ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #114 : ตอนที่ 114 อย่าหยิกแก้มผิงผิง!!

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 66


       สิ้นคำถามของชายหนุ่มที่นางเคารพเยี่ยงอาจารย์ ดรุณีน้อยก็นิ่งงันอ้าปากพะงาบพะงาบ เงยหน้ามองร่างนั้นอย่างพูดอะไรไม่ออก

    หลินมู่เองก็ไม่ได้บีบคั้นใดๆ ทำเพียงเดินไปนั่งยังเก้าอี้ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย ปนไปด้วยความอ่อนโยน “ไม่ต้องกดดันตนเอง เจ้าลองถามใจตนเองเมื่อไม่เสียใจนั้นคือคำตอบ”

     

       พูดจบชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้สัก เอนตัวนั่งนิ่งสงบรอให้เด็กสาวคิดไตร่ตรอง ผิงฮวาที่เจอกับการเลือกกระทันหันก็แสดงสีหน้าไปมา ทั้งดีใจกังวลและอีกมากมาย

    นางเรียกอีกฝ่ายว่า'ท่านอาจารย์'มาโดยตลอด และอีกฝ่ายก็ไม่เคยแย้งหรือแสดงท่าทีใดๆ แค่นางได้เรียกเขาว่าท่านอาจารย์มันก็น่าพอใจมากแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นเป็นศิษย์ของอีกฝ่าย

     

       แค่ได้อยู่ข้างๆก็เหมือนได้อยู่กับครอบครัว แต่เมื่อต้องมาตัดสินใจเลือกถึงสถานะของตนต่ออีกฝ่าย นางก็คิดไม่ตก 'ถามใจตนเอง เมื่อไม่เสียใจนั้นคือคำตอบ' คำพูดของหลินมู่ ดังขึ้นมาภายในห้วงความคิดของเด็กสาว

    “ถามใจตนเอง เมื่อไม่เสียใจนั้นคือคำตอบ….” นางพึมพำมุ้ยหน้าด้วยความน่ารักน่าชัง ก่อนจะค่อยๆหลับตาถามปัญหากับใจตนเอง หลินมู่หรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะปิดเปลือกตา

     

       นั่งทำสมาธิเงียบๆ ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปทีละเล็กทีละน้อย ผ่านไปอีกเกือบ 1 ก้านธูปใหญ่ๆ เด็กสาวก็ลืมตาขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น ภายในแววตาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟอันร้อนแรงบางอย่าง

    “ตัดสินใจได้แล้วหรือ?” ผิงฮวาที่ลุกขึ้นยืนเดินมาหาหลินมู่ ก็หยุดก่อนจะคุกเข่าลง ดวงตาแสนมุ่งมั่นคู่นั้นจับจ้องร่างในชุดคลุมฟ้า ที่นั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้

     

       “ข้าแน่ใจแล้ว…” หลินมู่เปิดเปลือกตามองไปยังเด็กสาว ก่อนจะถามนางขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าจะไม่เสียใจแน่หรือ สิ่งที่ข้าสามารถสั่งสอนให้เจ้าได้มันช่างเล็กน้อย จนเจ้าอาจจะผิดหวัง ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังจะรับข้าเป็นอาจารย์?”

    แม้จะได้ยินคำถามนั้นเด็กสาวก็ยังไม่แสดงท่าทีใดๆ นอกจากความมุ่งมั่นที่ยิ่งมากขึ้น “สำหรับข้าแล้ว ท่านคือทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดา ไม่เหลือสิ่งใดเลย ในจุดที่ชีวิตข้ากำลังจะจบลง ข้าก็ได้พบกับท่าน…ท่านเปรียบเสมือนบิดามารดาข้า เป็นครอบครัวเป็นเพื่อนกับข้า เป็นความหวังในความสิ้นหวัง….จะให้ข้าทำอะไรก็ได้ จะตีข้าดุด่าข้า…แต่สิ่งเดียวที่ข้าจะขอคือ อย่าทิ้งข้าไปท่านเป็นทุกอย่างสำหรับข้า!”

     

       ใบหน้าเล็กๆนั้นเปื้อนไปด้วยน้ำตา นางสะอื้นไปพลางพูดไปพลาง ดวงตาคู่โตสีดำสดใสจับจ้องไปยังชายหนุ่มที่นางเห็นเป็นดั่งครอบครัว ไหล่เล็กๆของนางสั่นระริก

    เมื่อได้รับฟังคำตอบจากปากอีกฝ่าย หลินมู่ถอนหายใจยาวก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ย่อตัวลงเช็ดน้ำตาให้เด็กสาว “ข้าไม่คิดจะทำอะไรโหดร้ายกับเจ้าอยู่แล้ว ไม่เคยแม้แต่คิดจะทิ้งเจ้าไป ข้าแค่กลัวว่าความรู้และประสบการณ์ของข้าจะไม่มากพอ ฉะนั้นหยุดร้องเสียเถิด เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็นจะหาว่าข้ารังแกศิษย์ตนเอง”

     

        ใบหน้ากลมๆของเด็กสาวเต็มไปด้วยความตะลึง “ท่านรับข้าเป็นศิษย์?” นางถามอย่างไม่แน่ใจในหูของตนเอง “แน่นอน คนที่ถามนั้นคือข้า เจ้าตัดสินใจแล้ว จะไม่ให้เจ้าเป็นศิษย์แล้วเป็นสิ่งใด?” ชายหนุ่มยิ้มขี้เล่นพร้อมหยิกแก้มของนางเบาๆ

    “ท่านอาจารย์นิสัยไม่ดี อย่าหยิกแก้มผิงผิงนะ!!” นางสะบัดมือน้อยอย่างรวดเร็ว แต่บนใบหน้ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม หลินมู่ก็ยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

