ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #111 : ตอนที่ 111 ปู่เล็ก

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 66


       บรรยากาศในห้องว่างุนงงแล้ว สีหน้าและความคิดของแต่ละคน ช่างเข้ากับว่าตามสถานการณ์ไม่ทันจะดีกว่า

    หลัวซางกระพริบตาสามสี่ครั้ง ริมฝีปากสั่นระริกก่อนจะหันไปสบตากับหลัวเฟิงจิน อาวุโสเฟิงจินเองก็มีท่าทีไม่ต่างเท่าใดนัก นอกจากความนิ่งสงบแสนผิวเผินแล้ว

     

       ถายในกลับตีลังกาม้วนอยู่หลายตลบ ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบาย หรืออะไรมาอธิบายเหตุผลได้เลย ไม่เพียงทั้งสองที่ไปไม่ถูก

    แม้แต่หลัวกงฟานยังอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนจ้องหน้ากันไปมา ส่งสายตาประมาณว่า เอาสิเจ้าพูดก่อน ไม่ๆ ท่านควรพูดก่อน สลับกันแบบนี้ไปมา

     

       ส่วนหลินมู่นะหรือ? ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังนั่งแบบสงบเจี๋ยมเจี้ยม ซดน้ำร้อนมองสถานการณ์นี้จากมุมนอก “อะแฮ่ม ท่านลุงห้า ไม่ได้พบกันนานเลย ท่านยังจำหลานไม่ได้เรื่องคนนี้ได้หรือไม่?”

    เป็นอาวุโสเฟิงจินที่กล่าวขึ้นทำลายสถานการณ์ ถามหลัวกงฟานว่ายังจำตนได้หรือไม่ หลัวกงฟานที่ได้ยินก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะไอสองสามครั้งแล้วจึงตอบกลับ

     

       “แน่นอน ข้าเกือบจะตอบว่าเกือบจำเจ้าไม่ได้ ผ่านมาเกือบ 200 ปี เจ้าเปลี่ยนไปเยอะเลย แล้ว หลัวซุนละ…” อาวุโสเฟิงจินที่ได้ยินประโยคในช่วงแรก ก็หางตากระตุกพร้อมฟันธงในใจว่า 

    ตัวจริงไม่ผิดตัวแน่นอน แต่เมื่อในยินคำถามในช่วงหลัง สีหน้าของเขาก็หมองหม่น “หลัวซุนตายจากเหตุการณ์กวาดล้าง เมื่อประมาณ 170 ปีก่อน…ท่านจากไปอย่างสงบ” เมื่อได้รับคำตอบศิษย์พี่หลัวก็สูดหายใจลึก

     

       พร้อมพูดขอโทษออกมา “เสียใจด้วย และขอโทษที่ต้องทำให้สกุลหลัวต้องตกในสภาพเช่นนั้น” เมื่อได้ยินคำขอโทษจากอีกฝ่าย ทุกคนในห้องรับรองรีบส่ายหน้าปฎิเสธอย่างลนลาน

    “หามิได้ หามิได้ หากไม่ได้ผู้นำสกุลคนที่ 14 สกุลหลัวของพวกเราคงมาไม่ได้ไกลขนาดนี้” หลัวกงฟานที่เห็นชนรุ่นหลังไม่เอาผิดตน ที่ตนทำให้เรื่องต้องบานปลายกุดศีรษะห้าผู้แกร่งกล้า จนเกือบทำให้สกุลหลัวล้มสลาย

     

        เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดไปอีก และ ยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่หาได้จากคนใกล้ชิดทางสายเลือด แม้จะไรกายหยาบแต่วิญญาณดวงนี้ ก็คือคนของสกุลหลัวแห่งมณฑลซ่งหลุย ศิษย์ของเซียนกระบี่ 

    คิดได้เช่นนั้นศิษย์พี่หลัวก็กลับมามันใจอีกครั้ง พูดคุยกันอยู่นานเขาก็พึ่งนึกขึ้นได้ ว่าลืมแนะนำใครบางคนไป ซึ่งอีกฝ่ายกำลังนั่งซดน้ำร้อนทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนรู้หนาว

     

