ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอหมอกเหนือสมุทร : ป๋อจ้าน

    ลำดับตอนที่ #8 : ละอองไอที่ 8 รอยร้าวของความไว้ใจ

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 64


    ไอหมอกเหนือสมุทร

    ละอองไอที่ 8 รอยร้าวของความไว้ใจ

     

    หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวาย ค่ำคืนนี้เหนือสมุทรจึงตั้งใจยึดตัวไอหมอกไว้กับตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นจะชวนเหนื่อยล้ากายใจมากแค่ไหน แต่ไอหมอกกลับไม่อาจข่มตาหลับได้ลง ความเจ็บปวดฉายชัดในแววตา แต่ร่างกายที่เจ็บปวดคงไม่เท่าความรู้สึกที่แตกร้าว

    เหนือสมุทรเปิดประตูห้องให้อีกฝ่ายเดินนำเข้าไปก่อน ทอดสายตามองตามแผ่นหลังบางที่ลู่ลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง

    ไอหมอกคิดถึงสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้านี้ด้วยสีหน้าเคร่ง เจ้าของห้องเองก็ไม่อยากรบกวนสมาธิของคุณหมอหนุ่ม จึงหายเข้าห้องนอนไป ทิ้งให้คุณหมอหนุ่มจมอยู่กับความคิดตัวเองที่หาคำตอบไม่ได้

    "ปรางรักตัวเองจึงยอมคบกับฉันงั้นเหรอ ไม่จริง" ไอหมอกปฏิเสธเรื่องนี้อย่างไม่นึกสงสัย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเชื่อว่าระหว่างเขากับปรางทรายไม่ใช่เรื่องโกหกแน่นอน แล้วรุ่งอรุณพูดแบบนั้นได้ยังไง

    “ปรางไม่ใช่คนแบบนั้น อุ่นต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ ใช่สิ!” จู่ ๆ ไอหมอกก็ลุกพรวดขึ้นยืน ถ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็มีแต่ต้องกลับไปถามรุ่งอรุณให้รู้เรื่อง แต่กายบางยังไม่ทันได้ก้าวออก ถ้อยคำของเหนือสมุทรก็ลอยขึ้นมา

    “บอกเขาไปสิว่าคุณทำอะไรลงไปบ้าง พูดกับเขาให้เหมือนกับที่คุณพูดกับเธอไง คุณหมอรุ่งอรุณ”

    ไอหมอกจำได้ว่าตอนนั้นสายตารุ่งอรุณที่มองเหนือสมุทรน่ากลัวแค่ไหน ยิ่งคิดไอหมอกยิ่งรู้สึกตันจนรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา

    เหนือสมุทรเดินออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพเปลือยท่อนบน ยังดีที่มีกางเกงตัวเก่งปิดกายท่อนล่างเอาไว้ แม้ว่าเข็มขัดมันจะถูกถอดออกไปแล้ว และกระดุมสองเม็ดก็ถูกปลดออกจนเห็นขอบอันเดอร์แวร์สีเข้ม เขามองไอหมอกเงียบๆ มุมปากยกยิ้มบาง ๆ ราวเย้ยหยัน

    "คิดมากไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก พักเถอะ เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว" เหนือสมุทรกอดอกพิงกำแพงห้องทอดสายตามองไอหมอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทันเห็นไอหมอกหันมามองด้วยสีหน้าตกใจ

    ไอหมอกสะดุ้งเล็กน้อย เขาหันมองเจ้าของห้องด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายพลันนึกไปถึงสิ่งที่เหนือสมุทรพูดใส่หน้ารุ่งอรุณเอาไว้ก่อนพาเขาแยกตัวออกมา "...ที่คุณพูดตอนนั้นหมายความว่าไง"

    "หมายความตามที่พูด" เหนือสมุทรไหวไหล่ นั่นทำให้คุณหมอหนุ่มนึกไม่พอใจอยู่บ้าง

    "ผมไม่เข้าใจ" ไอหมอกไม่เข้าใจสักนิดว่าทั้งปรางทราย รุ่งอรุณ และเหนือสมุทร สามคนนี้เคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า ทำไมทุกคนดูราวกับเกี่ยวพันกันด้วยเส้นใยบาง ๆ ที่เขามองไม่เห็น

    ไอหมอกยังจำสายตาไม่พอใจของรุ่งอรุณที่มองมายังเหนือสมุทร สายตาและรอยยิ้มร้ายของเหนือสมุทรที่มองรุ่งอรุณ ทั้งคำพูดของปรางทรายที่ว่ารักเขาไม่ได้ เพราะการรักเขาต้องมีเงื่อนไข แล้วไหนจะคนที่ข่มขู่เขาถามหาถึงชิปอะไรนั่นอีก

    "คุณเป็นใครกันแน่ แล้วคุณช่วยผมไว้ทำไม ต้องการอะไร" ฟังดูเป็นคำถามที่ดูโง่มาก แต่ก็เป็นเรื่องที่เขาอยากรู้มากพอกัน

    เหนือสมุทรรู้ว่าไอหมอกสงสัยและระแวงตัวเองไม่น้อย และเขาเองไม่คิดจะแก้ตัวใด ๆ เพราะเจตนาของเขาก็ไม่ได้ต่างจากคนพวกนั้น การเข้าหาไอหมอกและตามหาชิปนั่น แต่จะส่งต่อหนึ่งคน หนึ่งสิ่งนี้ให้คนอื่นต่อไปหรือเปล่านั่นเป็นอีกเรื่อง

    ในตอนนี้หัวหน้าหนุ่มกระจ่างชัดในความรู้สึกของเคนจิแล้ว ความจริงอยู่ตรงหน้า จะให้บอกว่าไม่ใช่ก็คงโง่งมเกินไป

    "อีกไม่นานคุณจะเข้าใจ"

    "อีกไม่นานน่ะเมื่อไร? หรือต้องมีคนตายเพิ่มอีก หรือต้องเป็นตัวผมเองที่ต้องตายก่อน? บอกผมสิ"

    กลายเป็นความเงียบงัน ไร้การตอบรับหรือปฏิเสธ ไอหมอกรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นคนโง่ในพริบตา รู้สึกท้อในใจ กายบางทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิมอย่างหมดแรง ใบหน้ามนก้มมองมือตัวเองด้วยความรู้สึกสับสน

    "ถ้าคุณอยากรู้ขนาดนั้น ทำไมคุณมัวแต่ตั้งคำถามล่ะ ทำไมไม่หาคำตอบให้ตัวเอง แล้วถ้าผมบอกคุณ คุณจะเชื่อทั้งหมดที่ผมบอกงั้นเหรอ?"

    "อาจจะไม่"

    "ก็ใช่ไง คุณเป็นคนฉลาดนะไอหมอก แต่คุณอ่อนแอเกินไป คุณรู้รึเปล่าว่าความใจดีของคุณทำให้คุณกลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัวน่ะ และเพราะสาเหตุนี้ทำให้คุณถูกปกป้องโดยไม่รู้ตัวยังไงล่ะ"

    ไอหมอกอยากใช้น้ำเสียงหนักแน่นกว่านี้มาเถียงกลับ แต่เขาเองก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าตัวเองเข้มแข็งพอ "ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น"

    "งั้นเหรอ" เหนือสมุทรกระตุกยิ้มร้ายมองคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากัน ใบหน้าเลอะฝุ่นเผยร่องรอยความโกรธเคือง ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้าหนีไปทางอื่น

    แสงไฟตกกระทบคนตรงหน้า เผยแก้มเนียนหลงเหลือร่องรอยของคราบน้ำตา ร่างกายสกปรกเลอะฝุ่นและคราบเลือดแห้งกรัง แววตาไอหมอกดูเหม่อลอยชั่วครู่ รู้ตัวอีกทีเมื่อมีมืออุ่นมาทาบกับแก้มตัวเอง ไอหมอกจึงเลื่อนสายตามามองสบตาเหนือสมุทรอีกครั้ง

    ปลายนิ้วสากแตะสัมผัสไล้แก้มนิ่ม ความรู้สึกอุ่นของสัมผัสนั้นทำให้ไอหมอกมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ

