ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ให้เพลงบรรเลงรัก(yuri นิยายยูริ)

    ลำดับตอนที่ #3 : ข้าวกล่องของเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 66


    EP.3

                    ตอนนี้พวกเราทุกคนเดินมาที่ห้อง ตอนนี้ทุกคนก็พากันเก็บของและเตรียมตัวไปอาบน้ำ เป็นเรื่องบังเอิญมากที่พวกเราดันรหัสตรงกันและได้นอนห้องเดียวกัน และที่สำคัญเตียงของฉันอยู่ตรงข้ามกับพี่เจ้าขา

    ฉันม็จะทำตัวยังไงเลย

                    “พี่ๆคะ แล้วพี่เจ้าขาไม่กินข้าวหรอคะ”ฉันถามก่อนที่จะมองไปที่กล่องข้าว

                    “ตอนแรกพี่ว่าจะเอาไปให้มันแหละ แต่เห็นมันซ้อมอยู่เลยไม่อยากกวน” พี่นิวตัลหันมาตอบก่อนที่จะหันไปเก็บของต่อ

                    “แล้วพี่เขาจะซ้อมอีกนานมั้ยอะ” นับดาวหันไปถาม

                    “คิดว่าอีกสักพักแหละ”พี่นิวตอบ

                    “เพลงแกหาอะไรอยู่อะ เห็นหาอยู่นานแล้ว”มิ้นท์พูดขึ้น

                    “ฉันหาผ้าเช็ดหน้าฉันอะ สงสัยทำหล่นไว้ที่ไหนสักที่”

    ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเป็นผ้าเช็ดหน้าที่ฉันติดมากเพราะเป็นของที่เพื่อนของพี่สาวฉันให้ฉันไว้เมื่อตอนเด็ก ฉันจำได้ดีเลย วันนั้นพี่ฉันและเพื่อนมาทำรายงานที่บ้าน ตอนเที่ยงพี่ๆเขาก็หาของกินกัน แต่ฉันก็ดื้อ ฉันแอบไปวิ่งเล่นหลังบ้านจนล้ม และตอนนั้นฉันร้องไห้หนักมาก จนเพื่อนของพี่สาวฉัน

    เข้ามาช่วย ตอนนั้นเขายื่นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ให้ฉันไว้เช็ดน้ำตา และรอยยิ้มนั้นก็ทำให้ฉันจำมาจนถึงวันนี้ แต่ว่าตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เห็นพี่เขาอีกเลย

    พี่พราวบอกว่าพี่เขาย้ายโรงเรียนไปเรียนที่เชียงใหม่ แต่ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ฉันก็ยังไม่ได้คืนเลย และฉันก็เก็บมันไว้ตลอด

                    “เพลง ไปอาบน้ำกัน”เพื่อนๆทั้งสองถือของเตรียมตัวที่จะไปอาบน้ำ

                    “พวกแกไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันขอไปหาผ้าเช็ดหน้าแปปนึง พี่ๆคะเดี๋ยวหนูเอาข้าวไปให้พี่เจ้าขาพร้อมกันเลยนะคะ”พูดจบฉันเดินออกไปจากห้องก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องซ้อมของพี่เจ้า แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะหยิบข้างกล่องออกไปด้วย 

                    ตอนนี้เสียงในห้องซ้อมก็ดังอยู่ และมีเสียงคนกำลังพูดกัน

                    “เจ้าครูว่าตรงนั้นเจ้ายังทำได้ไม่ดีพอนะ แต่ก็เอาเถอะเรายังมีเวลาซ้อม ตอนนี้ก็ดึกละ เลิกซ้อมได้แล้วแหละ กลับไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้ครูจะมาเก็บเพลงท่อนนี้” เสียงของครูรินที่กำลังพูดกับพี่เจ้าขา ไม่นานหลังสิ้นเสียงครูรินก็เดินออกมาจากห้อง

                    “อ้าวเพลงขวัญ มีอะไรหรือป่าวจ้ะ มาหาเจ้าขาหรอ”

