คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ✩ 2 ✩ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
Komu Komu : พรุ่งนี้ขอนัดประชุมหลังเลิกเรียนนะ แค่15นาที
มากันด้วยล่ะ
Ayamieee♡ : รับทราบค่า
ยูสึกาโนะคุง~ จะรีบไปเลยค่า
Komu Komu : อือ
(Read 19)
แหวะ~
รุ่นพี่เขาบอกสมาชิกในชมรม ไม่ได้บอกรองประธานอย่างเธอสักหน่อย
ฉันกลอกตาเบ้ปากใส่โทรศัพท์
บนหน้าจอเป็นแชทไลน์กลุ่มชมรมที่มีการจีบกันอย่างน่าพะอืดพะอมของใครบางคน
ดูสิ!
คนในชมรมยังไม่มีใครตอบเขาเลย มีแต่ยัยนี่เท่านั้นแหละ สร้างมาคุยกันสองคนหรือไง
แล้วชื่อไลน์นี่อะไรกัน..โคมุ
โคมุุ..แอ๊บแบ๊วซะจริง-0-
แต่ก็..ดูขัดกับคาแรกเตอร์เขาอย่างพิลึกนะ
คนอย่างรุ่นพี่ยูสึกาโนะเนี่ยนะจะตั้งชื่อไลน์แบบนี้
ติ๊ง~
มีข้อความใหม่จากไลน์แจ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง
ฉันกดเปิดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นคาโอริ
Ma-a-mi
: ไป D-2o กานนนนนนน
ชีวิตยัยนี่นี่ไม่พ้นเรื่องปาร์ตี้ยามราตรีจริงๆใช่ไหม-
-;
Otomechan
: ใครบ้าง
Ma-a-mi
: ฉัน เธอ ฉัน เธอ ฉัน เธอ
Otomechan
: ไม่ไป-3-
Otomechan
: ลากฮัจจี้มาได้แล้วจะลุกไปแต่งตัวทันที
Ma-a-mi
: ถ้างั้นเธอนอนอยู่แบบนั้นแหละ
Otomechan
: ok~
Ma-a-mi
: ลุก! มีแฮมินด้วยอีกคนนึง ไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้ ขอเริ่ดๆ เจอกัน2ทุ่ม
ฉันส่ายหัวให้กับเพื่อนคนนี้
สุดท้ายก็ต้องคะยั้นคะยอให้ฉันไปจนได้สินะ
เอาเถอะ
วันนี้วันอาทิตย์ พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่
ออกไปสูดอากาศสดชื่น(ในบาร์)สักสองสามชั่วโมงคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ไปแต่งตัวดีกว่า~
8.08 PM
D-2o
" โอโตเมะ
ทางนี้~ " ฉันเดินลงจากรถโดยสารด้วยท่าทางทุลักทุเลสุดๆ
เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็วันนี้ฉันหยิบกระโปรงหนังเข้ารูปตัวสั้นมาแมตช์กับเสื้อเกาะอกสีเข้ม
แถมยังใส่ส้นสูง 3 นิ้วคู่เก่งอีก นานๆทีจะได้แต่งตัวแบบนี้ล่ะนะ
ถ้าแม่ฉันอยู่ล่ะก็มีหวังได้โดนเฉดหัวกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนไปร้านเหล้าแน่ๆToT
แต่ก็นั่นแหละนะ