    “เพราะคุณอ่อนแอ จึงรักษาใครไว้ไม่ได้ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น คุณคิดเหรอว่ามันคือเรื่องบังเอิญน่ะ ทั้งเด็กทัพฟ้านั่น ปรางทราย รุ่งอรุณ ชายชุดดำพวกนั้น รวมถึงตัวผมด้วย” ถ้อยคำเย็นชาเอ่ยออกมา หัวหน้าหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเรียบเฉย

    “หมายความว่าไง”

    “คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทั้งทัพฟ้าและปรางทรายต่างถูกเลือกและถูกบีบให้ต้องมาเจอคุณ และสุดท้ายก็จบที่ต้องตายน่ะ หืม? บางทีคนต่อไปอาจจะเป็นคุณก็ได้นะ” นิ้วโป้งเลื่อนมาคลึงเรียวปากสีอ่อนแผ่วเบา 

    “...!!” ด้วยอาชีพของเขาแล้ว ไอหมอกเฉยชากับความตายก็จริงแต่เขาไม่เคยชินกับความเสียใจที่หลงเหลืออยู่ และเขายังไม่อยากตาย

    “คุณเป็นหมอ คิดว่าคงเห็นความตายมาเยอะ แต่ก็ไม่ชินกับความเสียใจที่ตามมาใช่ไหมล่ะ" เหนือสมุทรเอ่ยอย่างรู้ทัน "ไม่ต่างกัน ถ้าคุณจะเอาความจริงตอนนี้จากผม คุณจะยอมรับความเสียใจตรงนั้นได้ไหม คุณเข้มแข็งพองั้นเหรอ” มือข้างหนึ่งจับมือเรียวของไอหมอกมากำเอาไว้ นิ้วอุ่นลูบไล้หลังมือแผ่วเบา ก่อนที่เหนือสมุทรจะละสายตาจากมือสวยมาสบตากลมที่มองมา

    "...ผมยังไม่อยากตาย" นัยน์ตากลมดูสั่นไหว

    "วางใจเถอะ ผมยังไม่ให้คุณตายหรอก ความจริงบางอย่างก็ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ยังไงมันก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว" เหนือสมุทรยิ้มให้อีกฝ่าย “อีกอย่างตอนนี้คุณควรพักนะ มอมแมมเหมือนกระต่ายคลุกดินเลย"

    ไอหมอกมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม ยังไม่ให้คุณตาย หมายความว่าหลังจากที่เหนือสมุทรได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็อาจจะต้องตายอยู่ดีสินะ คุณหมอหนุ่มเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง  "แต่มันค้างคานี่”

    เหนือสมุทรยกยิ้มอ่อนเมื่อเห็นลิ้นสีสดและความนุ่มหยุ่นที่แตะโดนนิ้ว ทำเอาใบหน้านิ่งชาเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ชู่ว์ คุณนี่ใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้ อีกอย่าง.ที่ผมบอกว่าอ่อนแอน่ะ” นิ้วเรียวสากวางทาบปากเรียวชื้นอีกครั้งไม่ให้เอ่ยขัด “ไม่ใช่ร่างกายของคุณที่อ่อนแอ แต่ผมหมายถึงตรงนี้” มือข้างนั้นวางทาบอกซ้ายไอหมอกเอาไว้ สัมผัสถึงการเต้นเป็นจังหวะของมัน

    สิ่งที่เหนือสมุทรพูดออกมา ไอหมอกเข้าใจดี ในตอนนี้เขาไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น แม้แต่ตอนนี้ก็ยังยอมรับไม่ได้ว่าปรางทรายจากไปแล้วจริง ๆ เขาแค่แสร้งทำเป็นลืมไปเท่านั้นเอง แต่เขาไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เขาไม่อยากแพ้ ไม่อยากตาย

    “ผมต้องทำยังไง”

    “ตอนนี้น่ะเหรอ นอน”

    คนฟังขมวดคิ้วมุ่น “นอน?”

    “ใช่ ตื่นขึ้นมาแล้ว ผมจะเล่าอะไรดี ๆ ให้คุณฟังสักเรื่องสองเรื่อง ดีไหม” ไอหมอกมองเหนือสมุทรอย่างไม่ไว้ใจนัก แต่รู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางเลือก พลันนัยน์ตากลมเอ่อคลอด้วยน้ำใสอีกครั้ง ทำเอาหัวหน้าหน่วยถึงกับเลิกคิ้วมอง

    เหนือสมุทรคิดว่าบางทีร่างกายและสภาพจิตใจของคนตรงหน้าคงใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว และมันคงมีอะไรมากกว่านั้น ไม่งั้นไอหมอกคงไม่อ่อนไหวขนาดนี้ "ร้องไห้ทำไม" 

    ไหล่แคบลู่ลงอีกครั้ง ทั้งเอ่ยเสียงแหบพร่า “... ผมเป็นหมอ แต่ผมช่วยเธอไว้ไม่ได้ ผมทำอะไรไม่ได้เลย” เมื่อคิดไปถึงร่างชุ่มเลือดของปรางทราย ไอหมอกยิ่งโทษตัวเองที่เป็นหมอ เขาช่วยชีวิตคนอื่นมาเยอะ แต่กลับช่วยผู้หญิงคนสำคัญของตัวเองไว้ไม่ได้

    เปลือกตาสีอ่อนกะพริบช้า ๆ ปล่อยหยาดน้ำใสร่วงหล่นผ่านแก้มเนียนเลอะฝุ่น ไอหมอกแนบหน้าเข้ากับฝ่ามืออุ่นข้างนั้นที่ยังคงแนบอยู่กับแก้มตัวเอง ร้องไห้ออกมาอย่างไม่นึกอาย

    เหนือสมุทรตั้งใจฟังที่อีกฝ่ายพูดเงียบ ๆ ไร้คำปลอบโยน เขาทำแค่นั่งลงตรงหน้าให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่คนเดียว ทั้งปล่อยให้น้ำอุ่น ๆ สัมผัสลงบนมือตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ฟังหลายร้อยถ้อยคำที่พรั่งพรูบอกให้รู้ว่าไอหมอกรักหญิงสาวมากแค่ไหน 

    “ถ้าผมรั้งเธอไว้ให้นานกว่านี้ เธอคงไม่ตาย” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำเอาคนฟังนึกสงสาร แต่คราวนี้เหนือสมุทรหน้าเคร่งขึ้นเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้แน่ชัดแล้วว่าบางอย่างไม่ปกติ

    “ถึงเวลาตายก็คือตาย” แม้ฟังดูใจร้ายแต่มันคือความจริง ๆ เหนือสมุทรรั้งคนที่นั่งบนโซฟาลงมาหาตัวเอง โอบกอดร่างผอมบางเอาไว้ รู้สึกถึงอ้อมแขนเรียวที่วาดโอบรอบคอตัวเองราวกับเด็กน้อยหลงทาง และสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นของคนในอ้อมแขน

    เหนือสมุทรอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกทั้งหมดของไอหมอก แต่รู้ดีว่าการเสียคนรักไปเป็นอะไรที่แย่พอสมควร กว่าจะผ่านมันไปได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้ ยิ่งเป็นไอหมอกในตอนนี้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องลุกขึ้นสู้ให้เร็วกว่าคนอื่นเขา ไม่งั้นคนต่อไปที่จะตายก็คือตัวไอหมอกเอง

    ไอหมอกรู้แก่ใจว่าปรางทรายตายแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจที่สุดยังคงเป็นสิ่งที่ได้ยินจากรุ่งอรุณ "ผมไม่เคยรู้เลยว่าเขาคิดแบบนั้น นี่ผมทำร้ายพวกเขารึเปล่า" นี่คงเป็นอีกเรื่องที่ไอหมอกสะเทือนใจพอใจกัน เหนือสมุทรทำแค่ลูบแผ่นหลังบางเงียบ ๆ 

    ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงกว่า แสงของเช้าวันใหม่เริ่มทอประกายให้เห็น เสียงสะอื้นตัดพ้อเบาบางลง เหนือสมุทรรั้งให้ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นแล้วจับจูงเข้าห้องน้ำ แสร้งทำเหมือนไม่สนใจคนที่เดินตามต้อย ๆ ทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่เงียบ ๆ และเป็นการยากที่จะห้ามไม่ให้มุมปากยกยิ้มขึ้นมา

    เหนือสมุทรพาคุณหมอหนุ่มมาส่งถึงห้องน้ำ “อาบเองได้ไหม”

    “...” คนเนื้อตัวมอมแมมยังคงนิ่งงัน มีแค่เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา หัวหน้าหน่วยลอบถอนหายใจเล็กน้อย สุดท้ายเป็นฝ่ายยกไอหมอกนั่งบนพื้นหินอ่อนข้าง ๆ อ่างล้างหน้า ใช้ผ้าผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดค่อย ๆ เช็ดหน้ามน เช็ดเอาคราบน้ำตา คราบดินฝุ่นออกให้ ไล่มาถึงลำคอที่เป็นแผล

    เหนือสมุทรบรรจงเช็ดคราบเลือดบนคอขาวอย่างระวังไม่ให้โดนแผล เสร็จแล้วเปลี่ยนไปเช็ดตัวให้ไอหมอกแทน จนมาถึงกางเกงเปื้อนฝุ่นและรอยเลือด หัวหน้าหน่วยอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองตามสายตาไอหมอกที่มองเขาค่อย ๆ ปลดกระดุม และรูดซิปลง คุณหมอหนุ่มจึงรั้งมือเขาเอาไว้แน่น เอ่ยค้านน้ำเสียงแหบแห้ง

    “ผมทำเองได้”

    “ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ”

    “แต่ผมถือ"

    เหนือสมุทรมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อน วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองยิ้มบ่อยเกินไปแล้ว มือหน้าทาบทับซอกคอขาวจึงรู้ถึงสาเหตุการเบลอจนเผลอปล่อยตัวของไอหมอก กายบางอุ่นร้อนกว่าเดิม “ก็ได้ งั้นผมไปเอากล่องปฐมพยาบาลก่อน คุณต้องทำแผล”

    ไอหมอกพยักหน้ารับ เหนือสมุทรช่วยอีกฝ่ายให้ลงมายืนที่พื้นดี ๆ แล้วจึงผละออกจากห้องน้ำไป เมื่อกลับเข้ามาอีกทีไอหมอกก็ทำความสะอาดตัวเองเสร็จแล้วและอยู่ในชุดคลุมสีขาวสะอาด ก่อนจึงขยับขึ้นไปนั่งเหมือนเดิม

    “ทนหน่อยนะ” เหนือสมุทรให้ไอหมอกพิงราบไปกับกระจก เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วจึงเริ่มทำแผลให้อย่างเบามือ

    “คุณทำแผลบ่อยเหรอ” ไอหมอกถามออกมาราวกับชวนคุยเรื่องปกติ

    เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว ไอหมอกไม่คิดว่าเหนือสมุทรคือคนทั่วไป แม้ไม่รู้ว่าเข้าหาตัวเองด้วยจุดประสงค์อะไร แต่ตอนนี้เขาไม่อยากอยู่คนเดียว และการมีอีกคนอยู่ด้วยกันแบบนี้ทำให้เขาไม่รู้สึกเคว้งคว้างเกินไป พลางนึกคิดไปว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน คนที่คอยดูแลเขาแบบนี้ นอกจากปรางทรายแล้วก็คงเป็นคนที่ไอหมอกเรียกว่าเพื่อนสนิทอย่างรุ่งอรุณ คิดมาถึงตรงนี้เรียวปากบางเม้มแน่นอีกครั้ง รู้สึกหางตาเปียกชื้นขึ้นมา

    “ไหนสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ร้องไห้น่ะ หืม?” เหนือสมุทรเห็นจมูกโด่งรั้นแดงก่ำ ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกเบา ๆ

    ไอหมอกรีบเช็ดมันออก ทั้งยังโกหกคำโต “ผมเปล่าสักหน่อย แต่แสบตาเฉย ๆ หรอก ห้องคุณฝุ่นเยอะ”

    เหนือสมุทรฟังคำแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แล้วนึกหน่ายใจ ร้องไห้จนตาบวม จมูกแดงไปหมดแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าที่นี่ฝุ่นเยอะอีก ถ้าห้องพักสวีตของโรงแรมห้าดาวกลางเมืองหลวงฝุ่นเยอะจนทำแขกน้ำตาไหลได้ มาตรฐานโรงแรมนี้คงต่ำเรี่ยดินมาก

    “ผมเชื่อคุณก็ได้”

    น้ำเสียงราบเรียบกึ่งประชดทำให้ไอหมอกต้องเหลือบตามองคนตรงหน้าเล็กน้อย พลางเบ้ปากอย่างลืมตัว ก่อนที่ทั้งร่างจะชะงักกึกเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในท่วงท่าแบบไหน นัยน์ตาสีอ่อนเบิกกว้างทั้งร่างเกร็งนิ่ง และความร้อนก็วิ่งผ่านแก้มเนียนทันที

    คนตัวบางกว่าที่นั่งอยู่บนพื้นหินอ่อนข้างอ่างล้างหน้า ในสภาพสวมชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียว โดยมีชายร่างสูงใหญ่ กล้ามเป็นมัด ๆ เปลือยท่อนบน ยืนแทรกกลางหว่างขาตัวเอง แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อข้างหนึ่งโอบเอวเขาเอาไว้เพื่อล็อกให้เขาอยู่นิ่ง ๆ ส่วนอีกข้างกำลังวุ่นวายอยู่กับคอเขา และที่ทำให้ไอหมอกนึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เมื่อบังเอิญเหลือบตามองต่ำจนเห็นไรขนอ่อนหายลับลงไปในกางเกง

    ร่างกายของเหนือสมุทรแตกต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง มันดูน่าหวาดหวั่น และน่ากลัวเกินกว่าที่จะจินตนาการถึงบางสิ่งบางอย่างใต้ร่มผ้าในนั้น

    "อ๊ะ!" คุณหมอหนุ่มเผลอร้องออกมา มือขาวคว้ากำท่อนแขนแกร่งไว้แน่นเมื่อรู้สึกเย็นเล็กน้อยเพราะยาสมานแผล และเสียงนั้นทำเอาเหนือสมุทรเองชะงักมือไปเหมือนกัน บรรยากาศกระอักกระอ่วนทำเอาไอหมอกอยากโขกหัวตัวเองกับกระจกให้หลับไปซะ

    "เจ็บเหรอ ทนหน่อยนะ" เหนือสมุทรเบามือลงกว่าเดิมเยอะ คิดว่าผิวบาง ๆ นี้คงระคายเคืองกับยาไม่น้อย

    "เปล่า ๆ เอ่อ เสร็จแล้วยัง ผมเมื่อยแล้ว" น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยถามอย่างนึกประหม่า ทั้งลืมตัวว่ามือตัวเองยังคงบีบแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไม่ปล่อย ทั้งเผลอบีบย้ำ ๆ ทั้งหน้านิ่วคิ้วขมวดไปด้วย

    แขนอีกฝ่ายดูแข็งแกร่งและเต็มได้ด้วยกล้ามเนื้อสวย สงสัยคงออกกำลังกายบ่อยแน่ ๆ ขณะที่ไอหมอกนั้นไม่ชอบออกกำลังกาย ร่างกายเลยสูงโปร่งแทบไม่มีกล้ามเนื้อมากไปกว่าที่คนทั่วไปมี ส่วนเหนือสมุทรนั้นดูสูงกำยำ ทั้งยังมีร่องรอยบาดแผลจาง ๆ บ่งบอกถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านมาของคนตรงหน้า

    .... ถ้าสมมุติว่าเหนือสมุทรลงมือกับตัวเอง ไอหมอกคงช้ำไปทั้งตัวแน่นอน และถ้าร่างกายนี้ทาบทับตัวเขา เขาคงขาดอากาศหายใจตายแน่นอนเช่นกัน

