ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แผนการจรกรรมม้า
Chapter 3 แผนการจรกรรมม้า
ในคืนเดือนมืด บรรยากาศรอบด้านกลืนหายไปกับราตรีอันหนาวเย็น ท่ามกลางเสียงเฮฮาที่ดังแว่วมาเป็นระยะจากบาร์เบียร์ของพวกนักเลงสุรา ที่ยังคงเสพเหล้ายากันอย่างครึกครื้น
“เอาไงวะ เทรวิส?”
เด็กหนุ่มล่ำบึก ถองสะกิดเพื่อนข้างกาย ที่หลบอยู่ข้างกองถังเบียร์สูงท่วมหัว ใกล้ๆกับสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกอันธพาลต้นเรื่อง
“.........”
ความเงียบคือคำตอบ สิ่งที่เจ้าคนถูกถามเพียงสอดส่ายนัยน์ตาคู่เขียวกวาดจับรายละเอียดทุกซอกทุกมุม รวมไปถึงทางหนีทีไล่ หากเกิดเรื่องผิดพลาด
เรื่องผิดพลาดที่อาจเกิดจากการจรกรรมม้าคู่ใจ ที่ไอ้พวกนักเลงมันแห่มาเอาม้าตอนที่เขาไม่อยู่ แล้วเขาก็ยอมไม่ได้ด้วยสิ ในเมื่อมันเป็นม้าที่หามาด้วยฝีมือ ซึ่งมันก็เป็นของเขาโดยชอบธรรม
รอยยิ้มเหยียดบางบนริมฝีปาก ก่อนเหลือบสายตาไปมองเพื่อนร่างยักษ์ข้างๆที่กำลังหาวหวอดๆ ยกลำแขนล่ำๆขึ้นเท้าคางเก้อ ขยี้ผมสีเพลิงยุ่งๆหยิกๆให้ชี้ฟูทั้งหัว กับความง่วงงุนที่เข้าเล่นงาน แล้วครางเสียงใหญ่ๆในลำคอ
“แกจะไปบุกเมื่อไหร่ค่อยเรียกฉันล่ะกัน.....”ว่าแล้วก็หาวเข้าอีกรอบ “อากาศหนาวๆยังงี้ ฉันอยู่นานไม่ไหว แกจะทำไรรีบทำ ฉันเอาด้วยเต็มที่”
เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขายกมือใหญ่ๆมาตบลงบนบ่า ก่อนจะเริ่มหาที่เหมาะๆนั่งงีบ ให้คนมองต้องเบิกตากว้าง เอื้อมมือไปคว้าฉุดไว้แรงๆ แล้วว่าเสียงก่นด่าให้คนไม่รู้จักเวล่ำเวลาได้หัดสำนึกบ้างว่า ตอนนี้กำลังทำอะไร
“เฮ้ย! วิล ไอ้บ้า แกจะง่วงอะไรนักหนาวะ รอไอ้เทโรมันอีกนิด ก็จวนจะถึงเวลาชิงม้าแล้ว แกยังมีหน้ามานอนหลับได้ลงคอ”เทรวิสบ่นขรม “อีกอย่าง ขืนแกหลับเสียงกรนแกคงทำให้ไอ้พวกนั้นรู้ตัวพอดี แล้วก็คงแห่มาเป็นโขยงยึดทั้งบ้าน ยึดทั้งม้า เผลอๆมันจับฆ่าหมกป่าสิ้นเรื่องสิ้นราว คราวนี้แกก็เตรียมหลับยาวได้เลย”
คนถูกห้ามหายใจฮึดฮัด กระฟัดกระเฟียด ขยับร่างใหญ่ๆงุ่นง่าน กระตุกหัวคิ้วหนาที่มีรอยแผลแตกเป็นทาง พลางนึก
แล้วไอ้ที่มันด่าอยู่ปาวๆ มันคงคิดว่าเสียงมันเบามากเลยใช่มั้ย?
ไอ้เพื่อนประสาท....