ชุดและรองเท้าแบบนี้เวลาจะเดินลงรถโดยสารทีจะเหมือนคนไม่สมประกอบหน่อยๆ- -;;
" โอ้โหหหO_o
วันนี้ก็เอาเริ่ดๆตามที่ฉันบอกจริงๆซะด้วย "
" แบบนี้คือหวังจะจิ้มหนุ่มๆใส่กระเป๋ากลับบ้านสักกี่โหลดี>_<
"
" พอเลย
" ฉันยกมือห้ามปรามก่อนที่ยัยสองคนนี้จะพูดอะไรเพ้อเจ้อไปมากกว่า "
แค่มานั่งเอาบรรยากาศย่ะ "
" อ๋อออ
ลืมไป~ " คาโอริยิ้มอย่างมีเลศนัย
ก่อนจะพูดเสียงเบาๆแต่เน้นๆว่า " ต้องจิ้มประธานชมรมแค่คนเดียวนี่เนอะ "
" โอ๊ยยยย
นั่นยิ่งแล้วใหญ่เลย ไม่มีทางอะ "
ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง เห็นไหมยัยพวกนี้ไม่ทันไรก็เอามาล้อซะแล้ว
ฉันไม่ชอบเขาจะตายไป
จากนั้นก็พากันเดินเข้ามาในร้าน
ร้านนี้เป็นร้านเหล้าไม่ใช่คลับที่เปิดเพลงตื๊ดๆสะเทือนสมอง
ถ้าอยากมานั่งเอาบรรยากาศยามค่ำคืนชิลๆก็ต้องที่นี่ล่ะ พวกเรามานั่งที่โต๊ะนึงก่อนจะสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาคนละอย่าง
“ อะไรกันโอโตเมะ วันนี้กินโซจูพีชเหรอ ” แฮมินพูดพลางทำหน้าตกใจอย่างแรง
เมื่อได้ยินว่าฉันสั่งโซจูพีชมา
“ ก็บอกแล้วไงว่าอยากมานั่งเอาบรรยากาศเฉยๆ ไม่อยากเมาหัวทิ่มย่ะ ”
“ งั้นก็ดี วันนี้จะได้มาเก็บศพฉันกับคาโอริ เนอะๆ ”
เธอทำท่าทางดีใจก่อนจะหันไปแปะมือกับคาโอริด้วยความแฮปปี้ที่วันนี้จะมีคนเก็บศพพวกเธอแล้ว-0-;;
ยัยพวกนี้นี่!
“ อ๊ะ! มาแล้วๆ อาริงาโตะ~ ” ได้เครื่องดื่มแล้ว ยัยสองคนนั้นก็ยกกระดกดื่มทันที
ประหนึ่งว่าชาตินี้จะไม่ได้กินเหล้าอีกแล้ว
“ อ๊า~ ร้อนซู่ซ่า รสชาติที่คิดถึงToT ”
“ เพิ่งจะกินไปเมื่ออาทิตย์ก่อน คิดถึงอีกแล้วเหรอ-o-; ”
“ ของแบบนี้กินทุกวันก็ยังไหว ”
ยัยคาโอริส่ายนิ้วไปมา แล้วก็กระดกแก้วขึ้นอีกอย่างไม่ยั้งมือ
2
ชั่วโมงผ่านไป
ปัญหาตกมาถึงฉันแล้วจ้า..คลาดสายตาไปแค่แปปเดียว
ยัยสองคนนั้นหายไปไหนก็ไม่รู้
เมื่อกี้ยังเห็นเต้นโยกย้ายส่ายเอวกันอยู่แถวนี้นี่นา ฉันแค่ก้มลงดูโทรศัพท์นิดเดียวเองนะ
เป็นเด็กๆกันหรือไงเนี่ย ยิ่งเมากันแล้วด้วย
ฉันลุกขึ้นเตรียมออกไปตามหาเพื่อนว่าไปแจมอยู่กับโต๊ะไหนหรือเปล่า
เอ..ไปทางไหนก่อนดีนะ คนเยอะใข่เล่นเลยนะเนี่ย-_-
ฉันเดินไปเรื่อยๆผ่านผู้คนที่เดินกันพลุกพล่าน มีดนตรีสดเล่นบนเวทีด้วย
หรือว่าสองคนนั้นจะไปยืนฟังเพลงกันนะ..แต่ไม่น่าใช่
พลั่ก!
