ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic Harry Potter} Pick me

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode : 3 Adjustment time

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.57K
      184
      12 มิ.ย. 62



    'เมื่อพบกันแล้ว ย่อมรู้จักกัน เมื่อจากกันก็ย่อมกลายเป็นความจำของสองฝ่ายที่ไม่มีวันเลือนหายไป'


    ___________________________________________


    Episode 3

    Adjustment time 


    แสงแดดตอนเช้าของวันใหม่ทำเอาผมนี่แทบจะวิ่งหนีไปให้ไกลราวกับตัวเองเป็นแวมไพร์ที่ไม่ต้องการแสงแดดและเกลียดมันมาอย่างไงอย่างงั้น แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะมีอะไรบ้างอย่างหนักทับตัวผมไว้เสียอย่างนั้น ผมพยายามขยับตัวและกระพริบตาถี่ๆเพื่อมองดูว่าสิ่งที่ทับผมไส้มันคืออะไรกันแน่ แต่พอผมลืมตาขึ้นมาผมก็ต้องพบกับความแปลกใจในหัว


    .


    .


    .

    มันไม่มีอะไรที่ทับผมอยู่

    .


    .


    .


    แล้วสิ่งที่หนักอึ้งเมื่อกี้นี้มันอะไรกันแน่นะ ผมเหยียดแขนเรียวยาวราวกับลำเทียนของผมขึ้นจนสุดแขน พร้อมบิดตัวไปมาเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวหลังจากที่คดตัวอยู่นิ่งๆมาตลอดทั้งคืน เมื่อเริ่มรู้สึกตื่นเต็มตา(ถึงจะสะลึมสะลืออยู่บ้างก็เถอะ) เท้าสองข้างก็เริ่มทำงานตามความเคยชินของตัวมันทั้งๆที่ผมไม่ได้สั่งการมันพาผมไปยังตู้เสื้อผ้าไม้เนื้อหนาที่มุมห้องอีกด้านในมุมทแยงกับโต๊ะเขียนหนังสือ ผมเปิดมันออกก่อนจะมองเข้าไปภายใน ในตู้เสื้อผ้าของวัตสันมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นและยาวคละกันไป ส่วนกางเกงก็มีเพียงสีดำแบบสั้นและยาว เสื้อผ้าทั้งตู้นี้ชั่งเรียบง่ายจริงๆ ผมไม่ได้ติว่าอะไรหรอกนะเพราะตอนที่ผมอยู่โลกเก่าผมมีแค่เสื้อกล้ามเสื้อยืดสองสามตัวแล้วก็กางเกงขาสั้น ชุดที่ดีที่สุดก็คงจะเป็นชุดนักศึกษา ซึ่งผมเพิ่งได้ใส่มันยังไม่ถึงสิบครั้งด้วยซ้ำ


    .


    .


    .


    ยิ่งคิดยิ่งอนาถตัวเอง


    .


    .


    .


    มือเล็กของผมเอือมไปหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวหนึ่งในตู้พร้อมกับกางเกงสีดำเมี่ยมขายาวสไตล์เรียบง่ายและเรียบร้อย ถ้าจำไม่ผิดอีกไม่นานเขาก็ต้องตอบจดหมายของฮอกวอตส์แล้วสิ เพราะว่าฮอกวอสต์มักเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กันยายนหากไม่มีปัญหาอะไร ก่อนที่จะคิดเรื่องนั้นผมก็ต้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่ซะก่อน แต่เมื่อเดินลงมาจากชั้นบนผมแทบช็อตกับสภาพบ้านหลังจากเมื่อวาน ถึงศพของคุณนายทรีลอว์นีย์หรือแม่ของผมจะถูกย้ายไปไว้ที่โบสถ์แล้วก็ตาม แต่พื้นที่แตกเป็นเสี่ยงรวมทั้งกลิ่นอายของบ้างอย่างที่ยังคงอยู่ คำสาปพิฆาต 


    .


    .


    .


    .