วิลบ่นอุบอิบ สบถพึมพำ ก่อนจะเปิดบทสนทนาต่อ ก็ใครจะปล่อยให้มันด่าคนเดียว
“วะ มาด้วยแล้วยังมาบ่น เดี๋ยวปัดตบหัวทิ่มซะเลยนี่แก รู้ไว้ซะสำหรับคนอย่างข้า ช้าๆมันจะล้าจนไม่ทันกิน ทำเป็นแผนมาก ส่งไอ้เทโรไปสืบลู่ทาง เอาเข้าไปเหอะ คงหวังพึ่งมันได้หรอก กะอีแค่แกบุกๆไปเอาม้ามาซะ แล้วฉันก็จะได้อัดกะพวกมันซักยกสองยก ให้แบบว่าตื่นตัวแถมตื่นเต้นบ้างเล็กๆน้อยๆ แกก็ดันมาขวาง”
วิลว่าพลางชกกำปั้นไปที่มือเป็นระยะๆ ใบหน้าหนุ่มห้าวหาญของคนร่างยักษ์ กำลังขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ดูเหมือนการพูดถึงเรื่องต่อสู้หนุ่มคนนี้ก็ดูคึกคักหายง่วงขึ้นทันตา นัยน์ตาสีทองแดงคุขึ้นประกายระริก
เทรวิสเลิกคิ้วมองเจ้าเพื่อนตัวใหญ่กว่า แล้วส่ายหัว ก่อนจะด่าเข้าไปอีกระรอก
“บ้าน่ะ เข้าไปมีหวังคงล่มกันทั้งขบวน... แกใช้สมองหัดคิดบ้างสิว้า แบ่งๆสารอาหารเลี้ยงกล้ามเนื้อมาเลี้ยงสมองมั่ง เดี๋ยวมันจะฝ่อซะก่อน...” ว่าแล้วก็ชกเบาะๆไปที่แผงไหล่ แล้วแจงต่อ
“ไอ้พวกนักเลงนี่แกก็รู้ข่าวจากไอ้เทโรมันแล้วนี่หว่า ว่ามันเป็นพวกเดียวกับที่เราดวลดาบกับมันเมื่อปลายปีที่แล้ว ฝีมือมันถึงยังพอประมือได้ก็เถอะ แต่ถึงยังไงไอ้การบุกๆกับนักเลงทั้งเล้านี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ ส่งไอ้เทโรไปก่อนน่ะดีแล้ว แล้วอีกอย่าง.....”รอยยิ้มเหยียดบางขึ้นที่มุมปาก “ฉันไม่ได้จะมาเอาม้าคืนอย่างเดียว”
คำกล่าวทิ้งตัวลงสู่ความเงียบ ให้สายตาสองคู่หันมาจับจ้องกันอย่างรู้ถึงกึ๋น
นัยน์ตาคู่เขียวฉายแววเจ้าเล่ห์ ให้คนมองเริ่มแย้มรอยยิ้มอย่างเห็นว่าเจ้าเพื่อนแผนสูงนี่ มันกำลังมีไม้เด็ดจัดการพวกนักเลง ก่อนยกมือยีหัวน้ำตาลประกายทอง ที่เตี้ยกว่าตนประมาณสองนิ้ว แล้วก็ต้องอิจฉาหน้าตามันที่มันดันหล่อกว่า ทั้งๆที่มันเป็นญาติห่างๆข้างแม่ แต่เค้าโครงรูปร่างมันไม่ได้ใกล้เคียงกับเด็กหนุ่มล่ำสันคนนี้เลยซักนิด
“ยังไงฉันก็เอากะแกด้วยอยู่แล้วว่ะ เอาให้ไอ้พวกนั้นมันหงายเก๋งไปเลย”ว่าแล้ววิลก็เอนเอกเขนกลงมาพิงถังเบียร์ ยกดาบขึ้นสนิมมาเช็ดไปพลางๆ ให้เพื่อนอีกคนเอนตัวลงมานั่งข้างๆ แล้วหยิบดาบตัวเองขึ้นมามั่ง
ทันทีที่เทรวิสยกดาบขึ้นมาดู เจ้าเพื่อนร่างยักษ์ข้างๆถึงกับเบิกตากว้าง ขยับลำแขนล่ำๆไปคว้า แต่ก็ถูกเจ้าของดาบยกหนี
“เฮ้ย เทรวิส เอามาดู เร็วๆเข้า”เสียงใหญ่ๆเร่งริกๆ มือก็พยายามจะคว้า แต่เจ้าเพื่อนอีกคนกับชูหนี นึกสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนสนิท ก่อนจะถามด้วยเสียงขบขัน