จู่ๆก็มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาชนฉันจนแทบล้ม
แต่ยังดีที่ว่าเขาคว้าแขนฉันเอาไว้ได้ทันก่อนจะหน้าคะมำลงไปกับพื้น
แต่ว่าชุดฉันเปียก-0-
กรี๊ดดดด เสื้อเกาะอกหนังของฉันจะเปียกไม่ได้นะ สงสัยจะเป็นเหล้าจากแก้วเขาที่หกใส่ฉันตอนชนแน่เลย
“
โอ๊ะ! ขอโทษที ฉันมองไม่เห็นเธอ ” ชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับฉันโค้งขอโทษอย่างสุภาพด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด
“ ไม่เป็นไรค่ะ ” ฉันตอบอย่างสุขุม
เขาคนนั้นสังเกตเห็นว่าเสื้อฉันเปียก เขาจึงโค้งลงอีกครั้ง
“ ข..ขอโทษ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมาเช็ดให้นะ ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันกลับไปเอาทิชชู่ที่โต๊ะมาเช็ดเอง ”
“ ไม่ได้นะ เดี๋ยวฉันไปหามาให้ ”
“ ทำอะไรอยู่วะ หาตั้งนาน..ที่แท้ก็มาเต๊าะสาวอยู่ตรงนี้นี่เอง ” บุคคลที่3 โผล่พรวดมาทางด้านหลังของผู้ชายคนนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว
เดี๋ยวก่อนนะ..นี่เขา..
“ เต๊าะบ้าอะไรล่ะ ฉันเดินชนเขาเข้าเต็มๆเลยเนี่ย ”
“
เอ๊ะ? นี่เธอ.. ” คนคนนั้นเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน
เขาก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมองให้ชัดๆ แล้วเรียกฉันว่า “ ยัยดาวโรงเรียนคนนั้น ”
“ รุ่นพี่.. ”
ฉันเผลอเรียกเขาออกไปแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยชื่อ
ก็นึกขึ้นมาได้ว่าฉันไม่อยากคุยกับเขาสักหน่อย
“ มาทำอะไรที่นี่ ” เขามองหน้าฉันอย่างตั้งคำถาม
ผู้ชายที่เดินชนฉันมองฉันที มองรุ่นพี่ที
ก่อนที่จะโพล่งถามออกมา
“ นี่มันอะไรกัน นายรู้จักเธอคนนี้เหรอ ”
“
รุ่นน้องในชมรมฉัน ”
รุ่นพี่ยูสึกาโนะตอบนิ่งก่อนที่จะสะบัดมือไล่เพื่อน “ นายกลับไปที่โต๊ะก่อนไป
”
“ อ้าว ไหงงั้นวะ ฉันทำเสื้อเธอเปียกนะ ยังไม่ได้หาอะไรมาเช็ดเลย ”
“ เดี๋ยวฉันจัดการเองน่า ”
“ อะไรของแกวะ..เออๆ ยังไงก็ขอโทษด้วยแล้วกันนะสาวน้อย ” คนคนนั้นกลับไปที่โต๊ะตามคำของรุ่นพี่อย่างว่าง่าย
เขาโค้งขอโทษฉันเป็นรอบที่สาม ก่อนที่จะเดินจากไป
ทิ้งฉันกับรุ่นพี่เอาไว้สองคนอย่างโหวงเหวง
เดี๋ยวนะ..ทำไมเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ-o-;
“
สรุปว่ายังไง ” เขาถามหลังจากที่เพื่อนของเขาจากไปได้ประมาณห้าวินาที
