ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Sky : Children of the light] OS/SF

    ลำดับตอนที่ #2 : 0 2 • ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 63


     

    0 2 • ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

     

    สองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ถึงแม้ว่าเมซิทพอจะนำทางให้เด็กใหม่เหมือนกันได้อยู่บ้าง ในบางที่นั้น แต่ต้องไม่ใช่กับโกลเด้น เวสแลนด์

     

    เมซิทไม่สามารถที่จะเอาคนอื่นไปเสี่ยงด้วยได้ในขณะที่ตัวเองยังต้องพึ่งคนเก่ง ๆ คนอื่น ๆ อยู่ โดยเฉพาะกับมังกรทมิฬที่ถูกเรียกว่า 'คริลล์' ด้วยแล้ว

     

    ลำพังตัวเขาเอาตัวรอดมาได้หวุดหวิดก็บุญหัวมากแล้ว . . .

     

    วันนี้เมซิทมองร่างของสปิริตที่สวมผ้าโพกศรีษะที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูที่ภายในปรากฏภาพของเศษซากสิ่งปลูกสร้างที่เคยรุ่งเรืองกับท้องฟ้าที่กลายเป็นสีเขียวขี้ม้าดูน่าอึดอัดด้วยสายตาหนักใจ

     

    โดยเฉพาะกับเควสประจำวันนี้เควสหนึ่งที่บอกให้ไปเจอหน้ากับคริลล์จนกว่าไฟจากดวงตาของมันจะกลายเป็นสีแดง . . .

     

    กับไอคนที่แค่ได้ยินเสียงมันก็หนีกลับมาที่โฮมแล้วน่ะเหรอ? ไม่มีทางหรอกน่า!

     

    ในระหว่างที่เมซิทกำลังยืนหน้าเครียดอยู่หน้าประตูที่พาไปยังโกลเด้น เวสแลนด์อยู่นั้นก็รับรู้ได้ถึงแรงสะกิดที่เกิดขึ้นที่เอวด้านซ้าย

     

    " ไง~ เมซิท กำลังจะไปทำเควสแลกเทียนเหรอ? ให้ฉํนไปด้วยสิ "

     

    เป็นชายหนุ่มที่ตัวพอ ๆ กับเขา เวอโกร์ไม่ได้สวมหน้ากากใดๆและไว้ผมทรงเอลเดอร์ของวาลเล่ ออฟ ไทร์เอมที่เห็นว่าเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนกรี๊ดกร๊าดและสวมผ้าคลุมสีขาวสว่าง คน ๆ นี้คือ เวอโกร์ เป็นเพื่อนที่บังเอิญเจอเมซิทโดนคริลล์พุ่งใส่ตอนอยู่ในโกลเด้น เวสแลนด์เลยช่วยเอาไว้

     

    ซึ่งเมซิทก็อึกอัก เขายังไม่พร้อมที่จะไปเจอหน้ามังกรตัวร้ายของดินแดนแห่งนี้เสียหน่อย . . .

     

    " ............! ...!! "

     

    หากแต่ร่างเล็ก ๆ สีเทาที่เดินตามหลังเวอโกร์มาก็โวยวายออกมาและทุบตีขาของเวอโกร์เล็กน้อยจนเจ้าตัวต้องหันไปคุยกับร่างเล็กนั่นด้วยน้ำเสียงที่ดูจะติดความหยอกล้อ

     

    หลังจากนั้นร่างเล็ก ๆ นั่นก็ขอต่อเทียนไขกับเขาและขอเป็นเพื่อน เมซิทจึงได้เห็นว่าร่าง ๆ นั่นมีผมที่ฟูออกเป็นวงกลมและสวมผ้าคลุมสีส้มของคาราวานสปิริต ซีซั่น ออฟ เอนชาานเมนต์อยู่ ซึ่งเวอโกร์แนะนำเด็กสาวคนนี้ว่าชื่อ 'มิวส์' เป็นเพื่อนที่ไปไหนไปกันมาตั้งแต่เขาและเธอเข้ามาที่นี่ใหม่ ๆ

     

    " นายน่ะยังจู๊คกุ้งไม่เป็นใช่มะ? "

     

    มิวส์ถามออกมา แต่ทางเมซิทก็ได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก

     

    ในที่แห่งนี้มีกุ้งด้วยหรือไง . . .