“แกจะเอาไปทำไมวะ ทำอย่างกะเห็นดาบเอ็กคาริเบิล ของคิงอาเทอร์งั้นแหละ แต่เสียใจว่ะ ดาบนี่ฉันเพิ่งไปขุดเจอจากลังในบ้านมา ว่าจะยืมมาใช้ก่อน”ว่าแล้วก็พลิกหน้าพลิกหลังตัวดาบ ก่อนโยนโครมไปเข้าตักคนตัวใหญ่
นัยน์ตาสีทองแดงวาววับ กับดาบเก่าๆมีรอยฝุ่นจับติดอยู่ตรงด้ามเหมือนเพิ่งงัดออกมาจากกรุ ที่ด้ามมีร่องรอยของการใช้มาหลายชั่วคน แต่เรือนดาบกับไม่วาว และไม่มีรอยบิ่นอย่างที่มันควรจะเป็น
คมดาบมีความหนาไม่มาก อาจค่อนข้างหนักไปซะหน่อยสำหรับหุ่นเพรียวสูงอย่างเทรวิส แต่ถือว่าน้ำหนักนี่ออกจะเหมาะมือมากสำหรับนักรบ อีกอย่างดาบเล่มนี้ถือเป็นดาบดีเล่มหนึ่งทีเดียว......
ดีจนน่าใจหาย .
วิลมองอยู่นาน ก่อนจะเหลือบไปมองเทรวิส ที่เจ้าตัวนึกนิยมอยู่ถึงความฉลาด แล้วก็ความเก่งของมัน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้
ดาบ กับ ช่างมุงหลังคา?
พบดาบในบ้านช่างมุงหลังคา มันไม่น่าจะเข้ากันพอๆกับ พบม้าของคนขาด้วน เพราะยังไงถึงมีช่างมุงหลังคาก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้
“ทำหน้าอย่างงั้นหมายความว่าไงวะวิล ไม่ต้องมาสงสัยอะไรเลยนะเว้ย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีมันอาจจะเป็นดาบที่พ่อฉันเก็บได้ แล้วเอามาซ่อนไว้จนลืมไปแล้วก็ได้”เทรวิสว่า ก่อนเอื้อมมาหยิบดาบคืน แต่มือแข็งๆกับจับหมับเข้าที่ข้อมือ ก่อนยื่นด้ามดาบเข้ามาซะชิดลูกตาคนเป็นเจ้าของ แล้วว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แกหัดแหกตาดูซะมั่ง ดูซะมั่งว่ามันคือดาบอะไร?”
เทรวิสหรี่นัยน์ตาคู่เขียวเพ่งมอง อาศัยแสงสว่างที่เล็ดลอดจากบาร์เบียร์ข้างๆ ยกมือจับด้ามดาบก่อนจะเอานิ้วถูๆ ให้ฝุ่นจางลง...
อักขระมนต์ตราถูกจารึกอย่างประณีตอยู่ทุกอณูบนด้ามสีดำสนิท มันเรียงตัวสลักเล็กๆจนยากจะมองเห็น ประกอบกับรอยนิ้วมือที่จับเริ่มทำให้อักขระพวกนี้จางไป
หัวดาบมีตรามังกรดำที่เลือนรางแทบจะกลืนไปกับเนื้อด้าม อีกทั้งฝุ่นหนาที่อุดตามช่องว่างจนมองไม่ออกว่าส่วนไหนคือส่วนไหน ส่วนเรือนดาบนั้น เป็นเหล็กกล้าที่ดูมีพลังแต่พลิ้วไหวในเวลาเดียวกัน ความเรียวยาวเป็นส่วนที่โดดเด่นมาก แต่ใครจะสังเกตเห็นสิ่งพวกนี้ล่ะ ก็มันเก่าซะขนาดนี้ อีกทั้งมันก็งัดมาจากพื้นกระดานบ้านช่างมุงหลังคา
แล้วตอนนี้คนหาเรื่องยุ่ง ก็เริ่มใจไม่ดีซะแล้ว
“ดาบอะไรวะวิล..”น้ำเสียงสั่นๆจากคนเป็นเจ้าของ “บอกฉันมาสิว่ามันเป็นแค่ดาบธรรมดา....”