    ครูรินหันมายิ้มแล้วถามฉัน

                    “อ่อ พอดีหนูลืมของไว้หนะค่ะครู ก็เลยเดินมาเอาของแล้วก็เอาข้าวมาให้พี่เจ้าขาด้วยค่ะ”ฉันยิ้มและตอบครูออกไป

                    “น่ารักจังนะเรา มีน้ำใจซื้อข้าวมาให้รุ่นพี่ด้วย โอเคงั้นครูไม่กวนละ ตามสบายนะลูก”หลังจากที่ครูพูดจบครูก็เดินออกไป

                    ฉันเดินจนถึงห้องก่อนที่จะเคาะประตูแล้วเดินเข้าไป

                    “อ้าวขวัญ มีอะไรหรอ”พี่เจ้าหันมาถามฉัน

                    “ขวัญเอาข้าวมาให้พี่เจ้าค่ะ แล้วก็จะมาหาของด้วย”ฉันหันไปยิ้มก่อนที่จะพูดตอบก่อนที่จะยื่นกล่องข้าวให้

                    “ขอบคุณนะ แล้วนี้หาอะไรอยู่ละเดี๋ยวเราช่วยหา”

    พี่เจ้ารับของจากฉันก่อนที่จะถามขึ้น

                    “ผ้าเช็ดหน้าค่ะ ขวัญจำไม่ได้ว่าทำตกไว้ที่ไหน เลยมาหาในห้องนี้”ฉันตอบพี่เจ้าก่อนที่พี่เจ้าจะส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้

                    “อันนี้ป่ะ เราเห็นตกอยู่เลยเก็บไว้ให้”พี่เจ้ายื่นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าให้ฉัน

                    “ใช่ค่ะ อันนี้เลยขอบคุณมากๆนะคะ”ฉันรีบรับผ้าเช็ดหน้าแล้วยิ้มให้พี่เจ้า

                    “แสดงว่าขวัญต้องรักผ้าผืนนี้มากๆเลยละสิ ถึงได้ตามหาขนาดนี้” พี่เจ้ายิ้มแล้วถามฉัน

                    “ผ้าผืนนี้มีคนให้ขวัญไว้ตอนที่ขวัญล้มตอนเด็กๆค่ะ แต่ขวัญจำเขาไม่ได้ เลยไม่ได้คืนผ้าให้พี่เขาแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าทำไมขวัญต้องเก็บผ้าผืนนี้ไว้ แต่เวลาที่มีผ้าผืนนี้อยู่ใกล้ๆขวัญมันทำให้ขวัญรู้สึกอบอุ่นเหมือนมีพี่คนนั้นอยู่ข้างๆเสมอค่ะ ขวัญเลยเก็บไว้” ฉันเล่าออกไปด้วยรยยิ้ม

                    “แบบนี้เอง ดีแล้วแหละงั้นคราวหน้าก็เก็บดีๆละ ถ้าไปตกอยู่ที่อื่นนี้แย่เลย”พี่เจ้าหันมายิ้มให้ฉัน

                    “พี่เจ้ารีบกินข้าวสิคะ เดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด”

                    “เดี๋ยวเราเก็บของก่อนแล้วค่อยกินก็ได้ ขวัญขึ้นห้องไปอาบน้ำได้แล้วไป”พี่เจ้าหันมาบอกฉนก่อนที่จะเก็บโน้ตที่วางอยู่

                    “พี่เจ้ากินข้าวเลยเดี๋ยวของในห้องขวัญเก็บช่วย นี้มันดึกแล้ว เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”ฉันพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง

                    “เอางั้นหรอ งั้นก็ได้เราฝากด้วยนะ เดี๋ยวเราเอาเครื่องไปเก็บก่อนแล้วค่อยไปนั่งกินที่ดีๆ กินในห้องนี้เดี๋ยวมดขึ้น”พูดจบพี่เจ้าก็เก็บเครื่องและเดินออกไปเพื่อเอาเครื่องไปเก็บ

