ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : การประลองครั้งแรก
Chapter 10 การประลองครั้งแรก
ลานฝึกฝนขนาดกลาง กำลังถูกทำลายความเงียบ พื้นทรายกำลังฟุ้งตลบตามฝีเท้าของผู้ทดสอบฝีมือ
อ่อนให้?
ความคิดเดียวที่ผุดขึ้นในสมอง ขณะกำชับดาบหนักแน่น ในระหว่างจดๆจ้องๆคู่ต่อสู้
นายราสนี่ น่าจะมีฝีมือมากกว่านี้?
การคาดเดาจากฝีไม้ลายมือของ ราส ไอรอน สหายอัศวินแห่งเคดาส บุคคลที่ทำให้เทรวิสต้องกระโจนลงไปเอี่ยวเข้าเต็มๆในศึกท้าประลองของเจ้าชายจอมหาเรื่อง
การปะทะเพิ่งจะเริ่มต้นได้เพียงไม่นาน และผลต่อสู้ก็ดูว่าเทรวิสจะเป็นฝ่ายได้เปรียบซะส่วนใหญ่
ได้เปรียบกะผีน่ะสิ หากมันจะเอาจริง
ผลที่ทำให้เกิดข้อกังขาในใจ ว่าคนอย่างเขาที่เรียนรู้เรื่องการใช้ดาบแบบงูๆปลาๆ ลักไก่จำเค้ามาบ้าง แอบไปฝึกกับเค้าบ้าง จะมีปัญญาถึงขนาดสู้กับอัศวินของเคดาสได้เชียวหรือ
มันไม่เอาจริงแล้วมันจะมาท้าทำไมวะ?
ความรู้สึกหงุดหงิดก่อตัวขึ้นยิบๆ ขมวดคิ้วเครียดไม่สบอารมณ์นักกับการกระทำของเจ้านี่ที่เหมือนจะดูถูกเขาเกินไป แน่ล่ะไม่ใช่ว่าเขาพอใจที่จะได้ประลอง แต่ไอ้การที่ได้ประลองแต่คู่ต่อสู้ไม่เอาจริงนี่มัน.......
มันหยามน้ำหน้ากันชัดๆ
“นายจะเล่นเกมเด็กอมมือแบบนี้ไปอีกนานมั้ย ราส”เทรวิสเอ่ยถาม พร้อมกับลดดาบลง สีหน้าเจ้าตัวชักเริ่มกรุ่น ซึ่งก็ทำให้นัยน์ตาสีน้ำเงินฉายประกายยิ้มๆ ก่อนหัวเราะหึๆ
“แล้วแต่ท่านจะทรงโปรดแล้วกัน เจ้าชาย”รอยยิ้มปรากฏชัด แววเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าที่ติดจะเป็นคนเจ้าสำราญจัด ผิวขาวๆ ประกอบกับหน้าคมสัน และร่างอันสมาร์ท สมส่วนนี้เองที่ ทำให้เขามีดีกรีแรงในหมู่สาวๆ ถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้หล่อเหลาอะไรมากมายก็ตาม
บัดนี้เทรวิสรู้สึกอยากจะฉะกับคนตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่มันดันเล่นลิ้นไม่เลิก ทั้งที่มันต้องมีฝีมือที่ไม่ได้งัดมาใช้อีกเป็นกระบุง
ก็ไอ้พวกอันธพาลหน้าโง่พวกนั้นมันไร้ฝีมือเกินไป การที่จะได้ประลองกับอัศวินของเคดาสนี่มันก็น่าจะพิสูจน์ดูซักตั้ง อย่างน้อย เรื่องอายุมันก็ได้ห่างไกลกันนัก แต่เห็นจะเสียเปรียบก็เพียงการฝึกฝน
เพียงการฝึกฝนงูๆปลาๆของเทรวิส ที่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ดูดีขึ้นสักนิด
“หึๆ ท่านทำหน้ายังงั้น คงว่าเกมนี่คงปัญญาอ่อนไปสินะ สำหรับเจ้าชายอุลริค”ราสยิ้มระรื่น ก่อนจะพยักหน้าเนิบๆ พลางหรี่สายตาคู่เข้มลงมองบุคคลที่เป็นทั้งสหายและเจ้าชาย แล้วดีดนิ้ว
“หม่อมฉันคงเดาว่า ท่านอยากจะยกระดับความรุนแรงขึ้นอีก”
คำคาดเดาที่พอจบประโยคได้ไม่นาน ข้อมือแกร่งของคนพูดก็ตวัดดาบเล่มใหญ่ขึ้นในทันที ก่อนจะพุ่งเข้าสู่เป้าหมายโดยไม่ทันตั้งตัว
เคร้ง !!
