ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #59 : ตอนที่ 59 นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ ยืนไม่เปลี่ยนแซ่

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 65


       บนเส้นทางที่รอบข้างขาวโพลน แสนเย็นยะเยือกสุดลูกหูลูกตา ร่างของชายหนุ่มในชุดคลุมเทากำลังก้าวเดินเป็นรูปแบบแปลกประหลาด

    โดยในมือทำท่าจับอากาศ ราวกับมือข้างนั้นกำลังกุมด้ามกระบี่ล่องหนเอาไว้ ทุกครั้งที่ออกกกระบี่อากาศ มันจะให้ความรู้สึกรวดเร็ว และ เฉียบฉาดมากขึ้นเรื่อยๆ

     

       เสมือนกับสายฟ้าฟาดที่รวดเร็วและดุดัน ด้านข้างมีมือเกาทัณฑ์ผู้นั้น เหมือนจะพยายามแง่หูฟังก่อนจะพูดด้วยสีหน้าค่อนข้างตกใจ

    “สหายหลิน ช่างเป็นคนมีความสามารถ เพียงไม่กี่วันก็สามารถเรียนรู้ได้แล้ว แม้ตอนแรกมันจะไม่ค่อยได้เรื่องเพราะ ขาดความเฉียบขาดของการออกกระบี่ แต่สหายหลินก็กลบจุดนั้นด้วยกำลังของตัวเอง…”

     

       เขาพึมพำไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ไม่กี่วันก่อน กระบวนนี้ยังไม่ถูกมีประสิทธิภาพและดูมีอนุภาพเช่นนี้ มันมีเพียงความเร็วเท่านั้น ความเฉียบขาดของการออกกระบี่ไม่มีแม้แต่นิดเดียว

    แต่เพียงไม่นาน อีกฝ่ายก็สามารถหาวิธีกลบจุดบอดนั้นได้ ราวกับเป็นคนที่คิดค้นกระบวนท่ากระบี่นี้ขึ้นมา

     

       ชายหนุ่มหยุดฝึกฝน ยืนนิ่งสักพักแล้วจึงผ่อนลมหายใจ เขาเดินกลับมายังแคมป์พักแรม พร้อมแสดงสีหน้าขบคิดบางอย่าง เจ้าซุยโก๋ที่กำลังเคี้ยวผลไม้แห้งก็หันมามองก่อนจะเลิกสนใจชายหนุ่ม หันไปจดจ่อกับการเคี้ยวผลไม้แห้งในปากของมัน

    เมื่อเขานั่งลงข้างกองไฟ ก็เป็นมือเกาทัณฑ์ตาบอดนามจ้าวมู่หยู ที่พูดขึ้นมาทันใด “สหายหลิน เจ้าเป็นพวกตาแก่อายุร่วม 100 ปีใช่หรือไม่ หากไม่ข้าก็ไม่รู้แล้วว่าเจ้าทำได้ยังไง จึงแก้ไขไอ้วิชาที่มีดีแต่ความเร็วนั้นได้”

     

       หลินมู่ฟังจ้าวมู่หยูพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย ก่อนจะตอบกลับหลังจากอีกฝ่ายพูดจบแล้ว “ไม่หรอก ข้ายังอายุน้อยอาจจะน้อยกว่าเจ้ากระมัง ข้าเพียงอาศัยสัญชาตญาณเล็กน้อย ปรับแก้ตามความรู้สึกของข้าเอง แต่มันก็ได้แค่แสดงความรู้สึก ยังไม่อาจจะแสดงแก่นจริงๆของวิชาได้ ข้านับถือผู้ที่คิดค้นทักษะกระบี่นี้จริงๆ”

    ชายหนุ่มพูดจาอย่างฉะฉานพร้อมอธิบาย และ ยกยอทักษะนี้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้ทักษะนี้จะดูธรรมดาแต่มันกลับแฝงไปด้วย กลิ่นอายปณิธานผู้ที่คิดค้นอย่างเต็มเปี่ยม

     

       หน้าแรกมันถูกต้นกำเนิดของวิชา และ พื้นฐานของวิชาว่าควรมุ่งเน้นทางไหน ก่อนจะจบหน้าอธิบาย มีบรรทัดสองสามบรรทัดเล็กๆ บรรทัดแรกคือชื่อผู้คิดค้นวิชา