                    ส่วนฉันก็เก็บโน้ตและแสตนโน้ต ฉันมองไปรอบๆห้องก่อนที่จะเห็นว่าโทรศัพท์ของพี่เจ้ามีข้อความเข้า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูนะ แต่ว่ารูปหน้าจอโทรศัพท์ของพี่เจ้า คือรูปของพี่เขาแต่เป็นรูปที่พี่เขาใส่ชุดนักบาสและถือลูกบาส

                    “คนอะไร ทั้งหล่อทั้งสวยในคนเดียวกัน” ฉันพูดเบาๆก่อนที่จะเก็บของต่อ

    ไม่นานพี่เจ้าก็เดินมาที่ห้องพร้อมกับกีต้าร์ตัวนึง

                    “พี่เจ้าจะเอากีต้าร์ไปไหนคะ”

                    “อ่อ พี่จะเอาไปอัดเสียงหน่อยสักหน่อย ป่ะกลับหอกัน”

    พี่เจ้าพูดจบแล้วถือกระเป๋านักเรียนและกีต้าร์ออกมาจากห้อง ส่วนฉันถือถุงข้าวและเดินตามออกมา พี่เจ้าเดินมาจนถึงไม้หินอ่อนและนั่งลง

                    “ขวัญขึ้นห้องก่อนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวเราว่าจะกินข้าวก่อนเล้วค่อยขึ้นไป” พี่เจ้าหันมาบอกฉันก่อนที่จะวางของทุกอย่างและเปิดข้าวกิน

                    “งั้นเดี๋ยวขวัญนั่งเป็นเพื่อนนะคะ”ฉันยิ้มและนั่งลงตรงข้างเธอ

                    “เอาสิ”พี่เจ้าแกะกล่องข้าวก่อนที่จะตักข้าวเข้าปาก

                    “พี่เจ้าเล่นบาสด้วยหรอคะ”

                    “ก็เล่นนะ เมื่อก่อนเล่นบ่อย”

                    “พี่เจ้านี้เก่งจังเลยนะคะ เล่นเป็นตั้งหลายอย่าง”ฉันยิ้มให้พี่เจ้า

                    “ไม่หรอกที่เราเล่นเยอะทำกิจกรรมเยอะก็เพราะเราไม่อยากคิดอะไรมากกว่า”เขาตอบฉันแต่สายตาของเขามันกลับเศร้าลงอีกแล้ว

                    “หนูว่าหนูไม่ถามแล้วดีกว่า แต่พี่เจ้าต้องยิ้มเยอะๆนะคะ หนูชอบเวลาพี่ยิ้ม” พูดจบฉันก็คิดได้ว่าฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย 

                    “ถ้าขวัญชอบเราจะยิ้มบ่อยๆนะ”พี่เจ้าหันมาหาฉันและตอบก่อนที่จะกินข้าวต่อ 

    พี่เจ้ากินข้าวประมาณ10นาทีได้ หลังจากกินเสร็จฉันและพี่เจ้าก็ได้เดินขึ้นห้อง ตอนนี้เพื่อนๆของฉันและพี่ม่านฟ้าพี่นิวตัลกำลังนั่งเล่นอยู่กลางห้อง

                    “พวกแกทำอะไรกัน”พี่เจ้าถามขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าห้อง

                    “กำลังจับผิดแกสองคนนั้นแหละ”พี่ม่านฟ้าพูดขึ้น

                    “จับผิดอะไรกันคะ”ฉันถามกลับด้วยความตกใจ

                    “ก็ปกติไอ้เจ้ามันไม่ค่อยชอบยุ่งกับใครแล้วก็ไม่ชอบให้ใครกวน เวลามันซ้อมหรือว่าจะกินข้าวอะไร เวลากินข้วหรือซ้อมนะต้องห้ามชวนคุยเลย ไม่งั้นโดนด่าแน่ๆ”พี่นิวตัลหันมาหาฉันแล้วพูด

                    “ก็นี้รุ่นน้องกูไง มึงนี้นะจับผิดกูตลอด”พี่เจ้าหันมาพูดก่อนที่จะส่ายหัว

                    “อย่าอารมณ์เสียสิเพื่อนก็แค่หยอกเล่นๆเอง”พี่นิวพูดก่อนที่จะยิ้มแบบมีเลศนัย

                    “ไปอาบน้ำกันได้แล้วไปนี้มันดึกแล้ว”พี่ม่านฟ้าพูดขึ้นก่อนที่จะไล่ฉันและพี่เจ้าไปอาบน้ำ

