ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC AIMNAM : JUST LOVE รัก วุ่น วาย

    ลำดับตอนที่ #7 : CH7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.69K
      68
      22 ธ.ค. 59

    “ยิ้มอะไรหมอ?”

    นัยน์ตาหวานเป็นประกายขึ้นยามสบสายตากับใครบางคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ก่อนรอยยิ้มน้อยๆจะปรากฏขึ้นบนริมฝีปากสีชมพูอ่อนนั่นเล็กน้อย

    “เปล่า หมอนัทออกเวรแล้วเหรอ?”เอ่ยถามคนที่เดินเข้ามาอีกคนน้ำเสียงสดใส ซึ่งอีกคนก็ได้แต่พยักหน้าตอบพร้อมกับมองเอกสารที่คุณหมออีกคนนั้นวางลงเมื่อครู่

    “แฟ้มคนไข้เหรอ ฉันไม่นึกรู้ว่าแกอ่านแฟ้มคนไข้ด้วย”

    “คนไข้ใหม่น่ะ เพิ่งผ่าตัดเสร็จไปเมื่อวันก่อน”

    “อ๋อ ที่เขาพูดกันใช่มั้ยว่าเป็นคนไข้ที่คุณหมอพัดชาถึงกับลงมือผ่าตัดเองกับมือ”

    “แกไปได้ยินมาจากที่ไหนล่ะ?”

    “เขาพูดกันทั้งโรงพยาบาล แค่แกขยับตัวทำอะไร เขาก็รู้กันทั่วแล้ว ลำพังแค่ผ่าตัดมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ดันให้เลือดกับคนไข้ด้วยนี่ก็คงไม่ธรรมดาแล้วมั้ง”อีกคนพูดอย่างรู้ทัน ก่อนจะดึงประวัติของคนไข้ของเพื่อนรักมาดู

    “แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ฝีมือระดับแกแล้วก็คงรอดอยู่แล้วมั้ง”

    “ปลอดภัยแล้ว ฉันเอาเศษกระจกออกให้แล้ว ที่เหลือก็คงรอให้เขาฟื้นตัวเอง”หมอพัดตอบเบาๆ ก่อนจะเอนตัวพิงกับเก้าอี้นิ่งๆ

    “ถามจริง ทำไมถึงไปให้เลือดกับคนไข้คนนั้นวะ?”

    คุณหมอคนสวยนิ่งไปครู่ ก่อนจะข้ามคำถามของเพื่อนรักไปให้มันหายไปกับอากาศ

    “หรือว่า

    “เขาเป็นคนไข้ของฉัน ก็ไม่แปลกอะไรที่ฉันจะต้องช่วยให้เขาพ้นจากความตายนี่ต่อให้เป็นคนอื่น ฉันก็ทำ

    “ขอให้เขาเป็นแค่คนไข้ ไม่ใช่อย่างอื่นสำหรับแกก็แล้วกัน”

    หมอพัดนิ่งงัน สบตากับนัยน์ตาเข้มของหมอนัทนิ่งๆบางทีเรื่องบางเรื่อง มันไม่ต้องมีเหตุผลมากมายนักหรอก ขอแค่เห็นคนบางคนปลอดภัยก็พอแล้ว


                      "คราวหน้าถ้าน้ำเป็นอะไรบ้าง คุณต้องช่วยน้ำบ้างนะ เพราะคราวนี้น้ำช่วยคุณแล้ว”

     

     

                    หลังจากการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แทยอนก็จัดการหาห้องพิเศษที่สุดของโรงพยาบาลให้กับรุ่นน้องคนสนิททันที โดยมีทิฟฟานี่คอยช่วยเหลือและเอมที่เทียวมาเทียวไประหว่างห้องของตัวเองและน้ำเป็นว่าเล่น จนแทยอนตัดสินใจขอให้พยาบาลย้ายให้ทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน ..  ตั้งแต่การผ่าตัดจบลงน้ำก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ แต่อาการโดยทั่วไปนั้นดีขึ้นตามลำดับ สงสัยจะเหนื่อยจัดคงจะอยากพักสินะ

    “งั้นพี่ขอตัวก่อนนะเอม แล้วเย็นๆจะมาใหม่”พี่ฟานี่บอกฉันพร้อมกับตบหลังฉันเบาๆ ฉันหันไปมองเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้า

    “ค่ะ”

    “ถ้าอยากได้อะไรอีกก็บอกพี่ พี่จะจัดการให้”คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆแฟนสาวพูดขึ้นมาด้วยความห่วงใย ยื่นมือไปลูบผมคนน้องเบาๆ

