ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Conquest of Devilment Empire

    ลำดับตอนที่ #5 : เจ้าชาย?

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 51


    Chapter 5  เจ้าชาย?



    ม..สบายจัง…..



    เสียงครางปนละเมอหลุดออกมาอย่างแผ่วเบา แต่เจ้าตัวก็ไม่มีท่าทีจะตื่น กับหลับตาพริ้ม เหยียดยาวบิดตัวกลิ้งขลุกขลักบนที่นอนหนานุ่ม  สัมผัสลูบไล้เครื่องรองนอน.....หมอน.....ผ้าห่ม........



    อืม... นุ่ม   นุ่มเหมือนขนสัตว์...



    พอสรุปได้ในใจ คนหลับก็คว้าหมอนอีกใบเข้ามานอนก่าย ใบหน้าขาวอมเหลืองนวลราวกับผลสาลี่สุก แทรกซุกเข้าไปในหมอนขนฟูจนบดบังแสงรำไรที่ทอแสงยามเช้า ให้ดิ่งสู่ห้วงภวังค์นิทรา จนยากที่จะลืมตาเพื่อเผชิญกับความเป็นจริง



      ฝันดีแบบนี้ สวรรค์ทรงโปรด



    ริมฝีปากบางขยับพึมพำ แพขนตาหนาละเมียดกับใบหน้าละไมที่โปะด้วยหมอนใบโต  แต่ก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้เมื่อ ความจริงที่ต้องเผชิญมันมักจะมาพร้อมๆกันกับสติสตางค์ยามตื่น



    บิดไปบิดมาซักสองรอบ จึงตัดใจหลุดเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง แพขนตายาวกระเพื่อมสั่นไหว ก่อนจะปรือขึ้นอย่างแช่มช้า



    ภาพเตียงสี่เสางดงามวิจิตร ระย้าด้วยผ้าฝ้ายระบายระยับที่ประดับคลุมครอบล้อมรอบที่รองนอน กระทบกับแสงทอแห่งวันใหม่ ต้อนรับเช้าที่สดใสสำหรับหนุ่มน้อยช่างมุงหลังคา



    เปลือกตาบางกระพริบถี่ๆ ยกมือขยี้ตาอีกทีเพื่อหวังจะได้เห็นเพดานไม้ผุๆเช่นเคย แต่.............ไม่ใช่





    “เฮ้ย!! นี่มันที่ไหนวะ!!!!!!”



    เสียงกัมปนาทหนักหน่วงเปล่งออกจากปากของเด็กหนุ่ม สะท้อนกังวานคับห้อง ด้วยอาการช็อกซีนิม่า  



    เทรวิสกระโดดพรวดพราดขึ้นมานั่งบนที่นอนด้วยสมองที่ฟุ้งซ่าน ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ตัวสั่นระริก แล้วก็เริ่มแกะเกาในส่วนที่รองกาย ขณะที่นัยน์ตาสีเขียวมรกตกับโดนสมองสั่งการให้หลับตาซะ แล้วใช้ประสาทสัมผัสตัดสิน



    แล้วผลก็ปรากฏออกมาว่า ไอ้ที่ปูรองนอนอยู่จนถึงเช้า...............



    มันคือ......



    ขนจามรี!!



    หนังตาที่ปิดอยู่กับเบิกโตเท่าไข่ห่าน แล้วก็ต้องสังเกตอาภรณ์ชั้นดีเบาสบาย ต่างจากผ้ากระสอบขาดวิ่นที่ได้สวมใส่อยู่ทุกวี่วันลิบ แถมด้วยเลื่อมทองขลิบระบายในชุดบรรทมสวยงามบ่งบอกฐานะ อย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะได้ใส่



    เหลียวมองรอบด้านยิ่งต้องทึ่ง เมื่อเครื่องเรือนเครื่องใช้จวบจนแผ่นอิฐแต่งละก้อนนั้นประเมินค่าด้วยสายตาแล้ว คงต้องทำงานทั้งชีวิต กว่าจะได้ขาโต๊ะข้างหนึ่ง



    แล้วเหตุใดไพร่ ถึงมาอยู่ในที่แบบนี้?