หัวสมองเริ่มแล่นวิ้งๆ เหงื่อในมือมันพาลจะซึมชื้น ตอนนี้ยังไม่นึกอยากเอาม้าคืนซักเท่าไหร่ เพราะว่ามันมีเรื่องน่าปวดกบาลกว่าอยู่ในมือนี่เอง
แล้วเจ้าตัวก็พลันนึกไปถึงพ่อ ดาบนี้เขาได้มาจากใต้แผ่นกระดานบ้านเมื่อวานซืน ตอนงัดหาสมบัติบ้าที่พ่อชอบซ่อนเอาไว้ เพื่อจะได้นำไปขายมาหาเงินประทังชีวิต ทั้งพ่อทั้งลูก เพราะหากลองเก็บไว้ก็คงอดตายคาบ้าน แล้วเขาก็ไปเจอของดีเข้าให้
ภายใต้เศษฟาง และเศษกระดาษผุๆ ก็มีสิ่งที่สะดุดตา ห่อผ้าสีดำที่พันรอบเรือนดาบ ถูกวางเหมือนจะบรรจงเก็บไว้เป็นอย่างดี หากแต่จอมปลวกที่เข้ามากัดกินนั้น ก็ทำให้เนื้อผ้าขาดวิ่น กระรุ่งกระริ่ง จนเผยถึงสิ่งที่ถูกปกปิดไว้ ให้ปรากฏแก่สายตาเขาในทันทีว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่นั้นมันคือดาบ ถึงจะมีฝุ่นหนา หรือเศษดินที่ปลวกเข้าไปอยู่จนแทบไม่เหลือสภาพ แต่ยังไงของอย่างนี้ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ
ดาบนี่ยังไงก็น่าจะเหมาะกับลูกชายมากกว่า
มือฉวยได้ก็ฉวยมาก่อน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้หยิบมาดูให้ถี่ถ้วนเท่าไหร่นัก เพราะเขาคิดว่ายังไงมันก็คงเป็นเพียงดาบธรรมดาที่มีไว้ป้องกันตัวเท่านั้น
แต่นี่......
นี่มันไม่ใช่ดาบธรรมดา..............
“เป็นไงละแก อึ้งไปเลยล่ะสิ.. ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันคือดาบอะไร แต่มันแปลกไปสักหน่อยว่ะเพื่อน”เพื่อนข้างๆทุบปักๆมาที่หลัง ทั้งๆที่มันยั้งมือแล้ว แต่แรงมันก็ทำให้คนโดนทุบสั่นคลอนไปทั้งตัว ต้องหันมาสบถใส่เจ้าเพื่อนแรงเยอะ ก่อนจะจมดิ่งสู่ความเงียบ
นัยน์ตาคู่เขียวยังฉายแววเครียดไม่เลิก ขณะที่เจ้าเพื่อนอีกคนกำลังดิ่งสู่ภวังค์ แล้วก็ต้องสะดุ้งตัวโหยงลุกพรวดพราดทั้งคนหลับคนตื่น เมื่อร่างบางๆเล็กๆมันโผล่ออกมาจากความมืด มานั่งหอบระรัวอยู่ตรงหน้า
เจ้าคนตัวใหญ่ ยกมือลูบอกแล้วลูบอกอีก ก่อนว่าเข้าให้ “ไอ้บ้า! โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง เดี๋ยวปัดจับสั่งสอนอีกคน”
นัยน์ตาสีฟ้าใสฉายประกายระริก แต่แรงหอบของมันยังให้ร่างๆทั่งร่างไหวขึ้นลงอย่างนึกสงสารไอ้ร่างบางๆนี่ ที่ดูเจ้าคนเป็นเจ้าของร่างจะใช้งานเกินคุ้ม ผมสั้นๆเกรียนๆเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ น้ำใสๆผุดพรายขึ้นตามดวงหน้า แต่มันยังยิ้มไม่เลิก ที่เห็นท่าทางเจ้าเพื่อนสองคน ทำท่ายังกับเห็นผี
“ฮ่ะๆๆ ใจปลาซิวเชียวนะพวกแกสองคนนี่”มันยังพยายามพูด ทั้งๆที่มันยังหอบสูดหายใจเข้าปอดไม่ทันเต็ม “ฉันไปเหนื่อยแทบตาย แกดันมานอนเอกเขนกอยู่ตรงนี้มันใช้ได้ที่ไหนวะ”
