ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) LOST IN TIME (4KIM: KAI CHEN XIUMIN SUHO ft. EXO)

    ลำดับตอนที่ #22 : CHAPTER XXI

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 60


    CHAPTER XXI




    ถึงความลับจะไม่มีในโลก แต่ความลับก็คือความลับ...



    จงแดและจงอินปิดปากเงียบเกี่ยวกับแผนการที่พวกเขาแอบไปทำมาตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาได้สนิท ทั้งมินซอก จุนมยอน และคยองซู ไม่มีใครรู้แผนการ ‘โปลิสจับชโมย’ ของจงแดแม้แต่คนเดียว และดูเหมือนว่าคนอื่นๆก็เหมือนจะลืมมันไปแล้วเสียด้วยซ้ำ



    “เอาเบคอนอีกหน่อยไหมครับ?” คยองซูชะเง้อคอถามจุนมยอนที่ยกกาแฟขึ้นจิบแล้ว หลังจากตักไข่กวนของคยองซูเข้าปากไปได้ไม่กี่คำ



    “ไม่เอาล่ะ ขอบคุณมากนะคยองซู พี่ว่านายป้อนเข้าปากมินซอกเถอะ เขาดูป่วยจะตายอยู่แล้ว จะดีขึ้นไหมนะถ้าเขาจะทานเยอะกว่านี้”


    จุนมยอนพยักเพยิดปลายคางมาทางมินซอก ที่ดูซีดเซียวและอาการไม่สู้ดีนัก ด้วยเพราะว่าป่วยเป็นไข้หวัดมาหลายวัน และดูไม่มีทีท่าว่าจะหายเมื่อไหร่



    “คยองพยายามแล้วครับ แต่ดูเหมือนว่าพี่มินซอกจะกลืนไม่ไหวแล้วล่ะมั้ง” คยองซูพูดอย่างเป็นห่วง



    “แปลกจังนะ ไข้ไม่ลดซักที นายควรไปหาหมอหน่อยไหมที่รัก” จงแดยกมือขึ้นอังหน้าผากมินซอกเบาๆเพื่อวัดไข้ แม้จะรู้ดีแก่ใจว่ามันร้อนผ่าวโดยไม่มีวี่แว่วว่าจะลดลงก็ตาม



    “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบโรงพยาบาล ขอนอนพักอีกซักวันก็คงดีขึ้นแล้วล่ะ” มินซอกส่ายหน้าพรืดให้กับคำถามของจงแด เป็นการยืนยันหนักแน่นว่าให้เป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ไม่ไปจบที่โรงพยาบาลแน่ๆ



    “ฉันเป็นห่วง วันนี้คุณพ่อบ้านก็ลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วใครจะดูแลนายในระหว่างที่ฉันไม่อยู่หืม?” จงแดพูดแกมดุ ซึ่งมีจงอินพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย



    “นั่นสิ ฉันว่านายพามินซอกไปโรงพยาบาลดีกว่า วันนี้นายกับคยองซูก็มีเรียน จุนมยอนกับฉันก็ต้องออกไปทำงาน น่าเป็นห่วงนะถ้าปล่อยไว้คนเดียว” จงอินเสริมความเห็นของจงแด



    “ไม่มีทาง ฉันไม่ไปเด็ดขาด ไม่ต้องเถียงกันเลยนะ ทุกคนต้องเลิกวิตกกันซักที เพราะฉันจะไปนอนพักแล้ว” มินซอกยกมือขึ้นปรามทุกความเห็นที่เขาไม่ยอมรับ ก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่ต้องอยู่เป็นประเด็นถกเถียงในเรื่องนี้อีก



    ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้น ทั้งโต๊ะก็รู้ดีว่าคงไม่มีใครที่สามารถจะพูดอะไรได้อีกแล้ว  จงแดถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะต้องจำยอมในความดื้อของมินซอก


    “เอาล่ะๆ ไม่ไปก็ได้ แต่ถ้าเป็นหนักกว่านี้ ต้องรีบโทรบอกฉันเลยนะมินซอก” จงแดพูดแกมดุ มินซอกจึงพยักหน้าส่งๆ จนดูเหมือนเขาไร้เรี่ยวแรงที่จะโต้เถียงมากกว่า