    โบสถ์สีขาวสว่างตาถูกประดับประดาด้วยดอกลิลลี่สีขาว บรรยากาศอึมครึมที่บ่งบอกถึงความโศกเศร้าเสียใจที่สูญเสีย แขกในงานมีน้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก มีแค่ผม เมสัน เมแกน แล้วก็คนแก่อีกสองสามคนที่เคยพูดคุยกับแม่ของเขาบ่อยครั้ง ถ้าที่ผมได้ยินมาจากคุณลุงไม่มีอะไรผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน เหมือนกับว่าพ่อของผมที่ทำงานอยู่ต่างประเทศในตอนนี้กำลังจะกลับมาที่อังกฤษพร้อมกับพาผมกลับไปอยู่ด้วยกันที่เขตนอกหมู่บ้านลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน ถ้าผมจำไม่ผิดมันก็ไม่ห่างจากบ้านตระกูลก็อท แล้วก็บ้านตระกูลริ้ดเดิ้ลเท่าไหร่ พระเจ้าช่วยซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ (ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่มีคนอยู่แล้วก็เถอะ) แต่มันเป็นบ่อนเกิดโศกนาฏกรรมในตำนานเชียวนะ บาทหลวงในโบสถ์เริ่มกล่าวตามคำในไบเบิล ร่างกายของผมกำลังสั่นระริกแต่คนที่มีศักดิ์เป็นลุงกลับเป็นคนที่กอดปลอบผมเสียอย่างงั้น น้ำตาที่ไม่รู้มาจากไหนเริ่มไหลรินออกมาราวกับเขื่อนที่แตกเป็นเสี่ยงๆ หัวใจของผมเหมือนจะแหลกตามไปด้วย วัตสันฉันขอโทษนะที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ถ้าฉันลงมาตั้งแต่แรกล่ะก็.... ไม่สิจะโทษตัวเองทั้งหมดก็ไม่ได้มันไม่ใช่ความผิดของใคร แค่ชะตากรรมมันหมุนมาแบบนั้น ผมได้แต่ยกมือกอดตอบชายผมแดงตรงหน้าไป น้ำตาจากดวงตาคู่กลมสีเขียวหม่นแกมเทาคู่นี้ มันเจ็บปวด


    "ฉันมาสายไปสินะ" เสียงของผู้มาใหม่นั้นดังขึ้นนอกประตูโบสถ์ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของผมหันไปทางเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเขียวหม่นที่เหมือนกันกับวัตสัน กับเส้นผมสีบลอนด์เงินสว่างที่คุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด 'วิกเตอร์ ลอร์ย ทรีลอว์นีย์ ' นั่นคือชื่อของเขาที่พุดขึ้นมาจากหัวของผมอย่างไร้ต้นสายปรายเหตุ เขาคือพ่อของวัตสัน 


    ชายร่างสูงที่ดูสง่างามผิดกับภาพที่ผมคิดเอาไว้ าย่างกรายเข้าไปหาโลงศพที่ยังคงเปิดอ้าเอาไว้ ด้านในเป็นร่างของคุณนายทรีลอว์นีย์ มือของเขาเอือมขึ้นจับใบหน้าสวยของคุณแม่ด้วยอาการสั่นเทา จากที่ได้มองดูผมคาดว่าเขากำลังกลั้นความรู้สึกเศราโศกอยู่เป็นแน่ ผมผละจากอ้อมแขนของเมสันเดินเข้าไปหาคุณพ่ออย่างอัตโนมัติ เขาหันกลับมาหาผมแล้ววางมือหนาๆนั้นลงมาเบาๆที่ไหล่เล็กของผมแล้วบีบมาเบาๆ 


    "ไม่ต้องห่วงนะเคเรน....ฉันจะดูแลลูกให้ดีกว่านี้ฉันสัญญา" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือของเขาก็สั่นเครือเช่นกัน "แล้วฉันก็จะไม่ให้ พี่-ชาย-ของเธอ มายุ่มหย่ามกับลูกของเราไปมากกว่านี้" 


    .


    .


    .


    โอ้ก้อด! บรรยากาศเปลี่ยนเร็วมาก


    .


    .


    .


    ผมตามไม่ทันแล้ว =-=


    พ่อของผมใช้สายตาจิกกัดพุ่งไปหาชายผมแดงที่มีศักดิ์เป็นลุงของผมอย่างอาฆาต กูเหมือนว่าเขาจะเคยทำอะไรสักอย่างให้ครอบครัวฝั่งพ่อผมไม่พอใจสุดๆ อาจจะเป็น....(ช่างมันเถอะ)ก็เป็นได้ แต่คงหนีไม่พ้นเรื่องไม่ดีที่ทำให้ครอบครัวผมลำบากแน่ๆในความเข้าใจผมนะ คุณพ่อจูงมือผมให้เดินตามขบวนขนหีบศพไปยังลานสุสาน เขากุมมือผมหลวมๆอย่ากลัวว่าเขาจะเผลอบีบมันแน่นจนเกินไปแล้วทำให้ผมเจ็บ ผมสัมผัสมือของเขาแต่กลับไม่มีภาพในอนาคตเหมือนกับที่เขาแตะตัวขอเมสันเลย ตอนที่เมสัน(แอบ)กอดผมเมื่อกี้นี้ ผมเห็นเหมือนภาพเลือนลางที่เขากำลังถูกใครสักคนตำหนิแล้วร่างของนายเมแกนก็กระตุกและชักเกร็งเหมือนถูกฟันแทงอย่าทรมาณแล้วก็ถูกตัดไปเมื่อผมยกมือขึ้นสวมกอดเขาตอบ เมื่อผมกลับมาสนใจกับเหตุการณ์ปัจจุบัน มสันไม่อยู่แล้ว หีบศพถูกกลบอย่าเรียบร้อยพร้อมป้ายหลุมศพขนาดไม่ใหญ่มากนักมันทำจากหินอย่างลวกๆ ผมมอดินกองใหญ่ที่ยังคงตรงนั้นอย่างหดหู่



