเช่นนี้ เหตุใดจึงไม่มอบยาสมุนไพรและเครื่องหอม ให้กับชายหนุ่มผู้นั้นหล่ะ แม้จะดูไร้ประโยชน์ แต่่ท่านลองคิดดูสิ หากท่านมอบยาสมุนไพรเครื่องหอม ให้อีกฝ่ายด้วยความเมตตา อีกฝ่ายจะทราบซึ้งแค่ไหน?" หมอยาชราที่ได้ยินก็แสดงรอยยิ้มแห้ง ประมาณว่าเขาทราบซึ้งข้าแล้วมันอย่างไร?

     

       ชายหนุ่มที่เห็นการแสดงออกของอีกฝ่าย ก็ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา “ท่านลองคิดดู หากอีกฝ่ายที่ทราบซึ้งท่านมาก นำเรื่องความเมตตาของท่าน ไปเล่าเมื่อลงจากเรือโดยสาร ท่านคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น…"

    หลินมู่เว้นช่วงให้อีกฝ่ายคิดเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มปากพูดโน้มน้าวอีกครั้ง ขณะเดียวกันหมอยาชราก็เริ่มคล้อยตาม คำโน้มน้าวของชายหนุ่มบ้างแล้ว "ท่านจะได้รับชื่อเสียงโดยลงทุนเพียงเล็กน้อย บางทีชื่อเสียงของท่านก็ดังขจรขจาย จนมีผู้มาใช้บริการท่าเรือที่ท่านเป็นหมอมากมาย หากทางท่าเรือรับรู้ว่าท่านมีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเขาอาจจะตบรางวัลให้ท่านอย่างงดงาม ชื่อเสียงเงินทองอยู่ใกล้แค่เอื้อม เหตุใดไม่ลองเดิมพันดูล่ะ? ได้ก็เป็นปลาข้ามประตูมังกร ไม่ท่านก็ไม่เสียสิ่งใดเลย…”

     

       หมอยาชราที่ได้ยินครั้งแรกก็แสดงสีหน้าประมาณว่า เจ้าหนุ่มเจ้าจะหลอกใครกัน? ยังไงข้าก็ไม่เปลี่ยนใจ แต่พอได้ยินคำว่าชื่อเสียงเงินทอง และคำโน้มน้าวอื่นๆ เขาก็เริ่มชั่งใจคิดคำนวณ ข้อดีข้อเสียให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง

    หลินมู่ที่เห็นว่าหมอยาชรางับเหยื่อ ก็ไม่ทำอะไรอีกปล่อยให้อีกฝ่ายขบคิดไป ส่วนเขาก็กลับไปยังห้องของตน เพื่อเปลี่ยนผ้าพันแผล เขากับชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้รู้จักมักจี่กัน ต่างจากสหายเฒ่าและภิกษุเฒ่า ที่รู้จักกันพอประมาณ เขาคงช่วยได้เท่านี้ เพราะความเมตตาแบบไร้เงื่อนไข ที่ยื่นมือช่วยเหลือไปเสียหมด 

     

       เป็นแค่การแส่หาความตายในยุทธจักร หากไม่อยากถูกมองเป็นแค่แกะตัวอ้วน มีคนมารังควานมาข่มขู่หรือหลอกเอาทรัพย์สิน หรือความเมตตา ควรช่วยในสิ่งที่สาวมาถึงตัวได้ยาก และ ช่วยให้น้อยที่สุด เป็นการดีทั้งสองฝ่าย เช่นเดียวกับการสังหารปีศาจปราบมาร หากประเมินกำลังของตนมากไป ก็มีแต่วิ่งเข้าหาความตาย

    แน่นอนหากมีกำลัง และ จิตใจที่อัดแน่นไปด้วยคุณธรรมมากพอ ก็ไปเลยจะช่วยใครก็ช่วย จะปราบผีสางตัวไหนก็ทำไป เขาจะยืนรอดูความวิบัติหลังจากนั้น ไม่ใช่คนที่คุณช่วยทุกครั้งจะเป็นคนดี และ ไม่ใช่ทุกครั้งที่ความเมตตา จะถูกตอบรับด้วยความเมตตา

     

       วิถีทางโลกก็เช่นนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนสรรพสิ่งแปรผันอยู่ตลอด ชายหนุ่มชุดคลุมเขียวอ่อนสะพายกระบี่ สอดมือไว้ในแขนเสื้อ เดินออกจากห้องยาสวนทางกับชายหนุ่มคนนั้น

    ที่ย้อนกลับมาขอยาสมุนไพร และ เครื่องหอมอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้กุมถุงเงินไว้แน่น ทั้งสองเดินสวนไหล่โดยไม่พูดอะไร ไปทางใครทางมัน หลินมู่เดินกลับไปยังห้องส่วนตัวของตน

     

