NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FanFic The Eminence In Shadow] ชีวิตนี้ขอแค่ได้เด่นแล้วก็เป็นเทพในเงามืด

    ลำดับตอนที่ #2 : SS.0 Chapter.2 พี่สาวโดนลักพาตัว!!! (1/2)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 66


    ...หลังจากก่อตั้งอุทยานเงาขึ้นมา ก็ผ่านมาแล้ว 3 ปี...
    ...ตัวของซิดกับอัลฟ่าอายุได้ 13 ปีแล้ว ส่วนพี่สาวแคลร์ก็เป็น 15 ปี...
    ...ชนชั้นสูงนั้นทุกคนอายุ 15 ก็ต้องไปเรียนในเมืองหลวง...


    ...ตัวพี่ก็เลยต้องออกเดินทางในวันพรุ่งนี้แต่—!!!...


    ...ปรากฏว่าตัวพี่สาวถูกใครบางคนลักพาตัวไป...


    ...จึงทำให้คฤหาสน์ตระกูลคาเกโน่วุ่นวายเป็นอย่างมาก...


    "แอบเข้ามาตอนกลางคืนลักพาตัวแคลร์ไปได้... ผู้ร้ายมันเป็นมืออาชีพ"คนที่พูดอยู่นี่คือบารอนตระกูลคาเกโน่พ่อของซิดและแคลร์ หรือป๋านั่นเอง(ขอเรียกคำว่าพ่อแล้วกันนะมันง่ายดี)
    "เป็นมืออาชีพแล้วไงล่ะ—?"คนต่อมาจะเป็นใครไม่ได้คนในตระกูลคาเกโน่อันนี้มะม๊า (เหมือนกันขอเรียกคำว่าแม่แล้วกัน มันง่ายดีเวลาพิมพ์)


    "ก็เลยช่วยไม่ได้... หรือก็คือฉันที่อยู่ห้องข้างๆไม่รู้ตัว ก็ ไม่ผิดสักหน่อย"


    'เออ ยังมีเวลาเก๊กหล่อนะครับคุณพ่อ'ซิดรู้ว่าชะตากรรมต่อไปของคุณพ่อว่าจะโดนอะไร


    "ไอ้หัวล้าน—!!! เก๊กท่าแก้ตัวอยู่ได้"


    "แอ๊ก—!!!"


    ...ตามนั้นโดนคุณแม่อัดเป็นที่เรียบร้อย...


    "ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับความหวังของตระกูลจะทำยังไงห่ะ ถึงจะมีซิด แต่ลูกคนนี้ไม่อยากสืบทอดตระกูลจึงต้องให้เป็นหน้าที่ของแคลร์ เพราะฉะนั้น"


    ...คุณแม่ได้อัดคุณพ่อไปเรื่อยๆ...


    "คุณพ่อคุณแม่ครับ เดี๋ยวผมออกตามหาพี่แคลร์เอง"


    "ไม่ได้นะจ๊ะมันอันตราย ถึงแม้จะรู้ว่าลูกแข็งแกร่งแต่ความแข็งแกร่งของลูกไม่เท่ากับแคลร์ที่โดนลักพาตัวไปมันจึงเป็นไปได้ว่าลูกอาจจะโดนจับตัวไปอีกคน"


    คุณแม่หลังจากอัดพ่อหนักใจแล้วก็เอ่ยพูดขึ้นกับซิดที่ขอตัวไปตามหาแคลร์เอง


    "ผมไม่อยากอยู่เฉยๆนี่นา ผมเป็นห่วงพี่... ถ้าแม่ไม่อนุญาตแต่ผมก็จะไปอยู่ดี"


    "... เข้าใจแล้ว ไปเถอะ เดี๋ยวแม่จะให้คนทางตระกูลตามหาอีกแรง ลูกเองก็ระวังตัวด้วยนะ"


    ซิดที่รู้ว่าแม่อนุญาตให้ไปแล้วก็ได้ทำหน้าดีใจขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่ประตูหน้าคฤหาสน์ทันทีพร้อมที่จะตามหาแคลร์


    "... สองพี่น้องคู่นี้รักกันดีจัง ดูทรงแล้ว...อาจจะเป็นความรักต้องห้ามแน่นอนเลย... ช่างมันเถอะ ตัวเราก็ไม่สามารถขัดอะไรพวกเขาได้อยู่แล้ว เขาต้องเลือกเส้นทางด้วยตัวเอง ตามสบายเลยซิดแม่เปิดทางให้เลย"
    .
    .
    .
    ซิดลงไปถึงหน้าคฤหาสน์ แต่เขาเป็นคนหู(ผี)ดีอยู่แล้วจึงทำให้ได้ยิน ว่าคุณแม่ของเขาพูดว่าอะไร

    "น่าอายเหมือนกันแฮะ"


    ซิดวิ่งเข้าไปในป่าแล้วกระโดดตามต้นไม้ไปเรื่อยๆระหว่างนั้นก็ได้มีเงาบางอย่างพุ่งเข้ามาหาซิด


    "มาแล้วรึ เบต้า"


    "ค่ะ"


    "แล้วทุกๆคนล่ะ—?"


