ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท
อารัมภบท
แบคพูจอง
ยามกลางดึกมีเพียงแสงจากจันทราดวงใหญ่ที่ส่องลงมาก็ไม่อาจจะสู้แสงจากคบเพลิงของทหารที่ลุกโชนได้ในเพลานี้ เสียงดาบฟาดฟันดั่งสะหนั่นไปทั่วพระราชวัง พวกขุนนางทั้งหลายต่างพากันหนีเอาชีวิตรอด ส่วนทหารที่เหลือรีบนำกำลังเข้าคุ้มครองเหล่าเชื้อพระวงศ์
"ฝ่าบาทพะยะค่ะ! ตอนนี้พวกกบฏกำลังฝ่าแนวทหารเราเข้ามา รีบเสด็จก่อนเถิดพะยะค่ะ!”
"ฝ่าบาทเพคะ แล้วลูกหญิงของเราล่ะเพคะ ลูกของเราอยู่ที่ไหนเพคะ"
พระมเหสีฮาพยอลกล่าวขึ้นถามหายอดดวงใจดวงน้อยที่ชันษาได้เพียงสิบห้าเดือนเศษ ที่นางรับใช้นามว่ายูจีอุ้มไว้ในอ้อมกอดก่อนออกจากตำหนักบรรทมมากลัวจะได้รับอันตราย
"เราต้องตามหายูจีก่อนนะเพคะ อย่าให้ลูกหญิงได้เป็นอะไร"
องค์ราชาแห่ง'ชิลลา' มองคนรักที่อ้อนวอนตนด้วยความสงสาร ในใจตนตอนนี้คิดถึงเพียงดวงใจน้อยของพ่อจะเป็นเช่นไร
"ข้าจะไปตามหาลูกหญิงของข้า พวกเจ้าพาพระมเหสีกับองค์ชายใหญ่ไปที่ปลอดภัยก่อน ส่วนที่เหลือตามข้ามา"
"หม่อมฉันจะไปกับฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาททรงไม่ต้องห่วงหม่อมฉันดูแลตัวเองได้“
“ไม่ได้ แล้วเจ้าจะปล่อยองค์ชายใหญ่ให้อยู่คนเดียวได้อย่างไร”
“แต่ฝ่าบาท...”
“เจ้าอยู่กับลูกเถิด ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวข้าออกไปตามหาลูกหญิงเอง”
“ระวังพระองค์ด้วยนะเพคะ...”
องค์ราชาแห่งชิลลามองพระมเหสีฮาพยอลด้วยความห่วง เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาให้คิดมากแล้วต้องรีบไปตามหาลูกหญิงที่ถูกอุ้มออกจากตำหนักไป
"เรารีบไปกันเถอะ ตามข้ามา!"

เสียงดาบกระทบกันยังไม่อาจรู้ได้ว่าจะหยุดลงเมื่อใด ฝีเท้ารีบเร่งชะงักหลบๆซ่อนๆพลางกระชับผ้าหนาในอ้อมแขนที่มีองค์หญิงตัวน้อยในอ้อมอกกลัวจะได้รับอันตราย
"ข้าจะหนีไปทางไหนดีเนี่ย"
ยูจี นางรับใช้คนสนิทของพระมหาเหสีพึมพำออกมาเบาๆบอกกับตัวเอง หลังจากพลัดหลงกับพระมเหสีและพวกองครักษ์
ตอนนี้นางหลบอยู่ตรงซอกตำหนักตำหนักหนึ่งที่ติดรั้วกำแพงท้ายวัง พอเห็นว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้วจึงเร่งฝีเท้าออกมาอย่างเร็วไว เพื่อคิดจะหนีออกไปทางข้างหลังวังที่เป็นป่าลึก แต่ไม่ทันได้จะหนีก็มีกบฏคนหนึ่งเห็นเข้า
"จะหนีไปไหน!!"
เสียงตะโกนของกบฏทำให้นางสะดุ้งเบิกตากว้าง พอนางถูกจับได้จึงกระชับอ้อมแขนหันหลังวิ่งหนีเข้าไปในป่าใหญ่
"เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกแม่นาง!!"