ดาบเล่มโตถูกสะบัดขึ้นมารับได้ทันท่วงที รอยยิ้มกระตุกบนมุมปากของผู้ที่ไม่ทันระวังตัว ก่อนจะสะบัดเรือนดาบให้หลุดจากการปะทะ แล้วตวัดเข้าทางช่องว่างด้วยความไวและหนักหน่วง หากแต่กลับไม่สัมฤทธิ์ผล
ท่วงท่าที่บอกเค้าของแบบแผนการฝึกแบบอัศวินนั้นปัดป้องทุกการเคลื่อนไหว แม้ว่าเทรวิสเองจะมีความสามารถทางด้านดาบอยู่พอตัว ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงระยะประชิดได้สักครั้ง หากแต่เป็นเขาเองที่กำลังจะถูกรุกหนัก
สายตาคู่คมสีน้ำเงินนั้นเหมือนกับหรี่ลง ด้วยความสงสัยบางๆตลอดระยะเวลาที่ได้เผชิญหน้ากับเจ้าชายผู้เป็นสหาย ซึ่งเห็นได้ชัดจากนิสัยที่ดูแปลกไป และที่ชัดที่สุดเห็นจะเป็นฝีดาบของท่วงท่าที่นำมาใช้ในการประลองครั้งนี้......
มันไม่ได้มีรูปแบบเอาซะเลย
วิถีไร้ทิศทาง แต่ควบคุมได้ รวดเร็ว แต่ไร้พลัง
ไปเรียนวิชาที่ไหนมา ถึงได้ห่วยลง
ความคิดที่ยิ่งทำให้หัวคิ้วของผู้เป็นอัศวินขมวดมุ่น ผิดจากมาดเดิมๆไปถนัด นึกสงสัยหนักว่าเจ้าชายกินยาผิดหม้อมาหรือเปล่า
รึว่า แกล้งอ่อนให้ เหมือนที่เขาทำ?
ยิ่งคิดก็เริ่มลงดาบหนักขึ้น ด้วยการคาดเดาที่ดูจะเข้าเค้าที่สุด แต่มันกลับทำให้การปะทะกันยิ่งแย่หนัก
เทรวิสก้มตัวลงหลบเรือนดาบที่กวัดแกว่งผ่านตัดปลายผมบางส่วนอย่างเฉียดฉิว ก่อนจะต้องกลิ้งตัวลงหลบหลีกแรงดาบที่ฟาดฟันลงมา ราวกับมั่นใจนักหนาว่าเขาจะไม่ตาย
เฮ้ย! ตายเป็นเหมือนกันนะเว้ยเฮ้ย
เทรวิสก่นด่าในใจ มันเป็นการปะทะที่ทารุณที่สุดเท่าที่จะเคยพานพบมา.....นายราสนี่เห็นจะคิดว่าเขาคงจะงัดไม้เด็ดออกมาไม่ช้า เลยยิ่งเร่งให้สู้เสียจริงๆ ทั้งๆที่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะงัดแล้ว ถ้าจะให้งัดเขาก็คงต้องไปงัดฝาโลงได้อย่างเดียว
เรือนดาบหนาเข้าฟาดฟัน ก่อนที่เทรวิสจะตั้งขึ้นมารับจนเกิดเสียงเคร้งคร้าง ต้านทานกำลังกันไว้ชั่วขณะหนึ่ง
ทันใดนั้นเอง สิ่งแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น!!!
หัวใจที่สูบฉีดเลือดกลับสั่นระรัวเร็วยิ่งกว่าครั้งใด ความเจ็บปวดรวดร้าวค่อยๆทวีขึ้นจากหัวใจที่เสียดแปลบขึ้นมาราวกับจะระเบิดออกจากอก..... ลมหายใจที่เคยไหลเวียนกลับจุกอยู่ในลำคอ
ความร้อนในเส้นเลือดกำลังเดือดพุ่งพล่าน
แรงกดดันอันมหาศาลกำลังอัดแน่นอยู่ในอก
ความรู้สึกเพียงเสี้ยววินาทีที่ราวกับร่างทั้งร่างกำลังแยกออกจากกัน มันรวดดุจสายฟ้าที่ผ่าลงในชั่วพริบตา!