“ มาทำอะไรในที่แบบนี้ ”
“
ก็เหตุผลเดียวกับรุ่นพี่มั้งคะ ”
ฉันพูดอย่างไม่สบอารมณ์ เขามายุ่งอะไรกับฉันเนี่ย
ทำไมต้องถามด้วยสีหน้าที่เหมือนพี่ชายที่คอยดุน้องสาวเวลาที่แต่งตัวโป๊ด้วย- -//
“ เป็นดาวโรงเรียนมาที่แบบนี้ได้หรือไง ”
รุ่นพี่ยิ้มเยาะเมื่อฉันตอบเขาแบบเด็กดื้อ ที่เขาถามน่ะ จริงๆก็ไม่ได้หรอก
ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้ถึงหูอาจารย์ที่โรงเรียนล่ะก็..ฉันจะโดนปลดจากตำแหน่งทันที
เป็นดาวโรงเรียนจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างให้กับนักเรียนคนอื่นๆ ตลกไหมล่ะ
ตำแหน่งที่ฉันไม่ได้เลือกแต่กลับห้ามนั่นนี่เต็มไปหมด
และฉันก็ไม่สนใจหรอกนะว่าจะมีใครไปบอกอาจารย์ไหมว่าฉันมาในที่แบบนี้
อย่างมากก็แค่โดนปลดจากตำแหน่ง แล้วไงล่ะใครสน ไม่ได้อยากเป็นอยู่แล้วย่ะ-()-
“ ฉันไม่สนใจกฎบ้าๆนั่นหรอก ”
“ งั้นเหรอ ” คนตัวสูงยิ้มกวนๆ “ แอบแม่มาสินะ ”
“ เอ๊ะ..แล้วเกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่คะ ”
ฉันขึ้นเสียงสูงใส่คนจุ้นจ้านที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ได้ “ ไม่ได้แอบมาสักหน่อย
ก็แค่ออกมาตอนที่เขาไม่อยู่ ”
“ มันต่างจากคำว่าแอบตรงไหนล่ะนั่น ”
“ ไม่รู้ค่ะ ” ฉันสะบัดหน้าหนี
“ กลับได้แล้วมั้ง ”
“ ไม่ ” ฉันหันหน้ากลับมาหาคนที่มาบอกให้ฉันกลับบ้านอย่างดื้อๆ
“ พรุ่งนี้ฉันนัดประชุมหลังเลิกเรียนนะ จะตื่นไหวเหรอ ”
“ คนนัดเองก็เหมือนกันนี่คะ ”
“ ฉันไม่ได้ดื่มเลยสักจิบ ” เขาพูดเสร็จก็พ่นลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ
แล้วเอานิ้วมาจิ้มหน้าผากฉัน “ ไม่เหมือนเธอหรอก กลิ่นโซจูรสพีชฟุ้งมาถึงนี่
”
“ อ..อะไร แค่โซจูพีช ก็น้ำผลไม้นั่นแหละ ”
“ แต่มันก็มีแอลกอฮอล์นี่นา ”
เขาหัวเราะที่ฉันอ้างว่านั่นเป็นน้ำผลไม้แบบไม่มีเหตุผล “ เถียงไม่ได้แล้วยังจะเถียงอีก
”
“ โอ๊ย ไม่พูดด้วยแล้ว ” พอที
ทำไมฉันต้องมายืนคุยกับเขาตั้งสิบประโยคด้วยเนี่ย-0-**
คิดแบบนั้นแล้วก็กำลังจะเดินหนี
แต่แล้วก็มีเสียงดังโครม ทำให้ฉันต้องหยุดชะงักแล้วหันไปทางทิศต้นตอของเสียง
ร่างผู้หญิงหุ่นเพรียวคนนึงล้มตึงอยู่ที่พื้น
คนรอบๆก็ยืนอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ว่า..เดี๋ยวนะ..นั่นมันคาโอริไม่ใช่เหรอ ลงไปทำอะไรที่พื้นน่ะ!