    เหนือสมุทรยังคงตั้งใจทำแผล ทั้งลอบสังเกตใบหน้ามนที่เปลี่ยนสีหน้าไปมาตามความคิด และยกยิ้มอ่อนกับแรงอันน้อยนิดที่บีบปล่อย ๆ อยู่ตรงแขนตัวเอง และหัวหน้าหน่วยไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าไอหมอกกำลังคิดไปถึงเรื่องอื่น เรื่องที่ชวนให้คุณหมอหนุ่มต้องคิ้วกระตุก

    “แผลไม่ลึกมาก แต่เดี๋ยวคุณคงระบมกว่านี้ มีแผลตรงอื่นอีกไหม” เหนือสมุทรเก็บของใช้แล้วทิ้งลงถังขยะ เขาไม่ได้สนใจถึงสีหน้ากระอักกระอ่วนของคนตรงหน้าสักนิด ไอหมอกยังคงเงียบงันจนทำให้เหนือสมุทรต้องหันมามองอีกครั้ง "มีอะไร"

    "ผม... คือ ไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน คุณมีให้ผมยืมไหม" ไอหมอกแทบกรีดร้องขออย่าให้อีกฝ่ายมองกันแบบนี้ ปรายตามองมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่โคตรทำลายล้าง

    นี่ฉันเป็นบ้าอะไร!

    "อ้อ นึกว่าอะไร ผมจัดการให้แล้ว วางอยู่บนเตียง"

    "เอ่อ งั้นคุณหลีกสิ ผมจะได้ ...เฮ้ย จะทำอะไร!" ไอหมอกรีบกำสาบเสื้อเอาไว้เมื่อมันเปิดออกกะทันหัน นัยน์ตากลมมองมาอย่างเอาเรื่องเมื่ออีกฝ่ายแกล้งกระตุกปมผ้าเขาออก

    เหนือสมุทรมองคนที่ขู่ฟ่อ ทั้งแสร้งยื่นหน้าเข้าหาจนไอหมอกแทบรวมเป็นเนื้อเดียวกับกระจกด้านหลัง นัยน์ตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจกับความใกล้ชิดนี้ ความทรงจำเมื่อครั้งโดนขโมยจูบครั้งก่อนแวบเข้ามา

    แรก ๆ คุณหมอหนุ่มยังทำใจกล้าสบตาคมตรงหน้า แต่เมื่อโดนแววตาคมดุคู่นั้นมองกลับมา กลายเป็นไอหมอกเองที่ต้องเบนสายตาหนีไปทางอื่นแทน ทั้งใจเจ้ากรรมดันเต้นตึกตักระรัวจนกลัวว่าเหนือสมุทรจะได้ยินเข้า

    มือหนึ่งดันอกหนา อีกมือกำสาบเสื้อเอาไว้แน่น เอ่ยร้องท้วงออกมาเสียงดัง "คุณ มันใกล้ไปแล้วนะ!"

    "งั้นเหรอ แล้วยังไง"

    ไอหมอกหันขวับกลับมามอง เห็นประกายความสนุกในแววตาคนตรงหน้า ขาเรียวจึงยกขึ้นมาหวังยันร่างอีกฝ่ายออกห่างแต่กลายเป็นโดนเหนือสมุทรจับข้อเท้าข้างนั้นเอาไว้แล้วจับมันตั้งฉากกับพื้นแทน กลายเป็นท่าทางล่อแหลมกว่าเดิม

    "เฮ้ย ๆ คุณอย่าลูบ อือ..." ความเย็นของมือสัมผัสลงบนผิวเนื้ออ่อน คราวนี้ไอหมอกสะดุ้งโหยง ทั้งเอามือปัด ๆ มือหนาให้ออกจากต้นขาตัวเอง

    เหนือสมุทรมองคนตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณาถึงความเป็นไปได้หลาย ๆ อย่าง ดื้อรั้นอวดดีก็ใช่ พยศถือตัวก็ใช่อีก นิสัยใจดีอ่อนโยนจนบางครั้งกลายเป็นอ่อนแอจนน่าสมเพชเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกนั้นมองชายหนุ่มตรงหน้านี้น่าสนใจไปได้ยังไง ถึงขั้นที่เพื่อนสนิทอย่างรุ่งอรุณเองยังหนีหลุมพรางนี้ไม่รอด

    กว่าเหนือสมุทรจะรู้ตัว กลิ่นกายเนื้ออุ่นก็อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ยิ่งอีกฝ่ายเบี่ยงหน้าหนีมากเท่าไร ยิ่งเปิดเผยคอเปลือยเปล่าเรียวสวยมากเท่านั้น แม้ว่าส่วนหนึ่งจะถูกปิดทับด้วยผ้าปิดแผลก็ตาม

    "คุณ อย่า..." ลมหายใจอุ่นคลอเคลียแก้มเนียน ไอหมอกหลับตาปี๋ ย่นคอหนีความรู้สึกจั๊กจี้

    เหนือสมุทรแกล้งขยับเข้าใกล้เฉียดแก้มใส ไล้ไปกระซิบข้างหู "กลัวผมเหรอ"

    "...เปล่า ผมไม่ได้กลัว" ไอหมอกแทบลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ตัวเองกำลังเสียใจอยู่ เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชวนระทึกใจพอสมควร คุณหมอหน้าใสเอ่ยน้ำเสียงแฝงแววตื่นตระหนก ทั้งมือที่ดันอกหนาเอาไว้ก็สั่นเล็กน้อย

    "ลืมตา มองผม" น้ำเสียงกึ่งบังคับกึ่งอ้อนวอนทำเอาไอหมอกทำตัวไม่ถูก

    ไอหมอกนึกแปลกใจและเกลียดตัวเอง ถ้ามันน่าขยะแขยงเหมือนก่อนหน้านี้ที่เจอมาก็คงดี แต่นี่อีกฝ่ายกำลังทำให้เขาใจเต้นแรงไปกับความใกล้ชิดแบบนี้

    นี่มันบ้าชัด ๆ!

    ...หมายถึงตัวเขาเองนี่แหละที่บ้าไปแล้ว

    คุณหมอหนุ่มส่ายหน้าหวือ ไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ติดสอยห้อยตามเหนือสมุทรกลับมาแบบนี้

    ความเสียใจจากการสูญเสียยังคงอยู่ ความตื่นตกใจจากความจริงที่รู้ยังรอการขบคิด แต่ในตอนนี้ความรู้สึกราวกับโดนหยอกล้อกำลังทำให้ไอหมอกทำตัวไม่ถูก และสัมผัสที่ชายปริศนาคนนั้นฝากร่องรอยความกักขฬะทิ้งเอาไว้ ทำให้ไอหมอกนึกหวาดกลัวขึ้นมา แต่ความรู้สึกตอนนี้มันต่างกับตอนนั้นลิบลับ

    "ไม่เอา คุณถอยไป ผม..." มือเรียวทุบไหล่หนาซ้ำ ๆ ด้วยแรงที่เพิ่มขึ้น หวังให้อีกฝ่ายออกห่าง

    เหนือสมุทรไม่ได้สนใจ เขาจับมือข้างนั้นเอาไว้

    บีบเบา ๆ นิ้วโป้งนวดคลึงฝ่ามืออุ่นที่เกร็งแน่นให้คลายความเครียดลง "ไอหมอก ลืมตาสิ"

    "คุณอย่าทำแบบนี้! ถอยออกไป! ... คุณ!" คราวนี้ไอหมอกถึงกับลืมตาโพลงเมื่อความร้อนผ่าวแนบลงกับต้นคอตัวเอง จะผละตัวหนีก็ทำไม่ได้เมื่ออ้อมแขนแกร่งยังโอบเอวตัวเองไว้ ทั้งสัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่ดันแผ่นหลังตัวเองให้แนบชิดกันมากขึ้น

    เหนือสมุทรรับรู้ได้ทันทีว่าก้อนเนื้อในอกซ้ายของไอหมอกเต้นรัวแรงแค่ไหน ความหวาดกลัวทำให้กายบางเครียดเกร็งขึ้นมา แม้แต่มือที่เขาจับเอาไว้ยังกำแน่นจนเล็บจิกลงบนผิวเนื้อ