“เฮ้ย! ไอ้เทโร แกอย่ามาพาลสิวะ แกก็ทำหน้าที่แก ส่วนฉันก็ทำหน้าที่ฉัน มันคนละส่วนนะโว้ย”วิลว่าบ้าง นึกโมโหไอ้เปี๊ยกตรงหน้าที่มาถึงก็ปากดีเลย
มวยรุ่นเฮฟวีเวทปะทะฟลายเวทกำลังจะเริ่มขึ้น แต่รุ่นมิดเดิลเวทที่ไม่ได้ลงกับมากลายเป็นกรรมการห้ามมวย แล้วก็ตัดสินใจปรับแพ้มันทั้งคู่นี่แหละ
“พอซะทีเถอะน่า พวกแกนี่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้ ศัตรูอยู่ตรงหน้านี่แล้ว ยังจะมากัดกันเองอีก เดี๋ยวก็ได้จบเห่กันพอดี”เทรวิสตัดบท ให้ทั้งสองคนสงบปากสงบคำ แล้วจึงตบไปที่ไหล่บางๆของเจ้าเพื่อนมาใหม่
“เทโร...ขอบใจว่ะ แต่แกมาคราวหน้าคราวหลังก็ให้มันเหมือนคนหน่อยสิวะ เล่นงี้บ่อยๆได้หัวใจวาย หรือไม่แกก็อาจตายไม่รู้ตัว กับไอ้ลูกถีบยั้งไม่ทันของไอ้วิลมัน”
“โอเคๆ”เทโรตบปากรับคำอย่างเสียมิได้ “เอาล่ะๆ ฉันมีข่าวมาบอก ที่แกให้ไปสืบมาน่ะ”คำกล่าวเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง นัยน์ตาฟ้าใสฉายประกายรอบรู้ ก่อนกวักมือเรียกให้เข้ามารวมหัวกัน แล้วหยิบเศษไม้ข้างๆขึ้นมาวาดบนดินทราย
“ที่นี่ คือที่ๆเราอยู่”ว่าแล้วก็เอาหินมาวางไว้ ก่อนจะลากเส้นยาวๆ “คอกม้าของพวกมันทั้งแก้งอยู่ข้างๆกับแม่น้ำฝั่งเดียวกับเรา ปกติจะมีม้าเจ็ดถึงแปดตัว แต่ตอนนี้มันคงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง ก็คือเจ้าเดนนี่ม้าแก... แต่มันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรสำหรับการปล่อยม้า ถ้าหากมันไม่มีแม่น้ำเส้นนี้กั้นไว้”คำกล่าวพร้อมลากเส้นหนักๆ ก่อนแจงต่อ
“ถ้าหากเราปล่อยม้าออกไป เส้นทางที่ผ่านอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือบาร์เบียร์ที่สิงสถิตพวกมัน แล้วอีกอย่างมันก็คงรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วเราคงหนีออกมาไม่ทัน..”ว่าแล้วก็หักเศษกิ่งไม้ทิ้ง “สรุปว่าแผนนี้ใช้ไม่ได้”
สรุปจบเทโรก็หันไปมองคนวางแผนที่กำลังครุ่นคิด พินิจดูแผนที่ที่เจ้าตัวไปสำรวจช่องทางมา ก่อนเอ่ยถาม
“มีแผนสำรองมั้ยเทรวิส?”
คนถูกถามยักไหล่ ก่อนนัยน์ตาคู่เขียวจะพราวระริก ขยับแย้มรอยยิ้ม ยักคิ้วเข้ม แล้วเสยผมยุ่งๆสีน้ำตาลประกายทอง ให้วิลที่นั่งข้างๆนึกขำไอ้มาดบ้าๆ ที่ปกติไว้ใช้กับสาว แต่ตอนนี้มันดันมาใช้กับเพื่อน เลยต้องยกมือตบหัวยุ่งๆของมันไปสักผัวะ
“วะ แกนี่ หัวคนนะเฟ้ย ไม่ใช่หัวหมา รอแป้ปไม่ได้หรือไง คนกำลังใช้ความคิด”เทรวิสบ่นขรม ครางครืดคราดในลำคอ แต่เป็นคำตอบที่ทำให้เจ้าเพื่อนเบิกตากว้าง
นี่มันยังคิดไม่ออกแต่มาดมากไปยังงั้นเอง?