ดาบในมือราสผละออกจากการปะทะเมื่อเริ่มเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง หากแต่มันเร็วจนเขาเองกลับไม่คิดอะไร
ข้อมือหนาเกร็งขึ้นตวัดดาบเพื่อพิชิตคู่ต่อสู่อีกครั้ง ก่อนจะลงน้ำหนักอย่างเต็มแรง หากมันกลับเป็นเสี้ยวนาทีที่ทำให้หัวใจเด็กหนุ่มอัศวินกระตุกวูบ
ร่างที่ควรจะยืนรับดาบกลับทรุดลงได้วินาทีนั้นเอง !
ดวงตาคู่น้ำเงินเบิกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เพราะเขาไม่สามารถหยุดดาบได้ในเวลานี้!
“รับดาบ!!!”น้ำเสียงเร่งขึ้นด้วยแววตระหนก เขาเองยังไม่ถึงขั้นหยุดวิถีดาบที่ใส่แรงลงมาสุดแรงได้!!!
ร่างทั้งร่างที่ไร้ความรู้สึกของเทรวิสนั้นดูเหมือนจะชาไปทั่วทุกรูขุมขน ความเจ็บปวดเริ่มคลายลงๆ จนเขารู้สึกได้ถึงไออุ่นๆที่ไหลเวียนอยู่ในร่าง หากแต่มีเพียงความมืดเท่านั้นที่สติของเทรวิสได้สัมผัส
มโนจิตใจกำลังดิ่งลงสู่วังวน ห้วงความคิดกำลังถูกดูดกลืนโดยกาลเวลา
อันตราย!
นัยน์ตาคู่เขียวเบิกโพลงขึ้น แล้วทันใดเสียงสุดท้ายของราสก็ได้เข้าสู่โสตประสาทการรับรู้ของเทรวิส ราวกับภาพฉายซ้ำ
เคร้ง!
ดาบปะทะดาบ สัญชาติญาณบางอย่างที่ว่องไวเฉียบคมบอกให้เขายกดาบขึ้นมารับได้ในระยะที่สามารถปลิดชีพได้อีกเพียงเสี้ยวนาที
นัยน์ตาคู่เขียวฉายแววแข็งกร้าว เพ่งสบกับดวงตาคู่น้ำเงินที่บอกเค้าว่าอยากจะหยุดเรื่องคอขาดบาดตายไว้ตรงนี้ หากแต่ท่าทีของคนเป็นเจ้าชายกลับเปลี่ยนไป
จิตสังหารของคู่ต่อสู้!!
ข้อมือขาวของเทรวิสเกร็งแน่นต้านกำลังดาบใหญ่ของราสให้เอนลงด้วยแรงที่บัดนี้กลับน้อยกว่า และกำลังจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
กึกๆ
ดาบในมือเทรวิสเริ่มสั่นตัวอย่างประหลาด ก่อนจะปริร้าวทั่วเรือนดาบ แล้ว.....
เคร้ง!!!!
ดาบเล่มใหญ่หักออกจากกันเป็นสามท่อนร่วงลงสู่พื้น พร้อมกับดาบของราสที่กำลังรับแรงต้านอย่างสุดกำลัง
เหตุการณ์ที่เรียกความงุนงงอย่างถึงที่สุดกับอัศวินหนุ่มผู้กำลังจะเสียที แต่คนที่งงมากกว่าเห็นจะเป็นเทรวิสที่ดูเหมือนสติจะกลับมาพร้อมๆกับเสียงดาบที่แตกลงไป
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?
