[iKON FIC]The New kid of VAMPIRE: ฮาโลวีนสื่อรัก
นี้เป็นตอนพิเศษสั้นๆจากเนื้อเรื่องหลักนะคะ พิเศษสำหรับกิจกรรมวันฮาโลวีน ขออภัยเหล่าชิปเปอร์ที่หลงเข้ามาอ่านด้วยนะคะ
ผู้เข้าชมรวม
160
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เย็นวันที่ฝนตกหนักเช่นนี้ชานอูไม่เข้าใจว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ถึงได้เดินออกมารอพี่ชายที่บอกว่าจะรีบมารับ ที่หน้าป้ายรถเมย์!! ซง ชานอู มึงต้องไปแล้วแน่ๆ ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ขนาดก็ใหญ่ไม่อยู่ เสือกโง่พาตัวเองออกมาให้ฝนสาดใส่เล่นอยู่แบบนี้เพื่อ?!
‘ชานอู’
อื้ม? สัสมืดก็มืด ฝนก็ตกแถมกุอยู่คนเดียวอีกสาสสส เสียงใคร๊ T^T เอ๊ะ สงสัยกุหูฝาดไปเอง ใช่ๆๆ หูฝาดๆ
‘จอง ชานอู’ เชี่ยยยยย ไม่ใช่ล่ะ ได้ยินอีกแล้วอ่าาาา ฮือออ พี่ยุนฮยองคนดีของชานอู รีบมารับน้องสิครับ น้องจะไม่ไหวแล้วนะ
‘จอง ชานอู’ สัส! เสียงชัดกว่าเดิมอี๊กกกก กุชื่อชานอูครับ แต่ไม่ได้นามสกุลจอง จรัมคับ!
‘ชานอู’ อ่ะ เหมือนแม่งรู้ว่ากูบ่นในใจอ่ะ นามสกุลหายไปล่ะ เหลือแต่ชื่ออิดร้อกกกกก ไม่ต้องเรียกเลยจะขอบคุณมากคับผม!! เอ่อ กุกลัว กุยอมรับ พอใจยังสาสสส! อย่ามาหลอกกรู๊~
ครืน ครืนๆ ครืนนนน
“สัส!!!” อ๋อ มือถือกุนี่หว่า ตกใจหมด ขวัญเอ๋ยขวัญมานะชานอู
“ฮัลโหล พี่ยุน เมื่อไรจะมารับผมเนี่ย”
/น้องอยู่ไหน พี่รอที่ใต้คณะน้องแล้วนะ/
“อุ๊ย น้องขอโทษพี่ยุน น้องรออยู่ป้ายรถเมย์หน้ามหาลัยฮะ”
/อ้าว ทำไมพี่วิ่งรถผ่านเมื่อกี่ไม่เห็นมีคนเลย/
“อะไร ผมยังไม่เห็นมีรถวิ่งผ่านเลยนะ เงียบโคตรๆ”
/บ้าหรอ พี่ขับผ่านป้ายรถเมย์ระยะประชิดเลยนะเมื่อกี้อ่ะ/
“.....” เชี่ยอย่าบอกนะว่า….
/น้องชาน ฮัลโหลได้ยินพี่มั้ย/
“พะ… พี่ยุน.. ระรีบมาเถอะฮะ เร็วๆนะ…”
/… อ่า รอแปบนึงนะ/
“......” อิเชี่ยยยยย กูบอกเลยกุจะไม่ย่างกรายมาเหยียบที่นี่อีก!!!
