โนเกีย 5500 เทรนด์ใหม่ คุณภาพใหม่

เนื้อเรื่อง

โนเกีย 5500 เทรนด์ใหม่ คุณภาพใหม่

นานมากแล้วที่ไม่ได้เกิดความรู้สึกทำนองว่า "ใช่เลย" กับโทรศัพท์มือถือเครื่องไหน เพิ่งจะมี โนเกีย 5500 ตัวนี้แหละที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่านี้ ทั้งๆ ที่ปราดแรกที่เห็น โนเกีย 5500 ไม่ได้สร้างความประทับใจ แบบว่า อู้ฮู โอ้โฮ เลยก็ตาม

รูปร่างหน้าตาของ โนเกีย 5500 ไม่ได้ดึงดูดใจมากมายนัก ติดจะย้อนยุคไปหน่อยๆ ด้วยซ้ำ ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเป็นสมาร์ทโฟน ในซีรีส์ 60 แต่พอเริ่มแตะเนื้อต้องตัว สัมผัสเอวคอดกิ่วของมันนั่นแหละถึงเริ่มรู้สึกได้ถึงความพิเศษของมัน เริ่มจากเคสที่เป็นสแตนเลส สตีล ตกแต่งด้วยวัสดุยางพิเศษที่ใช้กันมากในอุตสาหกรรมรองเท้ากีฬาชั้นนำ ไม่ได้เอามาตกแต่งให้สวยนะ แต่เพื่อความทนทาน กันน้ำ กระชับมือ ให้ความรู้สึกแกร่ง ทนไม้ทนมือดีชะมัด แม้ว่าจะสวนทางกับเทรนด์ "บ๊าง-บาง" ของมือถือระยะหลังก็ตาม (ซึ่งมีบางคนไม่ยักชอบ)

โนเกีย วางโพซิชั่นของมือถือตัวนี้ไว้เป็นกลุ่มใหม่ เรียกมันเป็น "สปอร์ต โฟน" ก็ไม่รู้ว่าต้องการจะแตกเซกต์เมนต์ใหม่หรือว่าจะสร้างเทรนด์ใหม่ให้กับโทรศัพท์มือถือกันแน่ รู้แต่ว่า ในอนาคตอันใกล้นี่ยังมองไม่เห็นว่าจะมีเจ้าไหนขยับไล่เข้ามาใกล้ได้เลย

ความเป็นสปอร์ต โฟน ไม่ได้อยู่ที่ความทนทาน กันน้ำ กันเหงื่ออย่างเดียว แต่ 5500 มีแอพพลิเคชั่นที่จะใช้ประโยชน์ในการออกกำลังกายมาให้อยู่ด้วย แล้วก็ไม่ได้มีแบบง่ายๆ แค่การจับเวลาเท่านั้น หากยังสามารถใช้นับก้าว วัดระยะทาง วัดจังหวะการเต้นของหัวใจได้อีกต่างหาก ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในโหมดที่เรียกว่า "สปอร์ต โหมด" ซึ่งเป็นแค่ 1 ใน 3 โหมดหลักของ 5500 นอกเหนือจากโหมดการใช้งานเป็นโทรศัพท์ธรรมดา และโหมดการใช้งานเป็นดนตรีได้อีกด้วย

ทั้ง 3 โหมดสามารถสลับเปลี่ยนได้ง่ายๆ จากปุ่มด้านข้างขวา ซึ่งทำให้ง่ายสำหรับการใช้งานในยามออกกำลังกาย ไฟแบคไลท์นอกจากจะเปลี่ยนสีไปตามโหมดการใช้งานแล้ว (ขาว-โทรศัพท์, แดง-สปอร์ต, เขียว-มิวสิค) ยังแสดงแค่คีย์ที่ต้องใช้งานในแต่ละโหมดอีกด้วย ที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ ข้างๆ ปุ่มเปิดปิดเครื่องด้านบน มีหลอดแอลอีดีอยู่ นั่นไม่ใช่หลอดกะพริบเพื่อบอกสถานะการทำงานนะ แต่เป็นไฟฉาย ไฟฉายที่ใช้งานได้จริงๆ (สว่างขนาดหาของหายในรถเก๋งตอนกลางคืนได้สบายๆ)

โนเกีย 5500 ไม่ได้บอกตัวเองว่าเป็น มิวสิค โฟน แต่หลังจากทดลองใช้งานโหมดนี้แล้วก็ต้องบอกว่าไม่น้อยหน้ามิวสิคโฟนรายไหนเด็ดขาด ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายมากๆ

ทีเด็ดอีกอย่างของ 5500 ก็คือเทคโนโลยี "เท็กซ์-ทู-สปีช" ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนข้อความให้เป็นเสียงพูด ทำงานได้ดีกับเอสเอ็มเอส ประโยชน์ของมันคือ ถ้าเรากำลังออกกำลังกายแล้วบังเอิญมีเมสเสจเข้ามา แค่กดปุ่มเดียวมันก็จะอ่านข้อความดังกล่าวให้ฟัง โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องหยุดวิ่งหรือละจากสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนั้นเลย

เรื่องโหมดโทรศัพท์นั้นไม่ต้องพูดถึง 5500 ทำได้ดีตามมาตรฐานของโนเกีย แล้วก็เป็นไตรแบนด์เหมือนกับมือถือแทบทุกตัวในระยะหลัง แถมมีกล้อง 2 ล้านพิกเซลมาให้อีกด้วย

ข้อด้อยที่ต้องติงไว้หน่อย เพราะอาจสำคัญสำหรับบางคนก็คือหน้าจอขนาดเล็กของมัน (3 x 3) ทำให้การใช้งานลำบาก (สำหรับคนที่ปัญหาสายตา) หรือแม้แต่คนที่กำลังออกกำลังกายก็ดูจะลำบากอยู่สักหน่อย แต่จริงๆ แล้วเมนู กริดของ 5500 ก็ปรับเข้ากับขนาดของจอได้ดีทีเดียว

หมดจากเรื่องขนาดจอกับขนาดของฟอนต์ที่ใช้แล้วก็ไม่มีอะไรให้ติแล้วล่ะ ทางโนเกียบอกว่าจะเปิดตัวในราคาราวหมื่นต้นๆ ซึ่งถือว่าน่าสนใจเหมือนกัน

แลกกับมือถือที่ขอยกให้เป็น เอส 60 ที่เล็กที่สุด แต่ดีที่สุดเครื่องนี้...คุ้มน่า