    ???????????



    สถาปนาไพร่ให้เป็นราชนิกุล!



    ความคิดที่ต้องด่าตัวเองว่าคิดเค้าไปได้ เหาคงกินกบาลหมดหัว ถ้าไพร่กลายเป็นหน่อเนื้อเชื้อพระวงศ์ขึ้นมาภายในหนึ่งวัน เนื่องจากพลัดพรากไปเป็นช่างมุงหลังคาตั้งแต่เด็ก



    ชาวบ้านคงแห่มาดูปาหื่เรื่องนี้กันถล่มทลาย!!



    คิดเสร็จก็หัวเราะหึๆ ขยับยันกายลุกขึ้น แต่ก็แทบจะเซล้ม เมื่อภาพต่างๆมืดวับไป ดูเหมือนเขาจะรู้สึกหน้ามืดขึ้นมา หากแต่มีบางสิ่งที่ทำให้เทรวิสต้องนึกเหตุการณ์ได้ลางๆถึงช่วงเวลาเมื่อคืน เป็นไปได้ว่าต้องมีใครนำตัวเขามาแน่





    เรียกค่าไถ่!!!



    ความคิดแรกหลุดไป ในเมื่อเขาเป็นลูกช่างมุงหลังคา





    พวกนักเลง!!!



    ความคิดที่สองก็ต้องส่ายหัววืดๆ ไม่มีทาง ที่ไอ้พวกนักเลงพวกนั้นมันจะรวยขนาดนี้





    สาวจับมาเลี้ยง!!!



    ความคิดสุดยอด ที่เจ้าตัวพยักหัวหงึกๆหงักๆอย่างเป็นไปได้  แต่ก็ต้องขับไล่ความคิดบ้าๆ มีที่ไหนผู้หญิงจะลากตัว มาด้วยวิธีพิสดารขนาดนี้ แล้วที่นี่ก็งดงามเกินกว่าจะเป็นฮาเร็ม





    สรุปความคิดด้วยคำว่า ปล่อยไปตามเวรตามกรรม เลยต้องเลยตามเลย เดินชมห้องพักกิตติมศักดิ์นี่ไปพลางๆ



    เสาเรือนสีทอง เปล่งประกายรับกับเครื่องเรือนที่ประณีตสวยงาม  ผืนพรมสวยปูยาวตลอดทางเดินภายในห้องคบไฟตะเกียงหรูเรียงรายตามผนังอิฐเป็นระยะ เสริมด้วยเตาผิงไฟขนาดย่อมที่บรรจงสรรค์จัดวางตำแหน่ง ให้เหมาะสมกับเก้าอี้ยาวจากไม้เนื้อดี เข้ามุมกับตู้หนังสือที่เรียงเป็นระเบียบสวย แต่ดูเหมือนว่าพื้นที่ส่วนนี้จะไม่ค่อยมีร่องรอยของการใช้งานอย่างที่ควรจะเป็นนัก



    นัยน์ตาคู่เขียวไล่มองหนังสือและตำราที่เหมือนจะผนึกไว้กับที่โดยไม่มีใครได้นำออกมาอ่าน ทั้งๆที่แต่ละเล่มนั้นน่าสนใจอยู่ไม่เบา บางเล่มว่ากันว่าเป็นคัมภีร์โบราณของการฝึกเวทย์ชั้นสูง สำหรับผู้ที่ไม่มีเชื้อสายนักเวทย์ ซึ่งเป็นที่ต้องการกันมากในตลาดมืด



    แต่ตอนนี้ มันมาวางตั้งฝุ่นจับอยู่ที่นี่!!