       “อะแฮ่ม ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักใครบางคนก่อน ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่าหลินมู่ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ของข้า เห็นเช่นนี้เขาก้าวข้ามข้าไปแล้ว…” ใช่แค่นั้นเลยนอกจากชื่อแซ่ และ ขอบเขตฝึกฝนที่คลุมเครือ

    หลัวกงฟานก็ไม่พูดอะไรอีก หลินมู่ที่ยกถ้วยชาซดน้ำร้อน ก็กระพริบตาปริบๆ หืมอะไรยังไง? ในขณะที่บรรยากาศกำลังจะเข้าสู่สภาวะนิ่งงันอีกครั้ง หลัวซางผู้ถือกระบี่หนักก็คุกเข่าลงโขกหัวให้อีกฝ่าย

     

        “ปู่เล็ก อภัยให้หลานไม่รักดีด้วย!!” พรู้ด!!! หลินมู่ที่ได้ยินก็พ้นน้ำร้อนออกมาเป็นละออง ราวกับสิงโตพ้นน้ำ มองด้วยสายตาตะลึงๆไปยังอีกฝ่าย “ห่ะ!?”

    เขาดีดตัวลุกขึ้นยืนราวกับมีอะไรสักอย่างร้อนลวกก้น ตรงปรี่เข้าไปหาอีกฝ่ายก่อนจะพยุงเขาขึ้นมา “อาวุโสซางไม่ต้องทำเช่นนี้ ท่านไม่ได้ทำอะไรไม่ดีต่อข้าเลย ดีด้วยซ้ำที่ท่านสงสัยคนแปลกหน้า ฉะนั้นลุกขึ้นเถอะ”

     

       หลัวซางแสดงสีหน้าอ้ำอึ้งเล็กน้อย หางตาเหลือบไปมองหลัวกงฟาน เมื่ออีกฝ่ายเห็นสายตานั้นก็พยักหน้าบอกว่ายืนขึ้นเถอะ หลัวซางก็ถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นยืน โค้งตัวป้องหมัดให้อีกฝ่าย

    “ขอบคุณที่ปู่เล็กให้อภัย” เมื่อคำว่าปู่เล็กเข้าหูชายหนุ่มอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกแก่ลงหลายปี เขาจึงรีบตอบปัดไปทันที “อาวุโสซาง ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่าปู่เล็กก็ได้ ถึงอย่างไรข้าก็เป็นชนรุ่นหลังคนหนึ่ง จะให้อาวุโสที่ตากลมตากฝนมาก่อน เรียกว่าปู่เล็กอย่างไร”

     

       หลัวซางได้ยินก็แสดงสีหน้าเรียบนิ่ง เหมือนคำที่หลินมู่พูดไปมันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เขาพูดด้วยสีหน้าเปี่ยมคุณธรรม จนชายหนุ่มอยากประเคนกระบี่ให้แผลสองแผล

    “ไม่หรอกครับ ท่านปู่เล็ก คือศิษย์ของท่านปรมาจารย์ ที่ท่านปู่ใหญ่กราบฝึกวิชาอยู่ ฉะนั้นตามกฎเกณฑ์แล้ว ท่านจึงเป็นคนรุ่นเดียวกับท่านปู่ใหญ่ จึงถือเป็นปู่เล็กของสกุลหลัว”

     

        หลินมู่มุมปากกระตุกร้องตะโกนอยู่ภายในใจ 'กฎบ้ากฎบอไรวะ!!' หลินมู่แย้งอยู่อีกหลายเค่อ สุดท้ายก็ถอดใจช่างหัวมันปะไร รีบทำตัวให้ชินดีกว่าไอ้เขาก็พึ่งนึกขึ้นได้

    ว่าอาจารย์มีพื้นเพจากนิกายเซียนกระบี่ แสดงว่าต้องมีศิษย์ร่วมอาจารย์ และป่านนี้ศิษย์ร่วมอาจารย์คงมีศิษย์หลานศิษย์เหลนเป็นอีกขบวน ฉะนั้นทำใจเสียตอนนี้แล้วทำตัวให้ชินน่าจะดีที่สุด

     

