ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอหมอกเหนือสมุทร : ป๋อจ้าน

    ลำดับตอนที่ #9 : ละอองไอที่ 9 ความลับที่ไม่ใช่ความลับ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 64


    ไอหมอกเหนือสมุทร

    ละอองไอที่ 9 : ความลับที่ไม่ใช่ความลับ

     

    ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน ทำให้เจ้าของห้องต้องเงยหน้ามองอย่างไม่พอใจ ทว่าเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ทำพฤติกรรมหยาบคายสีหน้าพลันเปลี่ยนทันที

    รุ่งอรุณสาวเท้าเข้าหาโต๊ะทำงานตรงหน้าด้วยอารมณ์คุกรุ่น หลังจากขบคิดมาทั้งคืน ต้นตอของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอาจเป็นคนใกล้ตัวเขาเองก็เป็นได้

    ปัง!

    รุ่งอรุณตบมือลงบนโต๊ะดังลั่น “พวกคุณกำลังทำบ้าอะไรกันอยู่!”

    “...” ไร้เสียงตอบรับจากชายตรงหน้า ดร.สุรชิตทำแค่เพียงวางปากกาลง ประสานมือสองข้างเอาไว้บนตัก มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันไม่เคยสอนให้แก่ไร้มารยาทแบบนี้นะ อุ่น”

    รุ่งอรุณไม่สนใจสายตาตำหนิที่มองมา เขายังคงต้องการคำตอบของคำถามก่อนหน้า “ไอหมอกเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมต้องทำร้ายเขา”

    ดร.สุรชิตถอนหายใจทิ้ง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก ถ้าจะมาพูดเรื่องนี้ กลับไปซะ ฉันไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น”

    การโต้ตอบของคนทั้งคู่ ฟังดูใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ห่างเหินเย็นชา

    รุ่งอรุณกัดฟันกรอดมองคนตรงหน้าด้วยสายตาต่างไปจากปกติ มันเต็มไปด้วยความเย้ยหยันถากถาง “การที่ผมหลับตาข้างหนึ่ง ไม่สนใจว่าพวกคุณมาสุมหัวทำระยำอะไรกันที่นี่ นั่นไม่ได้หมายความว่าผมยอมให้พวกคุณทำเรื่องเลวทรามอย่างอื่นเพิ่มภายใต้ชื่อโรงพยาบาลที่พ่อแม่ผมสร้างขึ้นมาหรอกนะ”

    ทั้งถ้อยคำ น้ำเสียงและแววตาบ่งบอกแน่ชัดว่ารุ่งอรุณรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายใต้จมูกของตัวเอง เพียงแค่อยากใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป จึงเลือกจะไม่สนใจ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดกำลังจะสูญเปล่า เมื่อคนที่เขาแอบรักมาตลอดกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างไม่รู้ตัว

    “มันจะมากไปแล้วนะ! ฉันเป็นลุงแกนะอุ่น จะพูดจาอะไรออกมาหัดคิดซะบ้างว่าควรหรือไม่ควรน่ะ!” คราวนี้ ดร.สุรชิตเองถึงกับลุกขึ้นประจันหน้ากับหลานชายคนเดียว แววตาสองฝ่ายต่างจดจ้องมองกันอย่างเชือดเฉือน

    “แกมีทุกอย่างได้ในทุกวันนี้ก็เพราะฉันทำเรื่องระยำพวกนี้ไม่ใช่รึไง หัดสำนึกบุญคุณฉันบ้าง”

    รุ่งอรุณที่โดนชี้หน้าด่าจากคนเป็นลุงเองก็รู้สึกโกรธไม่แพ้กัน สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาเป็นประโยคต้น ๆ ของพวกที่หาความชอบธรรมให้กับตัวเองในตอนที่ทำผิดแล้วเอ่ยขอโทษไม่ได้ หรือไม่ก็ไม่ยอมรับว่าทำผิด ช่างเห็นแก่ตัวสิ้นดี 
     

    “แล้วผมเคยขอให้คุณทำให้รึไง! อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อผมเลย คุณทำเพื่อตัวเองต่างหาก เพื่ออำนาจเงินทองแล้ว แม้ต้องสั่งเวยด้วยชีวิตครอบครัวตัวเองคุณก็ยอม! ไอ้คนเห็นแก่ตัว!”

    เพียะ!

