over game - นิยาย over game : Dek-D.com - Writer
×

    over game

    จากคนธรรมดาสู่ การกลายเป็นเทพที่ผู้คนต่างพากันหวาดกลัว การปรากฎตัวของเขาอาจหมายถึงการทำล้มสลายของโลกใบนั้นเลยก็ได้

    ผู้เข้าชมรวม

    104

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    104

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ค. 64 / 11:45 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ณ บ้านหลังหนึ่งในชนบนห่างไกล มีชายติดเกมที่หลีกหนีสังคม เอาแต่ขังตัว        เองอยู่ในห้องนอนตลอด สิ่งที่ทำให้เขา       สามารถอยู่แบบนี้ได้ นั้นก็เพราะความรำรวยของตระกูลเขา เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล ความรำรวยของที่บ้านนั้น เกินบรรยายชนิดที่ สามารถแจกเงินให้คนละพัน จำนวนแสนคนก็ยังมีใช้เหลือเฟือ

    "ชิ...ไอกากเอ๊ย คิดจะลองของกับกูรึไออ่อน เจอนี่หน่อยบ่อเลือดทำงาน "

    วันนี้เขาก็เอาแต่นั่งเล่นเกมเหมือนเดิม

    "เสร็จกู ไอควายเอ๊ย ฮาๆๆ"

    ชื่อของเขาคือกาย เขาเป็นคนที่คลั่งไคล้เกมและอนิมาก มากจนไม่ยอมทำอะไรอย่างอื่น ส่วนความสามารถในการเล่นเกมก็ถือว่าอยู่สูงระดับหนึ่ง เกมที่เล่นส่วนใหญ่เป็นรูปแบบ MMORPG

    โดยมีสถิติการเล่นคือ ชนะในการ pvp 489ครั้ง แพ้เพียง21ครั้งเท่านั้น

    กริ่ง!!

    "หือ...ข้อความไม่ทรามที่มาหรอ พวกแพ้แล้วพาลรึเปล่า ไหนลองดูหน่อยสิ"

    คลิก.....

    แดดแรงกล้าราวกับจะแผดเผาโลกทั้งใบให้มอดไหม้ กลับมีชายมานอนตากแดดอยู่กลางทุ่งโลงกว้างไร้ผู้คน ซึ่งนั้นก็คือกาย ไม่นานเขาก็เริ่มได้สติและค่อยๆเอามือมาบังแดด 

    "นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ถ้าจำไม่ผิดเราเล่นvrอยู่ ไหงมาโผล่มาอยู่กลางทุ่งได้"

    กายลุกขึ้นนั่งและคิด

    "จริงสิตอนนั้นเราคลิกดูข้อความอยู่ๆก็มาที่นี้หรือนี้คือตัวเกมที่พัฒนาใหม่กันนะ"

    ใช้แน่ๆยังหาหน้าเมนูได้อยู่ ติดแค่ไม่มีที่กดออกจากเกมแต่ช่างเหอะลองเล่นหน่อยดีกว่า

    ห่างออกไปจากทุ่งโล่ง มีกลุ่มคนกำลังตามจับสัตว์ปีศาจ ที่มีชื่อว่า หมามังกร

    "เฮลิซ่า มาแข่งกันใครจะจับมันได้ก่อนกันเอามัย"

    "ได้อยู่แล้วแบล็ค คนที่แพ้เลี้ยงเหล้านะ แต่ฉันเตือนไว้ก่อน นักรบไม่มีทางเร็วเท่า   แอสซาซินหรอกนะ"

    "โม้~ไปเถอะลิซ่าเดียวจะทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอัศวินแห่งเลือดให้ดู"

    "แล้วเธอสองคนละมีอาเอามัย"

    "อะๆๆเอาไมจิน"

    ทั้งสองต่างมองตากันโดยไม่พูดอะไร

    "จะๆๆๆจินเขามะๆไม่เอานะ"

    ทั้งสี่คนคือนักล่าเงินรางวัลและในบางโอกาสก็รับงานนอกเวลาด้วย ชื่อทีมคือแบล็คสกาย โดยมีแบล็คเป็นหัวหน้าทีมเป็นหน่วยหน้ากล้าตายและมีลิซ่าที่เป็นแอสซาซินสาว เป็นรองหัวหน้า

