ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปลอบฝัน....วันรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 50


    จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 1 ปีเต็มที่หญิงสาวมาเป็นลูกบุญธรรมของชายวัยกลางคนผู้นี้

                  อ้าวแน่งน้อยทำไมวันนี้หนูกลับมาเร็วจังไหว้พ่อแม่เสร็จเร็วดีนะวันนี้

     หญิงสาวหันมาตอบที่ตอนนี้เธอเรียกว่าพ่อด้วยแววตาสดใส

                  ค่ะ  วันนี้หนูมีงานค้างที่บริษัทสำคัญมากด้วยนะคะหนูก็เลยจะรีบไปเคลียร์น่ะค่ะ

                  จ๊ะเอ้อวันนี้พ่อต้องไปรับหลานที่สนามบินนะลูกฝากบอกแม่บ้านให้เตรียมกับข้าวเผื่อด้วยนะ

                  ค่ะ  คุณพ่อ   หญิงสาวรับคำอย่างเต็มใจ………………

                     เวลาบ่ายโมงที่สนามบิน  ชายหนุ่มร่างสูงสมส่วนดูประเปรียวดวงตากลมดำขลับคมเข้มเข้ากับคิ้วที่ดูดกดำรับกับใบหน้าคมๆของเขาเดินตรงมาที่ชายวัยกลางคนยืนอยู่เขาเข้ามาหาและยกมือไหว้ออย่างนอบน้อมแต่ดูสุขุมยิ่งนัก

                   สวัสดีครับคุณลุงสบายดีไม๊ครับ   ชายหนุ่มทักทายน้ำเสียงแจ่มใสแต่ใบหน้ากลับดูเรียบเฉย

                   อื้อ  ไปกลับบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกันนะ

    ทั้งสองขึ้นรถไปแล้ว

                    ในเวลาไม่นานก็ถึงประตูบ้านหลังใหญ่ที่ชายหนุ่มจากมันไปตั้งหลายปีและไม่เคยติดต่อทางนี้เลยนอกจากต้องการสิ่งที่จำเป็นที่สุดเท่านั้น  ทางนี้เองก็ติดต่อชายหนุ่มไม่ได้เพราะเขาเองก็ไม่เคยอยู่กับที่สักครั้งในแต่ละปีที่อยู่บนซองจดหมายที่เขียนมาบ้านไม่เคยซ้ำกันแม้แต่ที่เดียว

                     รถเก๋ง  CRV  สีน้ำเงินจอดที่บันไดหน้าบ้านชายหนุ่มลงจากรถด้วยหัวใจที่พองโตเพราะคิดถึงบ้านที่เคยมีแต่ความสุขในกาลก่อนซึ่งบัดนี้คนที่ให้ความสุขแก่เขาอย่างเต็มเปี่ยมได้จากไปโดยที่เขาไม่คิดว่าจะกลับมาทำแบบนั้นกับเขาอีก  เขาก้าวเข้าไปในบ้านความทรงจำเก่าๆที่เขาพยายามลืมแต่สมองกลับเก็บไว้เหมือนใส่กุญแจลั่นดาลไว้อย่างไม่มีวันลืมวันนี้และที่ตรงนี้มันได้พรั่งพรูออกมาอย่างยั้งไม่อยู่ทุกซอกทุกมุมที่นี่มีแต่ความทรงจำเก่าๆที่เก็บไว้อย่างไม่มีวันลืม   เขาเดินไปในที่ต่างๆที่เขาเคยไปอย่างอยากรู้อยากเห็น   เขาเลยไปถึงที่ที่เขาคุ้นเคยและยึดติดกับที่นั่นที่ศาลาท่าน้ำที่เขาเคยนั่งเล่นเป็นประจำเมื่อตอนที่เขาอยู่ที่นี่และบัดนี้เขาได้เห็นหญิงสาวนางหนึ่งนั่งอยู่อย่างสบายใจเขามองเธออย่างเพลิดเพลินใจเป็นที่สุดเขาคิดอยู่ในใจไปว่านางฟ้าแกล้งจำแลงกายมาให้เขาเพ้อหลงไหลเธอเล่นหรือไงนะในยามตะวันเริ่มมอบหน้าที่ให้กับพระจันทร์ที่รอทำหน้าที่อยู่ ตะวันสีแดงที่กำลังจะลับฟ้าสาดส่องร่างเธอและดูสวยผิดกับเวลาอื่นเขามองเธอเพลินไปจริงๆจนเขาเหยียบกิ่งไม้หักดังเป๊าะ! จนเธอผู้ที่เขาคิดว่านางฟ้าแปลงกายมานั้นหันมองมาทางเขาด้วยสีหน้าตกใจ  สีหน้าของเธอกลายเป็นซีดเซียวต่อหน้าต่อตาเขานั่นเอง        