-[]-
พอนึกได้ว่าเป็นเพื่อนตัวเอง
ฉันก็รีบวิ่งไปทางนั้นอย่างไม่รอช้าแล้วช่วยพยุงยัยนั่นที่ตอนนี้กลิ่นเหล้าหึ่งอย่างกับโรงงานผลิตเหล้า
คาโอริพูดด้วยน้ำเสียงยืดย้วย
“ อ..โอยยย ฉันง่วงแล้วก็..เจ็บก้นสุดๆ~ ”
“
สาวสวย~ วิ่งหนีพวกฉันทำไมล่ะ ” หนุ่มหน้าย่นขี้เมาที่เพิ่งวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุด้วยท่าทางที่เมาแป๋ไม่แพ้เพื่อนฉันเลย
“ พวกคุณน่ะ ไปเลยน้า~
หน้าย่นเป็นหมาปั๊กแล้วยังจามายุ่งกับพวกช้านอีก~ ” คนที่วิ่งตามมาอีกรายคือแฮมิน ยัยนั่นก็พอๆกันเลย
พูดแทบไม่เป็นประโยคแล้ว-0-**
“ กล้าว่าโอปป้าแบบนี้เหรอจ๊ะ แม่สาวเกาหลี~ ”
“ โอ๊ย พอได้แล้ว พวกคุณกลับไปเลยไป ”
ฉันที่นั่งฟังบทสนทนาของคนเมาพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด
ถ้าทนฟังต่อทั้งคืนก็ไม่จบหรอกมั้ง
“ ว้าววว~ สาวน้อยคนนี้ก็โคตรสวยเลย
สนใจจะไปต่อกับพี่ๆไหมจ๊ะ ” เอิ่ม..ยังอีกนะ
ยังไม่สำนึกอีกไอ้แก่นี่
“ พอได้แล้วมั้งคุณ พวกเธอเด็กขนาดนี้ไม่อายบ้างเหรอ ” รุ่นพี่ยูสึกาโนะโผล่มาจากไหนไม่รู้ คิดว่ากลับบ้านไปนอนแล้วนะเนี่ย เขาเดินมายืนข้างฉันที่กำลังพยุงคาโอริอยู่
แก๊งขี้เมาก็ทำหน้าเหวอกันใหญ่
“ อะไรวะ โคตรหล่อเลยลูกเพ่~
พวกผมขอถอยทัพก่อนล่ะคร้าบ ” พูดจบก็กอดคอกันเดินกลับไปอย่างง่ายดาย
อะไรกันเนี่ย-0-// จู่ๆจะยอมก็ยอมกันซะดื้อๆแบบนี้เหรอ
ฉันหันไปทางรุ่นพี่ก็รู้แล้วว่าทำไมพวกนั้นถึงยอมถอยไปง่ายๆแบบนั้น
เพราะตอนนี้เขาหน้าถมึงทึงเหมือนสิงโต สายตาแข็งกร้าวที่ดูน่าเกรงขามเหมือนกับตอนที่อยู่ที่ห้องชมรม
มิน่าล่ะพวกนั้นถึงหัวหดกันหมด
“ อ..อ้าววววว คนนี้นี่คุ้นจริงๆ เหมือนจะเป็นรุ่นพี่.. ~ ”
แฮมินเดินโซซัดโซเซมาทางนี้แล้วจ้องหน้ารุ่นพี่อย่างละเอียด
“ เพื่อนเธอเมาขนาดนี้เชียว ”
เขายิ้มแห้งๆเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนฉันทั้งสองที่เมาจนไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว
ยัยคาโอริก็หลับคาไหล่ของฉันแล้วเนี่ย ตัวก็หนักชะมัด
หุ่นก็ดีแต่ทำไมหนักแบบนี้เนี่ย
“ ใครเมากันค้า! ไม่มาวววว ”
แฮมินที่ยังสื่อสารได้อยู่ แย้งรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงยานๆ
“ เดี๋ยวฉันไปส่ง ”
“ อะไรนะคะ-0-** ” ฉันทำปากหวอ