    "อึก คุณหยุด ...พอแล้ว"

    "ไอหมอก ใจเย็น"

    "อย่า! คุณปล่อยผม! คุณ!" คราวนี้ไอหมอกทุบไหล่หนารัว น้ำเสียงสั่นไหวจนควบคุมไม่ได้

    "ไอหมอกตั้งสติหน่อย ตอนนี้คุณอยู่กับผม" เหนือสมุทรเปลี่ยนมาลูบหลังไอหมอกเบา ๆ ทั้งกดให้อีกฝ่ายซบหน้าลงกับไหล่เขา มืออีกข้างกุมมือเกร็งเอาไว้บีบเบา ๆ

    "ไม่เป็นไร" คือสิ่งที่เหนือสมุทรกระซิบบอกไอหมอกอยู่เสมอ จนกระทั่งคนในอ้อมแขนผ่อนกายลงจนพิงลงบนไหล่เขาราวกับหมดแรง

    เหนือสมุทรรั้งคนตรงหน้าออกมานั่งดี ๆ มองสบตาคนที่มองมาด้วยแววตาเหนื่อยล้า ขีดจำกัดของร่างกายประท้วงให้ไอหมอกพักผ่อนเสียที "ผมจะอาบน้ำ ถ้าออกไปแล้วคุณยังไม่หลับ ผมจะทำโทษคุณนะ คุณหมอ"

    เหนือสมุทรจัดเสื้อคลุมให้ไอหมอกดี ๆ ดึงชุดให้ปิดร่างกายกึ่งเปลือยเอาไว้ แต่ไอหมอกยังคงเอนตัวลงซบไหล่เขา ได้ยินเสียงถอนหายใจลากยาวราวกับโล่งใจ มือเรียวที่เคยดันอกเขาเอาไว้ปล่อยทิ้งลงข้างตัว ทั้งยอมอยู่เฉยปล่อยให้เขาจัดโน่นนี่นั่นให้

    "ผมอยากกลับไปโรงพยาบาล ไปหาอุ่น ผมอยากรู้เรื่องทั้งหมด" คราวนี้ไอหมอกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราวกระซิบ

    "ผมอยากรู้ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ทำไมต้องเป็นปราง ทำไมต้องเป็นผม ทำไมต้อง..." คิ้วเรียวขมวดฉับก่อนจะคลายออกเมื่อมีความอุ่นประกบลงบนปากตัวเอง แม้แผ่วเบาแต่ไอหมอกก็รู้สึก คนตรงหน้าขโมยจุ๊บเขาอีกแล้ว

    เมื่อเหนือสมุทรจุ๊บปิดปากคนช่างพูดเอาไว้แล้วผละออก ทั้งยังใจดีนวดหว่างคิ้วให้คลายลงอีกด้วย "ชู่ว์ ทุกอย่างมีคำตอบของมัน ไว้ให้คุณพร้อมกว่านี้ ผมจะพาคุณไปหาเขา"

    "ผมอยากไปตอนนี้ ฮ้าว..." คนพูดหาวปากกว้างจนน้ำตาซึม

    "ผมว่าตอนนี้คุณไม่พร้อมหรอก" เสียงทุ้มกว่ากลั้วหัวเราะ ไอหมอกกำลังหมดแรงลง ไม่นานคงหลับ

    "คุณจะไปรู้อะไร! ผมอยู่กับการโกหกมานานนับปี ฮ้าววว ความรู้สึกของผมกลายเป็นเรื่องตลกไปตั้งแต่เมื่อไร ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์รู้ล่ะ!" ไอหมอกผละออกมาจะโกนลั่นใส่หน้าเหนือสมุทร มือเรียวกำแน่นทุบอกหนาด้วยความเจ็บใจ แต่แล้วก็ต้องซุกหน้าลงกลับที่เดิมเมื่อมือใหญ่กดหัวเขาให้แนบลงไป และมันทำให้เขาสงบลง

    คุณหมอหนุ่มรู้ดีว่าเองกำลังพาลใส่คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจุกอยู่ข้างในจนแทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว

    "วางใจเถอะ เขาไม่ได้คิดร้ายกับคุณ เขาแค่อยากปกป้องคุณ"

    "ด้วยการโกหกน่ะเหรอ หึหึ ฮ่า ๆๆๆ" คราวนี้ไอหมอกหัวเราะออกมา หัวเราะทั้งน้ำตา หัวเราะให้ความผิดหวังเสียใจของตัวเอง หัวเราะจนกระทั่งเสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงสะอื้นอีกครั้ง

    เหนือสมุทรรอจนกระทั่งไอหมอกสงบลง "ไปรอผมข้างนอก แล้วผมจะเล่าอะไรให้ฟัง"

    คราวนี้ไอหมอกราวกับเด็กน้อย เจ้าตัวยอมตกลงแต่โดยดี เหนือสมุทรปล่อยให้ไอหมอกอยู่ในห้องคนเดียว เขาออกมาหานมอุ่น ๆ ให้คนที่ยังจมอยู่กับความเสียใจได้ทานก่อนนอน

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องตกกระทบผิวน้ำในสระ อีกสิบห้านาทีจะเจ็ดโมง คงเป็นเวลาตื่นนอนของใครหลายคน แต่พวกเขายังไม่ได้นอน เหนือสมุทรหาวออกมาเล็กน้อย ผงสีขาวถูกเทใส่แก้วน้ำแล้วคนให้เข้ากัน แก้วสองใบถูกยกเข้ามาให้คนที่ยังคงนั่งพิงหัวเตียงอยู่ ไอหมอกไม่ยอมนอน และเหนือสมุทรเองก็คงบังคับให้อีกฝ่ายหลับไม่ได้

    "ทานนมอุ่น ๆ สักหน่อย จะได้หลับสบาย"

    "ผมไม่หิว"

    บางทีเหนือสมุทรก็อดคิดไม่ได้ว่าหากเขาไปช่วยไอหมอกไม่ทัน อีกฝ่ายจะตายเพราะความปากไวดื้อแพ่งของตัวเองรึเปล่า

    "จะกินเอง หรือให้ผมป้อน"

    ไอหมอกมองอีกฝ่ายเขม็ง "…"

    "ตกลงว่าไม่กิน?"

    หลังจากใช้เวลาอยู่กับตัวเองพอสมควร ไอหมอกเพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าเขาเองก็ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้เลยสักนิด อีกฝ่ายเข้าหาตัวเองเพราะอะไร ทำไมทุกครั้งที่เขาเกิดเรื่องก็มักเจอเหนือสมุทรที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาอยู่เสมอ นี่เป็นการเล่นละครแบบแผนซ้อนแผนหรือเปล่า

    "บอกก่อนมาสิ คุณต้องการอะไรจากผม" คราวนี้คนที่ง่วงงุนก่อนหน้า จ้องมองเหนือสมุทรราวคาดคั้นอีกครั้ง และเหนือสมุทรเองก็รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของไอหมอกไม่มั่นคง ราวกับอีกฝ่ายยังตกใจไม่หาย เป็นการไร้สติอย่างไม่รู้ตัว

    เหนือสมุทรวางทุกอย่างลงบนโต๊ะข้างเตียงช้า ๆ ปรายตามองอีกฝ่ายที่ค่อย ๆ ขยับหนีไปอีกฝั่งของเตียงกว้าง ทั้งเผยสีหน้าดุดันและแววตาคุกคาม

    ไอหมอกรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดของอีกฝ่ายที่แผ่ออกมา มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนไม่อยากอยู่ใกล้ ยิ่งอีกฝ่ายขยับเข้าหา เขาจึงยิ่งขยับออกห่าง อีกนิดเดียวก็จะก้าวเท้าลงจากเตียงได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ

    "คุณจะทำอะไรน่ะ! ปล่อยนะ!" คราวนี้ไอหมอกร้องเสียงหลงเมื่อข้อเท้าตัวเองโดนจับยึดเอาไว้แล้วถูกลากกลับมายังกลางเตียงเหมือนเดิม เท้าอีกข้างพยายามถีบเตะให้มือใหญ่ปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ แต่ก็ไร้ประโยชน์