     

    " ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะเมซิท! อย่าบอกนะว่านายไม่รู้จักกุ้งน่ะ! "

     

    " ยัยมิวส์-- ฉัยว่าเมซิทรู้จักกุ้งแหละ . . . รู้จักในนามคริลล์สิยัยบ้า "

     

    " เอ๊า!! ก็!! "

     

    แล้วทั้งสองคนก็ทะเลาะกันในเรื่องที่ไร้แก่นสารสุด ๆ โดยมีเมซิทนั่งมองอยู่ตรงกลางเป็นพื้นหลัง

     

    .

    .

     

    " อ่า โอเค งั้นไปโกลเด้น เวสแลนด์กันเมซิท "

     

    เวอโกร์เอ่ยขึ้นมาหลังหิ้วปีกของมิวส์ขึ้นมาได้แล้ว ซึ่งเมซิทก็ยังไม่ได้ตกลงไป--

     

    " ตกลงสินะ โอเค ป่ะ ไปโกลเด้น เวสแลนด์กัน "

     

    . . . ยังไม่ได้ตกลงไปหรอกนะ . . .

     

    แต่กระนั้นก็ถูกหนุ่มสาวจับจูงมือแล้วฉุกกระชากเขาจนตัวปลิวเข้าไปในโกลเด้น เวสแลนด์อยู่ดี เพราะยังไงเมซิทเองก็อยากได้เทียนของซีซั่นนี้อยู่ดี เขาอยากจะมีผ้าคลุมสวย ๆ มาใส่บ้างนะ ไม่ใช่ผ้าคลุมสีน้ำตาลแรกเริ่มน่ะ . . .

     

    .

    .

     

    " เดะพี่พาแว้นเองน้อง "

     

    เวอโกร์บอกกับเมซิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว ก่อนที่จะลอบมองตากับมิวส์ เมซิทสาบานว่าเหมือนเขาจะเห็นรอยยิ้มที่จะได้กลั่นแกล้งคนทะลุออกมาจากหน้ากากของมิวส์ด้วยเมื่อกี้ . . .

     

    ตรงทางโล่งที่จะได้เจอคริลล์ตัวแรกในดินแดนแห่งนี้ หลังได้ยินเสียงคำรามน่าเกรงขามของคริลล์มือของเมซิทก็สั่นขึ้นมาเสียดื้อแล้วยังเริ่มหายใจแรงขึ้นจากก่อนที่จะได้เข้ามาที่สถานที่แห่งนี้ มันทำให้เวอโกร์ล้มเลิกแผนที่จะกลั่นแกล้งเขาไป

     

    ความหวาดกลัวต่อคริลล์ที่เมซิทมีให้ไม่ใช่เรื่องตลกและไม่ว่าใครจะมีให้ก็ไม่ใช่เรื่องตลกทั้งนั้น . . .

     

    ทีแรกเวอโกร์คิดว่าเมซิทแค่บินหลบไม่ได้เลยยืนอึกอักอยู่หน้าประตูเขาเลยจะพาบินขึ้นไปเหนือตัวของคริลล์ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นความกลัว

     

    " ป่ะเหอะเดะพาบินไปตรงนู้นเอง "

     

    เวอโกร์ชี้ไปฝั่งตรงข้ามซึ่งก็ได้รับการตอบกลับมาด้วยการกระชับมือให้แน่นขึ้นของเมซิท ใบหน้าใต้หน้ากากมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นเล็กน้อย

     

    เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณพี่เขาถึงเลือกจะช่วยเขาวันนั้นทั้ง ๆ ที่จะผ่านไปก็ได้ . . .

