คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5
“ เห็นกลับดึกทุกวันงานหนักมากนักหรือไง ? “ เสียงใครคนหนึ่งถามขึ้นในมุมมืด
ของห้องรับแขกจนเขาถึงกับสดุ้งแต่ก็ยังเก็บอาการไว้ได้เมื่อแสงไฟสว่างจ้าขึ้นเขาเหลียวมาตาม
เสียงจึงเห็นผู้เป็นลุงและลูกสาวบุญธรรมของท่านยืนอยู่ข้างๆมองมาที่เขาราวนัดกัน
ไว้ยังไงยังงั้นเลยความแปลกใจปนฉงนพุ่งเข้าสู่สมองเขาอย่างจังวันนี้ทำไมลุงของเขาถึงได้คอย
เขาอยู่ล่ะทั้งๆที่ปกติเวลาเขากลับมาทุกคนหลับกันหมดแล้วนี่มันอะไรกัน?
“ ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง “ ผู้เป็นลุงถามขึ้น
“ ก็
ครับ
พักนี้งานมากไปหน่อย “ เขาตอบ
“ ไม่หน่อยหรอกมั้งเห็นกลับดึกทุกวันนี่
ว่าแต่ทำงานอะไรล่ะไม่เห็นบอกเลยเห็นทำ
มาตั้งนานแล้ว “ ผู้เป็นลุงถาม
“ ไม่ใช่งานใหญ่โตอะไรหรอกครับ “ เขาตอบ
“ นั่นแหละก็อยากรู้น่ะบอกได้หรือเปล่าล่ะ “
“ OK ครับผมจะบอก
ผมทำงานการโยธาครับ “
“ ตำแหน่งอะไรล่ะ “ ผู้เป็นลุงถาม
“ ก็ตามที่ผมเรียนมาน่ะครับ “
“ แล้วมันอะไรล่ะที่แกเรียนมาน่ะ ตั้งแต่แกเรียนจบมาลุงยังไม่รู้เลยว่าแกเรียนอะไรน่ะ “
เอี้ยก้วยชะงักนิดหนึ่งก่อน เขาไม่เคยบอกผู้เป็นลุงผู้นี้เลยนี่ว่าเขาเรียนจบอะไรมาไม่เคยคิดว่าใคร
จะสนใจเรื่องราวของเขาด้วยซ้ำ
“ ผมเรียนจบวิศวกรรมสาขาการโยธา “
“ งั้นแกก็เป็นนายช่างน่ะสิ “
เอี้ยก้วยไม่ฟังอะไรอีกเดินออกไปจากที่นั่นทันที แต่ที่ติดไปกับเขาด้วยก็คือความดีใจปนสงสัย
ของตัวเองที่ผู้เป็นลุงถามเขาเพราะตั้งแต่ที่เขาไปเรียนต่างประเทศจนกลับมาเขาไม่เคยได้ยินผู้เป็น
ลุงถามเขาเลยแม้แต่น้อยแล้วทำไมตอนนี้ลุงถึงถามเขาได้ล่ะ
เช้าวันนี้แน่งน้อยตื่นแต่เช้ามืดเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธอจึงตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียม
ของใส่บาตรตอนเช้า พระท่านเดินผ่านไปแล้วหญิงสาวลุกขึ้นยืนด้วยใจอิ่มบุญหน้าตาจึงสดชื่นขึ้น
อีกตั้งโขเธอเดินเข้าไปในตัวบ้านยังไม่ทันเปิดประตูด้วยเข้าไปด้วยซ้ำประตูก็เปิดออกเองมีชายหนุ่ม
อยู่ข้างหลังประตูทั้งสองชะงักอยู่กับที่มองหน้ากันอยู่อย่างนั้นนานได้อืดใจหนึ่งก่อนที่เอี้ยก้วยจะ
โพล่งออกมา
“ วันนี้ตื่นแต่เช้านัดใครไว้เหรอครับ”
“ ดิฉันมาใส่บาตรค่ะ “ แน่งน้อยตอบ