    “คุณอย่า อื้ออ...ไม่เอา” หมดทางหนี คุณหมอหนุ่มถูกทาบทับไว้ใต้ร่างหนากำยำ เหนือสมุทรจับคางมนเอาไว้แล้วกดจูบลงไป คราวนี้ไอหมอกดิ้นพล่านทันที ทั้งข่วนทั้งทุบตีคนตรงหน้าเต็มแรง

    ความอุ่นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาพาให้คิ้วเรียวสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายดันบางอย่างเข้ามาในปากตัวเอง ทั้งบังคับให้กลืนมันลงไป

    "อื้อ!" ทั้งรู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อสองขาถูกแทรกให้แยกออกกว้างโอบรอบเอวสอบ ทั้งเจ็บใจที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

    เหนือสมุทรป้อนยาเม็ดเล็กเข้าปากคนตรงหน้าผ่านรสจูบตัวเอง และด้วยความดื้อพยศของไอหมอกจึงยังอยากเก็บเกี่ยวจูบนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น และหัวหน้าหน่วยก็ได้รู้ว่ารสจูบไอหมอกยังคงหวานเหมือนเดิม ก่อนจะผละออกมาเมื่อโดนทุบซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง

    ไอหมอกดันร่างตัวเองออกห่างจากเหนือสมุทรทันทีที่อีกฝ่ายผละความอุ่นร้อนออก ซึ่งเหนือสมุทรเองก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ใช้หลังมือปาดเช็ดความเปียกชื้นบนริมฝีปากออกด้วยสีหน้าแดงก่ำ ทั้งอายและโกรธที่อีกฝ่ายทำเรื่องน่าอายแบบนี้กับตัวเองอีกครั้ง

    "คุณมันโรคจิต!"

    "ครับ" เหนือสมุทรนั่งลงบนเตียงอีกฝั่ง สบตาอีกฝ่ายที่มองมาอย่างวาวโรจน์อย่างนึกสนุก ทั้งถ้อยคำด่าที่ชวนให้นึกเอ็นดู ใครมันจะไปโกรธคนที่ตัวแดงหน้าแดง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมเผ้าฟูฟ่องแบบนี้ได้ลง

    "ที่คุณถามว่าผมต้องการอะไรจากคุณน่ะ บอกให้ก็ได้" หัวหน้าหน่วยเว้นจังหวะเอาไว้ และวางท่าราวกับจะโผเข้าหาไอหมอกอีกครั้ง

    "ผมจะเอาคุณไง" เหนือสมุทรพูดหน้าตาย เขาเห็นนัยน์ตากลมเบิกกว้าง ปากเรียวเม้มแน่น แก้มกลมขึ้นสีอ่อน

    "...!!"

    "และถ้ายังดื้อไม่เลิก คุณได้เป็นเมียผมแน่ เอาไง จะนอนไม่นอน" เหนือสมุทรอยากพักแต่ติดที่อีกฝ่ายนี่สิ ยังคงดื้อไม่เลิก อีกอย่างถ้าปล่อยไอหมอกออกไปตอนนี้ รับรองได้เลยว่าเจอกันอีกทีไอหมอกได้กลายเป็นศพแน่

    "ผมจะไปนอนข้างนอก เชิญคุณตามสบาย เฮ้ย ๆ ปล่อยสิวะ อย่ามาจับ" ยังไม่ทันได้ก้าวลงจากเตียงก็โดนมือใหญ่รั้งเอวเอาไว้

    เหนือสมุทรคร้านจะพูดให้เสียเวลา เขากำลังนับถอยหลังในใจ ระหว่างนั้นก็รั้งคนที่ตั้งใจจะหนีไปข้างนอกเอาไว้ จนอีกฝ่ายหงายหลังลงมาบนตักตัวเอง "หมอทุกคนเขาดื้อเหมือนคุณรึเปล่า?"

    "อย่ามายุ่ง คุณมันก็แค่..." ไอหมอกพลันรู้สึกตัวเบาหวิว สติพร่าเบลอ คุณหมอหนุ่มพยายามสะบัดหน้าไล่ความมึนงงออกไปแต่ยากเต็มที

    “นี่คุณ...” ความง่วงงุนเข้าครอบงำ ไม่นานเปลือกตาสีอ่อนก็ปิดลงอย่างง่ายดาย ทั้งกายบางที่ทิ้งตัวลงบนตักเขา

    “หลับสักทีนะคุณหมอ ดื้ออย่างกับเด็ก” เหนือสมุทรถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน มองคนหลับคาตักตัวเองหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ มืออุ่นจัดแจงโอบอุ้มให้ไอหมอกนอนดี ๆ มองใบหน้าใสที่หลับสนิท

    “ตื่นมาค่อยดื้อนะคุณ” จบลงแบบนี้เดาได้ว่าเมื่ออีกฝ่ายตื่นขึ้นมาคงอาละวาดเละแน่ แววตาดุจับจ้องคนที่หลับสนิทบนตัก แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ จมูกโด่งเผลอก้มลงกดหอมไปแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู

    เหนือสมุทรให้ไอหมอกนอนด้านใน ส่วนตัวเองนอนด้านนอก แม้มั่นใจว่าโรงแรมนี้ปลอดภัยระดับหนึ่งแต่หากมีอะไรเกิดขึ้นเขาคงช่วยอีกฝ่ายได้ทัน

    เขานอนหันหลังให้คนที่หลับเพราะฤทธิ์ยานอนหลับไปแล้ว และขณะที่กำลังเคลิ้มใกล้หลับเต็มทีก็มีแขนเรียววาดผ่านกอดมาจากด้านหลัง ทั้งรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นที่แนบอยู่กับหลังตัวเอง

    หัวหน้าหนุ่มนอนนิ่ง ๆ อยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็ยอมแพ้ตัวเอง พลิกกายหันกลับมาหาคนเด็กกว่า นัยน์ตาดุมองคนหลับสนิท ก่อนจะสอดแขนให้อีกฝ่ายนอนต่างหมอนแล้วโอบรั้งให้ไอหมอกเข้ามาแนบอก กดจูบขมับขาวไปอีกที

    "ฝันดีนะไอหมอก"

     

    หลายชั่วโมงก่อนหน้า

    เหนือสมุทรตามไอหมอกมาหลังจากรู้ข่าวของปรางทราย แต่สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิด นั่นคือการเจอรุ่งอรุณไม่ใช่ไอหมอก ไม่ว่าจะมองหายังไงก็ไม่เจอไอหมอก และลางสังหรณ์ของหัวหน้าหนุ่มกำลังร้องจึงเตือนถึงสัญญาณอันตราย

    หัวหน้าหนุ่มสาวเท้าเข้าหารุ่งอรุณทันที “ไอหมอกล่ะ”

    รุ่งอรุณจำเหนือสมุทรได้ และเขาไม่ชอบให้เหนือสมุทรอยู่ใกล้กับไอหมอก “ไม่เกี่ยวกับคุณ”

    เรื่องของปรางทรายทำให้รุ่งอรุณเครียดพออยู่แล้ว ดังนั้นการเจอเหนือสมุทรในตอนนี้ยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียมากกว่าเดิม เลยเลือกจะเมินเฉยสายตาเหนือสมุทรที่มองมาอย่างคาดคั้น

    “ไอหมอกอยู่ไหน”

    “มันไม่เกี่ยวกับคุณ กลับไปเถอะ วันนี้ไอหมอกไม่ว่างมาเจอคุณหรอก” รุ่งอรุณปัดมือส่ง ๆ ทั้งหมุนกายจะเลี่ยงไปอีกทาง

    เหนือสมุทรเองก็ไม่ยอม หน่วยของเขารายงานมาแล้วว่าทางฝั่งโน้นเคลื่อนไหวแล้ว “ถ้าไม่อยากให้เพื่อนคุณตายเหมือนทัพฟ้ากับปรางทรายก็บอกผมมาว่าเขาอยู่ไหน”

    คราวนี้รุ่งอรุณหันขวับกลับมามอง สายตาที่มองเหนือสมุทรกลายเป็นความหวาดระแวง “คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