    ฝ่ามือกระทบเนื้ออย่างไม่ออมแรง ใบหน้าชายหนุ่มหันไปตามแรงตบ ทั้งมีเลือดไหลตามมุมปากซึมออกมาจนถึงปลายคาง รุ่งอรุณนิ่งไปเล็กน้อย ใช้หลังมือปาดเช็ดเลือดตัวเองออก เดาะลิ้นจิ๊ปากอย่างหยาบคาย

    “จะดีจะเลวยังไง ฉันก็เป็นลุงแก เป็นญาติคนเดียวที่แกเหลืออยู่ แกควรเห็นฉันดีกว่าหมอคนนั้นด้วยซ้ำ แต่นี่... แกมันเนรคุณ” ดร.สุรชิตกัดฟันพูดอย่างพยายามระงับความโกรธ

    รุ่งอรุณหัวเราะออกมา แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดพลาดในคำพูดนั้น และเขาใจดีช่วยแก้ไขให้มันถูกต้อง “ญาติคนเดียวที่เหลืออยู่งั้นเหรอ หึหึ งั้นลุงโตล่ะ อาเล็กล่ะ ผมยังต้องนับเป็นญาติด้วยไหม”

    หมออุ่นแสยะยิ้มเย็นให้คนเป็นลุง พี่ชายแท้ ๆ ของแม่ตัวเอง พี่ชายที่ส่งน้องสาวตัวเองไปตาย!

    “แกยอกย้อนฉันเหรอ แกนี่มัน...” ดร.สุรชิตรู้สึกว่าการต่อปากต่อคำกับคนตรงหน้าช่างเป็นไปได้ยากจริง ๆ เขารู้อยู่แก่ใจว่าชายหนุ่มคนนี้แทบไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นครอบครัวเลยสักนิด ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันพังไปตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนแล้ว

    "อ่า... พอคิด ๆ แล้วก็น่าประทับใจดีนะครับ" รุ่งอรุณเท้าแขนลงกับพนักเก้าอี้ เอียงคอมองตาเจ้าของห้อง "บ้านเรานี่เป็นแหล่งรวมอาชญากรดี ๆ นี่เอง ถ้าเลือกได้คิดว่าผมอยากเกี่ยวข้องกับพวกคุณหรือไง หืม? ก่อนหน้านี้ผมก็ทำเหมือนที่คุณเคยสอนมาตลอดไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องสนใจ ใช้ชีวิตตามปกติ ผมก็ทำให้แล้วนี่ไง สุดท้ายเป็นไง หึหึ ตอแหลทั้งเพ" รุ่งอรุณผายมือออกสองข้าง

    "เป็นพวกคุณที่ล้ำเส้น มายุ่งกับคนสำคัญของผมก่อน” รุ่งอรุณจ้องหน้า ดร.สุรชิตด้วยสีหน้าดุดัน รอยยิ้มที่เคยมีหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ สลัดคราบหมออุ่นใจดี ผู้เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและคนไข้ทิ้งไป

    ดร.สุรชิตหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด “คนสำคัญงั้นเหรอ? ไร้สาระไปกันใหญ่แล้ว แกจะมีใครอีกกี่คนก็ได้ แต่คนคนนี้ไม่ได้”

    ที่ผ่านมาแม้นึกแปลกใจอยู่บ้างที่หลานชายไม่เคยคบหากับใครได้นานเลย มีก็แค่หมอไอหมอกที่เขาคิดมาตลอดว่าเป็นเพื่อนสนิท จนได้รู้เรื่องของปรางทรายเขาจึงมั่นใจว่านี่ไม่ใช่มิตรภาพลูกผู้ชายเหมือนอย่างที่คนอื่นคิด

    เหตุผลสำคัญอีกอย่าง ไอหมอกเป็นที่หมายตาของอสรพิษอย่างราฟาเอลแล้วยังไงล่ะ และงูร้ายตัวนั้นโคตรหวงเหยื่อของตัวเอง พร้อมจะฉกฆ่าทุกคนที่เข้าไปขวางสิ่งที่มันต้องการ เขาจึงไม่อยากให้รุ่งอรุณพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

    ถึงอย่างไร รุ่งอรุณก็คือหลานแท้ ๆ คือสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ เป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้

    “คุณห้ามผมไม่ได้หรอก ถ้าพวกคุณแตะต้องไอหมอกอีก ผมโดดลงสนามด้วยแน่” รุ่งอรุณเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าคนตรงหน้าคงไม่ยอมให้มีเรื่องอันตรายเกิดขึ้นกับตัวเองแน่นอน เขาจึงกล้าเอาเรื่องนี้มาเดิมพัน

    สองคน หนึ่งสายเลือดต่างนิ่งเงียบ ต่างฝ่ายต่างรับรู้ได้ว่าเส้นใยบาง ๆ ที่ยื้อเอาไว้นานนับสิบปี ใกล้จะขาดลงเต็มที

