ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( `fic exo。) 백부정 แบคพูจอง。#chanbaek

    ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 62




    อารัมภบท
    แบคพูจอง 

                                                     






           ยามกลางดึกมีเพียงแสงจากจันทราดวงใหญ่ที่ส่องลงมาก็ไม่อาจจะสู้แสงจากคบเพลิงของทหารที่ลุกโชนได้ในเพลานี้  เสียงดาบฟาดฟันดั่งสะหนั่นไปทั่วพระราชวัง พวกขุนนางทั้งหลายต่างพากันหนีเอาชีวิตรอด ส่วนทหารที่เหลือรีบนำกำลังเข้าคุ้มครองเหล่าเชื้อพระวงศ์


           "ฝ่าบาทพะยะค่ะ! ตอนนี้พวกกบฏกำลังฝ่าแนวทหารเราเข้ามา รีบเสด็จก่อนเถิดพะยะค่ะ!”

           "ฝ่าบาทเพคะ แล้วลูกหญิงของเราล่ะเพคะ ลูกของเราอยู่ที่ไหนเพคะ"


           พระมเหสีฮาพยอลกล่าวขึ้นถามหายอดดวงใจดวงน้อยที่ชันษาได้เพียงสิบห้าเดือนเศษ ที่นางรับใช้นามว่ายูจีอุ้มไว้ในอ้อมกอดก่อนออกจากตำหนักบรรทมมากลัวจะได้รับอันตราย

           "เราต้องตามหายูจีก่อนนะเพคะ อย่าให้ลูกหญิงได้เป็นอะไร"

            องค์ราชาแห่ง'ชิลลา' มองคนรักที่อ้อนวอนตนด้วยความสงสาร ในใจตนตอนนี้คิดถึงเพียงดวงใจน้อยของพ่อจะเป็นเช่นไร

           "ข้าจะไปตามหาลูกหญิงของข้า พวกเจ้าพาพระมเหสีกับองค์ชายใหญ่ไปที่ปลอดภัยก่อน ส่วนที่เหลือตามข้ามา"

           "หม่อมฉันจะไปกับฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาททรงไม่ต้องห่วงหม่อมฉันดูแลตัวเองได้“

           “ไม่ได้ แล้วเจ้าจะปล่อยองค์ชายใหญ่ให้อยู่คนเดียวได้อย่างไร”

           “แต่ฝ่าบาท...”

          “เจ้าอยู่กับลูกเถิด ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวข้าออกไปตามหาลูกหญิงเอง”

          “ระวังพระองค์ด้วยนะเพคะ...”

          องค์ราชาแห่งชิลลามองพระมเหสีฮาพยอลด้วยความห่วง เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาให้คิดมากแล้วต้องรีบไปตามหาลูกหญิงที่ถูกอุ้มออกจากตำหนักไป


          "เรารีบไปกันเถอะ ตามข้ามา!"





            เสียงดาบกระทบกันยังไม่อาจรู้ได้ว่าจะหยุดลงเมื่อใด ฝีเท้ารีบเร่งชะงักหลบๆซ่อนๆพลางกระชับผ้าหนาในอ้อมแขนที่มีองค์หญิงตัวน้อยในอ้อมอกกลัวจะได้รับอันตราย

            "ข้าจะหนีไปทางไหนดีเนี่ย"

            ยูจี นางรับใช้คนสนิทของพระมหาเหสีพึมพำออกมาเบาๆบอกกับตัวเอง หลังจากพลัดหลงกับพระมเหสีและพวกองครักษ์ 

            ตอนนี้นางหลบอยู่ตรงซอกตำหนักตำหนักหนึ่งที่ติดรั้วกำแพงท้ายวัง พอเห็นว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้วจึงเร่งฝีเท้าออกมาอย่างเร็วไว เพื่อคิดจะหนีออกไปทางข้างหลังวังที่เป็นป่าลึก แต่ไม่ทันได้จะหนีก็มีกบฏคนหนึ่งเห็นเข้า

            "จะหนีไปไหน!!"

            เสียงตะโกนของกบฏทำให้นางสะดุ้งเบิกตากว้าง พอนางถูกจับได้จึงกระชับอ้อมแขนหันหลังวิ่งหนีเข้าไปในป่าใหญ่ 



          "เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกแม่นาง!!"