    "กำลังค้นหาร่องรอยท่านแคลร์อยู่ ที่เราค้นพบตอนนี้คือคนร้ายเป็นพวกลัทธิเดียโบลอส และเป็นระดับบริหารงานไม่ผิดแน่ค่ะ"


    "โหว··· ผมเข้าใจแล้ว แคลร์คงเป็นสายเลือดวีรชนสิน่ะ"


    "สมแล้วที่เป็นท่านชาโดว์ เข้าใจทุกอย่างจริงๆ"


    "นั่นก็ชมเกินไป เธอคงพบแผนที่มาสินะ"


    เบต้าที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้กางแผนที่ขึ้นมา จึงทำให้ทั้งสองคนหยุดเคลื่อนที่ชั่วคราวแล้วดูบนแผนที่


    "จากนำเอกสารหลายๆอย่างมารวมกัน มีตำแหน่งต่างๆที่ต้องสงสัยว่าเป็นรังลับศัตรูอยู่"


    'ลืมเลยฮะ เธอคนนี้สมาชิกอุทยานเงาคนที่สามเบต้า อัลฟ่าได้ตามหาสมาชิกทั้งเจ็ดคนครบแล้ว อนาคตอาจจะเพิ่มมากกว่านี้ แต่ผู้บริหารหลักๆมีเจ็ดคนไม่รวมขอไปด้วย หรือก็คือพวกเธอคือเจ็ดเงาของชาโด้การ์เด้น การพวกเธอที่ใส่ชุดสไลม์สูท แล้วมองพวกเธอไปก็ดีต่อใจเหมือนกัน มันเป็นอาหารตาชั้นดีเลยล่ะ เพราะมันรัดแน่นจนเห็นทรวดทรงเอวสะโพกหรือแม้กระทั่งคับหน้าอก การออกแบบดีต่อใจ ซิดเป็นอย่างมาก และทุกคนทำงานดีเป็นอย่างมากด้วยรวบรวมข้อมูลของลัทธิมาได้เยอะแยะเลยล่ะ จึงทำให้รู้หลายๆอย่างที่ในต้นฉบับซิดไม่ได้อ่านจริงจังเดาส่งๆ ทำให้ซิดคนนี้แตกต่างจากจักรวาลหลักเป็นอย่างมาก เพราะเขารู้ตำแหน่ง ที่หลบซ่อน หรือแม้กระทั่งเหยื่อคนต่อไป ทำให้เขาหาวิธีสร้างเวทมนต์ต่างๆขึ้นมาเต็มไปหมด รวมถึง สร้างเวทย์มนต์ติดต่อระยะไกลขึ้นมาอีกด้วย เวทอันนี้ติดต่อได้มากสุดไกลสุด 2000 เมตร ติดต่อได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง แต่ยังไงก็ตามถ้าคนใช้มีพลังเวทย์มากพอมันสามารถอยู่ได้นานมาก สำหรับเขาแล้วสามารถใช้ได้ 24 ชั่วโมงเลยล่ะหรือไม่ก็ เป็นเดือนก็ยังได้ เอาล่ะเข้าเรื่องต่อละกันนะ เหมือนว่าทางนั้นอธิบายเสร็จแล้วด้วย'

    "รายละเอียดเข้ามีเท่านี้แหละค่ะ"


    "นั่นหรอ ผมสงสัยตรงนี้ไม่สิ ตรงนั้นเลยพี่สาวผมอยู่ตรงนั้น"


    ซิดได้เอามีดที่ทำด้วยสไลม์แล้วปาเข้าไปจุดแผนที่นั้นทันที


    ...มันปามั่วๆเหมือนต้นฉบับเป๊ะๆเลยจ้าา...