    “ขอบคุณนะคะพี่แท แต่ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้เอมอยากให้น้ำฟื้นมากกว่า”ฉันบอกเสียงเรียบพร้อมกับหันไปมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยสายตาห่วงใย พอฉันได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง น้ำตาที่ฉันเก็บเอาไว้มานานก็ไหลรินออกมาทันทีอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะฉันแท้ๆเลย น้ำถึงต้องเป็นแบบนี้ เพราะฉันคนเดียวฉันค่อยๆเอื้อมมือออกไปสัมผัสกับรอยฟกช้ำบนใบหน้าจิ้มลิ้มของน้ำเบาๆ

    “เจ็บมากหรือเปล่าน้ำ..”ฉันถามออกไปเบาๆ แม้รู้ดีว่าน้ำจะไม่ได้ยิน .. มือของฉันลากผ่านไปที่ศีรษะของน้ำที่มีผ้าสีขาวพันเอาไว้ น้ำเป็นแบบนี้ฉันยิ่งปวดใจ.. น้ำเจ็บเอมก็เจ็บริมฝีปากฉันจรดเบาๆที่แก้มของน้ำเบาๆและค้างเอาไว้เนิ่นนาน หวังเพียงแค่อยากให้เขาตื่น

    “น้ำจ๋า”ฉันเรียกเสียงเครือพร้อมหลับตาแน่น ร้องไห้ออกมาอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น

    “ขอโทษนะคะขอโทษนะ”

                 

                     “น้ำจ๋า…”

     อือ.. ได้ยินแล้วเสียงที่คุ้นเคยเสียงที่กำลังร้องไห้เสียงของคนที่ฉันคิดถึงเหลือเกินในตอนนี้

    “น้ำตื่นมาสิคะตื่นมาหาเอมนะ”

    ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นตามคำเรียกร้องของเสียงที่กระซิบอยู่ที่ข้างหู หวังว่าจะได้เห็นหน้าของคนเรียกยามได้ลืมเต็มตาพร้อมรอยยิ้มที่แสนจะใฝ่หาแต่พบแต่น้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มของอีกคนทั้งสองข้าง ร้องไห้อีกแล้วคนดี

    “เอม”ฉันเรียกเสียงพร่า กระหายน้ำมากเหลือเกิน ..

    ใบหน้าคมที่ฟุบอยู่ข้างๆ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองช้าๆ ฉันมองอยู่นานก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เอมอย่างแผ่วเบา

    “บอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ชอบให้ร้องไห้ ไม่ฟังกันบ้างเลย”ฉันดุเบาๆ พร้อมส่งยิ้มเล็กๆไปให้ อย่างน้อยฉันยิ้ม เอมก็น่าจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง

    “บอกว่าอย่าร้องไง..”ฉันบ่นเบาๆ แล้วจะลุกขึ้น แต่แผลที่ท้องมันเหมือนจะไม่ชอบใจเท่าไหร่..

    “น้ำอย่าลุกนะ เดี๋ยวแผลก็ปริหรอก”เอมบอกเสียงสั่น พร้อมกับทำหน้าจะร้องไห้อีกรอบ

    “ถ้าร้องอีกน้ำจะจูบเลิกร้องได้แล้ว น้ำฟื้นแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”ฉันแกล้งพูดเสียงดุ แต่ดูเหมือนจะไม่ฟังฉันเลย ใบหน้าคมเริ่มมีน้ำตาอีกครั้งและเหมือนจะหนักกว่ารอบที่แล้วด้วย

    “เอมมานี่มา”ฉันบอกแล้วโน้มคอเอมเข้ามาใกล้ๆ จูบซับน้ำตาใสๆอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ต่อให้มันจะไหลเยอะกว่านี้ ฉันก็จะจูบซับให้เอมไปเรื่อยๆจนกว่าจะหยุดร้องนั่นแหละ

     

                          “เอม..

    “อือ?”

    ฉันถอนหายใจช้าๆ ก่อนจะเหลือบตามองใบหน้าคมที่นอนอยู่ข้างๆฉันบนเตียงเดียวกัน ฉันใช้มืออีกข้างเชยคางเอมขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมถามคำถามที่ฉันสงสัย

    “ก่อนน้ำจะสลบน้ำได้ยินเสียงเอมพูดอะไรบางอย่าง…. แต่น้ำคิดว่าน้ำคงจะหูแว่วไปเอง ใช่มั้ย?”ฉันถามออกไปตรงๆ ฉันได้ยินเอมพูด แต่ฉันจำไม่ได้เลยว่าเอมพูดอะไรไป และนั่นมันทำให้ฉันอยากรู้ในตอนนี้ ใบหน้าคมของเอมขึ้นสีชมพูเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น เหมือนจะเขินอะไรซักอย่าง

    “ว่าไงเอม

    “คือคือว่าเอม

    ฉันพยักหน้า รอคอยคำตอบแต่เอมก็เหมือนทำท่าจะพูด แต่แล้วก็ไม่พูด จนฉันถึงกับถอนหายใจอย่างคนยอมแพ้