    “ฉันขอไปนอนพักที่ห้องข้างๆ ก็แล้วกัน ขอบคุณสำหรับอาหารนะคยองซู” มินซอกเอ่ยด้วยความอ่อนล้า ก่อนจะละจากโต๊ะอาหารไปนอนที่โซฟาที่ห้องรับรองข้างๆกัน เนื่องจากตรงนั้นมีเตาผิงที่จุดไว้ ที่ช่วยให้ความอบอุ่นในวันที่อากาศหนาวเหน็บเสียจนทำให้มินซอกป่วยจนแทบไร้เรี่ยวแรงเช่นตอนนี้







    หลังจากนั้นไม่นานนัก ทุกคนในบ้านก็ออกไปทำงานกันหมด เหลือแค่มินซอกที่นอนจมอยู่บนโซฟาเพียงลำพัง มินซอกแทบไม่ได้ขยับตัวไปไหน เพราะไข้ขึ้นสูงเกินกว่าจะมีเรี่ยวแรงทำอะไรได้



    มินซอกไม่แน่ใจนักว่าเขานอนไปนานเท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่าตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว มินซอกขยับพลิกตัวด้วยความวิงเวียน แล้วก็สรุปเอาจากความคิดที่มึนตื้อ ว่าเพราะเตาผิงร้อนเกินไปเลยทำให้เขารู้สึกร้อนมากในวันที่เหน็บหนาวขนาดนี้


    มินซอกถอดเสื้อสเวตเตอร์ที่ตนใส่ออกทางหัวและขว้างออกไปให้พ้นตัวด้วยความหงุดหงิด และรำคาญตัว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูนาฬิกาและค้นพบว่าเวลาผ่านไปเพียงแค่สองชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น



    มือเรียวเลื่อนไปกดเปิดอ่านข้อความที่จงแดพิมพ์ส่งมาเตือนให้ทานยาและนอนพักผ่อน แต่เขาไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะตอบกลับ หรือไม่ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะตอบกลับในตอนนี้


    เขาค้นพบว่าเสื้อสเวตเตอร์ไม่ใช่เพียงเหตุผลเดี๋ยวที่ทำให้เขาเหงื่อออกมากขนาดนี้ มินซอกหย่อนโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยันตัวขึ้นจากโซฟาแสนนุ่มสบาย และเดินไปหยุดที่หน้าเตาผิง


    เขายกไม้เขี่ยกองฟืนและพยายามตักขี้เถ้ากลบในกองไฟ เพื่อลดไฟที่ประทุในเตาผิง บ้านหลังนี้เก่าเกินไปที่จะมีตัวควบคุมอุณหภูมิ และนั่นทำให้มินซอกรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น


    หลังจากที่จัดการกับอุณหภูมิในเตาผิงจนพอใจแล้ว มินซอกก็ผุดลุกขึ้น หมายใจว่าจะกลับไปนอนจมในโซฟาให้สบายตัว หากแต่เขาคงลุกขึ้นเร็วไป จนทำให้เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาในฉับพลัน

    มินซอกเกือบล้มลงไปกองบนพื้น… แต่โชคดีเหลือเกินที่เขามือไว คว้าเอาเครื่องประดับรูปมังกรสีทองเหลือง ที่อยู่เหนือเตาผิงไว้ได้ทัน มินซอกหอบฮัก พยายามยันตัวไว้กับสิ่งที่เขาคว้าได้ ในหัวหมุนติ้วๆยากที่จะยืนไหว




    หากแต่ยันไว้ได้ไม่นานเท่าไหร่ มังกรสีทองเหลืองก็หมุนกลับหัว ทำเอามินซอกหกคะเมนล้มลงกองกับพื้นเสียจนได้