       ชายหนุ่มผู้นั้นกุมถุงเงินเข้าไปภายในห้องยา ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเห็นหมอยาชราก็เข้าไปอย่างร้อนรน โค้งคำนับอีกฝ่าย “ท่านหมอข้าจำเป็นต้องได้ยาหรือเครื่องหอมจริงๆ ขอท่านโปรดเมตตาขอเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ นี่เป็นเงินทั้งหมดของข้า แม้เพียงจะเล็กน้อย แต่ขอให้ท่านหมอรับเอาไว้”

    ชายหนุ่มยื่นถุงเงินส่งให้หมอยาชรา หมอยาชราแสดงท่าทางครุ่นคิด สุดท้ายเขาก็พึมพำอย่างแผ่วเบา “ข้าน่าจะลองเดิมพันดู…” พึมพำเสร็จเขาก็เปลี่ยนสีหน้า จากเข้มขรึมกลายเป็นอ่อนโยน

     

       ดูเป็นชายชราที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา เขาใช้มืออันเหี่ยวย่นผลักถุงเงินกลับไป พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากที่สุด “ไม่ต้องหรอกเงินก้อนนี้เจ้าเก็บไว้ หลังจากได้ขบคิด ข้าเลือกจะช่วยเหลือเจ้า นำทางไปสิข้าจะไปดูอาการของนังหนูนั้นอีกครั้ง”

    ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างคุกเข่าลง โขกหัวให้หมอยาชราอย่างทราบซึ้ง เขาไม่ได้เชื่อมโยงการเปลี่ยนไปของอีกฝ่าย กับชายหนุ่มคนเมื่อกี้เลย เพราะไม่มีอะไรสาวมาถึงตัวอีกฝ่าย การที่หมอยาชราเลือกจะช่วยเหลือตน ก็มาจากความตั้งใจของอีกฝ่ายเอง เขาคิดเช่นนั้น

     

        ชายหนุ่มเดินพยุงหมอยาอย่างนอบน้อม ไปยังห้องพักส่วนรวมเพื่อรักษาเด็กสาว ทางด้านของหลินมู่กำลังเปลี่ยนผ้าพันแผล เขาพอกยาสมุนไพรไว้บนผ้าพันแผล

    แล้วจึงพันผ้าทับอีกชั้นหนึ่ง ส่วนผ้าพันแผลเก่าที่เปื้อนเลือด หลินมู่โยนเข้าไปในถุงเฉียนคุน รอลงจากเรือเพื่อเอาไปเผาทำลาย “เอาหล่ะเหลือเพียง กองของขวัญพวกนี้สินะ…” ชายหนุ่มยืนนิ่งเอามือสุดไว้ในแขนเสื้อ 

     

       มองกองของขวัญตอบแทนคำขอบคุณ ที่กองเป็นภูเขาลูกน้อยลูกย่อมๆ การจะยัดลงไปทั้งหมดก็ได้อยู่หรอก แต่มันก็อึดอัดก่อนไป กลัวเจ้าถุงเฉียนคุนนี้จะฉีกขาดเนี่ยสิ

    “คงต้องแยกประเภท เป็นของจำเป็นและไม่จำเป็นไว้สินะ…” ชายหนุ่มเริ่มคัดแยกของอย่างรอบคอบ บางชิ้นที่เขาคิดว่าสำคัญหรือจะได้ใช้เขาก็เก็บไว้ บางชิ้นพอมีประโยชน์ก็โยนไว้ในถุงสัมภาระ ชิ้นที่ไม่มีประโยชน์เขาก็โยนไว้ในกลุ่มต้องจบที่ถูกขาย มาเป็นทุนในการเดินทางของเขา 

     

       ในระหว่างนั้นที่ห้องกัปตันเรือ ชายชราหัวล้านเกลี้ยงเกลาที่ตัวสูงใหญ่ ทั้งเนื้อทั้งตัวอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้ออันบึกบึน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอัดแน่นไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

    ลมปราณของยอดยุทธ์ที่เพียงอีกก้าวเดียว ก็จะกลายเป็นเจ้ายุทธ์ระเบิดพวยพุ่งออกมา เขากำหมัดขยี้ใบไม้สีม่วงแปลกประหลาดนี้จนแหลกเป็นผุยผง “แจ้งข่าวกลับไปยังท่าเรือ!!! หาตัวไอ้บัดซบนั้นให้เจอ!! นำข่าวไปแจ้งยอดฝีมือทั้งสามคนด้วย!!” ลูกเรือตอบรับเสียงดัง พากันออกไปแจ้งข่าวทันที นี้มันไม่ธรรมดาแล้วการที่มีคนกล้า วางยาเรือโดยสารเพื่อให้อสูรปลาตัวนั้นโจมตี มันไม่ใช่เรื่องที่จะละเลยได้ แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอะไร แต่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน 

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×