    เมื่องานจบผมกับพ่อก็เดินออกมาหลังจากการไว้อาลัยพร้อมเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านทรีลอว์นีย์กัน เดิมทีบ้านทรีลอว์นีย์ก็เป็นตระกูลเลือดบริสุทธิ์ที่แทบไม่มีอิทธิพลใดๆอยู่แล้ว พวกเขาเลยอยู่อย่าง … สงบสุขมากกกกก มากเกินไป แต่เมื่อเวลามีสงครามพวกเขามักจะตายเป็นพวกท้ายๆเลยด้วยซ้ำ เพราะอะไรน่ะเหรอเพราะความสามารถพิเศษของตระกูลยังไงล่ะ นิมิตที่แม่นยำที่สุดในอังกฤษ


    “ลูกยังไม่เคยเจอซีบิลล์ใช่ไหมวัตสัน?” คุณพ่อของผมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่มีจังหวะแสนจะราบเรียบแบบฉบับเดียวกัน


    ซีบิลล์นี่หมายถึง ซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์ ที่ทำนายเรื่องเด็กชายผู้รอดชีวิตใช่ไหม


    “ยังครับ” ผมตอบกลับไปด้วยโทนเสียงเดียวกัน


    “อา...ยัยนั้นเป็นสิ่งที่….ค่อนข้างจะ….แปลกประหลาดในตระกูลเลยนะรู้ไหม” เขากล่าวด้วยท่าทีที่เรียบนิ่ง ทุกสิ่งที่เขากล่าวออกมาล้วนแต่มีท่าทีไม่ใส่ใจอะไร ยังกับว่าปลงแล้วซะอย่างนั้น


    อาแน่นอนว่า ซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์นั้นมีผมสีน้ำตาลหยิก แถมเป็นคนที่ฉลาด และขี้โม้โอ้อวดมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องคำทำนายของเธอที่มักจะอุปโลกขึ้นมาซะส่วนใหญ่ (ซึ่งมันก็บังเอิญเป็นจริงถึง 90% เลยทีเดียว) นั่นจึงยิ่งส่งเสริมให้เธอนั้นยิ่งชอบโม้เข้าไปอีก แต่ผมก็แอบสงสารเธอนะที่เวลาคำทำนายจริงๆจังโผล่ออกมาจากปากของเธอ ซึ่งเธอก็ไม่สามารถจำมันได้ ซึ่งจากการอ่านจดหมายตัวผมหรือ...วัตสันก็เป็นเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะผมกับคุณอาซีบิลล์เป็นฮาล์ฟบลัดก็เป็นได้


    “พร้อมหรือยัง” ผู้เป็นพ่อถามก่อนจะตั้งแขนขึ้นเป็นองศา โอ้ไม่นะแบบที่ศาตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์พาแฮร์รี่หายตัวหรือเปล่า ได้ข่าวว่ามัน...ค่อนข้างทำให้คลื่นไส้ไม่น้อย


    “ครับ” ผมกล่าวตอบไปอย่างปลงๆแล้วเอือมมือไปจับวงแขนของคุณพ่อก่อนที่เราทั้งคู่จะหายตัวไปจากตรงนั้นอย่างไร้ร่องรอย


    เมื่อคืนนี้ผมคล้ายกับจะฝันถึงเรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนหย้าที่ผมจะมาที่นี่ ในเป็นภาพที่แสนเลือนลางและไม่ชัดเจน เสียงที่ดังก้องไปทั่วแต่ไม่สามารถเข้าใจความหมายที่เขาหรือเธอในฝันนั้นจะสื่อ


    'เธอต้องเลือกข้างเดียวกันกับ....ม.....นั่นคือ.....สิ่......นะดีโน่'


    ผมได้แต่ครุ่นคิดถึงมันตลอดเวลาแตาไม่สามารถแสดงออก...อาเรื่องนี้มันเรื่องอะไรกันแน่มีสิ่งแปลกๆมากมายเหลือเกินที่ผมยังไม่รู้



    Talk


    ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นเลย

    จะพยายามให้ดีที่สุดเลยค่ะ ^3^

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×