    "รังลับทางเหนือเป็นของปลอม ของจริงทางใต้"


    "เอ๋? แต่ว่าตรงนั้นไม่มีอะไรเลย... ไม่สิหรือว่า—! เทียบจากเอาเอกสาร มีรังลับทางใต้ซ่อนอยู่จริงๆด้วย—! พินิจเอกสารมากมายขนาดนี้ในพริบตา แถมพิเคราะห์ตำแหน่งรังลับออกมาได้ทันที—!!"


    "สมแล้วที่เป็นท่านชาโดว์"


    "คิๆ ผมจะมุ่งหน้าไปก่อนและเป็นตัวตนนามว่าซิด สถานะที่จะไปช่วยพี่สาว ส่วนพวกเธอก็ไปจัดการพวกลูกน้องมันด้วยสถานะอุทยานเงา—!!! จริงสิเราจะบุกกันตอนค่ำนะ"


    ซิดพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับลูบหัวเบต้าไปด้วย


    "ค่ะเข้าใจแล้วค่ะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเองอุทยานเงา(๑╹◡╹๑)"


    เบต้าได้กระโดดหายไปคงน่าจะไปรายงานอัลฟ่าละมั้ง?
    .
    .
    ×รังลับทางใต้ที่พูดถึง×


    "—แคลร์ คาเกโน่ รู้สึกไงมั้ง วันนี้มีเรื่องอยากฟังจากแกหลายอย่าง"


    หัวหน้าตัวประกอบเกรดA พูดขึ้นด้วยสีหน้าเข้มขลึง

    "อาร่าๆ... หน้าตานาย— เคยเห็นที่เมืองหลวงมาก่อน รู้สึกว่าไวเคานต์โอลบาสินะ? เคยเห็นใน เทศกาลเทพสงคราม(เทศกาลบุชิน) ที่โดนเจ้าหญิงไอริสยำซะเละไง ไวเคานต์โอลบา ที่ตกรอบแรกของการแข่งขัน"


    ตึง—!!!


    หัวหน้าตัวประกอบเกรดA หรือ ไวเคานต์โอลบา ได้ถีบเข้าหน้าแคลร์ แต่ทางแคลร์ก็โยกหัวหลบทัน

    "ความไวในการหลบเมื่อกี้... ถ้าจะไม่ได้มีดีแค่พลังเวทย์เยอะนี่"


    "ได้น้องชายสอนว่าพลังเวทย์ไม่ได้ขึ้นกับจำนวนแต่เป็นวิธีใช้"


    "น้องชาย—?"


    "ใช่ เจ้าเด็กที่มีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะฉัน"แคลร์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม(เอาจริงๆถ้าพี่ซิดมันเอาจริงชนะได้สบาย)


    "เวลาสู้กันฉันชนะตลอดถึงล่าสุดจะเสมอก็ตาม และฉันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากดาบของน้องชายเสมอ แต่เด็กนั่นกลับไล่ตามฉันทันภายในไม่กี่วันหลังจากจับดาบ คงเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวงไม่รู้สิ เพราะอย่างนั้นฉันเลยชอบแกล้งทุกวันด้วยกันถีบตกแม่น้ำ ถึงช่วงนี้เด็กนั่นสามารถหลบได้ก็ตาม แล้วอยากฟังเรื่องอะไรล่ะ? รีบๆว่ามาแล้วปล่อยกลับบ้านสิ"


    "แคลร์ คาเกโน่... ช่วงหลังนี้ มีความผิดปกติกับร่างกายบ้างหรือเปล่า? อย่างใช้พลังเวทย์ลำบาก หรือ ควบคุมพลังเวทย์ผิดพลาด ร่างกายเกิดจุดเน่าดำขึ้น... อะไรพวกนั้น"


    "หา? จะเล่นเป็นหมอหรือไงกัน? นั่นสินะ... ปีก่อนก็มีเรื่องทำนองนั้นอยู่ แต่วันนึงน้องชายบอกให้ยืดร่างกายตั้งแต่นั้นก็สบายขึ้นจนหายดี"


    "งี้นี่เอง... อยู่ๆก็คือมีอาการ แปลว่ามีความเข้ากันได้ไม่ผิดแน่"
    "...ความเข้ากันได้?"


    "แกไม่จำเป็นต้องรู้หรอก แบบนี้จับน้องชายมาสอบสวนด้วยดีกว่า— – ·"


    เกร็ง–!!! วืบ–!!! ปัก–!!!


