ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #36 : ตอนที่ 36 การพัฒนา

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 65


        จากเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่มีใครคิดจะท้าทายชายหนุ่มผู้นั้นอีก เหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์พเนจรที่ถูกสหายตนห้ามเอาไว้

    ก็หันมาพูดขอบคุณพูดเป็นสหายอย่างปิติ ส่วนเหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ไร้มิตรสหาย ผู้รอดูสถานการณ์ก็เก็บความคิดชั่วช้าของตนเองไว้ไม่กล้าคายออกมา

     

        เมื่อกี้มันก็แค่กิ่งไม้หากเป็นกระบี่จริงขึ้นมา พี่เบิ้มคนนั้นจะไม่ตายตั้งแต่กระบี่แรกเลยหรือ?

    หลินมู่ที่นั่งผิงไฟโยนเนื้อตากแห้งลงไปในหม้อ ต้มเป็นซุปดื่มคลายหนาว ส่วนปากก็เคี้ยวลูกกลอนดับหิวแก้ขัดไปก่อน

     

        ตอนนี้ของในถุงเฉียนคุนเรียกว่าเริ่มร่อยหรอไปทีละนิด ตอนออกจากเหวสิ่งของในถุงเฉียนคุน มียันต์ไฟหยางประมาณ 12 แผ่น ใช้ไปในหมู่บ้านตระกูลเสี่ยว 3 แผ่น จึงเหลือ 9 แผ่น

    ลูกกลอนดับหิว 36 เม็ด ปัจจุบันเหลือ 35 พอใช้เป็นอาหารฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน ลูกกลอนรักษา เหลือน้อยที่สุดมีเพียง 6 เม็ด

     

        สูตรทำของเหล่านี้หลินมู่ และ หลัวกงฟาน ไม่มีในครอบครอง จึงมีแต่ใช้แล้วหมดไปไม่มีทางหาเพิ่มได้ นอกจากจะเปลี่ยนเส้นทางไปตะวันออก เพื่อพบกับอาจารย์ของตนที่ภูเขาสุดขอบตะวันออก

    เพื่อกราบเป็นอาจารย์และลูกศิษย์จริงๆ เพราะตอนนี้เขาเป็นเพียงลูกศิษย์ที่ยังไม่ถูกยอมรับ ตอนนี้ชายหนุ่มเพียงแค่ถูกหลัวกงฟาน รับศิษย์แทนอาจารย์ก็เท่านั้น ก่อนจะเรียกตนเองได้เต็มปากว่าเป็นศิษย์เซียนกระบี่

     

        จึงต้องไปเยือนภูเขาสุดขอบตะวันออก และ อาจารย์น่าจะมีของที่มอบให้เขามากมาย สิ่งของในปัจจุบันที่เขาใช้อยู่นี่

    เป็นของเหลือจากหลัวกงฟานทั้งสิ้น นอกจากกระบี่ตงหยูแล้วที่เหลือก็เป็นของศิษย์พี่เขาทั้งหมด รวมถึงของวิเศษสองสามอย่างในถุงเฉียงคุนด้วย

     

       ชิ้นแรกคือกำไรทองเหลือง 4 วง เห็นบอกว่าเมื่อสวมไว้มันจะเพิ่มน้ำหนัก ให้แก่ผู้สวมจำนวนหลายร้อยจิน ซึ่งหลินมู่เคยลองสวมมาแล้ว

    กะคร่าวๆ ก็ประมาณวงละ 140 - 150 จิน หรือประมาณ 70 - 75 กิโลกรัม เหมาะแก่การสวมไว้เวลาฝึกออกกระบี่ ซึ่งถือเป็นของพื้นฐาน ไม่ต้องเท้าความก็รู้ว่ากำไรทองเหลืองอันนี้เคยเป็นของอาจารย์แน่นอน

     

       ชิ้นที่สองคือเชือกสารพัดประโยชน์ เป็นวัตถุวิเศษประเภทของจิปาถะ ใช้ปีนป่าย มัดของ หรือ สารพักอย่าง ที่เชือกเส้นหนึ่งจะทำได้ ความยาวจากหัวจรดปลายประมาณ 3 จั้ง หรือ 7 เมตร กว่า