    “ไม่เป็นไรเอม น้ำคิดว่าน้ำคงจะหูแว่วไปเอง”ฉันตัดบท เพราะถึงตอนนี้ฉันง่วงอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่พยาบาลให้ก็ได้

    “นอนกันเถอะเอม น้ำง่วงแล้ว”ฉันพูดพร้อมกับจูบที่เรือนผมของเอมเป็นการบอกฝันดี ก่อนจะหลับตาลงและเผลอหลับไปในทันที ไม่ทันได้ยินและเห็นสีหน้าของเอมที่กระซิบบางอย่างกับฉัน

    “เอมบอกว่าเอมรักน้ำได้ยินมั้ยคะ”

     

    ...... คำรักแผ่วๆ ฟังแล้วก็สั่น…..

     

                     หลังจากพักฟื้นให้แผลแห้งและอาการดีขึ้นกว่าเดิม คุณหมอก็อนุญาตให้ฉันและเอมกลับบ้านได้ จริงๆเอมกลับก่อนฉันได้ตั้งนานแล้ว แต่แม่คุณดื้อรั้นแกล้งป่วยต่อซะแบบนั้น จนทำให้ทั้งฉันและเอมต่างได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าเดิม เอมเอาอกเอาใจฉันเป็นพิเศษตั้งแต่เกิดเรื่อง และดูเหมือนว่าฉันเองก็ชอบใจที่มันเป็นแบบนี้ด้วย

    “มีพยาบาลดูแลดีแบบนี้ ดาว่าไม่ต้องกลับแล้วก็ได้มั้ง”เสียงแซวของเจ้าน้องสาวตัวดีที่วันนี้ทำหน้าที่เป็นสารถีพาฉันและเอมกลับบ้านดังขึ้นด้านหลังเมื่อเอมช่วยฉันติดกระดุมเสื้อให้

    “พูดมากแล้วนี่แม่บอกหรือเปล่าว่าจะมาวันไหน”ฉันหันไปถามเจ้าดาที่นั่งอยู่ที่โซฟายาวถึงแม่ ที่ต้องการจะมาดูอาการฉัน

    “เปล่า แค่บอกว่าจะมา เห็นจะพาอาม่าด้วย พี่เตรียมตอบคำถามเรื่องพี่สองคนให้ดีเถอะ”ดาบอกแล้วทำหน้าตาย

    “มีอะไรเหรอคะ?”เอมถามขึ้นมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นหน้าฉันเครียดลง

    “อาม่าอยากให้น้ำแต่งงาน”

    “อะไรนะ?”

    “ความจริงท่านอยากให้น้ำแต่งงานมาตั้งนานแล้ว แต่น้ำก็ปัดท่านไปเรื่อย อ้างไม่มีเวลาบ้าง อ้างนู่นอ้างนี่บ้าง น้ำก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้น้ำจะอ้างอะไรได้อีก ท่านก็คงหาผู้หญิงมาดูตัวให้น้ำอีกนั่นแหละ”ฉันเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ทำให้ฉันคิดไม่ตก เอมมองฉันนิ่งเหมือนอยากรู้ว่าเรื่องที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า หรือแค่ฉันโกหก

    “น้ำพูดจริงๆนะเอม”

    “แล้วน้ำจะทำไงจะทิ้งเอมไปแล้วไปแต่งงานกับคนที่อาม่าน้ำหามาให้งั้นเหรอ?”

    “ไม่เอานะ!! ดาอยากได้พี่เอมมากกว่าผู้หญิงพวกนั้นอีก”เจ้าดาไม่พูดเปล่าวิ่งมากอดแขนเอมด้วย ฉันมองอาการน้องสาวอย่างหมั่นไส้ พลางดันมันออกจากเอมของๆพี่ ไอ้น้อง !!

    “น้ำจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ... เอมเป็น..."

    "เป็นอะไร?..."เป็นน้องสาวของฉันที่ถามขึ้นพร้อมทำหน้าอย่างอยากรู้ ฉันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าดาที่เป็นคนถาม...

    "เป็นอะไรพี่น้ำ พูดออกมาสิ"

    "นั่นสิน้ำ พูดออกมาสิ"เอมพูดขึ้นมานิ่งๆ พร้อมจ้องหน้าฉันนิ่ง ฉันมองตาของเอมตอบ ... 

    "พูดออกมาสิน้ำ..."

    ฉันหลับตาแน่น ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ 

    "ช่างมันเถอะ..."

    "ช่างมันเถอะของน้ำ คือน้ำจะทิ้งเอมใช่มั้ย?..."