    นามว่า ปรมาจารย์กระบี่อัสนี ปากงลู่ หลังจากนั้น ก็มีบรรทัดที่เล็กว่าต่อจากนั้น มันเขียนไว้ว่า ‘จงเติมในส่วนที่ขาดด้วยตัวเจ้าเอง’ แม้คราแรกหลินมู่จะค่อนข้างงุนงง แต่พอได้เริ่มฝึกฝนเขาก็รู้ว่าหมายความเช่นไร

     

       จนเขาได้รู้ว่าตนหยิบวิชาชั้นยอด ของยุทธจักรได้อย่างบังเอิญ แม้นจะเทียบไม่ได้กับวิชาของพวกห้าตระกูล 

    แต่สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์พเนจรแล้ว มันคือยอดวิชาที่แฝงปณิธานดั่งเดิม ของปรมาจารย์ที่คิดค้นไว้อย่างครบถ้วน

     

       เขาไม่ได้ต้องการสร้างวิชาที่สมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบแต่ต้น คือความล้มเหลว การไม่สมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้น ต่างหากคือยอดวิชา หากมันสมบูรณ์แบบแต่ต้นคนที่จะฝึกฝนทักษะนี้ต่อ

    ก็ไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้เหมือนที่ปากงลู่เข้าใจ เขาจึงจงใจทำให้วิชามีข้อบกพร่อง เพื่อให้ผู้ที่มาฝึกเติมส่วนที่ขาดไป ด้วยความเข้าใจ และ สัญชาตญาณของตนเอง

     

       ท้ายที่สุดมันก็จะกลายเป็นวิชาที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ฝึกวิชาคนืนั้นแต่ไม่ใช่เพราะ มันเฉียบขาดหรือรวดเร็วที่สุดในใต้หล้า แต่เพราะมันเข้ากับผู้ใช้มากที่สุดต่างหาก

    จึงทำให้หลินมู่รู้สึกเลื่อมใสผู้ที่คิดค้นวิชานี้ขึ้นมา ชายหนุ่มใช้ไม้เขี่ยกองไฟโดยด้านข้าง มีมือเกาทัณฑ์กำลังโซ้ยข้าวต้มธัญญพืชอย่างมูมมาม 

     

       หลินมู่เองก็ตักข้าวต้มในหม้อใส่ชามให้ตนเอง แล้วจึงค่อยๆซดทีละน้อยเพื่อ ขับไล่ความหนาวเย็นออกจากร่างกาย 

    อีกวันหรือสองวัน เขาก็จะเดินทางถึงเมืองเหอตง หลังจากนั้นก็ต้องอยู่บนเรืออีก 2 เดือน เพื่อไปยังภาคแล้วจึงต่อเรือโดยสารอีกลำ เพื่อไปยังทิศตะวันตกเป็นเวลาอีกหลายเดือน

     

      แม้จะบอกว่าระหว่างพักอยู่ท่าเรือที่ภาคกลาง แม้จะมีเวลาเล็กน้อยให้เขาเดินไปมา แต่คงไม่มากขนาดเดินจนไปถึงภูเขาลูกนั้นได้ กว่าจะได้ย้อนกลับไปสำรวจคงต้องหลังจาก จัดการเรื่องของตนเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อน

    คิดคำนวณวางแผนการเดินทางกับตนเองสักพัก ชายหนุ่มก็วางชามไม้ลง สีหน้าแสดงถึงการขบคิดก่อนจะถามออกมา “มู่หยู เจ้ามีจุดหมายการเดินทางที่ไหนกัน” มือเกาทัณฑ์ที่พึ่งโซ้ยข้าวต้มจนอิ่มไปหมาดๆ

     

       หลังจากได้ยินว่าหลินมู่เปิดปากถามตนก่อนอย่างหาได้ยาก จึงรีบนั่งตัวตรงพูดออกมารัวเร็ว แบบไม่ทิ้งจังหวะให้ตนเองหายใจเลยแม้แต่น้อย