    เสียดายของ จริงเชียว



    เทรวิสมองตำราเล่มสีดำสนิทขอบสีเงินที่จารึกอักขระเวทบางๆเขียนเป็นอักษรโบราณที่เทรวิสนั้นก็อ่านไม่ออก แต่ก็ยังอยาก....อยากจะครอบครอง



    ความคิดที่เทรวิสเอื้อมมือขึ้นสัมผัส ก่อนจะยั้งมือด้วยสมองที่ต่อต้าน เพราะหากฉวยมาสุ่มสี่สุ่มห้าคงจะเป็นเรื่อง



    แล้วสายตาละห้อยก็ฉาบบนนัยน์ตาสีเขียวมรกต ก่อนจะผละออกแบบคันไม่คันมือ





    ทั้งตำราโบราณ........ทั้งเครื่องเรือน.....สิ่งของหายากราคาแพง......ตอนนี้มันมาหมกรวมกันในห้องนี้!!!!



    ที่นี่มันที่ไหนกันแน่??



    ความคิดที่เทรวิสเริ่มใจหายวาบ น้ำลายเหนียวหนืด มันพิลึกเกินไปแล้ว กับห้องเกินจินตนาการของช่างมุงหลังคา



    ทั้งขนนกยูงทองที่ประดับบนกำแพงทางด้านซ้ายมือที่ดูสวยสมราคา ชุดเกราะเงินวาววับสะท้อนแสงแดดวูบวาบตั้งตระหง่านอยู่ข้างประตูสลักเสลาบานใหญ่  เบือนมาใกล้หน่อยก็จะมีโต๊ะงาคชสารเนื้อดี ที่งามจับจิต ถูกวางด้วยเครื่องราช และตราราชการต่างๆนานับชิ้น



    ทั้งนี้ยังไม่รวมไปถึงคอลเลคชั่นดาบ กับโล่ ที่ประดับอยู่ทางฝาผนังด้านขวานับสิบๆชิ้น ให้เจ้าตัวประหวั่นครั่นคร้าม มองดูแล้วยังอดใจสั่นไม่ได้



    พลันสายตาคู่เขียวกลับเบือนมาสะดุดกับบางอย่าง  บางอย่างที่ดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก



    ภาพสีน้ำมันในรูปของเด็กหนุ่ม ทรงเครื่องราชอิสริยาพรบ่งเค้าราชนิกุลเยี่ยงเจ้าชาย จมูกคมสันสวย รับกับรูปหน้า นัยน์ตาสีเขียวมรกตหยิ่งยโสโอหัง เหนือขึ้นไปนั้นคือคิ้วเข้มสีน้ำตาลงามดั่งบรรจงเขียน สีเดียวกับเรือนผมน้ำตาลประกายทอง ที่ยาวปรกหน้าลงมาบางส่วนอย่างดูดี  



    แม้ภาพที่เห็นจะบ่งบอกถึงฐานะเจ้าชายที่สูงศักดิ์ แต่กับทำให้ดูคุ้นอย่างประหลาด  



    เหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่ไม่แน่ใจ?



    เทรวิสพินิจภาพวาดบุคคลที่ตะขิดตะขวงใจไม่วางตา หัวคิ้วเข้มหนาสวยไม่ต่างจากภาพวาดขมวดเข้ากันเป็นปม แล้วก็ต้องยกมือขึ้นมาไล้คางอย่างเคยมือ เนื่องด้วยการใช้สมองอย่างหนัก



    ถอนสายตาต่ำมานิด.......



    คำตอบมันปรากฏในกระจกบานโต ให้หัวใจแทบหลุดจากขั้วมาดิ้นเร่าอยู่บนพื้น ตุบๆ ตุบๆ





    อ้าก!!!.......นั่นมันเรานี่หว่า



    ใบหน้าคมคายหล่อเหลาที่ระบายบนผืนผ้าใบที่เจ้าตัวยืนชมอยู่นั้นกับเหมือนเงาสะท้อนในกระจกอย่างกับแกะแงะพิมพ์เดียวกันออกมา มันไม่ต่างอะไรกับหลงละเมอเพ้อพกกับภาพตัวเองอยู่นานแสนนาน  แต่มันจะต่างก็ตรงยศศักดิ์ที่ค้ำคอ ระหว่างไพร่กับราชนิกุล



    สำรวจชัดๆในเรือนกระจก ภาพเด็กหนุ่มคนก่อนที่ติดมอมแมมเอาการถูกลบออกไปอย่างไม่หวนคืนมา สังเกตดีๆบางทีเหมือนมีอะไรเปลี่ยนแปลงในร่างกาย



    แปลกๆ?