เทรวิสปล่อยด้ามดาบในมือที่มีเศษใบมีดติดอยู่ให้ลงเสียบในพื้นทรายของลานต่อสู้ ก่อนจะยกมือขึ้นจบหน้าอกตัวเองที่ยังรู้สึกหมือนมีไออุ่นๆอัดแน่นอยู่ พลางเหลือบมองคู่ต่อสู้ที่ทำสีหน้าขบคิดหนัก
ราสก้มลงสำรวจเศษดาบทั้งสองด้าม พร้อมกับยกขึ้นให้คนทำหักได้ดูให้เต็มตา ก่อนบ่นแกมขำขัน
“เป็นเจ้าชายต้องรู้จักรักษาของบ้างนะท่าน ยังดีที่ดาบหม่อมฉันยังไม่ใช่ดาบพระราชทาน ไม่อย่างนั้นท่านคงต้องยกดาบดีๆซักเล่มของท่าน มาแทนดาบที่หักสามสี่ท่อนนี่”
สีหน้าคนเสียดายดาบกลับแปรเป็นยิ้มระรื่นได้อย่างเคย ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากมาย
“นายไม่สงสัย?”เทรวิสเอ่ยถาม ทั้งที่เขางงจะตายแต่คนตรงหน้านี่กับดูเหมือนเป็นเรื่องพิเศษเล็กๆน้อยๆ
“สงสัยสิท่าน”คำตอบที่ขัดจากการแสดงออกยิ่งนัก ว่าแล้วก็หันหลังเดินจากไปโดยทิ้งคนสงสัยไว้เบื้องหลัง...
แต่แล้วราสก็หยุดฝีเท้าลง แล้วหันกลับมากล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงนิ่ง ให้คนฟังยิ่งทวีความสงสัยหนัก
“สงสัยว่าทำไมท่านถึงมีเรื่องให้ประหลาดใจทุกครั้งที่เราได้ประมือกัน”
++++++++++++++++++++++++++++
ทุกครั้งที่ประมือ?
นายราสนี่พูดเหมือนกับว่าเคยประลองกับเขามาหลายครั้งแล้วอย่างงั้น?
หรือว่าเจ้าชายอุลริคก็เป็นแบบเดียวกัน
ความคิดที่ตีกันวุ่นในสมองน้อยๆของเทรวิส หน้าใสๆขมวดกันยุ่งจนเกือบจะกลายเป็นปม
แล้วสิ่งนี้มันคืออะไรกัน?
เทรวิสยกมือสัมผัสไปบนอก พลางชายตามามองเศษเสี้ยววีรกรรมดาบหักที่ได้ก่อเอาไว้บนพื้นทราย แต่ในทันใดเขาก็ต้องหลุดจากห้วงความคิด.....
เสียงเปรยขึ้นจากราชองครักษ์ ที่เทรวิสไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่นี้จับจ้องมายังเขาตั้งแต่เริ่มการประลอง
“หัวไว เอาตัวรอด ไม่ยอมใคร คงเป็นนิสัยเพื่ออยู่รอดในวงการนักเลงของเจ้าสินะ”เซอร์ชาลมานกล่าวเรียบๆ ใบหน้ากร้านแกร่งยังคงสงบ หากแต่คนได้ยินก็ยังตกใจไม่น้อย กับการมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“ท่าน?”เทรวิสหลุดปากด้วยความตกใจ “ท่านเห็น?”
ผู้สูงวัยกว่าพยักหน้ารับ ก่อนว่า “ข้ามาตั้งแต่รู้ว่าเจ้า ไปรับปากประลองสุ่มสี่สุ่มห้า” สายตาอันเย็นเยียบตวัดมามองเสี้ยวหน้าคนปฏิเสธไม่เป็น
“ฝีมือเจ้า.....”
ถ้อยคำนิ่งเงียบไปของผู้สูงวัยกว่า ให้เทรวิสตั้งใจฟังอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ได้เรื่อง!!”