    “ข้าจะขึ้นเรือกลับบ้านไปทางเหนือน่ะ ว่าแต่เจ้าถามข้าทำไมกัน?” หลินมู่ยกถุงน้ำขึ้นดื่ม แล้วจึงพูดด้วยสีหน้าตายด้าน “ข้าแค่ถามไว้เผื่อวันใด ข้าไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เวลามีปัญหาจะได้โบ้ยให้คนอื่นถูก”

     

       จ้าวมู่หยูใบหน้าเขียวคล้ำ แม้นจะไม่เห็นสายตาแต่ก็เดาได้ ว่าสายตาของอีกฝ่ายน่าจะสื่อว่า เจ้าเห็นค่ามิตรภาพของข้า เป็นแค่เครื่องรางคุ้มภัยเวลาเจ้าก่อเรื่องเรอะ!!!?

    หลินมู่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะพูดอีกครั้ง “อย่าทำหน้าเคร่งเครียดนักเลย ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเฉยๆ ข้าถามขึ้นมาเพราะเห็นแก่มิตรภาพ อย่างน้อยเราก็เป็นสหายกันครึ่งตัว”

     

       หลินมู่พูดจบก็ดื่มน้ำให้ชุ่มคอ จ้าวมู่หยูที่ได้ยินว่าเห็นแก่มิตรภาพ ก็แสดงสีหน้าดีใจก่อนจะถามขึ้นมา “ในเมื่อเจ้าเริ่มเห็นข้าเป็นเพื่อนในยุทธจักรคนหนึ่ง เจ้าจะบอกชื่อของเจ้าแล้วใช่หรือไม่? เพราะให้เรียกสหายหลินตลอดคงไม่ดี แถมมันไม่ยุติธรรมกับข้าด้วย เจ้ารู้ชื่อแซ่ข้า ในขณะที่ข้ารู้แค่แซ่ของเจ้า ที่ไม่รู้จริงหรือเท็จ มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!!”

    จ้าวมู่หยูใช้โอกาสนี้ถามชื่อของหลินมู่อีกครั้ง ในเมื่อเห็นกันเป็นเพื่อนในยุทธจักร คงไว้ใจกันพอสมควรจึงไม่เสียหายอะไรหากจะถามชื่ออีกฝ่าย หลินมู่ยกยิ้มน้อยๆก่อนจะพูดขึ้น

     

       “แซ่หลิน นามมู่” จ้าวมู่หยูที่ได้ยินถึงกับแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เพียงไม่กี่อึดใจเขาก็สบถออกมา อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ “บัดซบ! เจ้าล้อเล่นกับข้าใช่ไหม!?” อีกฝ่ายแสดงท่าทางออกมาชัดเจนว่า หลินมู่ต้องล้อตนเล่นแน่ๆ

    มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนสองคน ในยุทธจักรที่บังเอิญมีชื่อเดียวกัน จะเจอะหน้ากันแบบบังเอิญเช่นนี้ หลินมู่ไม่สนใจอีกฝ่ายเพียงพูดไว้สั้นๆว่า

     

       “นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ ยืนไม่เปลี่ยนแซ่ ข้าบอกชื่อเจ้าไปแล้ว คิดเห็นเช่นไรขึ้นอยู่กับความไว้ใจในตัวข้าของเจ้า” พูดจบชายหนุ่มก็ หยิบน้ำเต้าขึ้นมาจิบสุราแทนน้ำหนึ่งอึก 

    ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งหน้าบูดเบี้ยวเขียวคล้ำอยู่อย่างงั้น “ก็ได้ข้าเชื่อเจ้า ในเมื่อเจ้านามมู่ข้าก็นามมู่ ก็ถือเป็นวาสนาส่งเรามาเป็นสหาย!! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!” มือเกาทัณฑ์ผู้นั้นพูดอย่างขึงขัง พร้อมปล่อยเสียงหัวเราะดังสนั่น เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยมีเจ้าซุยโก๋มองอีกฝ่ายขึ้นลง ด้วยความแปลกใจ เมื่อกี้เจ้าบอดนี้ก็ดีๆอยู่เลย ไฉนเป็นบ้าแล้วนะ?

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×