    เฮ้ย! มันเปลี่ยนหลายอย่างเลย



    เส้นผมสีน้ำตาลประกายทองที่เคยระต้นคอค่อนไปทางยุ่งนิดๆ ตอนนี้กลับยาวลงมาปรกหน้าบางๆ เหมือนกับในรูปภาพเป๊ะ ปลายผมบิดเกลียวแบบผมหยักศกน้อยๆ ซึ่งยาวลงมาแทบจะระบ่า



    ผมของช้าน!!!!  ทำไม??? !!!



    เทรวิสแหกปากลั่น ทึ้งหนังศีรษะแบบไม่ปราณี ก็หากไม่ใช่ว่ามันจะยาวเองขึ้นมาในหนึ่งวันได้ทันใจขนาดนี้ เขาคงไม่ต้องมายืนทึ้งหัวตัวเองแบบที่เป็นอยู่นี่หรอก



    เฮ้ย.......แล้วเราสูงขนาดนี้ด้วยเหรอ?



    มองผมแล้วก็ดูส่วนสูง เพราะจากที่มองภาพในตัวเองในกระจกแล้ว ก็รู้สึกไม่ไว้ใจขึ้นมาว่าเขายังเป็นเทรวิสคนเดิมอีกหรือไม่  แต่ส่วนสูงที่ผิดสังเกตนั้นก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นมาเกือบครึ่งนิ้ว



    ผมยาวขึ้น?.......ส่วนสูงเพิ่มขึ้น?.........





    แล้วมันจะมีอะไรยาวขึ้นอีกมั้ย  หา!



    ความคิดที่เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิด ก่อนจะถอนหายใจยาว มองภาพตัวเองในกระจกที่ตอนนี้ไม่ใช่เทรวิสคนเดิมอีกแล้ว ถึงแม้รูปร่างหน้าตาหรือส่วนประกอบต่างๆก็ยังคงเป็นเขา แต่ชนชั้นและและรูปลักษณ์ภายนอกตอนนี้ ถ้าคิดจะประชันกับเจ้าชายเมืองอื่นละก็........ ชนะขาด



    สรุปก็มานั่งเพ่งมองตัวเองในกระจกแทน



    แต่มันจะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ถ้าไม่ใช่....



    นักเวทย์…..



    นักเวทย์ ที่เลื่องลือแห่งปราสาทฟรอนติโซ่......

      

    แค่คิดก็ใจหายวาบ ขนในกายลูกซู่ขึ้นอย่างระงับไม่ได้ เขาเข้ามาอยู่ในปราสาทสำคัญแห่งเคดาสงั้นหรือนี่



    การเดินไปเดินมาอย่างอยู่ไม่สุขนั้นเกิดขึ้นโดยทันที แต่แล้วนัยน์ตาคู่เขียวก็ได้เหลือบไปพบแสงแดดรำไรลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ปะทะแวบวาบกับม่านสีขาวนวลราวกับเกล็ดหิมะต้องแดด โบกสะบัดพัดลู่ลม ล้อแสงรุ่งยามเช้าตรู่ ดั่งมนต์สะกดให้กระหายดื่มด่ำภาพภาพนอก