    ฉันเก็บของเสร็จและเดินไปที่ห้องน้ำ ก่อนที่จะเปิดล็อคเกอร์ของตัวเอง ซึ่งมันก็อยู่ไม่ห่างจากล็อคเกอร์ของพี่เจ้า ฉันรีบเข้าไปอาบน้ำ และออกมาแต่งตัว ส่วนพี่เจ้าใส่กางเกงขาสั่นและเสื้อบาสออกมา 

                    “ขวัญ ขวัญ!!” 

                    “ค...คะ”ฉันหลงพี่เจ้าอีกแล้วหรอเนี่ย

                    “เป็นอะไรหรือป่าว ทำไมเหม่อจัง”พี่เจ้าเอามือมาแตะที่หน้าผากฉัน

                    “ป่าวค่ะ ขวัญอาจจะเบลอ งั้นขวัญไปนอนก่อนนะคะ”ฉันกำลังจะเดินออกไป

                    “เดี๋ยวสิ”พี่เจ้าเอามือมาจับแขนฉันไว้

                    “ผมเปียกแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก ไปเป่าผมเลย”

                    “ขวัญชอบนอนแบบเปียกๆค่ะ”ฉันรีบพูดและรีบเดินออกไป

    จังหวะที่ฉันจะเดินออกไปพี่เจ้าก็คว้ามือฉันไว้

                    “จะเป่าเองดีๆ หรือว่าจะให้เราเป่าให้”พี่เจ้าหันมาหาฉันแล้วพูดเสียงดุๆ

                    “ป..เป่าเองก็คะ”ฉันรีบเดินไปหยิบผ้าและเดินไปตรงกระจก

    ส่วนพี่เจ้าก็นั่งเช็ดผมอยู่ที่เก้าอี้ ก่อนที่พี่เจ้าจะเดินมาข้างๆฉัน

                    “รู้ป่าว ถ้าไม่เป่าผมให้แห้ง เวลานอนหมอนมันจะชื้นแล้วก็จะมีเชื้อรา แถมที่นี้ยังมีคนตายเพราะไม่เป่าผมด้วยนะ”

                    “จริงหรอคะ” ฉันหันไปถามอย่างตกใจ

                    “จริงสิ ตอนที่เราเข้าม.1มาใหม่ๆ มีพี่นักเรียนม.6 พี่เขาชอบสระผมแล้วไม่เป่าผม พี่เขาแทบจะไม่เป่าเลย แล้วมีอยู่วันนึงตอนพี่เขาอาบน้ำเสร็จพี่เขาก็เดินผมเปียกออกจากห้องน้ำ แล้วพี่เขาก็ไปที่ห้อง ตอนที่พี่เขากำลังจะนอนผมพี่เขาดันไปโดนปลั๊กไฟแล้วทำให้ไฟช็อต พี่เขาตกใจมาก เลยรีบลงจากเตียง จังหวะนั้นแหละพี่เขาก้าวขาพลาด แล้วตกลงมาจากเตียง เพื่อนพี่เขาก็รีบเข้ามาช่วย แต่สุดท้ายพี่เขาดันตกใจเพื่อนที่มาร์ค และพี่เขาเป็นโรคหัวใจ พี่เขาเลยหัวใจวายตาย”พี่เจ้าเล่าเรื่องแบบหน้านิ่ง

                    “โถ่ ไอ้เราก็คิดว่าเชื้อราขึ้น หรือว่าอะไร” 

                    “ฮ่าฮ่า นี้แต่งอยู่นานเลยนะ ไม่ตลกหรอ”

                    “มันก็ตลกค่ะ แต่ขวัญก็คิดว่าเรื่องจริง”ฉันมองหน้าแล้วเผลอทำหน้างอแงใส่พี่เจ้า

                    “ทำหน้างอแงทำไมเนี่ย มานี้มาเป่าแบบนั้นมันจะแห้งมั้ย”

