ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Good morning My Dear รุ่งอรุณดิ์อุ่นไอรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ความวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 50


    เช้าอันแสนวุ่นวาย ถึงแม้ว่าที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพก็ตามเถอะแต่ไอ้ความวุ่นวายที่มันเกิดขึ้นเนี่ย มันย่อมเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ น้องภูมิเด็กชายตัวน้อยดวงตากลมโตเหมือนพ่อไม่มีผิด น่าเสียดายที่พ่อของเขานั้นต้องจากโลกนี้ไปเสียก่อนวัยอันควร แต่ไม่เป็นไรเขาก็มีแม่ที่ดีแต่ถึงจะให้ดีแค่ไหนก็อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นนั่นแหระ ว่าความวุ่นวายมันเกิดขึ้นได้เสมอ

     

    พี่ วันนี้ช่วยไปส่งภูมิหน่อยนะ วันนี้ฉันต้องไปพบกับลูกความ ทนายฝีปากดีอย่างแนนนี่ที่บางครั้งไม่วุ่นวายก็ทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่เสมอ แม้กระทั่งวันนี้

    แต่วันนี้เป็นวันเปิดเทอมลูกเธอวันแรกนะ จะไม่ไปส่งหน่อยเหรอ

    ฉันติดงานจริงๆ เธอคว้ากุญแจห้องของเธอพร้อมกับกระเป๋าสะพายเก๋สุดเดิร์นที่เธอเชื่อว่ามันสวยเหมาะสำหรับเธอเหลือเกิน ฉันฝากด้วยนะพี่ แล้วยังไงเดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะไปรับภูมิเอง

     

    เฮ้อ...บอกว่ารับภูมิทีไร ฉันนี่แหละที่เป็นคนไปรับทุกที

     

    จังหวัดเลยคือจังหวัดที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย แต่เมื่อไหร่ที่เข้าฤดูหนาวก็จะหนาวใจจริงๆ เพราะอะไรอย่างนั้นเหรอ ก็เพราะว่าฉันยังโสดอยู่น่ะซิแย่จังที่น้องสาวฉันดันชิ้งมีแฟนเสียก่อนแต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ทันไรเขาก็ด่วนจากเธอไป

     

    คุณป้าครับ เจ็ดโมงแล้วครับ น้องภูมิวางแก้วนมบนโต๊ะอาหารพร้อมกับดวงตาที่บ่งบอกถึงความอยากไปโรงเรียนของเขา ผมไม่อยากไปเรียนสายวันแรกหรอกนะครับ

     

    สมศรีคือชื่อของฉันเพื่อนฝูงมักเรียกฉันว่ายัยศรีสั้นๆ แต่ถึงชื่อฉันจะเชยแต่ฉันก็ยังสาวโสดและซิงอยู่อย่างแน่นอน วันนี้ฉันต้องรีบไปส่งน้องภูมิให้ทันก่อนที่จะสายและดูท่าทางวันนี้รถจะติดเสียด้วย ทั้งรถประจำทาง รถเก๋งและมอเตอร์ไซด์ที่มีอยู่ในเมืองจนแทบจะเบียดเสียดล้นออกมาจากเลนถนน ที่นี่ฉันว่าไม่ต่างอะไรกับกรุงเทพดีดีนี่เอง ในที่สุดภารกิจแรกของวันนี้ก็เสร็จสิ้น

     

    สวัสดีครับคุณป้า....