“ไงชานอูเพื่อนรัก กุเพิ่งได้อ่านแชทมึงเมื่อเช้า เจอดีเข้าหรอวะ” ดงฮยองเพื่อนสนิทเพียงตัวเดียว เอ้ย คนเดียวของผมในตอนนี้เอ่ยทักขึ้นหลังจากที่มันนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับผมที่โต๊ะประจำหน้าคณะ
“เอ่อดิวะ แม่ง ตรงนั้นมีกูอยู่คนเดียวมึงว่ามันจะเรียกใครล่ะสัส” ชานอูบ่นออกมาพร้อมกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
“เป็นอะไรไอ้ตัวแสบ ใครมันบังอาจมาทำไรน้องรหัสสุดที่รักของพี่ พี่จะไปกระทืบมัน”บีไอ หรือคิม ฮันบิน พี่รหัสสุดหล่อของชานอูทักขึ้น เมื่อเดินมาแล้วเจอน้องรหัสของตัวเองไม่ร่าเริงเหมือนทุกทีที่เจอ
“555+ ไม่มีอะไรหรอกพี่บีไอ ได้ชานมันแค่โดนผีป้ายรถเมย์หลอกอ่ะ” ดงฮยอกเอ่ยตอบแทนไอ้เพื่อนตัวดีที่มีท่าทีอ่อนล้า สงสัยเมื่อคืนแม่งนอนไม่หลับ
“สัสดง มึงบอกว่าแค่หรอ มึงไม่เป็นกูตอนนั้นมึงไม่เข้าใจหรอก” ชานอูลุกขึ้นมาแว๊ดใส่เพื่อนทันทีก่อนจะหันไปอ่อนพี่รหัสข้างๆ
“พี่ฮันบินนนน เมื่อคืนน้องกลัวจริงๆนะ มันเรียกชื่อน้องอ่ะ”
“หื้ม? เรียกชื่อ ชานอูอะนะ”
“ใช่ฮะ มันเรียกชานอู จอง ชานอู”
“ว่าไงนะ!!” หลังจากได้ยินแบบนั้นคิม ฮันบิน หรือบีไอก็เผลอตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้คนที่อยู่บริเวรนั้นหันมามองที่โต๊ะเขากันหมด แหม่พวกเวร กุรู้นะว่าพวกมึงแอบมองพี่รหัสกุอยู่ ได้โอกาสมองจังๆเลยดิทีนี่ =_= พี่กุหล่ออ่ะดิ๊
“อะไรพี่มึง ตะโกนไมเนี่ย” ดงฮยองพูดขึ้น คือผมกับมันก็สะดุ้งพร้อมกันตอนไอ้พี่บีไอมันตะโกนอ่ะ
“พี่รู้จักคนชื่อนี้หรอ ตกใจซะอย่างกะเจอญาติ”
“....” อ่ะเงียบ พี่มึงอย่าเงียบ เด๋วกุคิดจริงนะว่าชื่อญาติพี่มึงอ่ะ
“ญาติพี่จริงดิ” ผมถามออกไป ไหนๆก็ไหนๆละ ต่อมเสือกเริ่มทำงานเลยกุ
“.... อ่า… ใช่ น้องชายพี่เอง เค้าตายเมื่อนานมาละ… นาน…มากๆ” ผมไม่ชอบสายตาเศร้าๆของพี่รหัสผมตอนนี้เลยอ่ะ มันทำให้ผมอยากกอดปลอบ
“ชื่อน้องพี่เหมือนชื่อไอ้ชานเลยวะ เพราะแบบนี้ป่ะ พี่ถึงรักถึงอวยมันนัก” ขอบคุณมากคับเพื่อนดงที่ช่วยเปลี่ยนอารมณ์พี่มันให้ กูซึ้งใจ
“ใช่ เหมือนมากจนพี่นึกว่าน้องพี่เกิดใหม่เลยล่ะนะ”
“ง้อวววว ถ้าเหมือนขนาดนั้นจะช่วยรับผมเป็นน้องเลยก็ได้นะ ผมยอม”
“ทำไมว่า” ไอ้ดงเอ่ยถาม
“เพราะพี่บินรวย”
“อ่ะไอ้สัส พูดอย่างกับมึงจน”
“เอ้า ก็ไม่เท่าพี่มันอ่ะ”
“แล้วแต่มึงเถอะงั้น”
“55555”
“พี่กูหัวเราะแล้วว่ะ กุดีจายยยยย”
“แต่กูปวดหัวที่ต้องมารับมุขมึงเนี่ยสัส”
“พูดมาก กูจะฟ้องพี่ยุนว่ามึงมันเลว เจ้าชู้ หลายใจ”
“อ่ะไอ้สัส นี่ดงฮยอกไง เพื่อนมึงไง ไม่มีกูมึงจะเสียใจ”
“พอๆ เลิกเถียงกันๆ” พี่บีไอห้ามทัพ พี่รหัสกุโคตรเทพบุตร
“ตกลงพี่จะรับผมเป็นน้องแล้วใช่ป่ะ”