    พี่เจ้าจับไดร์เป่าผมแล้วมาเป่าผมฉัน

                    “เวลาเป่าผมมันต้องทำแบบนี้”พี่เจ้าเป่าผมให้ฉัน

    ทำไมกันนะ เวลาอยู่ใกล้ๆพี่เจ้าฉันถึงรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขแบบนี้

    ฉันอยากจะอยู่ตรงนี้นานๆจัง ตอนนี้ในกระจกฉันเห็นพี่เจ้าที่กำลังตั้งใจเป่าผมให้ฉันพลางบ่นไปเลื่อยๆ

                    “อะ เสร็จแล้ว”พี่เจ้าวางไดร์เป่าผมก่อนที่จะพูด

                    “แล้วผมพี่ละคะ”ฉันมองหน้าพี่เขา

                    “เดี๋ยวเราเป่าเองก็ได้ แค่นี้เอง”พูดจบพี่เจ้าก็หยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมต่อ

                    “ขวัญจะกลับห้องก่อนเลยก็ได้นะ”พี่เจ้าหันมาพูดกับฉันและเป่าผมต่อ

                    “ไม่ค่ะ ขวัญจะรอ”ฉันพูดจบและนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อ

    หลังจากที่พี่เจ้าเป่าผมเสร็จ พี่เจ้าก็เปิดล็อคเกอร์และหยิบครีมทาผิวออกมาทา ตอนนี้พี่เจ้าปล่อยผมและกำลงทาครีม ยิ่งทำฉันหลงเข้าไปอีก คนอะไรทั้งสวยทั้งหล่อในเวลาเดียวกัน ไม่นานพี่เจ้าก็แต่งตัวทำธุระเสร็จ

                    “ป่ะ เสร็จแล้ว” พี่เจ้าชวนฉันกลับห้อง

    เราทั้งคู่เดินถึงห้อง และตอนนี้พี่ๆกับเพื่อนของฉันกำลังนั่งเล่นบอร์ดเกมอยู่

                    “อ้าวมากันแล้วหรอ มาเล่นด้วยกันสิ” พี่ม่านฟ้าพูดหลังจากที่ฉันเดินเข้าห้องมา

                    “มาสิเพลง กำลังสนุกเลย” มิ้นท์กวักมือเรียกฉัน

                    “เล่นอะไรกันอะน่าสนุก พี่เจ้าเล่นด้วยกันมั้ยคะ” ฉันหันไปถามพี่เจ้า

                    “รายนั้นนะเขาไม่เล่นอะไรแบบนี้หรอก” พี่นิวพูดพร้อมกับหันไปหาพี่เจ้า

                    ฉันมองหน้าพี่เจ้าก่อนจะทำหน้างอแงออกมาโดยไม่รู้ตัว

                    “อยากให้เราเล่นด้วยหรอ” พี่เจ้าหันมาถามฉัน

                    “ค่ะ” ฉันรีบพยักหน้าตอบ

                    “เอาสิ” พูดจบพี่เจ้าก็เดินมานั่ง

                    “อะไรว่ะ เวลาเพื่อนชวนไม่เคยเล่น ทีน้องชวนนิดหน่อยเล่นเฉย” พี่นิวพูดแซว

                    “อะไร วันนี้แค่อยากเล่นด้วย แปลกตรงไหน” พี่เจ้ามองหน้าฉัน

                    “แล้วขวัญไม่นั่งหรอ ยืนเล่นมันเมื่อยนะ” เขาพูดและหันมายิ้มให้ฉัน

                    “ค่ะๆ” ฉันพูดละรีบนั่งลง 

                    “มาๆเริ่มเลยนะ” พี่ม่านฟ้าพูดขึ้นและเริ่มเล่นเกม

    เราเล่นเกมกันอยู่นาน ตอนนี้เวลาก็จะสี่ทุ่มแล้ว

                    “จะสี่ทุ่มแล้ว งั้นฉันขอไปซ้อมต่อก่อนนะ” พูดจบพี่เจ้าก็ลุกออกไปที่เตียง

    ก่อนที่พี่เจ้าจะหยิบกีต้าและหูฟังขึ้นมาแล้วเปิดคอม

                    “โห่ พี่เจ้านี้ขยันจังเลยนะคะ” ฉันมองพี่เจ้าก่อนที่จะหันไปถาม

                    “รู้มั้ย วันนี้เป็นวันแรกเลยนะที่พี่เห็นมันมาเล่นอะไรแบบนี้ ปกติเข้าห้องมาก็นั่งซ้อมอย่างเดียวเลย” พี่นิวพูดขึ้นก่อนที่จะมองไปหาพี่เจ้า