     

    ทั้งสามคนยืนหลบแสงสีฟ้าจากคริลล์อยู่หลังเสาร์ขนาดใหญ่ หลังจากที่คริลล์เหลียวหลังและลอยกลับไปจนเกือบจะถึงอีกฝั่งหนึ่ง เวอโกร์ก็ออกตัวบินออกไปพร้อมกับหิ้วเมซิทกับมิวส์ขึ้นไปด้วย

     

    ยิ่งใกล้คริลล์เท่าไหร่เมซิทก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกจากหน้าอกมาเสียให้ได้ แต่คริลล์ไม่ได้เห็นพวกเขาทั้งสามคนเพราะว่าเวอโกร์บินขึ้นมาเหนือตัวของมันและร่อนลงไปหลบหลังกำแพงหินที่อยู่ใกล้ ๆแล้วหันกลับมายิ้มกว้างให้

     

    " หัวใจจะวายใช่มั้ยล่ะ? ตอนนั้นที่คุณพี่เขาพาฉันบินครั้งแรกก็แบบนี้แหละน้า "

     

    เวอโกร์พูดขึ้นมาขณะที่กำลังชาร์ตแสงสว่างให้กับผ้าคลุมและเอ่ยขึ้นถึงบุคคลที่สามที่ดูเหมือนว่าเขาจะดูนับถือมากทีเดียว

     

    " คุณพี่เหรอ? "

     

    " อ้อ ใช่ๆ เป็นคนที่ช่วยเวอโกร์ออกมาจากอาย ออฟ อีเดนน่ะ เห็นว่ารอบนั้นเวอโกร์ยืนแข็งเป็นรูปปั้นเลยล่ะ "

     

    " มิวส์ อย่าเผาฉัน "

     

    ทั้งสามคนพูดคุยกันเล็กน้อยขณะที่รอให้ดาวบนผ้าคลุมของเวอโกร์กลับมาครบก่อนที่จะเดินหน้าไปต่อที่ลานกว้างที่เต็มไปด้วยซากกระโหลกและกระดูกมากมายและคริลล์ที่บินวนไปมาคอยจับจ้องหาเด็ก ๆ อย่างพวกเขา

     

    แน่นอนว่า

     

    " ค คน ๆ นั้นเขา? "

     

    เมซิทถามเสียงสั่นชี้ไปที่ร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่บนกระโหลกขนาดใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สูงกว่าการลอยตัวของคริลล์ทำให้คริลล์ไม่ได้สังเกตุเห็นเขาแม้แต่นิดเดียว

     

    " นั่นมัน? . . . คุณพี่เขาขึ้นไปทำถุยอะไรบนนั้นวะน่ะ? "

     

    เวอโกร์เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ หลังจากที่เห็นว่านั่นคือใครเรียกได้ว่าเอ๋อไปชั่วครู่เลยทีเดียวหลังเห็นใครคนนั้น

     

    " ฉันชอบนะ พี่เขาอินดี้ดี "

     

    มิวส์พูดขึ้นมาบ้างแต่น้ำเสียงนี่รู้สึกอเมซิ่งสุด ๆ

     

    คนบ้าอะไรจะมานั่งสบายใจท่ามกลางคริลล์ที่พร้อมจะเข้ามาแดกหัวตลอดเวลาถ้ามันเห็นเราล่ะวะครับ!?