    ผู้อาวุโสกว่าถอนหายใจยอมแพ้ นั่งลงพิงพนักเก้าอี้เหมือนเดิม นิ้วชี้ดันกรอบแว่นให้เข้าที่ จัดระเบียบความคิดตัวเองใหม่ ก่อนจะพูดบางอย่างออกมา บางสิ่งที่ทำให้รุ่งอรุณเองก็โต้แย้งกลับมาไม่ได้

    “ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันไม่ห้าม แต่ตอนนี้โปรดเข้าใจด้วย ไม่ว่าแกจะทำยังไง แกก็ช่วยเขาไม่ได้ เรื่องมันไปไกลเกินกว่าจะดึงหมอไอออกมาแล้ว ราฟาเอลไม่มีทางปล่อยหมอไอไปหรอก”

    รุ่งอรุณตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไป สิ่งที่เขาต้องพูด เขาพูดไปหมดแล้ว “นั่นเป็นเพราะคุณเสนอเขาให้ราฟาเอลไม่ใช่รึไง”

    “เปล่า ถึงจะชั่วแค่ไหน แต่ฉันไม่เคยดึงคนไม่เกี่ยวข้องเข้ามาหรอกนะ เรื่องมันวุ่นวายตั้งแต่ทัพฟ้า เด็กคนนั้นเข้ารักษาตัวที่นี่แล้ว” ดร.สุรชิตรู้สึกเส้นเลือดตรงขมับปวดตุบ

    “เกี่ยวอะไรกับทัพฟ้า” มือที่กำลังจะเปิดประตูนิ่งค้าง

    “แกรู้ดีแก่ใจว่าเกี่ยวอะไรกับทัพฟ้า เรียกว่าเป็นคราวซวยของหมอไอก็ว่าได้”

    คราวนี้รุ่งอรุณถึงกับพูดไม่ออก นึกย้อนกลับไป หากเขาไม่บอกปัดช่วยเหลือทัพฟ้า ไอหมอกก็คงไม่ต้องมาเจอกับทัพฟ้าสินะ

    ดร.สุรชิตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลานชายจึงพูดอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาอีก ราวกับตอกย้ำให้รุ่งอรุณกระอักเลือดออกมาจนยอมล่าถอยออกจากเรื่องนี้ไป

    “อีกอย่าง ต่อให้แกช่วยหมอไอได้ แล้วแกคิดว่าหมอไอจะรักและยอมรับในสิ่งที่แกทำลงไปได้งั้นเหรอ ผู้หญิงคนนั้น...ก็ฝีมือแกเหมือนกันนี่ ไม่ใช่แกเหรอที่เขียนละครบทนี้ให้หมอไอเล่นโดยไม่รู้ตัวน่ะ” ดร.สุรชิตเคาะนิ้วบนหน้าขาตัวเองเป็นจังหวะเพื่อหวังให้ตัวเองใจเย็นลง

    รุ่งอรุณถูกความจริงที่เก็บซ่อนอยู่ในใจตอกย้ำจนจุกไปทั้งอก ลุงเขาพูดถูก “แต่ไม่ได้หมายความว่าใครจะทำอะไรเขาก็ได้นี่ และที่ผมทำลงไปเพราะผมรักเขา อยากให้เขามีความสุข”

    “เลยวางแผนให้เขาวิ่งอยู่บนฝ่ามือแก ให้แกคอยมอง คอยระวังอันตรายให้งั้นสิ แกนี่มันเด็กชะมัด” ดร.สุรชิตลุกขึ้นเดินเข้าหารุ่งอรุณที่นิ่งงันไปแล้ว

    “...ถ้าฉันเป็นหมอไอแล้วมารู้ความจริงทีหลัง ฉันคงผิดหวังมาก เพราะงั้นถึงแกกับเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ความเป็นเพื่อนของแกจะไม่หายไปอย่างแน่นอน หมอไอจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้ ให้เขาตายไปกับความทรงจำที่ว่าแกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาไม่ดีกว่าเหรอ อุ่น”

    “....!!”

    นั่นสินะ ถ้าไอหมอกรู้เรื่องทั้งหมดแล้วเกลียดเขาขึ้นมา เขาจะทนรับสายตาเกลียดชังที่คนคนนั้นมองมาได้หรือเปล่า จะทนต่อความห่างเหินที่อีกฝ่ายแสดงออกได้ไหม สุดท้ายแล้วนอกจากไอหมอกจะไม่รักเขาแล้ว ความเป็นเพื่อนระหว่างเราก็จะหายไปด้วยใช่ไหม

    เขาทนได้เหรอ รุ่งอรุณได้แต่ถามตัวเอง

    “ผม...”