    เทรวิสย่างกรายมาด้วยความขาดสติ ส่งมาถึงที่หมายด้วยความอิ่มเอมในดวงใจอย่างประหลาด  



    แล้วนัยน์ตาคู่เขียวก็ต้องเบิกโตเท่าไข่ห่าน ทัศนียภาพที่สวยงามถูกอบอวนไปด้วยไออุ่นแห่งธรรมชาติ  ไอหมอกหนาจับยอดภูเขาสูงเทียมฟ้า สะท้อนกับดวงอาทิตย์สีส้มอ่อน ไล้โลมปุยเมฆสีขาวแกมฟ้าอ่อน ให้อมเหลืองนวลอย่างนุ่มนวล  เบื้องล่างของผาตัด ณ ที่ตั้งนั้น ทักทอด้วยธารน้ำสายใหญ่ที่ทอดยาวไล่มาจากภูผาชันอันไกลโพ้น ประกอบกับกำแพงเมืองยาวเป็นสันคดเคี้ยวจนจรดชายแดนเหนือ  



    นัยน์ตาคู่เขียวมองเหม่อคล้อยซึมซับภาพทั้งมวล หวังเพียงหากตื่นจากนิทราเมื่อใดนี่แหละถือเป็นกำไรชีวิต กำไรชีวิตที่คนเยี่ยงไพร่ไม่มีวันได้สัมผัส



    ประกายนัยน์ตาคู่เขียวหยาดน้ำใสๆแห่งความสุข วาววับสะท้อนรับแสงทอง แต่แล้วเหล่านกที่บินล้อลมกันอยู่บนผืนฟ้า ก็ต้องแตกฮือกับ เสียงกึกก้องของจ้าวแห่งปักษา



    แบล็คฮอร์ค!



    อินทรียักษ์ดำ ล่อนถลาผงาดกลางเวหา กรีดร้องก้องนภา แหวกไอหมอกย่ำเช้า เคลื่อนขบวนนำพยุหยาตรา เหล่าพลทัพทางอากาศบนหลังนกยักษ์ โบกธงพยัคฆ์ สัญลักษณ์ประจำเมืองเคดาสปลิวไสว ทัพฟ้ากำลังยกเข้ามาประจำ ณ กำแพงเมืองหลังการออกศึกสมรภูมิรบทางเหนือ  



    ภาพที่ทำให้ขนในกายลุกซู่ หัวใจเต้นระริกกับมนต์ขลังแห่งทัพชัย ที่กรีธาทัพล่องเหนือจากสุดชายแดนสงครามปราบกบฏชนเถื่อนมาประจำที่ปราการ ยังความภาคภูมิที่กำลังก่อตัวภายในจิตใจอย่างสงบไม่ได้



    เลือดในกายกำลังรุ่มร้อนกับภาพทหารกล้าผู้นำกองพล ทรงเกราะเหล็กเงิน ถืออาวุธยุทโธปกรณ์หอกทวนครั่นคร้าม ชักบังเหืยนบนหลังอินทรีดำให้ร่อนดิ่งสู่ลานสนามกว้าง ตามด้วยเหล่าพาหนะนกยักษ์ของพลทหารร่อนลงตามมาเป็นขบวนด้วยเกียรติอันภาคภูมิ



    นัยน์ตาคู่เขียวฉายประกายวาววับตื่นตาตื่นใจ แต่มันเป็นสิ่งที่ยิ่งต้องเริ่มไหวตัวหาทางหนีทีไล่ ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เมื่อลางสังหรณ์บางอย่างมันผุดขึ้นในใจอย่างบอกไม่ถูก



    ลางสังหรณ์ว่า อีกไม่ช้ามันจะซวยหนัก



    ความคิดที่ทำให้เหงื่อเริ่มผุดพรายบนใบหน้าดูดี หัวใจชักโหวงเหวงสงบไม่อยู่ ก่อนจะขับไล่ความกลัวออกไป แล้วสายตาเริ่มแพรวพราว เตรียมหาทางเผ่นออกจากปราสาท กวาดมองดูทุกอณู จนกระทั่งรื้อข้าวของจำเป็นที่พอจะสามารถใช้หลบหนีออกไปได้ แล้วมือก็ปัดเข้ากับอะไรบางอย่างให้ร่วงหล่นพื้น





    โครม! เพล้ง





    “มีอะไรให้รับใช้เพคะกระหม่อม”