    “เรื่องนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือตอนนี้ไอหมอกอยู่ไหน เพื่อนคนสำคัญของคุณอยู่ไหน” เหนือสมุทรเน้นย้ำคำว่าคนสำคัญใส่หน้ารุ่งอรุณเพื่อบอกให้รู้ว่าเขารู้มากกว่าที่เจ้าตัวคิด และกำลังจะหมดความอดทนลงในอีกไม่ช้า เพราะยิ่งเขาช้ามากเท่าไร ไอหมอกยิ่งอันตรายมากเท่านั้น

    เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคน บรรยากาศรอบตัวดูกดดันขึ้นหลายเท่าตัวจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้คนทั้งคู่

    “คุณรู้เรื่องปรางทราย?” รุ่งอรุณเอ่ยหยั่งเชิง และต้องกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินคำตอบจากปากคนตรงหน้า

    “รู้มากกว่าที่รู้ รู้แม้กระทั่งเรื่องที่คุณทำกับเธอไว้คุณหมอ” เหนือสมุทรแสยะยิ้มร้ายออกมา ยิ่งเห็นอีกฝ่ายแสดงท่าทางโกรธแค้นร้อนรนยิ่งเป็นผลดีกับตัวเขา

    รุ่งอรุณกำมือแน่นจนเจ็บ เขาหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างนึกข่มอารมณ์ตัวเอง “มีเจ้าหน้าที่มาพาไปสอบปากคำเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าที่คุณจะมาไม่นาน”

    “รู้ได้ยังไงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ มีอะไรมายืนยันว่าพวกมันเป็นเจ้าหน้าที่” คราวนี้เหนือสมุทรว่าเสียงเย็น เขากระชากคอเสื้อรุ่งอรุณเอาไว้ ความเป็นห่วงใครอีกคนพุ่งสูงในใจ

    “ก็คนพวกนั้นมี...” รุ่งอรุณกำลังจะบอกว่าพวกนั้นมีบัตรเจ้าพนักงาน แต่...มาถึงตอนนี้เขาไม่มั่นใจว่าที่เขาเห็นนั่นใช่บัตรพนักงานจริงหรือเปล่า เพราะเรื่องราววุ่นวายเร่งรีบทำให้อาจเผลอไป

    แต่แล้วรุ่งอรุณกลับเบิกตากว้าง เขาหันมองเหนือสมุทรอย่างตื่นตระหนก เขาจำผู้ชายคนนั้นได้แล้ว “คุณ แย่แล้ว หนึ่งในนั้นคือลูกน้องของคุณพิศักดิ์! เขาคือหนึ่งในคนที่พาไอหมอกไป”

    “บ้าเอ๊ย” คราวนี้เหนือสมุทรผลักรุ่งอรุณออกห่าง เขารีบโทรหาเคนจิทันทีให้หาพิกัดไอหมอกทันที 0โดยเจาะเข้าระบบกล้องทั้งหมดของโรงพยาบาลแห่งนี้ และถนนบริเวณนี้โดยรอบ

    ราวห้านาทีข้อมูลทั้งหมดก็ถูกส่งมาให้เหนือสมุทร เขาจึงรู้ว่าพวกมันพาไอหมอกไปยังชานเมืองโดยใช้เส้นทางเปลี่ยวที่แทบไม่มีรถผ่านไปมา

    “กะฆ่าทิ้งเลยสินะ” เหนือสมุทรสบถออกมาเล็กน้อย รีบเร่งออกจากห้องฉุกเฉินไป โดยมีรุ่งอรุณวิ่งตามหลังมา

    “คุณเกิดอะไรขึ้น”

    “ไปถามลุงคุณสิว่าเกิดอะไรขึ้น และอย่ามาขวางผมถ้าไม่อยากให้คนที่คุณรักต้องตาย”

    “...”

    เหนือสมุทรไม่สนใจคนที่นิ่งค้างกับความลับที่ถูกล่วงรู้ไปแล้ว เขารีบวาดขาคร่อมบิ๊กไบค์คันเก่ง บิดคันเร่งพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ทิ้งให้รุ่งอรุณจมดิ่งอยู่กับที่

     

    เหนือสมุทรพาไอหมอกกลับมาโรงพยาบาลตามที่เจ้าตัวต้องการ คุณหมอหนุ่มรีบไปยังห้องฉุกเฉินทันที ทว่าเมื่อไปถึงเขาก็เจอกับรุ่งอรุณที่รออยู่ก่อนแล้ว

    ทันทีที่เห็นไอหมอกเดินเข้ามา รุ่งอรุณรีบเร่งเข้ามาคว้าตัวไอหมอกไปกอดนั่นทำเอาคิ้วเหนือสมุทรกระตุกเล็กน้อย

    “ปรางละอุ่น ปรางเป็นไงบ้าง ปลอดภัยแล้วใช่ไหม” ไอหมอกจับแขนเพื่อนสนิทเอาไว้แน่น เขย่าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าจะได้ยินข่าวดี

    แต่รุ่งอรุณยังคงเงียบงัน ทั้งยังไม่ยอมสบตากัน

    “หมายความว่าไงอุ่น ปรางอยู่ไหน ฉันจะไปหาปราง” ไอหมอกจะผละออกจากตัวรุ่งอรุณไปยังห้องฉุกเฉิน แต่ก็โดนอีกฝ่ายรั้งแขนเอาไว้

    “พอเถอะไอหมอก”

    “พออะไรอะอุ่น ปรางอยู่ไหน ปล่อย ฉันจะไปหาปราง” ไอหมอกไม่ยอมรับสิ่งที่รุ่งอรุณกำลังจะบอก เขาสลัดมือเพื่อนตัวเองออกอีกครั้ง แต่ก็ยังโดนฉุดรั้งไว้เหมือนเดิม

    “ไอหมอกพอสักที”

    “ปล่อยสิอุ่น บอกให้ปล่อยไง ถ้านายไม่ช่วยปราง ฉันช่วยเองก็ได้ หลีกไป!” ไอหมอกพยายามผลักร่างเพื่อนสนิทออก แต่กลายเป็นรุ่งอรุณรั้งตัวเองเข้าไปกอดแทน

    “นายเข้าไปก็ช่วยไม่ได้หรอก ผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว ปรางทรายตายแล้วไอหมอก เธอตายแล้ว!”

    “ไม่จริง ปรางยังยิ้มให้ฉันอยู่เลย ปล่อยอุ่น ปล่อย!” คราวนี้ไอหมอกผลักรุ่งอรุณเต็มแรง เขาวิ่งไปยังห้องฉุกเฉิน จนเข้ามาถึงเตียงสุดท้ายที่รูดม่านปิดเอาไว้รอบเตียง

    ไอหมอกค่อย ๆ ก้าวขาเข้าหาเตียงตรงหน้า ร่างใครสักคนคลุมผ้าปิดสีขาวสะอาดนอนแน่นิ่งอยู่ มือขาวสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้ เขาค่อย ๆ เลื่อนเปิดผ้าผืนนั้นออก เผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียวนอนนิ่งสงบราวกับหลับใหลอยู่บนนั้น

    “ปราง อึก ปราง อย่าทิ้งผมไปสิ ฮึก ปราง” ผิวเนื้อเย็นทำเอาไอหมอกหนาวไปถึงหัวใจ ความเป็นจริงตรงหน้าทำเอาไอหมอกถึงกับทรุดลงกับพื้น

    เขากำมือเย็นเฉียบของปรางทรายเอาไว้แน่น ไม่ว่าจะเรียกหาหญิงสาวแค่ไหนก็ไร้เสียงตอบรับกลับมา

    สายตาสองคู่มองไอหมอกด้วยความรู้สึกแตกต่างกัน

    รุ่งอรุณแม้จะเสียใจ แต่เขากลับรู้สึกโล่งใจมากกว่า ขณะที่เหนือสมุทรรู้สึกสงสารหญิงสาวไม่น้อย แต่นี่คงเป็นทางเดียวที่ทำให้เธอสามารถไปหาคนที่เธอรักได้ และหวังว่าเธอจะสมหวังกับสิ่งที่ปรารถนานั้น