    “ถ้าแกเข้าใจแล้วก็ดี ปล่อยหมอไอไปเถอะ เรื่องมันเกินมือเราไปมากแล้ว ฉันเอ็นดูหมอไอนะ เขาเป็นหมอที่ดีมาก ๆ คนหนึ่งเลย” ดร.สุรชิตตบไหล่หนาราวปลอบใจ ปล่อยให้รุ่งอรุณขบคิดถึงความจริง สิ่งที่ได้เสียจากเรื่องนี้

    รุ่งอรุณก้มหน้านิ่งอย่างครุ่นคิดจนได้คำตอบให้ตัวเอง มือที่เผลอกำหมัดแน่นคลายตัวออกทิ้งอยู่ข้างกาย “...ผมทำไม่ได้”

    ดร.สุรชิตขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินหลานชายพูดบางอย่างออกมา “แกว่าไงนะ”

    “ผมบอกว่าผมทำไม่ได้ ต่อให้ไอหมอกรู้ความจริงว่าผมหลอกลวงเขามาตลอดแล้วเกลียดผมก็ไม่เป็นไร ขอแค่เขามีชีวิตที่ดี มีอนาคตที่ดีก็พอ แม้ว่าตอนนั้นคนที่ยืนข้าง ๆ เขาจะไม่ใช่ผม ก็ไม่เป็นไร”

    รุ่งอรุณยกยิ้มออกมาเมื่อนึกไปถึงรอยยิ้มกว้างของไอหมอก คิดถึงเสียงหัวเราะสดใสนั้น แม้ว่าหลังจากนี้รอยยิ้มนั้นจะไม่มีให้เขาแล้วก็ไม่เป็นไร

    “แค่เขามีชีวิตอยู่ต่อไปก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ฉิบหายกันหมดนี่ ก็เลิกยุ่งกับไอหมอกซะ” ประโยคหลังชายหนุ่มว่าเสียงเหี้ยม เปลี่ยนโหมดกลับมาดุดันเหมือนเดิม

    “ถ้าไม่อยากให้เรื่องการใช้ที่นี่เป็นแหล่งฟอกเงินแพร่ออกไปถึงหูนักข่าวกับตำรวจ ลุงก็บอกพรรคพวกของลุงให้เลิกยุ่งกับไอหมอกซะ ไม่งั้นผมนี่แหละจะทำให้หลุดออกไปเอง ต่อให้คนที่ขวางผมคือราฟาเอล ผมก็ไม่กลัว”

    “แกทำอย่างนั้นไม่ได้! ถ้าทำอย่างนั้นฉันจะปกป้องแกไม่ได้!”

    สายตาของรุ่งอรุณทำคนเป็นลุงนึกหวั่นใจขึ้นมา เขาไม่ได้กลัวว่าทุกอย่างจะพังมากไปกว่ากลัวจะเสียหลานชายคนนี้ไป หลานชายเพียงคนเดียวที่ทำให้เขายังเหลือข้ออ้างกลบเกลื่อนความผิดในใจ

    “การปกป้องผมเป็นเรื่องของลุง การปกป้องไอหมอกก็เป็นเรื่องของผมเหมือนกัน! ลุงเองก็รู้นี่รสชาติของการสูญเสียคนที่เรารักไปมันเป็นยังไง”

    “...!!”

    “ผมไม่อยากเป็นเหมือนลุง ที่ต้องอยู่เหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้”

    “อุ่น...”

    หลานชายเพียงคนเดียวออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงเจ้าของห้องที่ยืนเหม่อมองท้องฟ้าผ่านกระจกใสบนชั้นบนสุดของอาคารแห่งนี้

    ไม่มีใครรู้ว่าดร.สุรชิตคิดอะไรอยู่ เขาทำแค่เพียงยืนนิ่ง ๆ ราวกับซึมซับเรื่องราวบางอย่างให้กระจ่างในใจ แววตาเผยความเหนื่อยล้าออกมาเหมือนอย่างทุกทีที่ต้องอยู่คนเดียว

    เขามีทุกอย่าง ชื่อเสียง เงินทอง ตำแหน่งใหญ่โตที่เคยวาดฝันเอาไว้ เขาควรจะมีความสุขกับมันให้มากกว่านี้ แต่ดูเหมือนความสุขของเขาไม่ต่างจากแสงหิ่งห้อยที่ริบหรี่ลงทุกที ราวกับว่าความสุขที่แท้จริงของเขาจะหยุดลงตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนเช่นกัน

    ไอหมอกเหนือสมุทร 

    ..."ฉันเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ"

    บางที...การที่ไอหมอกอยู่กับเหนือสมุทรอาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าก็ได้

     

    *-*-*

    #ไอหมอกเหนือสมุทร

    T : Mairymii

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×