     

    ฉันขับรถฮอนด้าสีเงินเก่าๆเลี้ยวออกจากหน้าโรงเรียนและรีบดิ่งกลับบ้านทันที เพราะฉันไม่อยากเสียเวลากับการปั่นนิยายของฉัน แต่ก่อนที่จะรีบดิ่งกลับบ้านฉันก็จะต้องแวะตลาดซื้ออาหารมื้อเที่ยงเข้าบ้านก่อน ก่อนที่ฉันจะนั่งทำงานอย่างยาวนานถึงตอนเย็นและที่สำคัญฉันก็จะต้องกลับมารับน้องภูมิอีกครั้งตอนที่เขาเลิกเรียน

     

    สวัสดีค่ะน้องสมศรี แม่ค้าขายขนมหวานเรียกเธอ วันนี้จะรับอะไรดีค่ะ

    ขอขนมเปียกปูนละกันจ๊ะ สองห่อนะฉันกินคนเดียวไม่หมด

    ไม่เอาไปฝากลูกชายเธอเหรอ แม่ค้าทักท้วง

    น้องภูมิน่ะเหรอ วันนี้เขาไปเรียนจ๊ะกว่าจะถึงเย็นฉันกลัวว่าจะเสียซะก่อน

    โธ่ ก็เก็บแช่ตู้เย็นไว้ก่อนซิจ๊ะ แหมถ้าคุณพี่คนนี้เป็นตัวแทนเซลล์แมนละก็ ท่าทางจะทำยอดตัวเองได้ดีจนทะลุเป้าแน่นอน

    ถ้าอย่างนั้นฉันขอขนมสอดไส้ให้แกสองห่อล่ะกัน เท่าไหร่จ๊ะ ฉันเตรียมหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาและควักแบงค์ร้อยออกมารอ

    สามสิบบาทจ๊ะ ฉันแถมขนมสอดไส้ให้เป็นสามห่อเลยนะวันหลังอย่าลืมแวะมาซื้ออีกละ

     

    ถึงเธอจะไม่ค่อยรู้อะไรเลยเกี่ยวกับน้องภูมิ และมักจะคิดว่าน้องภูมิเป็นลูกชายฉันเสมอแต่ฉันไม่โทษเธอหรอก ก็แน่ล่ะน้องสาวฉันไม่เคยจะเหยียบตลาดเลยสักนิด วันไหนที่เธอมานะใครๆก็ไม่รู้จักเว้นแต่ว่าฉันจะมาพร้อมกับเธอซึ่ง ก็ไม่เคยอีกเช่นกัน เราสองคนมักจะสวนทางกันเสมอๆ ถ้าเธอมาตลาดฉันก็จะอยู่บ้านเขียนนิยาย แต่ถ้าฉันมาตลาดเธอก็จะออกไปทำงานข้างนอก

     

    ฉันออกจากตลาดมาพร้อมหิ้วกับข้าวและขนมที่แสนอร่อยที่ฉันชื่นชอบกินมาด้วย ฉันกลับอพาร์ทเม้นและขึ้นห้องด้วยความหิวโหยและรีบทานอาหารมื้อเช้าก่อนที่จะรีบลงมือทำงานอย่างเต็มที่ แต่เชื่อไหมว่าเวลาเผลอแป๊บเดียวก็บ่ายสองแล้ว ทำให้ฉันลืมกินข้าวเที่ยงไปเลยวันนี้และต้องเตรียมตัวไปรับน้องภูมิเสียแล้ว

     

    สวัสดีครับคุณป้า ผมกะไว้แล้วเชียวว่าคุณแม่ต้องไม่มารับผมอีก ใบหน้าที่แฝงความเศร้าผ่านดวงตาของเขา ช่างน่าสงสารแกจริงๆ

    คุณแม่เขาติดธุระจริงๆ เอาเป็นว่าวันนี้เดี๋ยวป้าพาไปทานไอศกรีมละกันนะ

    จริงเหรอครับ

    จริงซิ เรารีบไปกันดีกว่าก่อนที่จะเย็นมากกว่านี้นะ

     

    น้องภูมิพยักหน้าแล้วหลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถและไปที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง พวกเราป้าหลานเดินเตร็ดเตร่อยู่ในห้างไม่เพียงแต่ยังทานไอศกรีมของโปรดของเจ้าตัวเล็กแล้ว ฉันยังแอบเหลือบเห็นร้านค้าขายของจำพวกเครื่องสำอางที่แนนนี่ชื่นชอบ แต่จะให้ทำยังไงล่ะ ก็ฉันมันนักเขียนไส้แห้งอยู่ตอนนี้