     

       เขาขยับข้อมือไปมาไล่เจ้าเซือกวิเศษออก ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความผ่อนคลาย “เอาหล่ะ ข้าก็ไม่ได้อาบน้ำมาสักพักแล้ว ให้ข้ารับใช้ในจวนเตรียมน้ำร้อนให้ดีกว่า” ผิงฮวาน้อยที่ได้ยินก็หูผึ่ง

    รีบอาสาอย่างรวดเร็ว “ผิงผิงจะไปบอกให้เขา เตรียมน้ำให้ท่านอาจารย์เอง!!” หลินมู่ที่เตรียมจะเปิดประตูออกไป ก็แสดงสีหน้าเอ็นดู “ไม่ต้องหรอกเรื่องแค่นี้ข้าทำเองได้ จะโยนเรื่องทุกอย่างให้ศิษย์ตัวน้อยๆของข้าทำมันไม่ดี”

     

       พูดจบชายหนุ่มก็เตรียมจะเดินออกไปหาคนรับใช้ แต่ก็ถูกเด็กสาวดึงแขนไว้ก่อนจึงได้แต่เดินตามนางไป ผิงฮวาจับชายหนุ่มนั่งรอบนเก้าอี้ไม้สัก พร้อมกับพูดด้วยท่าทีดุๆ

    “จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าเป็นศิษย์จะต้องคอยดูแลบางเรื่องให้ท่านอาจารย์” พูดจบนางก็วิ่งแจ้นออกไป ทิ้งให้หลินมู่สงสัยว่านางไปเรียนรู้มาจากใด รู้สึกตัวอีกทีอีกฝ่ายก็วิ่งออกจากห้องไปแล้ว

     

       “อย่าลืมบอกให้พวกเขา เตรียมส่วนของเจ้าไว้ด้วยล่ะ!!” ชายหนุ่มตะโกนตามหลังเด็กสาวไป ซึ่งอีกฝ่ายก็ตะโกนกลับมาว่าตนเข้าใจแล้ว เมื่อถูกจับนั่งอยู่กับที่ชายหนุ่มก็ได้แต่สายหน้า

    ผ่านไปอีก 2 เค่อ เด็กสาวก็กลับมาพร้อมคนรับใช้ที่แบกถังน้ำร้อนอยู่ นางวิ่งมาอย่างร่าเริงบนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม สายตาบ่งบอกว่าชมข้าสิ

     

       “เจ้าทำดีมาก” หลินมู่พูดเสร็จก็ลูบหัวอย่างเอ็นดู เด็กสาวหัวเราะคิกคักก่อนจะบอกบางอย่างกับชายหนุ่ม “ท่านอาจารย์ ยามห้ายคืนนี้ พวกจะจัดงานเลี้ยงกัน พวกเขาจึงบอกข้าและให้ข้าบอกกับท่านอาจารย์อีกที”

    หลินมู่พยักหน้าบ่งบอกว่าตนเข้าใจแล้ว เหล่าคนรับใช้ที่เติมน้ำลงกาละมังไม้เสร็จ ก็เตรียมจะเดินจากไปทำหน้าที่อย่างอื่นต่อ “ขอบคุณพวกเจ้ามาก รบกวนแล้ว”

     

       หลินมู่ออกไปส่งอีกฝ่ายจนถึงหน้าประตู พวกเขาแย้มยิ้มพร้อมหันมาพูดกับชายหนุ่ม “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว” พูดจบพวกเขาก็จากไป

    หลินมู่ปิดประตูลงก่อนจะเดินไปยังห้องอาบน้ำ เขาวัดอุณหภูมิน้ำเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมา “ผิงฮวาเจ้าไปอาบก่อนเลย ข้าจะทำความสะอาดตงหยูรอ” พูดจบชายหนุ่มก็หยิบตกหยูจากโต๊ะ นั่งลงบนเบาะรองนั่งนำน้ำมันและผ้าแห้งออกมา เตรียมเช็ดทำความสะอาดอาวุธของตน

     

       “ทราบแล้วค่ะท่านอาจารย์” นางพูดอย่างร่าเริงวิ่งไปยังห้องอาบน้ำ ก่อนไม่นานจะได้ยินเสียงคล้ายน้ำกระเซ็น ชายหนุ่มได้เพียงส่ายหน้ายิ้มๆ เขาหยุดใช้ผ้าเช็ดใบกระบี่ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดถุงเฉียนคุน

    นำชุดของเด็กสาวออกมา มันเป็นสุดน่ารักสีเขียวอ่อนสดใส ชายหนุ่มวางไว้บนโต๊ะภายในห้องอาบน้ำ “ข้าวางเสื้อของเจ้าไว้ตรงนี้ ใส่เสร็จแล้วจึงเดินออกมา” เด็กสาวที่อยู่หลังม่านก็ตอบกลับ “ทราบแล้วท่านอาจารย์”

     

       หลินมู่พยักหน้าเดินกลับไป ใช้ผ้าชุบน้ำมันเช็ดถูใบกระบี่ของตนต่อ “ข้าค่อนข้างแปลกใจ ที่ใช้งานมานานขนาดนี้แต่คมของเจ้าก็ไม่เคยลดทอนลงเลย” ได้ยินความแปลกใจจากผู้เป็นนาย

    ตงหยูก็สั่นเบาๆบอกว่า ตนทำมาจากโลหะชั้นเลิศ ต่อให้เจอสมบัติฟ้าดินมันก็ไม่แพ้แน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าหลินมู่ไม่รู้ว่าเจ้ากระบี่มันสื่ออะไรออกมาผ่านการสั่น จึงได้เพียงยิ้มเช็ดใบกระบี่ของตนต่อไป

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×