    "น้ำไม่มีวันทิ้งเอมหรอก"

    "งั้นก็ช่วยทำให้มันแน่ใจหน่อยได้หรือเปล่า ถ้าตอบคำถามนั้นไม่ได้ งั้นก็ช่วยทำให้เอมแน่ใจทีว่าที่น้ำบอกว่าจะไม่ทิ้งเอม มันคือความจริงที่น้ำพูดออกมาจากใจ ไม่ใช่แค่เพียงลมปาก"

    "ดา...ออกไปก่อน"ฉันหันไปไล่น้องสาวที่ยืนอยู่ด้วย เรื่องนี้ฉันต้องเคลียร์กับเอมกันสองคน ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้ามายุ่งด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องก็เถอะ  ดาพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ ทิ้งฉันกับเอมเอาไว้สองคน ... หลังจากที่น้องสาวของฉันเดินออกไปแล้ว ฉันก็ค่อยๆดึงเอมให้นั่งลงบนตัก พร้อมเกยคางเอาไว้ที่ไหล่เนียนอ้อนๆ

    "ต้องหาคำตอบให้เรื่องนี้ด้วยเหรอ? มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเราอยู่ด้วยกันแบบนี้โดยไม่ต้องหาคำตอบให้ความสัมพันธ์ของเรา แค่น้ำมีเอม เอมมีน้ำ แค่นี้มันก็น่าจะพอแล้วนี่"ฉันบอกเบาๆ พลางกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น...

    "แต่ใครๆก็อยากได้ความชัดเจน เอมก็เหมือนกัน"

    "แล้วที่น้ำทำอยู่ทุกวันนี้มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? มันยังไม่มากพอเหรอเอม มันไม่มากพอที่จะทำให้เอมรู้สึกได้เลยใช่มั้ยว่าน้ำรู้สึกยังไง"

    "ถ้าอยากให้เอมรู้จริงๆ น้ำก็พูดมาให้เอมได้ยินหน่อยสิ ว่าน้ำรู้สึกยังไง แค่พูดออกมาให้ฟัง มันคงไม่ยากไปนักหรอกใช่มั้ย?"เอมถามกลับพร้อมกับเอียงหน้ามาหาฉันเล็กน้อย ฉันยื่นจมูกไปจรดแก้มเนียนเบาๆ แล้วพยักหน้าอย่างคนที่ยอมแพ้ ... แพ้ให้เอม...

    "ถ้าอยากฟังน้ำจะบอกให้ฟัง..."

    "ค่ะ..."

    "น้ำ...น้ำรัก..."


    "น้ำ พี่เคลียร์เรื่อง ... เอ่อ... พี่เข้ามาผิดเวลาหรือเปล่า?" คนตัวเล็กที่เปิดประตูเข้ามาถึงกับชะงักพร้อมเบือนหน้าไปทางอื่น เมื่อเห็นภาพของคู่คนน้องกำลังแนบชิดตัวติดกันอยู่บนเตียง....

     

    พี่แทยอนนนนนนน !! 



                       "ขอบคุณนะพี่แท"ฉันเอ่ยเบาๆ ขณะที่นั่งรอเอมและไอ้ดาที่ไปเอารถมาให้ฉันอยู่หน้าโรงพยาบาล พี่แทหันมามองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วสูง...

    "เรื่องไหน?"

    "พี่รู้อยู่แล้วน่า"ฉันตอบเบาๆ พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ทั้งความรู้สึกของตัวเอง ทั้งเรื่องวุ่นวายที่มันเกิดขึ้น

    "เออพี่ ตั้งแต่น้ำตื่นขึ้นมา น้ำยังไม่เห็นคุณหมอที่ช่วยน้ำเลย พี่รู้จักหรือเปล่า?"

    พี่แทนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า

    "คุณหมอมาบ่อยอยู่ช่วงที่แกไม่ได้สติ เธอดูแลแกดีมากแล้วก็ดูห่วงใยแกมากด้วย แต่พอแกฟื้น ก็ไม่ค่อยเห็นมานะ"

    "งั้นเหรอ... งั้นพี่พอจะรู้จักชื่อมั้ย เดี๋ยวว่างๆน้ำจะเข้ามาขอบคุณ"

    "ชื่อเหรอ...อือ คุณหมอ...คุณหมอพัดชาน่ะ"

    "หมอพัดชาเหรอ?...."

    ทำไมรู้สึกคุ้นอย่างบอกไม่ถูก... เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนกัน... ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนซักแห่ง....




     ต่อแล้วครับทุกคนนน ดูเหมือนทั้งเอมและน้ำก็ยังคงสับสนกันอยู่ในใจเนาะ แล้วคุณหมอพัดจะเกี่ยวอะไรกับน้ำ แล้วเรื่องดูตัวอีกล่ะ โอ๊ยยย วุ่นวายไปอีก 55555+ ดราม่าไม่ค่อยมีเนาะยังต้นๆเรื่องอยู่ ขอบคุณที่ติดตามกันคับ รักกกกกส์

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×