           เสียงของกบฏที่ตะโกนตามหลังมาอย่างรวดเร็ว นางจึงเร่งฝีเท้ามาทางลำธารที่มีโขดหินใหญ่มากมาย  นางหลบตรงซอกหินใหญ่ ใบหน้ามีเหงื่อกาลไหลลงมาถึงปลายคาง จิตใจของนางตระหนกยิ่งนัก หยิบท่อนไม้ที่เห็นอยู่ใกล้ๆตรงซอกหินขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มาเรื่อยๆ

     
           "หึหึ ออกมาซะเถอะแม่นางเผื่อข้าจะไว้ชีวิตเจ้า"

           เมื่อนางเห็นกบฏหยุดอยู่ตรงหินอีกสองก้อนถัดไป วางองค์หญิงองค์น้อยในอ้อมอกลงในใต้ช่องว่างตรงซอกหิน ค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ๆแล้วง้างไม้ขึ้นฟาดไปที่หลังกบฏ แต่ทว่าแรงที่นางฟาดลงไปมิอาจทำให้กบฏผู้นั้นสลบลงได้ ด้วยความตื่นกลัวนางจึงปล่อยท่อนไม้ลงแล้ววิ่งหนีเข้าป่าไปอีกทาง ด้วยความโกรธ กบฏจึงวิ่งตามนางไป

      
           แฮ่ก แฮ่ก


          นางวิ่งเข้าไปในป่าลึกเรื่อยๆ ทว่าร่างกายที่อ่อนแรงลงจึงทำให้สมองของนางหาที่หลบซ่อน จึงวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง


           แกร๊บ แกร็บ


          "เจ้าหลบข้าไม่พ้นหรอกแม่นางออกมาให้ข้าฆ่าเจ้าซะดีๆ เผื่อว่าข้าจะให้เจ้าตายอย่างสงบ หึหึ"
      

           เสียงเท้าที่ย่ำลงบนใบไม้ดังเข้ามาเรื่อยๆ นางตัวสั่นไหวด้วยความกลัวเริ่มกัดกินใจ เห็นท่าไม่ดีนางจึงคิดจะลุกขึ้นวิ่งหนี แต่แล้วก็โดนมือหนาหยาบกร้านของกบฏกระชากผมของนางฉุดให้นางล้มลงกับพื้น ปลายดาบง้างขึ้นสูงกระทบกับแสงจันทร์เงาวับฟันลงไปที่ร่างของหญิงสาวทีเดียว เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นเป็นบริเวณกว้าง แล้วร่างไร้ลมหายใจของนางก็ล่วงฟุบคว่ำหน้าลงไปกับพื้นดิน ก่อนที่กบฏผู้นั้นจะหนีไป...


         โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า บริเวณลำธารในป่าใต้โขดหินใหญ่ยังมีชีวิตน้อยๆร้องไห้จ้ารอคอยใครสักคนมาช่วยปัดเป่าความหวาดกลัวในจิตใจที่เกิดขึ้นได้....





           เช้าวันรุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ก่อกบฏที่เกิดขึ้นสงบลง เหล่ากบฏบางคนถูกจับตัวไว้ได้ แต่บางส่วนก็หนีรอดไป เหล่าเชื้อพระวงศ์ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว 

           เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของพระมเหสีฮาพยอลที่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ยอดดวงใจดวงน้อยและหญิงรับใช้หายไปโดยที่ไม่มีใครร่วงรู้ 

           "ฮืออ ลูกแม่ ฮึก เจ้าอยู่ที่ไหน ฮือออ"

           องค์ราชาแห่งแคว้นชิลลาได้แต่มองคนรักในอ้อมกอด สั่งให้ทหารออกตามหาองค์หญิงน้อยและหญิงรับใช้ให้พบ 
           เมื่อผ่านไปหลายเพลาก็มีทหารองค์รักษ์คนหนึ่งมาทูลเฝ้า

           "เป็นอย่างไรบ้าง พวกเจ้าพบลูกหญิงของข้าหรือไม่"

           "ฝ่าบาท กระหม่อมพบเพียงร่างของแม่นางยูจีที่ถูกฆ่าตายในป่าลึกพะย่ะค่ะ แต่หม่อมฉันไม่พบองค์หญิงเลย"

           "ฮืออ! ลูกแม่ เจ้าหายไปไหน ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ฝ่าบาทเพคะ ฮึก ฝ่าบาทต้องตามหาลูกหญิงนะเพคะ เอาลูกของเรากลับมา หม่อมฉันขอร้อง ฮืออ"

            เพียงแค่ได้ยินเสียงคนรักร้องร่ำไห้อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แล้วนึกถึงยอดดวงใจตัวน้อยใจของพ่อตอนนี้ก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ 


           "ออกตามหาลูกของข้าให้พบ"







           แอ้!! อุแว้!! แงงง!! อุแว้!!


           ในเพลาเช้าตรู่ในป่าใหญ่มีหญิงวัยกลางคนกับเด็กหนุ่มผิวสีเข้มกำลังมองหาสมุนไพรและของป่าหายาก ที่สามารถหาได้เฉพาะในแคว้นชิลลาเท่านั้น จึงเดินทางมาจากแคว้นโคกูรยอเพื่อตามหาของเหล่านั้น 
         
            แต่ขณะที่เขาสองคนมองหาตามข้างทางอยู่ก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งขึ้นมา เหมือนเสียงเด็กร้อง จึงมองหน้ากัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ยินเสียงนั้นเพียงคนเดียว

           "นั่นเสียงเด็กที่ไหนกันน่ะ เจ้าได้ยินมั้ย"

          "ข้าก็ได้ยินขอรับ ใช่ทางนั้นหรือไม่!"