“พี่ก็คิดว่านายเป็นน้องจริงๆมากตลอดนะ ทุกวันนี้ก็เลี้ยงยิ่งกว่าน้องแท้ๆซะอีก” บีไอพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวคนน้องข้างๆ
“พี่เลี้ยงมันดีเกินไปอ่ะ ดูดิ แม่งอ้วนเป็นหมูล่ะเนี่ย” สัสดง มึงเพื่อนกูจริงป่ะเนี่ย
“มึงจะเล่นงี้ช่ะ ได้นะ ได้ดงได้ :)”
“อ่ะย่อเย่นน่าาาา ขรำๆสะเก็ดดาวเพื่อน”
“5555+” พี่รหัสผมหัวเราะอีกครั้ง ผมดีใจนะที่พี่มันยอมหัวเราะตอนอยู่กับพสกผม เพราะทุกครั้งที่ผมเห็น ตอนพี่มันอยู่กับเพื่อนๆสีหน้าดูเคร่งเครียดตลอดเวลาเลยอ่ะ
พวกเราคุยเล่นกันไปมาซักพัก พี่ยุน หรือซง ยุนฮยอง พี่ชายของผมก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับชายแปลกหน้าที่พวกผมไม่รู้จักอีกหนึ่งคน ทั้งที่เป็นคนที่ผมไปรู้จักแท้ๆ เพิ่งเห็นหน้าครั้งแรกแท้ๆ ทำไมผมถึงได้รู้สึก…. คิดถึง… ใช่ อยู่ๆผมก็รู้สึกคิดถึง โหยหา อาวร และอีกมากมายที่มันตีกันอยู่ในใจผมเต็มไปหมด
“เฮ้ย! ไอ้ชาน มึงร้องไห้ไมเนี่ย” ใช่ครับ ตามที่ดงฮยอกมันพูด อยู่ๆน้ำตาผมมันก็ไหลออกมาโดยไม่มีสาเหตุ
เพียงอึดใจ อยู่ๆชายตรงหน้าที่พี่ผมพามาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมในระยะประชิด ก่อนจะยกมือขึ้นมาตรงแก้มผมแล้วใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาของผมแผ่วเบา
"อย่าร้องไห้สิครับ" คนตรงหน้าเอ่ยบอกผมพร้อมส่งรอยิ้มน่าหมั่นไส้มาให้ หมดเลยครับอารมณ์ซึ้งเมื่อกี้
“ฮึก.. ป่าวฮะ ฝุ่นเข้าน่ะ ผมไม่ได้ร้องไห้” หลังจากดึงสติตัวเองกลับมาได้ ผมก็รีบยกมือตัวเองปัดน้ำตาออกทันที ผมว่าผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ จู่ๆก็ร้องไห้ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักแบบนี้
“น้องชาน เป็นอะไรครับ อย่าขยี้ตาสิเดี๋ยวตาบวม” พี่ยุนที่คาดว่าเพิ่งจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้เช่นหลังจากอึ้งและงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า รีบเดินเข้ามาแทรกระหว่างผมก็ชายแปลกหน้าทันที ก่อนจะสำรวจตาผมที่เพิ่งบอกว่าฝุ่นเข้าเมื่อกี้
“ฝุ่นเข้าไรของมึงวะ ลมยังไม่พัดซักแอะ” ไอ้สัสดง มึงจะหยุดขัดกูซักครั้งกูก็ไม่ว่ามึงเป็นไบ้หรอก ไอ้เพื่อนเลว
“กูบอกว่าฝุ่นก็ฝุ่นสิวะ เพื่อนเลว”
“เอ้า กูผิดเฉ๊ย”
“หึหึหึ” ชายแปลกหน้าหลุดขำออกมา ผมนี่หันควับคอแทบเคร็ด
“หัวเราะอะไรไม่ทราบ” ผมจ้องอีกคนเขม้น
“....ป่าวนะครับ พี่ไม่ได้หัวเราะนะ..” หมอนั้นชูมือขึ้นสองข้างยอมแพ้เหมือนผู้ร้ายที่โดนตำรวจจอปืนใส่ โอเว่อจริงๆ!
“ก็เห็นๆอยู่อ่ะ ผมไม่หูฝาดด้วย!” งอลครับ มันคือสิ่งผมรู้สึกในตอนนี้ แต่บ้าป่ะ ทำไมผมต้องงอลคนที่ไม่รู้จักชื่อด้วยวะครับ!!