“ไอ้ประสาท ฉันละคิดว่าแกนึกออกแล้ว”วิลทำท่าจะตบอีกรอบ ให้คนจะโดนต้องทำเสียงจึ๊กจักในลำคอ ก่อนเผยอรอยยิ้มขึ้นมุมปาก อย่างวางภูมิ
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง แกทำตามที่ฉันบอกไปก็แล้วกัน”น้ำเสียงที่เด็ดขาด บอกได้อย่างเดียวว่าแผนการตอนนี้มันอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว
“คราวนี้ จะเอาให้มันหัวปั่นกันไปทั้งก้ง จนน้ำตานองหน้า เลิกซ่าไปเป็นคนๆเลย”
+++++++++++++++++++++++++
เฮ้ย! กลิ่นไรว่ะ
นักเลงร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ในบาร์เบียร์ทำจมูกฟุดฟิด ขณะที่คนอื่นๆเริ่มเมาหย่ำเปหัวทิ่มหัวตำกันเป็นรายๆ
แล้วควันบางๆ ก็ลอยฟุ้งขาวเข้ามาสุมในพื้นที่ที่ชุกคน ก่อนจะมีเสียงตะโกนร้องลั่น
ไฟไหม้ๆๆ
เท่านั้นเองไอ้พวกที่เมาอยู่ก็สร่างขึ้นมาทันที มองเลิกลั่ก ทำอะไรไม่ถูก ควันโขมงโฉงเฉงคลุ้งเพดานด้านใน ขณะที่หน้าต่างกลับถูกปิดปึงๆ ทีละบาน ให้รู้สึกใจหายใจคว่ำ แล้วโหวกเหวกร้องกันแทบไม่เป็นภาษา
“เฮ้ยใครบังอาจรุกเข้ามาในถิ่นข้าวะ รู้มั้ยว่าที่นี่มันเป็นของใคร”บุรุษร่างใหญ่โต หยิบตะบองหนามอาวุธประจำกายข้างตัว ก่อนฟาดไปที่โต๊ะให้หักครืน
นักเลงทั้งหลายกำลังทุบประตูออกปังๆ แต่มันกับถูกล็อกไว้ข้างนอก ให้ต่างคนต่างกุลีกุจอหาทางเอาตัวรอด สร่างเมากันเป็นแถบๆ แต่ไม่รู้เลยว่าไอ้คนข้างนอกนั่น มันกำลังยิ้มระรื่น
+++++++++++++
“กวาดมันมาให้หมดนั้นแหละ ไม่ต้องพิรี้พิไรให้มากนัก”
เสียงจากเด็กหนุ่มนามเทรวิส ที่กำลังเก็บเงินลงถุง พร้อมกับของมีค่า ที่ไอ้พวกนักเลงแก้งนี้มันซ่อนไว้ในโรงเลี้ยงม้า ที่เทโรแอบมาสืบจนรู้ที่เก็บลับของพวกมันจนได้
“เทรวิส! เงินพวกนี้เดี๋ยวฉันเก็บเอง แกไปต้อนม้าออกมาก่อนเหอะว่ะ จูงมาเผื่อฉันซักตัวด้วย เอาตัวเล็กๆหน่อยนะเว้ย”เทโรสั่งกำชับ ขณะนัยน์ตาสีฟ้าใสกำลังวาววับกับเงินทองตรงหน้า
แล้วเจ้าตัวก็ปล่อยให้เพื่อนเจ้ากรรมขลุกอยู่กับกองเงินกองทอง แล้วผละจากมาถึงโรงม้า จนพบกับม้าคู่ใจ ก่อนจะปลดเชือกที่ผูกเจ้าเดนนี่ไว้ แต่มันกับมีท่าทีตื่นตระหนก ทำให้เทรวิสต้องยกมือลูบเข้าที่แผงอก
“ชู่ว... นิ่งไว้ๆ ฉันเอง..”เทรวิสกระซิบเข้าไปที่หูของม้าคู่ใจ ที่มันเริ่มสงบลง ก่อนจะเดินไปแก้เชือกที่ผูกม้าหลายตัวออกให้หมด แล้วตบสะโพก ให้วิ่งหนีไปทีละตัว จนเหลือตัวสุดท้าย......แล้วก็พึ่งนึกถึงคำสั่งเจ้าเพื่อนตัวดีได้
เอามาตัวเล็กๆหน่อยนะเว้ย............