    แคลร์นั้นได้ฟิวส์ขาดแล้วได้กระชากเนื้อออกมาแล้วต่อยเข้าหน้าไวเคานต์โอลบาอย่างจัง หลังจากรู้ว่าทางนั้นจะจับน้องชายอย่างซิดมาสืบสวน


    ""หากเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายฉัน ไม่ยกโทษให้แกแน่!!!""


    "ฉีดกระชากเนื้อออกมาเลยรึ—!?"


    ไวเคานต์โอลบาได้ตกใจการกระทำของแคลร์บ้าบิ่นเป็นอย่างมาก


    ""ถ้าแกทำอะไรกลับเด็กคนนั้น จะฆ่าล้างครอบครัวของแกให้หมดสิ้น—!!!""


    ปัก–!!


    "อึก"


    ไวเคานต์โอลบาได้ต่อยกลางท้องแคลร์ จึงเกิดให้แคลร์โคตรจุกและกระอักเลือด แล้วสลบไปเลย?


    "ชิ ยัยเด็กนี่ เอาเถอะ ค่อยตรวจสอบเรื่องนี้–"


    ไวเคานต์โอลบาไม่ทันได้สนทนาต่อก็มีเสียงคัดขึ้นมาก่อน


    "ท่านโอลบา แย่แล้วมีผู้บุกรุกที่ห้องโถง"


    อัศวินคนนั้นได้วิ่งมารายงานด้วยสีหน้าตื่นตระหนก


    "...งั้นหรอเดี๋ยวฉันออกไป"


    ไวเคานต์โอลบาได้ตกใจกับคำพูดของอัศวินคนนั้น
    อัศวินตนนั้นได้วิ่งไปห้องโถงกลับไปต่อสู้


    ไวเคานต์โอลบากำลังจะตามอัศวินนั้นไปแต่ลางสังหรณ์ของเขาให้เอี้ยวตัวหลบไปทางซ้าย และเขาก็ทำตามลางสังหรณ์นั้น

    ควับ–!!!


    ใบดาบได้เฉี่ยวหน้าของไวเคานต์โอลบา เอาซะทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมากกับความเร็วนั้น เร็วกว่าแคลร์ที่โจมตีเขาและหลบเขามากไม่รู้กี่เท่า


    "ชิย์ หลบได้งั้นรึ บังอาจ ยกโทษให้ไม่ได้... ลุงมาทำร้ายของๆคนอื่น ไม่กลัวเจ้าของจะแค้นบ้างเลยหรอ!!! แล้วครั้งต่อไปจะไม่พลาดแน่นอน"


    ซิดได้ปรากฏตัวขึ้นในรูปลักษณ์น้องชายของแคลร์ พร้อมกับทำสีหน้าเสียดายนิดหน่อยที่ฟันไม่โดน แต่รอบหน้าไม่แน่

    "... คงเป็นน้องชายของแคลร์สิน่ะ จากที่พี่สาวของเธอเล่ามาดูเหมือนว่าเธอจะแตกต่างจากที่เล่ามานะ แล้วเธอคงเป็นคนที่บุกรุกที่นี่สินะ"


    ไวเคานต์โอลบาได้พูดขึ้นด้วยสีหน้าเข้มขลึง ตัวของเขาเองพร้อมจะพุ่งมาโจมตีได้ทุกเมื่อ


    "หา? พูดเรื่องอะไรอ่ะลุง? ผมแอบเข้ามาที่นี่ไม่มีใครรู้หรอก? น่าจะเป็นคนที่ผมเดินผ่านก่อนหน้านี้ ชื่ออะไรนะ กลุ่ม อุทยานเงาละมั้ง?"


    "หา ไม่ใช่แก แต่เป็นกลุ่ม อุทยานเงา? ช่างมันเถอะเดี๋ยวค่อยไปดูเองแล้วกันแต่ถ้าจัดการแกก่อน ถึงจะมีข้อสงสัยที่แกสามารถแอบเข้ามาได้ไงก็ตาม... "


    ไวเคานต์โอลบาได้พุ่งเข้ามาโจมตีซิดแต่

    ฉัวะๆๆ—!!!


    ไวเคานต์โอลบาได้โดนฟันเข้าหน้าอกจังๆเป็นสามทางยาว


    "เปล่าประโยชน์หน้าตอนนี้ผมกำลังขึ้นสุดๆเลยล่ะ บังอาจทำของๆผมไม่ให้อภัยหรอก ต้องตายสถานเดียว—!!!"


    ไวเคานต์โอลบา ดูๆไปแล้วเขาอาจจะเสียเปรียบก็เลยจะใช้ยา เพราะเด็กตรงหน้าเร็วเกินไปเขาตามไม่ทัน

    ฉัวะๆ—!!! ตึกๆ—!!!