           หลังจากนั้นเด็กน้อยผิวเข้มนามว่า'จงอิน' ชี้ไปทางริมลำธารน้ำที่มีโขดหินใหญ่เต็มไปหมด แล้วพากันเดินไปตามหาเจ้าของเสียงร้องเล็กๆนั่น 

          หญิงวัยกลางคนนามว่า'ซอนฮวา' เดินไปพบกับปลายผ้าเนื้อดีโผล่ออกมาจากใต้ซอกหินใหญ่ เดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆก็ยิ่งได้ยินเสียงร้องดังขึ้น ก้มลงไปดูพบว่ามีเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังนอนร้องไห้เสียงแหบแห้งอยู่ มือเล็กทั้งสองข้างชูขึ้นไขว่คว้าอากาศหาที่ยึดเหนี่ยว จึงก้มลงไปอุ้มเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมอก นิ้วมือเรียวยกขึ้นมาจิ้มแก้มใสกลมแล้วมือของเด็กน้อยก็คว้านิ้วเรียวนั้นไว้แน่นแล้วค่อยๆหยุดร้องเหลือเพียงเสียงครางหงิงๆปนสะอึกสะอื้น


           "โอ๋ๆ เจ้าปลอดภัยแล้วเด็กน้อย ไม่ร้องนะ จงอินเจ้าช่วยเอาน้ำให้เด็กคนนี้ดื่มสักหน่อยสิ”

            “ขอรับ”  เด็กชายรีบเอากระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำสะอาดค่อยๆเทให้หยดน้ำตรงกับปากของทารกน้อยดื่มทีละนิด จนเด็กน้อยคลายสะอึก

            “โธ่ ช่างน่าสงสารเสียจริง ใครกันกล้าทิ้งเด็กน้อยคนนี้ได้ลงคอ" 


            นางพูดกับเด็กน้อยในอ้อมกอดอย่างสงสารจับใจ ช่างสงสารเด็กน้อยเสียจริง ถ้าป่านนี้นางไม่มาพบเข้าเด็กน้อยคนนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง ดวงตาสวยกวาดมองเด็กน้อยในอ้อมอก สร้อยสีเงินที่มีแหวนเงินสลักลายดอกไม้สีแดงอย่างวิจิตรบนคอประกายวับขึ้นมา เพียงแค่มองดูก็รู้ว่ามันคือเครื่องประดับที่คนรวยหรือพวกขุนนางชั้นสูงสามารถทำขึ้นมาได้ สามัญชนธรรมดาแบบพวกเราไม่มีปัญญามาทำของมีค่าเช่นนี้ได้หรอก


           "เด็กคนนี้เป็นหญิง" ซอนฮวาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าจงอินเดินเข้ามาชะเง้อคอมองกองผ้าที่นางอุ้มไว้

           "ท่านจะพานางไปอยู่กับเราได้หรือไม่ขอรับ" เด็กชายเอ่ยถามเพียงแค่มองตากลมนั่นก็เหมือนมีมนต์สะกดให้ละสายตาไปไหนไม่ได้ 

            "เด็กน้อยน่าสงสารถึงเพียงนี้ เจ้าจะให้ข้าทิ้งนางไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือจงอิน ข้าจะพาเด็กคนนี้ไปอยู่กับเรา ข้าจะเลี้ยงดูนางเอง"

            "ทำไมนางถึงน่ารักน่าชังจังขอรับ"


            "ใช่หรือไม่ โตขึ้นนางต้องงามมากๆแน่เลยใช่หรือไม่" 

            “ขอรับ”
      
          ...งาม..ที่ผู้ใดพบเห็นจะต้องหลงในความงามนี้ หยั่งรากลึกมิอาจถอดถอนตนขึ้นจากความหลงใหลเพียงแค่สบตา...


          "ข้าว่าเรารีบเดินทางกลับบ้านกันเถิด”

          ซอนฮวาหันมายิ้มพูดให้จงอินที่ยืนอยู่ข้างกาย ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในอีกแผ่นดิน แผ่นดินที่มีชื่อว่า...



       ...โคกูรยอ...








    #แบคพูจอง









    ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ แหะ
    มีการแก้ไขเนื้อหาเล็กน้อยนะคะ สำหรับรีดเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้แล้วมันล็อคสามารถอ่านหมายเหตุได้จากตอนล่าสุดนะคะ เลื่อนๆๆ._. 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×