    และอีกสองคนคือมีอานักเวทตร์และจินนักฆ่าแบบเดียวกับลิซ่า ไม่นานลิซ่าก็เห็นมันสิ่งที่พวกเขาไล่ตามจับ

    "นั้นเจอแล้วมันอยู่หลังพุ่มไม้นั้นเอาเลยมีอา"

    "อะอือ ธนูแห่งสายลมเอ๋ยจงเสียบแทงศัตรูของเรา"

    เมื่อสิ้นคำพูดของมีอาก็มีลมพุ่งไปข้างหน้าของมีมา และตามมาด้วยเสียงหมาร้องเอ๋งๆ

    "นี้ มีอาเราจับเป็นนะ ถ้ามันตายก็ไม่ได้เงินกันพอดี"

    แบล็คพูดพร้อมทำสีหน้าปลงตก

    และรีบพุ่งไปยังเหยื่อที่พวกเขาได้

    แบล็คเป็นคนไปเอาตัวมันของมันออกมาจากหลังพุ่มไม้

    "มีอาใช้เวทตร์ตรวจดูทีสิใช้ลูกหมามังกรหรือเปล่า"

    "เทพแห่งการตรวจสอบเอ๋ย ในนามของข้ามีอาข้าข้อยืมดวงตาของท่านด้วย"

    เมื่อจบการร่ายคาถามีอาก็ทำมือเป็นวงกลมครอบตาขวาและหลับตาซ้าย

    "สะ...สุดยอดเราเจอของดีแล้วละนะๆๆนี้คือหมามักกรไฟที่มีขนสีขาวหายากมากๆเลยละ"

    "จริงดิมันมีแบบนั้นด้วยหรอแปลกแท้"แบล็คทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งส่วนลิซ่าเดินไปตรวจสอบบาดแผล

    "แผลไม่ลึกมาก แต่ที่ขยับไม่ได้คงเป็นเพราะหนีพวกเราจนเหนือย"

    ลิซ่ากำลังจะพูดต่อแต่ก็ต้องหยุด ลงเพราะมีอาตะโกนออกมาก่อน

    "อย่าขยับนะทุกคนดูเหมือนจะๆจินจะสัมผัสได้ถึงอะไร สะสะสะสักอย่างกำลังมาทางนี้"

    "ใช่แม่มันมัย"

    แบล็คพูดขณะยื่นมือไปจับดาบตามสัญชาตญาณรวมถึงลิซ่าด้วย สวนมีอาขยับไปอยู่ข้างหลังของกลุ่ม

    "ว้าว~สุดยอดไปเลย เหมือนจริงสุดๆเลย ทั้งต้นไม้ทั้งสัตว์ป่าของเขาดีจริงๆ"

    ทั้งสี่คนมองชายที่แต่งตัวเหมือนนักบวชนอกรีต ที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าของทั้งสี่คนแต่ไม่มีใครขยับหรือมีที่ท่าจะทำอะไรอื่นนอกจากมองประเมินคู่ต่อสู้

    "เอ่...นั้นnpcงั้นหรอโคตรเหมือนของจริงดูมีมิติมากจริงๆแต่ทำมัยรู้สึกบรรยากาศมันแปลกๆแหะ"

    ไม่นานแบล็คก็กระซิบถามมีอา

    "เจ้านั้นคนจริงๆใช่ไม ตรวจสอบที่สิ"

    อืม มีอาเริ่มตรวจดูด้วยเวทตร์เดียวกันกับที่ใช้ตรวจหมามังกร

    "ใช่แค่คนธรรมดา แปลกแค่คนๆนั้นเลเวลศูนย์นะ"

    อ่อนชะมัดใครบ้างคนในสี่คนพูดออกมาในขณะนั้นเองหมามังกรก็กัดเขาที่ข้อเท้าของแบล็คเข้า ด้วยความเจ็บบวกกับความโกรธแบล็คเลยกระทืบหัวของหมามังกรจนเลือดออกจากปากและจมูก

    "แบล็คพอแล้วเดียวมันก็ตายหรอก"