       หลัวกงฟานที่เห็นว่าเหมือนหลินมู่ปลงๆ ก็รีบพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศและจบสถานการณ์ในตอนนี้ลง 

    “เอาหล่ะพอเท่านี้ เรายังมีอะไรต้องทำอีกมากมาย เฟิงเฟิงน้อย เจ้าพาลุงเล็กเจ้าไปพักก่อน แล้วค่อยไปคุยกับข้าที่ห้องบรรพชน” เมื่อหลัวกงฟานพูดจบหลินมู่ก็รู้สึก เสียอายุขัยไปหลายปี จากการถูกตาเฒ่าอายุร้อยปีเหล่านี้ เรียกชายหนุ่มอายุสิบต้นๆว่า ปู่เล็ก และ ลุงเล็ก

     

       เมื่อทุกคนกำลังจะแยกย้าย ชายหนุ่มก็กล่าวห้ามไว้ก่อน พร้อมเปิดถุงเฉียนคุน ค้นของอยู่สักพักก็นำถุงใส่อัฐิ และ ชุดคลุมนิกายเจี้ยนเสินเฟิง ของหลัวกงฟานออกมา 

    แม้พวกเขาจะแปลกใจ ที่ถุงใบน้อยใส่ของชิ้นใหญ่ลงไปได้ แต่ก็ไม่คิดเท้าความสาวความยืดใดๆ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นปู่เล็กของสกุลหลัว พวกเขาก็ไม่คิดจะไปไล่จับผิดอีกฝ่ายอีก

     

       หนึ่งในนั้นเดินหน้าไปรับถุงอัฐิ และ ชุดคลุมนิกายเจี้ยนเสินเฟิงมาจากหลินมู่ “ลุงเล็กเชิญทางนี้” อาวุโสเฟิงจินพาหลินมู่ไปยังห้องพัก สำหรับเหล่าอาวุโสในจวน

    ส่วนศิษย์พี่หลัวก็ถูกลากไปกับกระบี่เฮ่ยซาน ไปยังห้องบรรพชน กว่าจะเดินไปไหนมาไหนในบ้านได้ ต้องทำพิธีวางอัฐิในห้องบรรพชนเสียก่อน ศิษย์พี่หลัวในปัจจุบัน จึงเป็นเพียงวิญญาณติดกระบี่ ที่ออกห่างตัวกระบี่ได้ไม่เกิน 1 ลี้

     

       เมื่อมาถึงห้องพัก อาวุโสเฟิงจินที่เคยเรียกหลินมู่ ว่าคุณชายหลินมาตลอด ก็เปลี่ยนมาเรียกลุงเล็กอย่างไม่กระดากปาก

    เจ้าตัวที่ถูกเรียกเองก็พยายามทำให้ใจตนเองคุ้นชิน แต่พอได้ยินกลับตงิดใจแปลกๆ “เดี๋ยวข้าจะให้คนพาน้องเล็กมาในอีกสักพัก ลุงเล็กโปรดพักให้สบายใจ” พูดจบอีกฝ่ายก็เตรียมเดินจากไป แต่ถูกหลินมู่กล่าวไว้ก่อนจะจากไป “อาวุโสเฟิงจิน หากท่านหนักใจ ก็เรียกข้าคุณชายหลินเช่นเดิมก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมากพิธีนัก”

     

       หลัวเฟิงจินยกยิ้มสอดแขนไว้ในแขนเสื้อ โค้งคำนับหลินมู่อย่างสุภาพ “เช่นนั้น ข้าจะเรียกท่านว่าคุณชายหลิน เพื่อความสบายใจของท่าน” พูดจบอีกฝ่ายก็จากไป

    ปล่อยให้หลินมู่ยืนว้าเหว่ภายในห้องพักคนเดียว “เอาเถอะ ยังไงก็ตัดลุงเล็กออกไปได้แล้ว” พูดจบชายหนุ่มก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ นวดขมับเพื่อบรรเทาอาการปวดเศียรเวียนเกล้าของตน

     

     

     

    วันนี้ตอนเดียวไปก่อนนะครับ ᕙ⁠(⁠@⁠°⁠▽⁠°⁠@⁠)⁠ᕗ

       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×