“จุนฮเว มึงก็ไปแกล้งน้องกูดิวะ” อ๋ออออ ชื่อจุนฮเวนี่เอง ถ้าพี่บีไอไมพูด ชาตินี้ผมจะรู้มั้ยวะ
“ก็น้องมึงน่ารัก กูเลยอยากแกล้ง”ไอ้พี่จุนฮเวพูดขึ้นแต่สายตาก็ยังมองมาที่ผมพร้อมกับส่งยิ้มแบบมีเลสนัยมาให้ พี่ยุนช่วยด้วย ชานกลัวไอ้บ้านี้
“น้องกูไม่ใช่น้องไอ้บิน พูดให้ถูกสัส” พี่ยุนขัดขึ้น
“น้องรหัสก็เหมือนน้องกูป่ะ กูก็หมดไปหลายแสน มึงอย่างกให้มาก แล้วนี้บ๊อบบี้ไปไหน ทำไมไม่ได้มาด้วยกัน” พี่บีไอถามหาใครซักคนที่ผมก็ไม่รู้จักอีกแล้วครับ หมดยังวะ กูจะได้ทำความรู้จักทีเดียวเลย =_=
“เข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมันตามมา” พี่จุนฮเวพูดขึ้น แต่ว่านะ เขาควรหัดหันไปคุยกับคู่สนทนาดีๆอ่ะ ไม่ใช่พูดกับอีกคนแต่ตาแม่งยังจ้องผมไม่เลิกอ่ะ ไม่ใช่ไรนะ กุเขิน เขินแบบเขินจริงจังอ่ะ ก็มันหล่ออ่ะ แล้วมีคนหล่อๆมาจ้องคุณตาหวานเยิ้มคุณจะไม่เขินหรอ!!
“เอ่อ งั้นก็แนะนำตัวกันเองแล้วกัน ชานอู ดงฮยอก นี้เพื่อนพี่จากอเมริกา มันจะมาเรียนแลกเปลี่ยนที่นี่หนึ่งปีกับเพื่อนอีกคนชื่อบ๊อบบี้” พี่บีไอพูดขึ้น จริงสิ พี่บีไอก็มาจากอเมริกานี่นา
“กู จุนฮเว ยินดีที่รู้จักครับ น้องชาน”
“ผมยังไม่อนุญาตให้เรียกแบบนั้นซักหน่อย!!!” รู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงเรียกซะอย่างกับรู้จักกันมันเป็นร้อยปี อ่ะเว่อล่ะกุเนี่ย
“โว้วๆ แยกครับแยก ผมดงฮยอกฮะเพื่อนชานอู่ วิศวะฯยานยนต์ ปีหนึ่งเหมือนมัน ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่” ไอ้ดงพูดแนะนำตัวกับไอ้หน้าหล่อจุนฮเว
“............ ถ้านายช่วยฉันเรื่องชานอู ยุนฮยองจะเป็นของนาย” ไอ้พี่จุนฮเวเหมือนระซิบอะไรบางอย่างกับดงฮยอก
“ดีลครับพี่มึง” ดงฮยอกยื่นมือไปให้อิพี่จุนฮเวจับ ทั้งคู่จ้องตากันพร้อมกับยิ้มอย่างพี่เลสนัย ผมไม่รู้ว่าไอ้พี่ร่วมคณะคนใหม่มันต้องการอะไรจากผม แต่ถ้าเป็นจุดประสงค์ของไอ้เพื่อนเลวของผมล่ะก็ ผมรู้ดีเลยล่ะ สิ่งที่มันต้องการก็พี่ผมไงครับ เล่นจีบมาจนเข้าปีที่ 4 ล่ะ แม่งก็ยังไม่ได้แด๊กพี่ผมอ่ะ กากวะ
หลังจากที่รู้จักพี่จุนหรือ กูจุนฮเวนี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีล่ะ บอกเลยว่าสาวๆหรือเหล่าเคะทั้งหลายในมหาลัย ต่างอิจฉาและมั่นไส้ผม เพราะอะไรนะหรอ ก็เพราะผมมีกู จุนฮเวไง หล่อ รวย มีรถขับ เขาแสดงออกมาตลอดว่าจีบผมอยู่ ผมรู้ เขาบอกผมเอง โค่ดมั่นใจอ่ะว่ายังผมก็ยอมคบด้วย
หลงตัวเองสุด แต่ก็เถียงไม่ได้อ่ะเพราะพี่มันหล่อจริง
“สัสชาน เรื่องวันงานฮาโลวีนมหาลัยคืนนี้มึงจะเอาไง แต่งเป็นไรวะ”
“กูจะแต่งเป็นซอมบี้ฝาแฝด คู่กับพี่ยุน” ผมบอกไอ้ดงไป ตอนนี้ผม พี่ยุนและพี่จุนมานั่งรวมกลุ่มกันในที่โต๊ะประจำหน้าคณะในเวลาพักเที่ยง
“แล้วกูอ่ะ”
“โจ๊กเกอร์เลยมึงอ่ะ” ครับ ด้วยความขี้เกียจคิดของดงฮยอก ผมเลยต้องคิดให้มันแทน
“แล้วพี่ล่ะ” พี่จุนฮเวแทรกขึ้น
“แวมไพร์” คนพี่สะดุ้งไปนิดหน่อย
“ทะ ทำไมพี่ถึงได้เป็นแวมไพร์ล่ะครับ” จุนฮเวเอ่ยถามออกมา
“ก็พี่จุนเป็น... เหมาะจะเป็นแวมไพร์นี่น่า” ผมรีบเบรคคำพูดตัวเองก่อนจะพูดความลับนั้นออกไป
"ถ้าให้พี่เป็นแวมไพร์ พี่จะกัดน้องชานเป็นคนแรก" พูดเฉยๆไม่ได้ครับคนนี้ ชอบลวนลามผมตลอด!