    อยู่ๆก็เกิดลมประหลาดพัดขึ้นมา บรรยากาศโดยรอบตรึงเครียดจนหน้ากลัว

    "มีอามันเกิดบ้าอะไรขึ้น รีบหาที่มาของมันเร็ว"

    ทั้งสามคนหันไปมองที่มีอาที่ใช้มือต่างแว่นมองชายที่ใส่ชุดนักบวช มีอาชี้ไปทางเขา แต่ทั้งสามคนก็ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างจากเมื่อกี่ แต่ไม่ใช้กับมีอาสิ่งที่เธอเห็นคือกลุ่มพลังสีดำที่วัดค่าไม่ได้และร่างจริงของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอยืนมองจนเดือดไหลออกจากตาและจมูกของเธอๆกัดฟันแน่นยืนตัวสั่นไม่หยุด  โดยทั่วไปคนที่มีความสามารถมากพอจะสามารถปกปิดเลเวลของตัวเองได้แม้ตอนใช้พลัง แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดออร่าเวทมนตร์ ตอนใช้เวทตร์มนตร์ได้ และนั้นคือสิ่งที่แสดงพลังที่แท้จริง

    "วะวะไว้ชีวิตฉะๆฉันด้วยยะๆอย่าฆ่าฉันเลยฉะๆๆฉันยังไม่อยากตายยังไม่อยากตาย อึๆๆขอร้องละค่ะได้โปรด .....

    สามคนที่เหลือต่างไม่เชื่อสายตาตัวเองมีอาที่เป็นนักเวทที่มีเลเวลยี่สิบ ติดท๊อบยี่สิบของบุคลที่มีความสามรถในเมื่องสีรุ่ง จะทำแบบนั้น

    "ฮาๆๆ มีอาเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"

    แม้จะพูดแบบนั้นแต่ลิซ่าก็ไม่ประมาทแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีถึงความสามารถของเพื่อนตนเป็นอยางดี จินพุ่งเข้าหากายโดยไม่รีรออะไรทั้งนั้น 

    พร้อมใช้มีดฟันคอของกาย ลึกเข้าไปถึงครึ่งคอ แต่กายก็ไม่แสดงความเจ็บปวดเพียงแค่คว้าจับแขนข้างที่ถือมีดไว้และ        เอื่อมมือไปดีดหัวของจินเพียงเท่านั้นสมองของจินก็ระเบิดจนไปโดนทั้งสามที่ยื่นอยู่ข้างหลัง

    ไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะคะ มีอายังคงร้องขอชีวิต ส่วนลิซ่าและแบล็คต่างก็ช็อกด้วยกันทั้งคู่

    แบล็คเมื่อเริ่มได้สติก็ค่อยๆถ่อยหลังเตรียมหนี เร็วดั่งความคิดกายก็มายืนอยู่ตรงหน้าของแบล็คแล้ว กายค่อยๆดึงดาบที่ติดอยู่ที่คอออก และใช่มีดฟันเข้าที่ใบหน้าจากขวาจนถึงข้างซ้าย ไม่นานหัวก็แยกออกเป็นสองส่วนในแนวนอน ส่วนบนไหลหลุดจากหัวไปกองอยู่ที่พื้นก่อนที่ร่างจะตามไปด้วย

    ลิซ่าได้ยินเสียงบ่างอย่างหล่น จึงรีบหันไปดู ก็เห็นว่าแบล็คได้ตายไปแล้ว

    กายค่อยๆเดินไปหาลิซ่าและใช้มือขยำไปที่หน้าอกของเธอ

    "สุดยอดสัมผัสเหมืนจริงมากทั้งเลือดทั้งน้ำตามันคุ้มกับที่จ่ายไปเจียดหมื่นจริงๆนุ่มสุดยอด อะจริงสิ"

    อยู่ๆกายก็นึกอะไรขึ้นมาได้

    "จงเผาไหม้"

    สิ้นคำพูดร่างกายของเลิซ่าก็เกิดไฟลุกไหม้เธอกรีดร้องและดิ้นพรานไปทั่ว เพียงไม่นานร่างนั้นก็หยุดลง กายใช้มือฉีกแก้มของลิซ่า เขาดมสองสามที่ก่อนที่จะยัดมันเข้าปาก