    ชิ้นสุดท้ายคืออาภรณ์ศิษย์สายนอกของ นิกายเจี้ยนเสินเฟิง ออปชั่นโดยประมาณคือ กันร้อน กันหนาว กันฝน ขจัดสิ่งสกปรกบนตัว ช่วยให้จิตใจสงบ ออปชั่นบนชุดจะแตกต่างกันไปตามนิกาย

     

        ถ้าถามว่าทำไมหลินมู่จึงไม่เอาออกมาสวม เพราะอาภรณ์ตัวนี้ผูกติดกับหลัวกงฟาน นอกจากอีกฝ่ายแล้วก็ไม่มีใครสวมได้อีก แม้จะเอามาสวมได้ออปชั่นก็ไม่ทำงาน

    ก็เหมือนมีโทรศัพท์แต่ไม่มีสัญญาณนั้นแหละ กลายเป็นว่าของที่พอมีประโยชน์จริงๆ มีเพียงสองชิ้นนั้นคือกำไรทองเหลือง และ เชือกสารพัดประโยชน์ ส่วนอาภรณ์คงต้องเอาฝังลงหลุมพร้อมศิษย์พี่ตน

     

        หากหลัวกงฟานภายในกระบี่ดำเฮ่ยซาน รู้ว่าศิษย์น้องคนนี้คิดอะไรคงออกมาตวาดหนึ่งสองสามคำรบ ก่อนจะกลับไปนอนในกระบี่ดำ

    แล้วปล่อยให้หลินมู่นั่งทำหน้าเอ๋อๆ คิดคำนวณเสร็จก็ตักน้ำซุปจากหม้อ ใส่ถ้วยไม้แล้วยกขึ้นดื่ม เจ้าซุยโก๋ก็หลับปุ๋ยไปเป็นที่เรียบร้อยซึ่งหลินมู่ ก็ไม่คิดจะปลุกมันขึ้นมาจนกว่าจะเป็นเวลารุ่งเช้า

     

       เขาหยิบกำไรทองเหลืองออกมาจากถุงเฉียนคุน แล้วเอามาสวมไว้ที่ข้อมือข้อเท้าของตนเอง เขาไม่กลัวว่าคนเหล่านี้จะจับสังเกตอะไรได้

    นี้ไม่ใช่มหาทวีปเป็นแค่เกาะเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จักเซียนหรือวัตถุวิเศษ ตัวถุงเฉียนคุนหน้าตาไม่ต่าง จากถุงเก็บของธรรมาแม้แต่น้อย แถมกำไรก็ไม่ได้ใหญ่มาก จึงเอาออกมาจากถุงได้โดยไม่สะดุดตา ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนขยับตัวให้คุ้นชินกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา

     

        ก่อนจะเริ่มใช้เคล็ดกำหนดจิตกระบี่ และ ก้าวเป็นวงกลมอย่างมั่นคงรอบกองไฟ ผู้คนโดยรอบที่เห็นหลินมู่เริ่มก้าววนรอบกองไฟ ก็รับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังฝึกฝน

    จึงสงบปากสงบคำพูดคุยกันเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่เบิ้มผู้ถูกหลินมู่ใช้จิตกระบี่เข้าไปป่วนเส้นลมปราณ จนบาดเจ็บภายในลุกขึ้นจากกองหิมะ เดินกลับไปยังแคมป์ไฟของตนเอง

     

       ไม่กล้าแม้จะเดินกลับไปเอาขวานเล่มนั้น ก่อนจะจากไปอีกฝ่ายก็หันมาป้องมือให้หลินมู่พร้อมพูดขึ้น “ขอบคุณที่ยอดฝีมือไว้ชีวิต” พูดเสร็จก็จากไปโดยไม่เหลือความแค้นเคืองใดๆ

    ที่แห่งนี้นับถือคนแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากหลินมู่อ่อนแอสถานการณ์นี้ ก็จะกลายเป็นอีกแบบหนึ่ง สำหรับพี่เบิ้มแล้วการที่อีกฝ่ายไม่ฆ่าแกงตนก็บุญมากแล้ว การจะควบคุมลมปราณเข้าไปในร่างของศัตรู เพื่อสร้างความเสียหายจากภายใน

     