เสียงของกบฏที่ตะโกนตามหลังมาอย่างรวดเร็ว นางจึงเร่งฝีเท้ามาทางลำธารที่มีโขดหินใหญ่มากมาย นางหลบตรงซอกหินใหญ่ ใบหน้ามีเหงื่อกาลไหลลงมาถึงปลายคาง จิตใจของนางตระหนกยิ่งนัก หยิบท่อนไม้ที่เห็นอยู่ใกล้ๆตรงซอกหินขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มาเรื่อยๆ
"หึหึ ออกมาซะเถอะแม่นางเผื่อข้าจะไว้ชีวิตเจ้า"
เมื่อนางเห็นกบฏหยุดอยู่ตรงหินอีกสองก้อนถัดไป วางองค์หญิงองค์น้อยในอ้อมอกลงในใต้ช่องว่างตรงซอกหิน ค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ๆแล้วง้างไม้ขึ้นฟาดไปที่หลังกบฏ แต่ทว่าแรงที่นางฟาดลงไปมิอาจทำให้กบฏผู้นั้นสลบลงได้ ด้วยความตื่นกลัวนางจึงปล่อยท่อนไม้ลงแล้ววิ่งหนีเข้าป่าไปอีกทาง ด้วยความโกรธ กบฏจึงวิ่งตามนางไป
แฮ่ก แฮ่ก
นางวิ่งเข้าไปในป่าลึกเรื่อยๆ ทว่าร่างกายที่อ่อนแรงลงจึงทำให้สมองของนางหาที่หลบซ่อน จึงวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
แกร๊บ แกร็บ
"เจ้าหลบข้าไม่พ้นหรอกแม่นางออกมาให้ข้าฆ่าเจ้าซะดีๆ เผื่อว่าข้าจะให้เจ้าตายอย่างสงบ หึหึ"
เสียงเท้าที่ย่ำลงบนใบไม้ดังเข้ามาเรื่อยๆ นางตัวสั่นไหวด้วยความกลัวเริ่มกัดกินใจ เห็นท่าไม่ดีนางจึงคิดจะลุกขึ้นวิ่งหนี แต่แล้วก็โดนมือหนาหยาบกร้านของกบฏกระชากผมของนางฉุดให้นางล้มลงกับพื้น ปลายดาบง้างขึ้นสูงกระทบกับแสงจันทร์เงาวับฟันลงไปที่ร่างของหญิงสาวทีเดียว เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นเป็นบริเวณกว้าง แล้วร่างไร้ลมหายใจของนางก็ล่วงฟุบคว่ำหน้าลงไปกับพื้นดิน ก่อนที่กบฏผู้นั้นจะหนีไป...
โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า บริเวณลำธารในป่าใต้โขดหินใหญ่ยังมีชีวิตน้อยๆร้องไห้จ้ารอคอยใครสักคนมาช่วยปัดเป่าความหวาดกลัวในจิตใจที่เกิดขึ้นได้....

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ก่อกบฏที่เกิดขึ้นสงบลง เหล่ากบฏบางคนถูกจับตัวไว้ได้ แต่บางส่วนก็หนีรอดไป เหล่าเชื้อพระวงศ์ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว
เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของพระมเหสีฮาพยอลที่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ยอดดวงใจดวงน้อยและหญิงรับใช้หายไปโดยที่ไม่มีใครร่วงรู้
"ฮืออ ลูกแม่ ฮึก เจ้าอยู่ที่ไหน ฮือออ"
องค์ราชาแห่งแคว้นชิลลาได้แต่มองคนรักในอ้อมกอด สั่งให้ทหารออกตามหาองค์หญิงน้อยและหญิงรับใช้ให้พบ
เมื่อผ่านไปหลายเพลาก็มีทหารองค์รักษ์คนหนึ่งมาทูลเฝ้า
"เป็นอย่างไรบ้าง พวกเจ้าพบลูกหญิงของข้าหรือไม่"
"ฝ่าบาท กระหม่อมพบเพียงร่างของแม่นางยูจีที่ถูกฆ่าตายในป่าลึกพะย่ะค่ะ แต่หม่อมฉันไม่พบองค์หญิงเลย"
"ฮืออ! ลูกแม่ เจ้าหายไปไหน ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ฝ่าบาทเพคะ ฮึก ฝ่าบาทต้องตามหาลูกหญิงนะเพคะ เอาลูกของเรากลับมา หม่อมฉันขอร้อง ฮืออ"
เพียงแค่ได้ยินเสียงคนรักร้องร่ำไห้อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แล้วนึกถึงยอดดวงใจตัวน้อยใจของพ่อตอนนี้ก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
"ออกตามหาลูกของข้าให้พบ"

แอ้!! อุแว้!! แงงง!! อุแว้!!
ในเพลาเช้าตรู่ในป่าใหญ่มีหญิงวัยกลางคนกับเด็กหนุ่มผิวสีเข้มกำลังมองหาสมุนไพรและของป่าหายาก ที่สามารถหาได้เฉพาะในแคว้นชิลลาเท่านั้น จึงเดินทางมาจากแคว้นโคกูรยอเพื่อตามหาของเหล่านั้น
แต่ขณะที่เขาสองคนมองหาตามข้างทางอยู่ก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งขึ้นมา เหมือนเสียงเด็กร้อง จึงมองหน้ากัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ยินเสียงนั้นเพียงคนเดียว
"นั่นเสียงเด็กที่ไหนกันน่ะ เจ้าได้ยินมั้ย"
"ข้าก็ได้ยินขอรับ ใช่ทางนั้นหรือไม่!"