    "สุดยอดอร่อยมาก ดูถ้าตัวเกิมใหม่จะไม่มีกฎห้ามอะไรเลยแหะแบบนี้จะไม่โดนเล่นงานเอาที่หลังเอาเหรอ"

    มีอารับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นมันยิ่งทำให้เธอกลัวยิ่งขึ้นไปอีก

    "ไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะคะ"

    กายพึ่งนึกออกเมื่อได้ยินเสียงของมีอา ว่ายังมีเธอเหลืออยู่ เธอเป็นสาวผมทองไว้ผมหน้าม้าผู้มี ผิวเกรียมแดดหน้าอมชมพูนิดๆ

    "ถ้างันจูบฉันที่สิ"

    มีอาลุกขึ้น ปิดตาลงทำปากจู๋ ไม่นานก็มีกลิ่นลมหายใจเหม็นๆลอยเข้าจมูก ก่อนที่จะมีริมฝีปากมาประกบกับฝีปากของเธอ เธอลืมตาขึ้นก็เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันก็คือเจ้าหมามังกร เธอรีบผลักมันออกและรีบเอาน้ำที่พกมา ล้างปากอย่างเร็ว

    "ฮาๆๆๆ หมานี้น่ารักดีนะดูถ้ามันจะชอบฉัน  ฉันไม่ฆ่าเธอหรอกแต่เธอต้องมาเป็นข้ารับใช้ฉัน"

    "จะว่าไปเมืองอยู่ทางใหนหรอ"

    "ทะทางเหนืออีกห้าสิบกว่ากิโลก็ถึงค่ะ"

    อืม...กายเดินไปคว้าหัวของลิซ่าพร้อมกับถามชื่อของมีอา จากนั้นหยิบเอามีดของลิซ่าตัดหัวของลิซ่า

    "ทางเหนืองั้นหรอ มาดูกันว่าจะไปถึงไหนรายเวทตร์ระบุตำแหน่งแล้วไป"

    กายขว่างหัวของลิซ่าด้วยความแรงขนาดถึงขั้นที่ทำให้พื้นที่ยืนอยู่ปริแตกออกจากกัน หัวค่อยลอยหายลับไป

    "ไปเมืองหลวงกันมีอา นำทางไปเลย"

    ก่อนไปมีอา หันมองพวกพ้องที่ตนไม่ สามารถช้วยอะไรได้ ทำได้เพียงแค่กล่าวเบาๆกับสายลม ว่า

    ขอโทษนะ

    ณ เมืองสีรุ่ง

    ในตอนนี้กำลังเกิดความวุ่นวายขึ้น     เพราะอยู่ๆท่านเฒ่าพยากรณ์ ก็สั่งให้รีบมาประชุมด่วน ตรงทางเดินไปห้องประชุม มีชายสองคนกำลังเดินอย่างเร่งรีบ

    "ท่านเคานต์รุดซีรู้มัยว่า มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมเฒ่าพยากรณ์ถึงได้เรียกประชุมด่วน"

    คนที่ชื่อเคานต์รุดซีเป็นชายร่างบอบบางหน้าตาเหมืนผู้หญิงซ้ำร้ายยังตัวยังเล็กราวกับเด็กสิบสามสิบสี่ เงยหน้ามอง      ตอบท่านหนูอย่างเด็กขี้เล่น

    "ไม่รู้สิแต่ได้ยินมาว่าเป็นเรื่องร้ายๆหนะคุณหนู"

    "เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว"

    "อภัยให้ข้าด้วยข้ายังเด็กนัก"

    "ยี่สิบห้านี่ไม่เด็กแล้วมังท่าน"

    "ยังไงหน้าข้าก็เด็กกว่าท่านหล่ะนะฮาๆๆๆ"

    หน่อยไอบ้านี่ ท่านหนูกำหมัดแน่น

    ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้าประตู ขนาดใหญ่ที่มีรูปภาพสลักของเทพีที่กำลังใช้สายน้ำชำละล้างโลก หลังจากเคาะประตูและยืนรอไม่นานประตูก็เปิดออก

    ทั้งคู่เดินเข้าไปถึงก็นั่งในที่ๆเหลืออยู่ ในห้องกว้างกวางจนไม่รู้จะใหญ่ไปใหน โต๊ะที่นังเป็นโต๊ะยาวรูปวงรี