    ไวเคานต์โอลบากำลังที่จะเอายาใต้เสื้อคลุมมากินเพื่อเสริมร่างกายตัวเองให้แข็งแรงขึ้น ซิดที่ไหวตัวทันถึงได้ตัดแขนทั้งสองข้างไวเคานต์โอลบาแล้วนำยามาถือเล่น


    "ไม่รู้ว่าอันนี้คืออะไรแต่คงเป็นอันตรายแน่นอนสำหรับผม เพราะฉะนั้น"


    ไวเคานต์โอลบากำลังช็อคกับแขนสองข้างของเขาโดนตัดทิ้งไปอย่างง่ายดายแถม ยาของเขาก็โดนชิงไปอีกด้วย เขาแพ้เด็กตรงหน้าอย่างราบคาบ ส่วนทางซิดได้เอายานั้นมาขยี้บนพื้นเล่น ยานั้นเป็นแค่ของปลอมที่เขาจัดฉากขึ้นมา เพราะจะเอายาของจริงไปทดลองวิจัยดู แล้วเขาก็ไม่ปล่อยให้ศัตรูจะทำอะไรต่อก็เลยตัดหัวทิ้ง ตุบ!!!ไวเคานต์โอลบาได้หัวหลุดออกจากบนบ่าในชั่วพริบตา


    ซิดเดินไปหาร่างพี่สาวที่สลบอยู่แล้วอุ้มขึ้นมาเป็นท่าเจ้าสาว ซิดที่กำลังจะออกจากพื้นที่นี้ก็เอ่ยขึ้นว่า


    "แกล้งสลบไม่เนียนไปเรียนมาใหม่นะครับพี่แคลร์"


    "...ตะ ตั้งแต่เมื่อไหร่?"


    แคลร์แกล้งสลบมาสักพักแล้วพอรู้ว่าซิดรู้ตัวก็เลยถามขึ้นอย่างร้อนรน


    "รู้ตั้งแต่เจ้าอะไรนะ ไวเคานต์โอลบา ต่อยพี่แล้วสลบไป แต่ผมเชื่อว่าคนอย่างพี่อึดทนอยู่แล้ว ไอ้การโดนแค่นั้นแล้วสลบไปก็ไม่ใช่พี่แล้วล่ะ"


    "อาร่าๆ รู้ดีจังน้าาาา แล้ว พูดจริงหยอที่พี่เป็นของซิดอ่ะ"แคลร์จิ้มแก้มซิด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ

    "หืม? ก็จริงสิ คิๆ พี่เป็นของๆผม ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ตามนั้น"


    ซิดยอมรับอย่างว่าง่าย เอาซะแคลร์ ต้องเป็นคนเขินแทน

    แคลร์ได้เอะใจว่าทำไม ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์?เลยถามซิดต่อ แล้วคำตอบที่แคลร์ได้ เอาซะทำให้เจ้าตัวเขินอีกรอบแล้วไปต่อไม่เป็นเลยทีนี้


    "เพราะพี่ยังไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากับผม เลยนิ?"


    ซิดได้กระซิบข้างๆหูแคลร์

    "...o///o..."


    "คิๆ ตอนพี่เขินก็แอบน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย>:D"


    "โธ่~~~ ไม่พูดด้วยแล้ว(>.<)"


    "หึๆ แต่ถ้าอยากเป็นของผมจริงๆล่ะก็ 'คืนนี้ห้องของผมว่างน่ะ' 0:3"


    ซิดพูดด้วยติดตลกแต่ประโยคท้ายๆกระซิบข้างๆหู


    "...>///<... อื้อ"


    แต่เหมือนแคลร์ตอบรับด้วย–!!!


    "โอ๋ ตกลงด้วยสินะ งั้นเดี๋ยวผมรักษาแผลเบื้องต้นให้ละกัน"ซิดพูดจบก็ได้มีละอองได้รักษาแคลร์

    ทำให้แคลร์แปลกใจเอาเรื่องอยู่

    .
    .
    .


    แล้วหลังจากนั้นทั้งสองคนก็ถึงบ้าน(คฤหาสน์)ของตัวเองเรียบร้อย




    ++++++
    มีคำผิดที่ไม่ได้แก้ทีมั้ง?
    ตอนหน้าาาาา (2/2 Nc18+) งับ
    ไปล่ะ ปล่อยให้หย่าและจากกันไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×