"พูดเฉยๆก็ได้มั้งฮะ ทำไมต้องมาไซร้คอผมด้วย!!" ผมพูดพร้อมกับดันหน้าอีกคนออกห่าง
ช่วงนี้ผมรู้สึกคอไม่ค่อยปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้ไอ้พี่จุนฮเวเลยจริงๆ เกิดนึกคึกกัดจริงขึ้นมาทำไงอ่ะ
"หอม น่ากัด" เชี่ยยยย ทำไมต้องทำเสียงแหบเซ็กซี่ๆข้างหูผมด้วยวะ ผมใจบางนะ
"ผมจะคิดว่าพี่เป็นผีดูดเลือดจริงๆแล้วนะ" ผมพูดขัดคนหน้าด้านที่นั่งดมคอผมอย่างหน้าไม่อายต่อที่สาธารณะ
ใช่ ช่วงแรกๆที่เจอผมตกใจที่พี่มันทำแบบนี้ แต่ตอนนี้บอกเลยครับ กุชิน ชินที่ไม่ใช่ชินวุฒิอ่ะ!
"เลือดมันไม่อร่อย พี่ไม่ชอบ พี่ชอบไวน์มากกว่า" ครับพ่อคนรวย พูดยังให้ดูไม่ขี้อวด
แต่ต่อให้พี่มันอวด ก็ไม่เถียงครับเขารวยจริง ที่คอนโดพี่เขาที่ผมไปบ่อยๆเต็มไปด้วยไวน์หายาก
แต่ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่ที่ดอนโดพี่มันละก็ ก็ไม่แปลกนิฮะ คนเป็นแฟนกันอ่ะ จะไปห้องกันก็ไม่แปลกจริงป่ะ
" คืนนี้วันฮาโลวีน ไปนอนคอนโดพี่นะครับน้องชาน พี่เตรียมของโปรดของเราไว้แล้ว"
"พี่มึงจะล่อลวงเพื่อนผมไปอีกละหรอ" ดงฮยอกที่นั่งเงียบฟังพวกผมอยู่นานก็พูดขัดขึ้น
ส่วนพี่ยุนไปเข้าห้องน้ำตอนไหนกไม่รู้ครับ
"ซอมบี้เขามาเป็นคู่แฝด เราก็แบ่งกันคนละตัว เฮ้ย คนละคนก็ถูกแล้วนิ" พี่จุนหันไปยักคิ้วให้ดงฮยอกแบบว่ารู้ๆกัน
"งั้นพี่มึงตามสบายเลย ผมขอไปล่อลวงซอมบี้ที่รักของผมก่อน บาย" พูดจบดงฮยอกเพื่อนเลวก็ทิ้งผมไว้กับแวมไพร์จอมหื่นทันที
"ก้างไปแล้ว เราก็กลับกันเถอะพี่หิวเลือด... แล้ว" พูดแล้วก็เอาปากมาไซร้คอผมอีกละ
"ไหนว่าแวมไพร์สายพันธุ์บริสุทธิ์ไม่ดื่มเลือดไงครับ" พอได้อยู่กันสองคนผมก็พูดออกมาได้ ใช่ครับ ผมรู้แล้วว่าพี่จุนเป็นแวมไพร์ ถ้าอยากรู้ว่าผมรู้ตอนไหนก็รออ่านเรื่องหลักนะฮะ แต่รอนานหน่อยนะ เพราะไรต์แม่งมือใหม่หัดเขียน
"ครับ เราไม่ดื่มเลือด แต่เราดื่ม...." พี่จุนกระซิบบบอกสิ่งที่น่าอายนั้นออกมา มันทำให้ผมหน้าเห่อร้อนขึ้นทันที ไอ้ผีหื่น!!!!!!
End
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ControlX ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ControlX
ความคิดเห็น