หลังจากนั้นเด็กน้อยผิวเข้มนามว่า'จงอิน' ชี้ไปทางริมลำธารน้ำที่มีโขดหินใหญ่เต็มไปหมด แล้วพากันเดินไปตามหาเจ้าของเสียงร้องเล็กๆนั่น
หญิงวัยกลางคนนามว่า'ซอนฮวา' เดินไปพบกับปลายผ้าเนื้อดีโผล่ออกมาจากใต้ซอกหินใหญ่ เดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆก็ยิ่งได้ยินเสียงร้องดังขึ้น ก้มลงไปดูพบว่ามีเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังนอนร้องไห้เสียงแหบแห้งอยู่ มือเล็กทั้งสองข้างชูขึ้นไขว่คว้าอากาศหาที่ยึดเหนี่ยว จึงก้มลงไปอุ้มเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมอก นิ้วมือเรียวยกขึ้นมาจิ้มแก้มใสกลมแล้วมือของเด็กน้อยก็คว้านิ้วเรียวนั้นไว้แน่นแล้วค่อยๆหยุดร้องเหลือเพียงเสียงครางหงิงๆปนสะอึกสะอื้น
"โอ๋ๆ เจ้าปลอดภัยแล้วเด็กน้อย ไม่ร้องนะ จงอินเจ้าช่วยเอาน้ำให้เด็กคนนี้ดื่มสักหน่อยสิ”
“ขอรับ” เด็กชายรีบเอากระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำสะอาดค่อยๆเทให้หยดน้ำตรงกับปากของทารกน้อยดื่มทีละนิด จนเด็กน้อยคลายสะอึก
“โธ่ ช่างน่าสงสารเสียจริง ใครกันกล้าทิ้งเด็กน้อยคนนี้ได้ลงคอ"
นางพูดกับเด็กน้อยในอ้อมกอดอย่างสงสารจับใจ ช่างสงสารเด็กน้อยเสียจริง ถ้าป่านนี้นางไม่มาพบเข้าเด็กน้อยคนนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง ดวงตาสวยกวาดมองเด็กน้อยในอ้อมอก สร้อยสีเงินที่มีแหวนเงินสลักลายดอกไม้สีแดงอย่างวิจิตรบนคอประกายวับขึ้นมา เพียงแค่มองดูก็รู้ว่ามันคือเครื่องประดับที่คนรวยหรือพวกขุนนางชั้นสูงสามารถทำขึ้นมาได้ สามัญชนธรรมดาแบบพวกเราไม่มีปัญญามาทำของมีค่าเช่นนี้ได้หรอก
"เด็กคนนี้เป็นหญิง" ซอนฮวาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าจงอินเดินเข้ามาชะเง้อคอมองกองผ้าที่นางอุ้มไว้
"ท่านจะพานางไปอยู่กับเราได้หรือไม่ขอรับ" เด็กชายเอ่ยถามเพียงแค่มองตากลมนั่นก็เหมือนมีมนต์สะกดให้ละสายตาไปไหนไม่ได้
"เด็กน้อยน่าสงสารถึงเพียงนี้ เจ้าจะให้ข้าทิ้งนางไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือจงอิน ข้าจะพาเด็กคนนี้ไปอยู่กับเรา ข้าจะเลี้ยงดูนางเอง"
"ทำไมนางถึงน่ารักน่าชังจังขอรับ"
"ใช่หรือไม่ โตขึ้นนางต้องงามมากๆแน่เลยใช่หรือไม่"
“ขอรับ”
...งาม..ที่ผู้ใดพบเห็นจะต้องหลงในความงามนี้ หยั่งรากลึกมิอาจถอดถอนตนขึ้นจากความหลงใหลเพียงแค่สบตา...
"ข้าว่าเรารีบเดินทางกลับบ้านกันเถิด”
ซอนฮวาหันมายิ้มพูดให้จงอินที่ยืนอยู่ข้างกาย ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในอีกแผ่นดิน แผ่นดินที่มีชื่อว่า...
...โคกูรยอ...
#แบคพูจอง
ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ แหะ
มีการแก้ไขเนื้อหาเล็กน้อยนะคะ สำหรับรีดเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้แล้วมันล็อคสามารถอ่านหมายเหตุได้จากตอนล่าสุดนะคะ เลื่อนๆๆ._.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น