เอื้อก!
ม้าตัวสุดท้าย......
ม้าดำตัวพ่วงพีตัวใหญ่ยักษ์ ใหญ่กว่าเจ้าเดนนี่เกือบเป็นพ่อมันได้เลยเชียว ขนสีดำเป็นมันวาวกับกล้ามเนื้อพอกพูนที่มีอยู่ตามสะโพกไล่มาจนลำตัว กำลังหายใจฟืดฟาด ดูไม่น่าจะขี่ได้ง่ายๆ สำหรับใครก็ตามที่ไม่ใช่เจ้าของ
ไอ้อย่างนี้ เทโรมันคงตกม้าตาย แล้วโดนกระทืบซ้ำ
ความคิดที่เจ้าตัวเลือกที่จะค่อยๆย่องเข้าไปปลดเชือก ก่อนตัดสินใจขับไล่ม้าตัวสุดท้ายออกไป แต่มันกับพยศขึ้นส่งเสียงดังลั่น ให้ต้องรีบหนีให้พ้นเขตอันตราย แล้วฝีเท้าม้ายักษ์ก็กระทบพื้นกุบกับ ก่อนจะตะบึงหนีหายไป
+++++++++++++++++++
“เฮ้ยเสียงม้า”
นักเลงหูดีร้องขึ้น เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้า แต่ดูมันจะกลืนหายไปกับความวุ่นวายภายในที่กำลังวิ่งวุ่นหาทางออกจากบาร์นี่
“เฮ้ยเปิดประตูสิวะ!” ต่างคนต่างทุบปังๆไปที่ประตู ข้างในดูโกลาหลกันขนาด สำลักควันไอแค็กๆ น้ำหูน้ำตาเล็ด
พับๆๆ
เสียงโบกแผ่นสังกะสีพัดควันจากกองไฟสุมฟาง ไล่ให้เข้าไปในตัวร้าน ให้ดูเหมือนว่าไฟไหม้ ก่อนจะยกมือบอกให้เด็กหนุ่มอ่อนกว่าประมาณปีนึงที่เขาเรียกมาช่วยสองคน ให้สาดกองทรายดับมันซะ
“พอก่อน แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว ขอบใจมากว่ะ ที่มาช่วยกัน เดี๋ยววันหลังฉันจะไปเรียกพวกนายสองคนอีกแล้วกัน”วิลกล่าวกับไอ้หนุ่มสองคนที่ยิ้มรับก่อนเดินจากไป
นัยน์ตาสีทองแดงประกายยิ้มๆสุขจัดสมใจ ก่อนหันไปโบกมือให้เจ้าของบาร์ที่สมรู้ร่วมคิดด้วยออกมาจากที่ซ่อน แล้วกล่าวขอบคุณ แต่ชายวัยกลางคนอ้วนท้วนกลับไม่ขอรับคำขอบคุณนี้
“ถ้าข้าไม่ได้พวกเอ็ง ข้าคงไม่รู้จะไล่ไอ้พวกนี้มันออกไปได้ยังไง มันมาล้างมาผลาญร้านข้าทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์กินแล้วก็ชักดาบมันทุกที เห็นทีข้าต้องขอบคุณพวกเอ็งที่จับมันสั่งสอนได้บ้าง ถึงค่าเสียหายครั้งนี้มันจะมากซักหน่อยก็เถอะ....”
ชายคนเป็นเจ้าของร้าน ร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ส่ายหัวแบบนึกปลงตก แต่แบบนี้แหละที่น่าจะได้ผล โดยเฉพาะพวกนักเลงพวกนี้มันคงนึกไม่ถึงด้วยว่า เจ้าของจะลงทุนปิดร้านรมควัน ร่วมกับเจ้าหนุ่มอายุน้อย จัดการอันธพาลเจ้าถิ่นพวกนี้ได้
“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดการให้”เด็กหนุ่มกล่าวแข็งขัน ยกมือใหญ่ๆทุบปักไปที่กล้ามเนื้ออก
“รับรองได้เงินคืนแน่ ถ้าพวกผมอีกด้านมันจะอยู่รอดปลอดภัย”
++++++++++++++++++++++
16 สค. 48
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น