     คุณเป็นใคร?  เข้ามาในนี้ได้อย่างไง!…? “  เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด  เขาเองก็อยากจะทุบหัวเองให้แหลกคามือที่เดินไม่ระวัง  เขารีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติก่อนที่เธอจะสังเกตเห็น

                   แล้วคุณล่ะเป็นใคร?  เข้ามาในบ้านนี้ได้อย่างไง?  เขาถามคำถามเดียวกับเธอท่าทางคล้ายหยอกล้อมากกว่าที่จะถามจริงๆ   เธอมองเขาท่าทางเกลี้วกลาดที่เขาบังอาจมาล้อเล่นกับเธอ

                   อย่ามายอกย้อนฉันนะ    เอาล่ะสิแบบนี้คำพูดที่เขาจะผูกมิตรเหมือนอย่างที่เขาตั้งใจจะทำตอนแรกก็ลดไปเกือบหมดเสียแล้ว  คงเป็นผู้หญิงของลุงมั้งและลุงคงรักมากด้วยล่ะถึงเข้ามาในบ้านและพูดแบบนี้กับเราได้…..อย่างนี้ต้องแกล้งเสียให้เข็ด   เขาคิด

                  โอ้โห! นี่คุณ! ท่าทางจะเป็นเจ้านายในบ้านนี้อีกคนหนึ่งแล้ว บ้านนี้เจ้านายเยอะจริงๆ  ว่าแต่คุณมีฐานะอะไรในบ้านนี้เหรอ? “  เจอคำถามแบบนี้เข้าให้เธอก็อึ้งปนสงสัยแต่ก็โกรธแทบจะร้องกริ้ดออกมาผู้ชายอะไรหน้าตาลักษณะดี หล่อขนาดบาดใจเธอแต่ปากเสียเป็นที่สุด คำถามแบบนี้มัน…….ฉันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะตาบ้า เธอคิด

                  แต่ก่อนที่สงครามน้ำลายจะเกิดขึ้นไปมากกว่านี้ชายวัยกลางคนได้เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อนพร้อมพาทั้งสองไปทานข้าวในบ้านพร้อมกับแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน

                  คุยกันตั้งนานรู้จักกันรึยัง ฮึ ? “  เมื่อชายวัยกลางคนเห็นหน้าทั้งสองแล้วก็อ่อนใจพร้อมแนะนำว่า

                  แน่งน้อยนี่ เอี้ยก้วย (นริราช)หลานของพ่อที่ไปรับที่สานมบินวันนี้……เอี้ยก้วยนี่ลูกสาวของลุงชื่อแน่งน้อย (ประภาพันธ์)…แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกแท้ๆก็ตามแต่ลุงก็รักเธอเหมือนลูกนะ      ผู้เป็นลุงบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                  ครับ   ชายหนุ่มรับปากอย่างขอไปที  เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าที่ลุงของเขาบอกตอนนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่เพราะเขารู้นิสัยของลุงผู้นี้ของเขาดีจึงถามออกไปว่าแบบไม่ใส่ใจนัก

                  แน่ใจนะครับว่าเป็นแค่ลูกบุญธรรมเฉยๆ

                  แกอย่าพูดแบบนี้นะ เอี้ยก้วย ฉันไม่ชอบ ผู้เป็นลุงบอกอย่างไม่สบอารมณ์นัก

                  แล้วจะให้ผมฝาเนื้อฝากตัวกับเธอไหมครับ   เขาพูดเป็นเชิงล้อ

                 หยุดนะ !  แกจะทำอะไรในบ้านนี้ฉันไม่เคยว่าแต่อย่ามายุ่งกับเธอเด็ดขาด   ผู้เป็นลุงบอกเสียงเฉียบขาดและฉุนเฉียว

                 ครับ  ผมทราบ   ชายหนุ่มบอกมาอย่างไม่พอใจและลุกจากโต๊ะพรวดพลาดจนเก้าอี้เกือบจะล้มเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าข้างหลังที่เขาจากมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง

                ขอโทษค่ะคุณพ่อที่แน่งน้อยทำให้คุณพ่อกับหลานคุณพ่อทะเลาะกันกันแบบนี้   เธอพูดออกมาด้วยใจจริง

                ไม่เป็นไรหรอกลูก  เอี้ยก้วยเขาก็เป็นแบบนี้แหละลูก   ผู้เป็นพ่อบอกอย่างปลงตกในตัวหลานชาย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×