                    “ทำไมละคะ” ฉันหันไปถาม

                    “ก็เจ้ามันโดนคนที่บ้านกดดันละสิ ครอบครัวมันมีแต่คนเป็นหมอ แถมมันยังเรียนเก่ง ที่บ้านมันเลยอยากให้มันเป็นหมอ” พี่นิวพูดแล้วมองไปทางพี่เจ้า

                    “แบบนี้ไม่กดดันแย่หรอพี่” นับดาวหันไปถาม

                    “พี่ว่ามันกดดันแหละ แต่มันเป็นคนไม่ค่อยพูดความรู้สึกตัวเองมั้ง สังเกตดีๆนะ เวลาที่มันเงียบหรือเก็บตัวอยู่คนเดียว แสดงว่ามันกำลังคิดหรือกดดันอะไรสักอย่าง” พี่ม่านฟ้าพูด

                    ฉันมองดูพี่เจ้าที่กำลังเอากีต้ามาซ้อม ก็จริงแหละ ตอนแรกที่เจอพี่เจ้า ร้อยยิ้มนั้นสดใสแต่ก็เหมือนยังยิ้มไม่สุด คงเป็นเพราะกดดันเรื่องแข่งสินะ

     

                    “พี่ว่าเรานอนกันดีกว่านี้ก็ดึกแล้ว” พี่ม่านฟ้าพูดจบทุกคนก็พากันเก็บของและเข้านอน

                    “พี่เจ้าไม่นอนหรอคะ” ฉันถามพี่เจ้า ตอนนี้เขากำลังเปิดเพลงในยูทูปและเล่นกีต้า

                    “อีกสักพักเดี๋ยวเราก็นอนละ ขวัญไปนอนเถอะ” พี่เจ้าถอดหูฟังออกแล้วหันมาบอกกันฉัน

                    “ค่ะ พี่เจ้าอย่านอนดึกมากนะคะ” ฉันยิ้มและพูดออกไป

                    “อือ ฝันดีนะ” พี่เจ้ายิ้มให้ฉัน

                    “ฝันดีล่วงหน้าเหมือนกันค่ะ” ฉันยิ้มให้ก่อนที่จะเดินขึ้นเตียง

                    “ทีกับเพื่อนไม่เคยมีหรอกฝันดงฝันดี” พี่นิวตัลพูดแซวพี่เจ้า

                    “ก็บอกทุกคนนั้นแหละ นอนได้ละดึกละ” พี่เจ้าหันไปพูดกับพี่นิว

                    “เออๆ มึงก็อย่านอนดึกละกัน” พี่นิวพูดจบก็ปีนขึ้นเตียง

    ส่วนฉันก็ปีนขึ้นเตียงและแอบดูพี่เจ้าที่กำลังซ้อมกีต้า เอาจริงๆนะ ฉันรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เราเจอกัน และก็ยังเป็นวันปิดเทอมแต่ฉันก็เห็นพี่เจ้าเอาแต่ซ้อมแล้วก็ซ้อม ถึงพี่เขาจะยิ้ม แต่มันก็เหมือนยิ้มไม่สุด ฉันชอบรอยยิ้มพี่เขานะ แต่แววตาของเขามันก็ทำให้สุขไม่สุดอยู่ดี การได้มองตาพี่เขาและได้อยู่ใกล้ๆพี่เขามันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันอบอุ่นและอยากมองพี่เจ้าอยู่ตลอดหรือว่าฉันอาจจะแอบรักพี่เจ้าเข้าแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×