“ อ้อเหรอครับ วันนี้นึกอะไรขึ้นมาถึงอยากได้บุญ “ เขาถาม
“ วันนี้วันเกิดดิฉันค่ะ “ เธอบอก
“เหรอครับ ว่าแต่จะจัดงานเลี้ยงมั้ยครับ
ผมจะได้ไปช่วย
“ ดิฉันก็ไม่ใช่พวกบ้านิยมซะด้วยสิคะ “
“ งั้นแปลว่าคุณจัดงานเลี้ยงที่โรงแรม “ เขาถามยิ้มกวนๆ อาการยิ้มแบบนี้แน่งน้อยไม่ชอบ
เอาเสียเลยมันเป็นรอยยิ้มที่เธอคิดว่าเป็นรอยยิ้มที่เยาะเย้ยสิ้นดี
“ ไม่จัดค่ะ แค่จะพาคุณพ่อไปทานข้าวนอกบ้าน
อ้อดิฉันคิดว่าจะชวนคุณไปด้วยน่ะ
ค่ะ
แต่
ไม่ไปก็ดีเหมือนกันนะคะ”
“โอ๊ะ!ขอบคุณมากครับที่ชวนผม เมื่อไหร่ครับ
ผมจะได้เตรียมตัวทัน” เอี้ยก้วยตอบกวนๆ
“นี่
ฉันอุตส่าห์บอกทางอ้อมแล้วนะว่าไม่ให้คุณไป คนอะไรเข้าข้างตัวเองชะมัด” แน่ง
น้อยบอกอย่างอารมณ์เสีย ใบหน้างอง้ำ
“OK ผมรู้หรอกว่าคุณไม่ต้องการให้ผมไปด้วยน่ะ
แต่ไม่เป็นไรครับผมยินดีที่จะไป” เอี้ย
ก้วยตอบ
“นี่
คุณ
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกับคุณแล้ว” แน่งน้อยพูดอย่างหงุดหงิดพลางเอามือกุม
หัวตัวเองไปด้วยเหมือนหัวจะระเบิดยังไงยังงั้น เอี้ยก้วยมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาสนุกแกมเอ็นดูในกิริยาของเธอแต่ความในใจบางอย่างทำให้สายตาที่มองเธออยู่ ณ ตอนนี้กลับเศร้าลงแต่แน่งน้อยมัวแต่โมโหจนไม่ได้สังเกตเขายกมือเกาท้ายทอยทำหน้ากวนๆใส่เธอ
อีกแล้วเหรอที่เธอบอกตัวเองว่าใบหน้าแบบนี้ของเขากวนชะมัด(มันน่าตบจริงๆ)เธอคิด ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้น
“เอาล่ะ
ผมไม่แกล้งคุณแล้ว
เหนื่อย
เอาเป็นว่าเราสงบศึกกันดีกว่านะบางที
มัน
อาจจะดีกว่าที่ต้องมาทะเลาะกันแบบนี้
ผมกับคุณอาจจะอยู่ด้วยกันแบบนี้อีกไม่นาน
ก็ได้” ประโยคสุดท้ายเขาพูดแผ่วเบาเหลือเกินจนแน่งน้อยใจหายเหมือนกัน
“แล้วคุณจะไปไหนคะ” เธอถาม
“ไม่รู้สิ
รู้แต่ว่าตอนนี้มันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน”
“คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ” เธอถาม
“เปล่า
นี่ สบายดีนี่” เขาตอบ พร้อมกับหลบสายตาของเธอที่จ้องมองมา
“OK ค่ะ สงบศึกก็ได้ค่ะ
ความจริงดิฉันก็ไม่อยากจะทะเลาะกับคุณนักหรอกค่ะ
แต่
คุณมันก็น่าหมั่นไส้จริงๆนี่” แน่งน้อยพูดยิ้มๆ หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ
ความคิดเห็น