    ไอหมอกร้องไห้ออกมาจนร่างกายสั่นไหว มือยังคงกุมมือปรางทรายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

    “พอเถอะไอหมอก” รุ่งอรุณรั้งเพื่อนให้ลุกขึ้น แต่ไอหมอกไม่ให้ความร่วมมือสักนิด ยิ่งเห็นอีกฝ่ายร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะผู้หญิงคนนี้ รุ่งอรุณยิ่งรู้สึกราวกับหัวใจถูกทุบซ้ำ ๆ ด้วยมือที่มองไม่เห็น

    เพราะรักมากจึงเสียใจมากสินะ รุ่งอรุณกัดฟันกรอดทำใจยอมรับความจริงนี้ไม่ได้ และทุกอย่างอยู่ในสายตาของเหนือสมุทรตลอด ชายหนุ่มทำแค่มองดูฉากเคล้าน้ำตาตรงหน้าเท่านั้น

    “ฉันอยากอยู่กับปราง”

    “พอสักทีได้ไหมไอหมอก เธอตายไปแล้ว นายร้องไห้ให้ตายปรางก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก”

    “คนที่สมควรตายคือฉันไม่ใช่ปราง เพราะฉัน...ปรางถึงต้องตาย” หยาดน้ำตามากมายไหลออกมา

    เพราะต้องเก็บความรู้สึกรักใคร่ที่มีต่อคนตรงหน้ามานาน หลังจากที่คิดอยู่นานว่าจะให้หญิงสาวออกจากชีวิตไอหมอกยังไงดีก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเสียก่อน และการที่ต้องมาเห็นคนที่ตัวเองเฝ้ารักทะนุถนอมมาหลายปีกำลังร่ำไห้เสียใจเพราะจุดจบของตัวละครของตัวเอง

    รุ่งอรุณรู้สึกราวโดนตบหน้าเมื่อนึกไปถึงคำพูดของปรางทรายก่อนหน้านี้

    เขาไม่มีวันรักคุณแบบที่คุณรักเขา ต่อให้ไม่มีฉัน ไอหมอกก็ไม่มีวันรักคุณ

    “นายเลิกร้องไห้เพราะผู้หญิงเห็นแก่ตัวคนนี้สักที! ฉันจะบอกให้นะไอหมอกที่ผ่านมาเธอไม่ได้รักนายเลยสักนิด เธอทำไปทุกอย่างเพราะเธอรักตัวเอง และเห็นแก่เงินเท่านั้น!”

    ไอหมอกชะงักกับสิ่งได้ยิน "พูดบ้าอะไรของนายน่ะอุ่น”

    ถ้าคำพูดของเขาจะทำให้ไอหมอกตัดใจได้ง่ายขึ้น เสียใจกับการจากไปของปรางทรายน้อยลง รุ่งอรุณยอมพูดมันออกมาก็ได้ “ปรางทรายเข้าหานายเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง เธอไม่ได้รักนาย และที่เธอตายก็เพราะตัวเธอเองเช่นกัน ไม่เกี่ยวกับเราสักนิด”

    เหนือสมุทรขมวดคิ้วกับสิ่งที่ได้ยิน นี่แทบเป็นการใส่ร้ายหญิงสาว อดไม่ได้ที่จะพูดแทรกขึ้นมา “คนตายพูดไม่ได้ คนเป็นจะพูดไงก็ได้สินะ”

    “อะไร?” คราวนี้ไอหมอกถูกความเสียใจและตกใจจู่โจมจนตั้งหลักไม่ทัน เขามองรุ่งอรุณที เหนือสมุทรที

    “อย่าใส่ร้ายเธอฝ่ายเดียวสิคุณหมอ ถ้าคุณจะพูดก็พูดออกมาให้หมด อย่างเช่นที่ว่าคุณทำแบบนั้นไปทำไม”

    เหนือสมุทรไม่สนใจว่ารุ่งอรุณมีสีหน้าอึมครึมแค่ไหน เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวรั้งไอหมอกให้ยืนขึ้นอย่างระมัดระวัง 

    รุ่งอรุณกัดฟันกรอด มองเหนือสมุทรอย่างเดือดดาลที่ความจริงถูกกะเทาะจนเปลือกหลุดออกมาแม้จะไม่ทั้งหมด “หุบปากคุณไปซะ ไม่รู้อะไรก็อย่าพูด”

    “งั้นเหรอ คุณอยากพูดเอง หรือให้ผมพูดล่ะ ถ้าให้ผมพูด ...ไม่ใช่แค่เขาจะเกลียดคุณ แต่คงไม่อยากเจอคุณอีกเลยก็ได้ เอาไหมล่ะคุณหมอ”

    เกิดความเงียบชวนอึดอัดขึ้นอีกครั้ง แม้แต่ไอหมอกยังรู้สึกได้ แต่พอจะเอ่ยปากถามกลับโดนเหนือสมุทรจับพลิกกายหันหน้าเข้าหาตัวเองแล้วให้เขาซบหน้าอยู่กับอกอุ่น

    “คุณเหนื่อยมาพอแล้ว อย่าเพิ่งรับเรื่องอะไรเพิ่มในตอนนี้เลย” เหนือสมุทรกระซิบเสียงเบา จมูกโด่งกดหอมขมับขาวไปทีทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่กับรุ่งอรุณ แล้วแสยะยิ้มออกมา

    “คุณต้องการอะไร”

    “อย่าพูดถึงเธอแบบนั้นอีก เธอเป็นแค่เหยื่อ ถ้าจะโทษใครสักคน หนึ่งในนั้นคงมีคุณด้วยเช่นกัน” หัวหน้าหน่วยมองรุ่งอรุณด้วยสายตาเย็นชา

    "และถ้าคุณคิดจะพูดอะไรไร้สาระละก็..." คราวนี้หัวหน้าหนุ่มจดจ้องรุ่งอรุณนิ่งงันด้วยสีหน้าเยียบเย็น “ถ้าอดใจไม่ไหว อยากจะพูด ...บอกเขาไปสิว่าคุณทำอะไรลงไปบ้าง พูดกับเขาให้เหมือนกับที่คุณพูดกับเธอไง คุณหมอรุ่งอรุณ”

    เหนือสมุทรพาไอหมอกออกมาด้านนอก มือใหญ่กอบกุมมือเรียวเอาไว้ คุณหมอหนุ่มมีสีหน้าดูยุ่งเหยิงเมื่อสิ่งที่ได้ยินจากรุ่งอรุณทำให้อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองคนที่รีบเดินตามหลังมา 

    “นั่นคุณจะพาไอหมอกไปไหน” แขนเรียวถูกรุ่งอรุณรั้งเอาไว้

    เหนือสมุทรรั้งไอหมอกกลับมาเหมือนเดิม มองเมินรุ่งอรุณ จับคนตัวเล็กกว่าใส่หมวกกันน็อก กระชับเสื้อฮู้ดให้เรียบร้อย แล้วช่วยยกตัวอีกฝ่ายขึ้นนั่งบนบิ๊กไบค์คันโตก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับหมออุ่นอีกครั้ง

    “อยู่กับผมเขาจะปลอดภัย อีกอย่าง วางใจเถอะคุณหมออุ่น ผมไม่ใช่คนยุ่งเรื่องคนอื่น ว่าแต่คุณเถอะ เตรียมคำตอบไว้ดี ๆ ล่ะ เขามาทวงคำตอบจากคุณแน่” เหนือสมุทรหันหลังกลับ ยังไม่วายทิ้งประโยคช่วยปวดหัวเอาไว้อีกครั้ง

    “เพราะเป็นตัวคุณเองที่ปล่อยไก่หมดเล้าแบบนั้น หึหึ”

    รถบิ๊กไบค์คันใหญ่จากไปแล้วพร้อมไอหมอกและชายแปลกหน้า ทิ้งไว้แค่ความหนักอึ้งที่กัดกินหัวใจของรุ่งอรุณ

     

    *-*-*

    #ไอหมอกเหนือสมุทร 

    T: Mairymii

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×