     

    " เห็นแบบนั้นคุณพี่เขาบินแหกคริลล์เก่งมากเลยนะเมซิท . . . "

     

    มิวส์บอกหลังสัมผัสได้ว่าเมซิทค่อนข้างที่จะรู้สึกอิหยังว่ะกับคุณพี่ที่นั่งอยู่บนกระโหลกสีดำขนาดใหญ่

     

    เวอโกร์เลยลัดเลาะหลบคริลล์ไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าเป้าหมายคือคนที่เขาเรียกว่าคุณพี่นั่นแหละ

     

    แต่ยังไม่ทันไรเสียงคำรามของคริลล์ก็ดังขึ้นพร้อมกับไฟสีแดงฉานสาดลงมากระทบกับร่างทั้งสามของพวกเวอโกร์

     

    เป็นเพราะพวกเขาเอาแต่โฟกัสกับคริลล์ทางด้านขวามากเกินไปทำให้ลืมดูคริลล์ที่มาทางด้านซ้าย ความซวยจึงมาเยี่ยมเยือนเต็มรักจนจุกอก

     

    " อ๊ากกกกกกกกกกกก!! "

     

    " กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! "

     

    " มึงวิ่งกันหน่อยดิ เอ๋มึงวิ่งง!! "

     

    เมซิทกับมิวส์พร้อมใจกันแหกปากออกมาส่วนเวอโกร์ที่ตั้งสติได้ก่อนใครก็รีบลากทั้งร่างตัวเองและร่างของเพื่อนทั้งสองไปหาที่หลบแสงสีแดงฉานที่หวาดหวั่นว่าจะมันจะพุ่งเข้ามาเมื่อไหร่

     

    ตุบ

     

    เมื่อหลบแสงสีแดงพ้นต่างคนต่างทิ้งร่างลงพนพื้นทรายเย็น ๆ ที่ไม่ได้ทำให้ใจยั้ยเย็นลงไปตามเลย

     

    " ไอบ้าเอ๊ย! คราวหน้าจะออกมาก็ดูกุ้งหน่อยเซ่! "

     

    " กะใครมันจะไปรู้ล่ะวะว่ามันจะลอยมาต่อเลยอ่ะ! คนไม่รู้ไม่ผิ๊ด! "

     

    "ผิดสิมึงผิดเต็ม ๆ เลยด้วย!!! "

     

    เมซิทที่หัวใจเต้น ตุบๆๆๆๆ นั่งเบิกตากว้าง หอบหายใจด้วยความช็อคค้างจากเหตุการณ์เมื่อครู่เลยไม่ได้สังเกตุเห็นคนที่เดินมาข้างหลังของเขา

     

    " ..............? "

     

    " อ้ากกกกกกกกก! "

     

    มีเสียงกระซิบที่ฟังไม่เป็นภาษาดังขึ้นข้างหลัง ด้วยอารามตกใจที่ค้างมาจากเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ(?)เมื่อครู่ทำให้ในเมซิทแหกปากดังลั่นจนเวอโกร์กับมิวส์ที่ทะเลาะกันอยู่สะดุ้งจนมิวส์กระโดดเกาะเอวเวอโกร์แน่น

     

    " โห่ คุณพี่จะมาก็ให้ซุ่มให้เสียงบ้างดิ พวกผมก็ตกใจเป็นนะ! "

     

    " ชั่ยๆๆๆๆๆๆ "

     

    " ........... "

     

    เมซิทที่หลบมุมไปนั่งกุมอก ก็มองร่างสีหม่นที่ยืนคุยกับเพื่อนทั้งสองของเขาด้วยอารมณ์ที่เริ่มเย็นลง เมซิทนั่งลงพักก่อนกับมิวส์ที่มานั่งแหมะลงบนตักเขาเขาเลยถือวิสาสะซุกหน้าลงกับผมฟู ๆ ของเธอ ให้คนรู้จักเขาคุยกันไปก่อน

     

    " เฮ้พวกเธอ คุณพี่เขาบอกว่าจะพาบินไปส่งที่ทางเข้าโวลท์ ออฟ โนว์เลจล่ะ! "

     

    เวอโกร์เดินเข้ามาบอกเมซิทกับมิวส์ที่นั่งอืดหลบมุมอยู่ด้วยท่าทีดี๊ด๊ากว่าปรกติ

     

    อ่อ ใช่คุณพี่คนนั้นเขาเป็นไอดอลของเวอโกร์นี่นา ได้อยู่กับไอดอลของตัวเองก็น่าจะดีใจเป็นพิเศษแหละ . . . ใช่มั้ย ?