    เสียงสาวนางกำนัล ปราดเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางรีบร้อน ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าแม้แต่จะสบพระเนตรผู้เป็นนาย



    แต่คนได้ยินกลับสะดุ้งโหยง ผงะผึง เหงื่อแตกซิกๆ เอามือปาดแล้วปาดอีก ก่อนจะขยับปากยากเย็นเอ่ยอึกอัก



    “ผ ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจ”เทรวิสโบกไม้โบกมือสั่นๆ ชี้ไปที่แจกันใบน้อยที่แตกละเอียดยิบ  เท่านั้นเองสาวใช้ก็กรูเข้ามาเก็บกวาดทันที ก่อนจะถวายบังคมเอ่ยถามให้คนฟังอึ้งไปสนิทใจ



    “หม่อมชั้นจะจัดถวายพระกระยาหารมาให้เพคะ หากพระองค์ประสงค์”



    น้ำลายเริ่มฝืดคอ แล้วก็ต้องสำลักน้ำลายที่กลืนลงคออย่างยากเย็น กระแอมเบาๆกับศัพท์แสงชวนขนหัวลุก



    “โธ่ พี่สาว เบาๆ อย่าเอะอะไป ผมไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เลย ยังไงพี่ก็ช่วยผมออกจากที่นี่หน่อยได้มั้ย”



    นางกำนัลทำตามอย่างว่าง่าย เงียบไปสนิทใจ พลางเงยขึ้นสบดวงหน้าผู้เป็นนายด้วยสายตางุนงง  



    อาภรณ์สมบูรณ์พร้อม ผิดตรงพระเนตรสีเขียวมรกตคู่คม ที่ฉายประกายผิดแผกแตกต่างจากเดิมเพียงเล็กน้อย ถึงอากับกิริยาท่าทางจะดูประชวรทางสมองอยู่บ้าง แต่อย่างไรเค้าโคลงพระพักตร์กับเครื่องหน้าก็ยังคงรับรูปคมคาย สง่าหล่อเหลากว่าบุรุษใดในแคว้น



    ความคิดที่สาวนางกำนัลพินิจคำดำรัสประหลาด ก่อนจะกล่าวนบนอบ



    “ทรงเสด็จออกภายนอกพระราชวังในยามนี้ไม่ได้เพคะ เจ้าชายอุลริค เดรโก อัลเทรดาน”





    แค็กๆๆๆ



    สำลักน้ำลายครั้งใหญ่ อันนี้เหมือนกระดูกชิ้นโตขวางกลางลำคอ ดวงหน้าขาวๆขึ้นสีจัดไอน้ำหูน้ำตาเล็ด กับฐานันดรเจ้าชายชวนสยอง ที่พี่สาวคนนี้ดันไปยกให้ไพร่กลายเป็นเจ้าชายองค์สำคัญแห่งเคดาส



    “อะ เอ่อ มะไม่ใช่ฮะ  ผมเทรวิส  บุตรของ แธชเชอร์ บาเลอร์ฟอนช่างมุงหลังคาฮะ ไม่ใช่เจ้าชายที่พี่สาวว่า”คนมีศักดิ์เป็นเจ้าชายแย้งเสียงอึกอัก ประกาศนามให้พี่สาวได้รู้แจ้ง แต่นัยน์ตาหญิงสาวกลับฉายรอยฉงนจนหัวคิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนเอ่ยนอบน้อมทูลลา



    “หากเจ้าชายทรงพระประชวร หม่อมฉันจะตามหมอหลวงมารักษาพระอาการให้นะเพคะ”นางกำนัลถวายบังคมลาแล้วลุกจากไป



    คนเป็นเจ้าชายเกาหัวแกรก ชักรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวบอกไม่ถูก หัวใจเริ่มเต้นโครมๆ ที่อะไรบางอย่างเริ่มไม่ชอบมาพากล



    เจ้าชาย อุลริค เดรโก อัลเทรดาน รัชทายาทองค์สำคัญแห่งเคดาส ?



    +++++++++++++++
    10 สค. 48


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×