        อย่างน้อยต้องเป็นถึงราชายุทธ์ ซึ่งตัวเมืองเจ๋อซีแห่งนี้ไม่กล้าจะหาเรื่องด้วยอยู่แล้ว หากพี่เบิ้มถูกหลินมู่สังหารขึ้นมาทางตัวเมืองก็จะทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง

    เพราะเข้าใจผิดว่าการควบคุมจิตกระบี่ เป็นการควบคุมลมปราณ ของขอบเขตราชายุทธ์ ซึ่งก็ไม่ได้แย่อะไร ออกจะเป็นผลดีกับหลินมู่ด้วยซ้ำ 

     

        หลินมู่ที่เดินจงรอบกองไฟ ใช้เคล็ดกำหนดจิตกระบี่ขัดเกลาจิตใจ น่าเสียดายที่เขาไม่อาจเข้าสู่ภวังค์ได้อีก เสมือนตอนนี้เขายังไม่ตรงตามเงื่อนไข มีแต่ต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆจึงจะหาคำตอบได้

    เวลาเริ่มไหลผ่านพริบตาเดียวดวงอาทิตย์ ก็เริ่มลอยขึ้นจากขอบฟ้า เหล่าแคมป์ค้างแรมรอเข้าเมือง เริ่มเก็บข้าวของดับกองไฟรอให้ประตูเมืองเปิดออก

     

       แม้พื้นที่แห่งนี้จะมีกลุ่มคนมากมายรวมตัวกันอยู่ แต่ในมุมหนึ่งมีชายหนุ่มผมสีดำ สวมใส่ชุดคลุมสีฟ้าสะพายกระบี่สองเล่ม สวมเกี๋ยะยืนหลับตานิ่งมิไหวติง 

    เป็นจังหวะเดียวกันที่แสงแรกสาดลงมา รอบตัวของชายหนุ่มก็บังเกิดคลื่นลมสายหนึ่ง ล้อมวนเป็นเกราะรอบกายปัดเป่าความหนาวเย็นจนหมดสิ้น ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนั้นหันมามองด้วยความตะลึง

     

        แต่ละคนถลึงตามองอัดแน่นไปด้วยคำถาม เจ้าพัฒนาตอนนี้เนี่ยนะ!? แม้จะไม่รู้ก็เถอะว่าตบะของอีกฝ่าย ต่ำหรือสูงแค่ไหน แต่พวกเขาไม่อยากหาเหาใส่หัว

    จึงได้แต่ปิดปากเงียบแม้ประตูเมืองจะเปิดออกแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าขยับตัวทุกสายตา จับจ้องไปยังร่างที่ยืนนิ่งนั้น ผ่านไปสักระยะในที่สุดเขาก็เริ่มขยับ

     

        ชายหนุ่มม้วนตัวเดินไปหาซุยโก๋ที่นอนหลับปุ๋ย เขาเขย่าเจ้าลาเทาลายด่างเล็กน้อย ก่อนจะหยิบหมวกไม้ไผ่มาสวม เจ้าลาที่มีสีหน้าสลึมสลือลุกขึ้นยืนเดินตามนายของมันไป

    เขาเก็บของเข้ากระเป๋าสัมภาระที่เจ้าลาแบกไว้ ส่วนซุปที่เหลือในหม้อแม้จะเย็นไปแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่ลังเล ยกหม้อกระเดือกลงคอจนหมด

     

       ก่อนจะเข้าเมืองเขาหันมาป้องมือให้คนอื่นๆ คนอื่นๆก็ทำกลับเช่นกัน หลินมู่เดินเข้าเมืองโดยทิ้ง ให้ขวานอันยักษ์นั่นไว้ตรงเดิม โดยไม่คิดจะเข้าไปแตะต้องแม้แต่น้อย

    ตอนแรกเหล่าพ่อค้าที่เห็นหลินมู่ มิได้เอาขวานไปด้วยก็แสดงความโลภออกมา แต่พอคิดไปคิดมาสุดท้ายก็ส่ายหน้า ปล่อยขวานเล่มยักษ์ไว้ตรงนั้น แม้แต่เจ้าของมันยังไม่คิดจะมาเก็บกลับคืน

     

       หลินมู่ที่พึ่งจ่ายค่าเข้าเมืองก็จูงเจ้าซุยโก๋ไปตามถนนการค้า เดินหายลับไปกับฝูงชน….

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×