    ถ้าสิ่งที่มินซอกเจอคือความโชคร้าย เขาก็แอบคิดว่ามันคงเป็นความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อภาพตรงหน้านั้นทำให้มินซอกแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แว้บแรกเขานึกว่าตนเองตาฝาดเพราะพิษไข้ แต่เมื่อพบว่าเขามีสติมากพอ มินซอกก็ปักใจเชื่อว่าสิ่งที่เห็นอยู่ต่อหน้านั้นคือความจริง



    ความจริงจะปรากฏเมื่อถึงเวลา…  




    ท่ามกลางความสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มินซอกนึกถึงคำที่พูดกับจงแดเมื่อครั้งก่อน เมื่อเขาเห็นเตาผิงเคลื่อนออกไปจากกำแพง ทำให้เห็นอุโมงค์ทางเดินทางด้านหลังนั้น



    ห้องลับ….บ้านเก่าทุกหลังมักมีห้องลับซ่อนอยู่…





    มินซอกผุดความคิดขึ้นมาในหัว ซึ่งเขาเองก็ค่อนข้างแน่ใจ เมื่อนึกถึงความเก่าแก่ และความลับของบ้านหลังนี้




    ราวกับพิษไข้ถูกถอนออกไปอย่างฉับพลัน มินซอกส่ายหัวเพื่อเรียกสติ ก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นจากพื้น และมองเข้าไปด้านในอย่างไม่เชื่อสายตา... แม้สมองจะไม่แน่ใจนักว่าควรจะเดินเข้าไปหรือไม่ แต่สองเท้าของมินซอกก็เริ่มออกเดินไปเสียแล้ว…




    เมื่อก้าวเข้ามาได้เพียงสองสามก้าว กำแพงก็เคลื่อนปิดตามเดิม มินซอกเริ่มประหวั่นในใจ เพราะภายในอุโมงค์มืดและหนาวมาก มินซอกหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นเปิดไฟฉาย พยายามมองหาปุ่ม หรือเครื่องประดับ หรืออะไรซักอย่างที่จะพาเขาออกไปข้างนอกได้ หากแต่ว่าเขาหาไม่เจออะไรที่น่าจะเป็นไปได้เลย



    มินซอกตัดสินใจเดินไปข้างหน้าแทนที่จะหาทางออกไป คาดหวังว่าจะมีทางเดินที่ทะลุออกไปที่อื่น ด้านในมีทางเดินละบันไดให้ไต่ลึกลงไป ราวกับเป็นชั้นใต้ดินของตัวบ้าน



    เมื่อไต่ลงมาถึงด้านล่าง มินซอกก็เห็นห้องหนึ่ง ที่ซึ่งเขาแน่ใจเหลือเกินว่าความลับทั้งหมดอยู่ที่ห้องนี้ ด้านในเป็นเหมือนกับห้องแล็ปปฏิบัติการขนาดย่อมๆ ราวกับเคยมีนักวิจัย 4-5 คนทำงานอยู่ที่นี่



    ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมและมีฝุ่นจับหนา มีเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาแบบโบราณมากๆ เปิดอ้าค้างอยู่ ราวกับว่าคนที่ใช้ครั้งสุดท้ายไม่มีเวลามากพอที่จะพับจอปิดลง แฟ้มเอกสารมากมายถูกเปิดทิ้งไว้ ราวกับใครบางคนต้องการที่จะหาข้อมูลอะไรบางอย่าง แต่ยังหาไม่พบสิ่งที่เขาต้องการ




    สติมินซอกเริ่มขาดวูบจากพิษไข้ ด้านในห้องนี้หนาวเหน็บจนเขาอยากจะด่าตัวเองที่ถอดเสื้อสเวตเตอร์ทิ้งไป




    ไม่มีทางออกทางอื่นอีก มินซอกห่อไหล่กอดตัวเองด้วยความสิ้นหวัง เขาทรุดลงนั่งที่มุมหนึ่งของห้อง รู้สึกเหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะพยายามหาทางออกไปอีก มินซอกหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ตัวร้อนรุมๆทำให้เขารู้สึกมึนงง ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะขยับตัวได้มากกว่านี้ …







    และหลังจากนั้นไม่นานมินซอกก็หมดสติไป…












    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×