    ในห้องตอนนี้มีคนอยู่ราวๆสิบคน ในห้องตอนนี้ เต็มไปด้วยเสียงผู้คน พวกเขาคุยฆ่าเวลา เพราะกำลังรอท่านผู้เฒ่ามา 

    ไม่นานก็มีคนถูกเข็นเขามา เขาคือตาแก่ที่มีอายุไปตำกว่าหนึ่งร้อยปี

    "เงียบได้แล้ว ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาวันนี้เพราะข้าเห็นนิมิตที่สุดแสนจะเลวร้าย 

    จักรวรรดิสีรุ่ง ของพวกเราอาจถึงคราวล้มสลายในเวลาอีกไม่นาน"

    "เดียวก่อนท่านคือข้าสงสัยว่า มั่นใจได้มากแค่ไหน ท่านเคยพลาดมาสี่ครั้งแล้วนะ"

    ชายคนหนึ่งถามขึ้นอย่างไม่ไว้หน้า

    "ถ้างันข้าขอถามพวกเจ้าในนี้มีใครจ้างคนไปตามจับหมามังกรหรือไม่"

    ในไม่ช้าก็มีคนยกมือขึ้นหนึ่งคน

    "ข้าเองท่านผู้เฒ่า"

    "ท่านหนูท่านคือคนที่เริ่มมันขึ้น"

    ท่านหนูจ้องมองตอบท่านผู้เท่า

    "ข้าทำอะไรผิด ใครๆก็ทำกันการจับหมามังกรมาเป็นสัตร์รับใช้ไม่ผิดกฎหมายซักหน่อยนิ"

    "ใช้ตามปกติมันไม่ผิด เพียงแต่ครั้งนี้มันผิด ตามนิมิตของข้า มันเริ่มจากมีคนทำให้เทพแห่งความตายโกรธด้วยการทำร้ายสัตว์ของเขา และจะมีคนฆ่าทาสหญิงของเขาตายและสุดท้ายจะมีคนข่มขืนหญิงที่เขารัก

    และพวกคนที่ทำเรื่องพวกนั้นทั้งหมดจะเป็นคนของเมืองนี้"

    มีคนเสนอความคิดเห็นขึ้น

    "ถ้างันก็รีบส่งคนไปฆ่าเขาทิ้งก่อน ที่อีกสองข้อจะเกิดขึ้นสิ"

    "ท่านคิดว่าเขาอ่อนแอ่มากรึไงบารอนแอมโบร์"

    ท่านหนูหลังจากเงียบอยู่สักพักก็พูดออกมา

    "ท่านเอาอะไรมามั่นใจ ท่านอาจหลอนไปเองก็ได้

    ท่านผู้เฒ่าชี้ไปที่คนที่นั่งใกล้หน้าต่าง 

    "เจ้านะเปิดหน้าต่างข้างหลังเจ้าสิ หัวของผู้ที่ถูกจ้างโดยท่านหนูจะต้องพุ่งมาใน

    ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง...

    โป๊ะ!! มีของบ้างอย่างพุ่งเข้าใส่หน้าท่านหนูที่เดินไปยืน ใกล้หน้าต่างอย่างจัง ของสิ่งนั้นตกลงไปที่พื้น มันคือหัวที่ไหม้เกรียมแก้มถูกฉีกหายไปข้างหนึ่งผู้คนในห้องต่างพากันพะอืดพะอม เคานต์รุดซีถึงกับอวกแตกลงบนตก เมื่อท่านผู้เฒ่าเห็นว่าสิ่งที่เห็นในนิมิตเป็นจริงท่านก็มั่นใจ

    "จงฟังรีบส่งทหารหนึ่งกองทัพขึ้นเหนือเข้าสำรวจป่าเข็มโดยด่วนที่สุดและจงให้การตอนรับชายผู้มากับหมามังกรและหญิงสาวอย่างดี หน้าที่นี้เป็นของท่านหนู ฝากด้วยนะท่าน"