แล้วคนฟังก็ต้องปล่อยพรืด กับคำห้วนหนักที่กล่าวอย่างไม่สนใจเจ้าหนุ่มตรงหน้าซักนิด
เทรวิสเบ้หน้ารับ แต่เขาเข้าใจดี เพราะเขาเองก็คิดเช่นนั้น หากแต่ทำไมเซอร์ชาลมานถึงไม่มีท่าทีติดใจกับอะไรประหลาดๆที่ทำให้เขารอดตัวมาอย่างหวุดหวิดนี่ได้ล่ะ
“ท่านเห็นทุกอย่าง แต่ท่านยังไม่เข้ามาห้าม?”เทรวิสว่าแบบอารมณ์กรุ่นๆ
“ข้าคงไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งหากท่านจะเสนอตัวเข้าไปเสี่ยงเอง ท่านเจ้าชาย”ถ้อยคำเย็นชากล่าวตอบ
ก่อนผู้เป็นราชองครักษ์จะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แปลกหู “แล้วข้าก็ได้เห็น........เห็นมากกว่าที่ข้าอยากเห็น”
“ท่านสงสัย? หรือท่านรู้สิ่งนี้อยู่แล้ว แต่เพียงที่จะพิสูจน์มัน?”เทรวิสว่า ใบหน้าคมคายฉายรอยเครียด ถ้อยคำถามที่ทำให้เซอร์ชาลมานเหยียดรอยยิ้ม
“จะว่าข้าพิสูจน์ก็ได้ เพราะข้าเริ่มสงสัยบางอย่างในตัวเจ้ามาก่อนหน้านี้ แล้วสิ่งนี้มันก็บอกคำตอบให้ข้ารู้ว่า อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ได้มีแค่เค้าโครงหน้าที่เหมือนกับเจ้าชายอุลริค”
ประโยคที่ทำให้คนได้รับคำตอบอึ้งไปสนิทใจ เหงื่อในกายเย็นเฉียบอย่างสงบไม่อยู่ มันน่าสงสัยตั้งแต่ว่าทำไมเขาถึงไปมีหน้าตาใกล้เคียงกับเจ้าชายสับปะรังเคนั่น
แต่บางครั้งคนเราก็อาจเหมือนกันได้ นี่คงเป็นความบังเอิญที่เทรวิสไม่ได้เก็บมาใส่กบาลให้หนักหัว
แต่มันหนักหัวตรงเรื่องพลังบ้าเกิดขึ้น... มันยิ่งทำให้เรื่องมันชักจะโยงเข้าใกล้กันทุกที
หรือว่า.......เขากับเจ้าชายจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันมากกว่า คำว่ารัชทายาท กับสามัญชน
+++++++++++++++++++++++
เทรวิสกลับมาขลุกตัวอยู่ในห้องบรรทมอีกครั้ง หากแต่บัดนี้ทั้งแม่นมและราชองครักษ์กำลังจะเว้นที่ว่างให้เขาได้ปรับสภาพเพื่อใช้ชีวิตที่นี่ไปอีกสักพัก แน่นอนว่าเรื่องการประลองดาบวันนี้ก็เล่นเอาโดนเอ็ดจนหูชา ปวดหูไปสามวันเจ็ดวัน
แล้วนี่จะไม่คิดจะให้ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นบ้างเลยรึไงวะ!
เสียงสบถงุ่นง่าน ยกมือยีหัวสีน้ำตาลทองจนยุ่ง อย่างเคยมือ
อะไรๆก็ให้อยู่ในห้องๆ........ เซ็ง
แม้ความคิดนี้จะเป็นการคิดในช่วงเวลาที่ปาเข้าไปจวนพลบค่ำแล้ว แต่เรื่องแปลกใหม่ที่เขาได้รับวันนี้มันทำให้เขาอยากออกไปหาข้อมูลมาเสริมสร้างรอยหยักในสมองให้ฉลาดขึ้นมาบ้าง
อย่างไรก็ต้องหาลู่ทาง ภายในปราสาทนี่ไว้ก่อน
รู้ไว้มีชัยไปกว่าครึ่ง
เทรวิสยกมือไล้คางเบาๆอย่างใช้ความคิด....
แต่คิดทีไรก็ต้องวกเข้าไปไพล่ด่าถึงเจ้าชายบ้าที่ทำให้ชีวิตของเขามันพัวพันยุ่งเหยิงกับวงในของราชวังที่เขาไม่เคยคิดที่จะแหยมเข้ามายุ่งเกี่ยว
แม้กระทั่งการคัดเลือกอัศวินเขายังไม่เคยเสนอหน้าไปร่วมการคัดเลือกซักครั้ง
เป็นเพราะเจ้าชายบ้านั้นองค์เดียว ที่ต้องมาวุ่นกันหัวปั่น!
บทสรุปสุดท้ายที่ให้คนคิดต้องกราบทูลด่าองค์รัชทายาทไม่ได้เรื่องในใจซักกระบุงโกย ขุดมาล้างกันตั้งแต่โค-รตเหง้าศักราช อย่างไม่เกรงพระอาญา
เอาวะ เรื่องอย่างนี้มันต้องสืบ สืบกันให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย
ความคิดที่เจ้าตัวดีดนิ้วเปาะ นัยน์ตาคู่เขียวพราวระยับ
“เวลาสองยาม น่าจะเหมาะ”
+++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น