     

    ร่างสีเทาจับมือของเวอโกร์และจับมือกับมิวส์และเมซิทกันสี่คนก่อนที่จพหิ้วปีกทั้งสามไปพร้อม ๆ กัน

     

    ขณะที่กำลังเผาเห็ดดอกใหญ่อยู่นั้น ร่างสีหม่นก็ยื่นเทียนมาหาเมซิทที่ก็พึ่งจะรู้ตัวว่ายังไม่ได้ต่อเทียนกับร่างนี้เลย

     

    หลังจากที่ต่อเทียนกันแล้วนั้น ร่างที่ปรากฏคือร่างของชายหนุ่มที่สูงกว่าเวอโกร์และเขา สวมหน้ากากที่ผูกผ้าปิดส่วนล่างของใบหน้าสีม่วงมีระบายสีเหลืองของคาราวานซีซั่น ออฟ เอนชานเมนต์ ไว้ผมทรงไถข้างไปข้างหนึ่งและสวมผ้าคลุมสีน้ำเงิน

     

    " นายคือเมซิทสินะ . . . เวอโกร์ชอบเล่าเรื่องของนายให้ผมฟังเยอะทีเดียว "

     

    " อ่าครับ เขาชอบเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังเหมือนกันครับ "

     

    แล้วก็ตามมาด้วยความเงียบ ด้วยความที่คนตรงหน้านั้นดูเป็นผู้ใหญ่ทำให้เขาเกร็ง ๆ บวกกับเพิ่งจะรู้จักกันด้วยแหละนะ

     

    หลังจากนั้นเขาก็พาพวกเมซิทไปต่อหาเศษขี้ผึ้งเก็บมาสะสมที่โวลท์ ออฟ โนว์เลจ

     

    .

    .

     

    แยกย้ายกับเขาไปเรียบร้อย พวกเมซิทต้องการที่จะไปหาเก็บเศษขี้ผึ้งในสถานที่ก่อนก่อนที่จะมาถึงโกลเด้น เวสแลนด์

     

    หลังจากล่ำรากันแล้วเหมือนว่าเมซิทพึ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้

     

    " เอ่อ . . . เวอโกร์ ว่าแต่คุณพี่ของนายน่ะชื่ออะไรนะ . . . "

     

    " อะไร๊?! อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ไม่ได้ถามชื่อมาน่ะ!? "

     

    ปากเมซิทกลายเป็นเส้นตรงพยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ แล้วจึงมีเวอโกรที่นั่งกุมหัวกับมิวส์ที่หัวเราะแล้วตบขาของเมซิทดังปุ ๆ อยู่ข้าง ๆ

     

    " ว่าแต่คุณพี่เขาชื่ออะไรนะ? "

     

    " มิวส์เธอด้วยเหร๊อ!? "

     

    " เออ แต่ช่างเถอะ พี่เขาชื่ออาฟเทรอส "

     

    " โหว ชื่อเท่จาดเลยอะเวอโกร์คราวหน้าชวนขุ่นพี่อาฟเทรอสไปอีเดนกัน นายด้วยนะเมซิท! "

     

    เวอโกร์บอกว่าพี่เขาชื่ออาฟเทรอส มิวส์ก็ดี๊ด๊ากับชื่อของพี่เขาและเอ่ยปากถึงความบากบั่นที่เรียกว่าอาย ออฟ อีเดนหลังจากนั้นพวกเขาก็คุยกันสนุกสนานดี๊ด๊า ดีดกันเหมือนเมายา ( . . . )

     

    แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจดีที่เดียวล่ะ

     

    [ End Chapter ]

    -นิยายเรื่องนี้เป็นช็อตแฟนฟิคของเกมที่ชื่อว่า 'Sky : Children of the light' นะคะ

    -ตัวละครอาจจะเกี่ยวข้องกันแต่เหตุการณ์ไม่ได้ต่อกันค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×