    เช้าวันต่อมา ณ ทางเข้าป่าแห่งเข็ม

    นี้มันบ้าอะไรกันมันมีจริงๆนะหรอไอเทพแห่งความตายอะไรนั้น

    สิ่งที่ท่านหนูสงสัยนั้นล้วนถูกต้องแม้แต่เหล่าผู้ที่ได้ยินคำพยากรณ์ ล้วนต่าง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ท่านหนูต้องออกมาในครั้งนี้นั้นเป็นเพราะความหวาดกลัวอย่างยิ่งของเฒ่าพยากรณ์ และเพราะหัวที่ลอยมาตามคำบอกของเฒ่าพยากรณ์ทำให้เขาเริ่มเชื่อขึ้นบ้าง ก่อนออกมาตาเฒ่าเล่าไว้ว่า เทพแห่งความตายนั้นออกมาตามคำภีร์ของชนเผ่าโบราณ ตามบันทึกที่ตาเฒ่าอ่านออกนั้นบอกไว้ว่า

    เทพจะมาจุติ เทพองนี้นั้นเกลียดชังทุกชีวิต พระเจ้าส่งเทพองนี้มาเพื่อทำลายล้าง สรรพชีวิตเมื่อเหล่าสิ่งมีชีวิตเริ่มไร้ศีลธรรม และนั้นทำให้อารยธรรมโบราณหายไปมาก พวกเขาเรียกเทพองค์ว่า

    องค์เทพแห่งความตาย องค์เทพแห่งความเกลียจชัง แต่บ้างตำราเรียกว่าเทพแห่งการชำระล้าง

    "หึ.....องค์เทพบ้าบ่ออะไรกันละนั้น แบบนั้นมันปีศาจชัดๆ"

    เขาเห็นด้วยกับความคิดของรุดซี

    " เทพที่ฆ่าทุกชีวิต แบบนั้นมันยิ่งกว่ากว่าจอมมาร เสียอีกนะนั้น "

    จู้ๆ รุดซี ก็หลุดหัวเราะออกมา

    "มีอะไรรึท่านเคานต์ "

    "เปล่าแค่หัวเราะในความบ้าของตาเฒ่าเท่านั้นเอง"

    " นั้นสินะ ถึงขนาดส่งกองกำลังส่วนตัวมาให้ตั้งสองหมื่น แทบยังส่งตัวทหารองครักษ์มานำกองอีกต่างหาก ขนาดเคานต์หนูเอามาตั้งหกพันก็ยังไม่พออีก"

    ฮาๆๆๆๆๆๆ ในขณะ ที่ทั้งคู่หัวเราะอยู่นั้นก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งมาแจ้งแกท่านหนูว่า

    "ท่านครับมีหญิงนางหนึ่งมาขวางการเดินเข้าป่าเข็มครับ"

    "นางเป็นใคร"

    "ไม่ทราบครับแต่จากการแต่งตัวน่าจะสังกัดอยู่กิลด์จอมเวทตร์ครับ"

    "คุณหนูนั้นอาจเป็นข้ารับใช้หญิง ของเทพที่ว่านั้นก็ได้"

    หนูนิ่งคิดอยู่ครูหนึ่ง

    "คิดว่าตอนรับเธอดีกว่า แล้วรองสอบถามเธอดู"

    ทั้งคู่เดินไปหา ผู้หญิงคนนั้น

    เมื่อเดินมาถึง ท่านหนูก็ถามเธอทันที

    "เธอมาทำอะไรที่นี้คนเดียว "

    มีอา รู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ เพราะพวกเขา วางตัวสูงส่ง จนน่าหมั่นไส้

    "ฉันโดนจ้างมา ฉันขอบอกคุณไว้ก่อนเลยนะ ว่าอย่าวางมาดมากตอนเจอเจ้านายฉัน เขาอาจจะไม่ชอบนัก"

    ทหารที่ยืนฟังอยู่ด้วย ได้ยินแบบนั้นก็ขึ้นเสียงใส่เธอทันที่

    "นี่ยัยผู้หญิง เธอคิดว่ากำลังคุยกับใคร ท่านทั้งสองคือขุนนางชั้นสูง พวกเธอต่างหากที่ต้องทำตัวให้ดี"

    "เดี๋ยวพอเขามาแกจะรู้เอง"

    "นังนี"

    ทหารคนนั้นทำท่าไม่พอใจอย่างมาก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น