     

    วันนี้น้องภูมิมีการบ้านรึเปล่า ฉันหันมาคุยกับน้องภูมิขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร้านขายของเล่นเด็กในห้าง ผมอยากได้สไปเดอร์แมนจัง

     

    และฉันก็ใจอ่อนซื้อมาจนได้ และเราก็รีบกลับบ้านทันทีเพราะขืนอยู่ต่ออีกฉันต้องเสียเงินอีกอย่างแน่นอน ระหว่างทางที่ฉันกลับบ้านเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสียงเรียกเข้าของฉันดังขึ้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะว่าแนนนี่เป็นคนโทรมา

     

    โอ้ยพี่ ฉันเพิ่งออกจากศาลเนี่ย เหนื่อยจริงๆ เสียงโอดครวญดังแทรกออกมาจากหูโทรศัพท์จนลูกชายเธอต้องหันมามอง คุณแม่เหรอครับ

    แล้วเป็นไง วันนี้ชนะหรือว่าแพ้คดี ฉันเอ่ยถามขณะที่พยายามทำสมาธิกับรถเพื่อจะประคองไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

    ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ก็ฝ่ายทางโน่นเขาไม่ยอมส่วนฉันซิ สงสัยต้องกลับมาหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มอีก

    แล้วเธอคิดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ฉันถามพลางเลี้ยวรถเข้าสู่อพาทเม้น

    ก็ดูจากหลักฐานทั้งหมดนะ ฉันชนะเจ็ดสิบเปอร์เซนจะเหลือก็ลุ้นแต่พยานปากสุดท้ายว่าจะยอมรับหรือไม่ ตอนนี้กำลังเข็นกันอยู่

    อืมก็ดี ฉันหยุดรถส่วนน้องภูมิที่รู้หน้าที่ตัวเองดีก็ปลดเข็มขัดแล้วรีบคว้ากุญแจห้องแล้วหิ้วตุ๊กตาตัวใหม่อุ้มแจไปที่ห้องทันที ว่าแต่วันนี้พี่ไปรับภูมิรึเปล่า

    แน่นอน ไม่อย่างนั้นใครจะไปรับ

    ฉันเป็นหนีบุญคุณพี่จริงๆเลยนะ

     

    แนนนี่มักจะพูดอยู่เสมอๆว่าความฝันของเธอนอกจากเป็นทนายความแล้วเธอก็ยังคงอยากยังอยากลับไปใช้ชีวิตอยู่บ้านๆตามต่างจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดเลย เธอไม่ชอบเลยกับการจราจรที่ติดขัดแต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังคิดว่าเธอไม่มีวันทำได้หรอกเพราะวันๆชีวิตที่ถูกขีดเขียนอย่างเป็นระเบียบในทุกวันนี้ก็ทำให้เธอไม่ว่างสายตัวแทบขาด

    คุณป้าครับ คุณแม่จะกลับบ้านกี่โมง น้องภูมิรีบวิ่งแจ้นมาหาฉันทันทีที่ปิดประตูบ้าน คงไม่นานมั้งจ๊ะ

     

    ชีวิตที่ปามาก็อายุยี่สิบแปดแล้ว ส่วนน้องสาวคนเก่งที่เรียนจบใช้เวลาเพียงสามปีครึ่งจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพ ก็สอบเนติผ่านและเป็นถึงทนายความชั้นดีที่บางครั้งเธอเองก็ดูสับสนบนระเบียบของเธออยู่เหมือนกัน ทำไมนะฉันถึงไม่มีใครเข้ามาในชีวิตสักคนเลยเว้นแต่ผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามกับอพาร์ตเม้นที่ฉันเฝ้ามองเขาอยู่ทุกวัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×