เมื่อกี้เขาบอกว่าจะไปส่งงั้นเหรอ บ้าเรอะ! ใครจะให้คนอย่างเขาไปส่งเพื่อนฉันกัน
“ ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจัดการเอง ”
“ แล้วเธอคิดว่าจะหามเพื่อนไปส่งที่บ้านเองคนเดียวไหวเหรอ ” เขาถอนหายใจให้กับความหัวดื้อของฉัน ก็จริงอยู่ที่ฉันคงทำไม่ไหว
แต่ใครจะกล้าปล่อยเพื่อนให้ไปกับผู้ชายตัวสูงๆแบบเขาล่ะ ไม่ได้รู้จักมักจี่กันด้วย
“ ไม่ไหว แต่ก็ไม่ให้กลับกับรุ่นพี่ ”
“ เธอนี่มันหัวดื้อจริงๆ ”
เขาเดินมาเคาะหัวฉันดังก๊อก “ ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตสักหน่อย ”
“ ถ้างั้นต้องให้ฉันไปด้วย ” ฉันยื่นข้อเสนอขึ้นมา
รุ่นพี่ยูสึกาโนะก็หลุดขำออกมาซะอย่างงั้น
“ ฮ่ะๆๆ นี่เธอคิดว่าฉันจะไปส่งแค่เพื่อนเธอหรือไง ”
เขาพูด “ ไม่ได้ใจดำขนาดนั้นนะ ”
“ ที่ฉันขอไปด้วยเพราะว่าเป็นห่วงเพื่อนหรอกน่า ”
“ ยังไงก็เอาเถอะ ”
เขาถอนหายใจก่อนจะเดินมาช่วยพยุงแฮมินอีกคน “ ไปได้แล้ว ”
หลังจากนั้นเขาก็พาพวกฉันขึ้นรถส่วนตัวของเขาแบบทุลักทุเล
แถมคาโอริยังไปอ้วกใส่ล้อรถรุ่นพี่เขาอีก ฉันเกลียดเพื่อนตัวเองก็วันนี้นี่แหละT^T
จากนั้นเขาก็ขับรถไปส่งคาโอริก่อนเพราะเธอดูท่าจะอาการหนักสุด
ตามด้วยแฮมิน แล้วก็..
“ บ๊ายบายยย ขอบคุณน้าค้ารุ่นพี่~
ฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่า ”
ยัยแฮมินตะโกนลั่นพลางกระโดดโบกมือตามรถมาเหมือนคนบ้า รุ่นพี่หัวเราะนิดหน่อยก่อนจะขับรถออกมา
“ เพื่อนเธอนี่ตลกดีนะ ฮ่าๆ ” เขาหัวเราะก่อนที่จะถามต่อ
“ ต่อไปก็บ้านเธอสินะ อยู่ตรงไหนล่ะ ”
“ ที่ซอยxx แถวโรงเรียนน่ะค่ะ ”
“ ใกล้โรงเรียนมากเลยนี่ แบบนี้ก็เดินมาเรียนทุกวันสินะ ”
“ ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ ” ฉันตอบเนือยๆ ทำไมต้องเกิดสถานการณ์บ้าๆที่ทำให้ฉันต้องมานั่งอยู่บนรถของคนที่ทำให้ฉันอายด้วยล่ะเนี่ย-
-; พระเจ้าต้องเกลียดฉันแหงๆ
“ ไปเที่ยวที่แบบนั้นบ่อยไหม ” รุ่นพี่ยูสึกาโนะถามถึงเรื่องที่ฉันไปเที่ยวร้านเหล้าอีกครั้ง
“ ก็อาทิตย์ละครั้ง ถ้าเพื่อนชวนและถ้าว่าง ”
“
ไม่คิดเลยว่าดาวโรงเรียนจะเป็นสาวเที่ยวแบบนี้นะ ”
“ เลิกเรียกฉันว่าดาวโรงเรียนเถอะค่ะ- -** ” คำก็ดาวโรงเรียน
สองคำก็ดาวโรงเรียน รู้ไหม..ตั้งแต่รู้จักกับเขา เขายังไม่เรียกชื่อฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ไม่เชื่อก็เลื่อนขึ้นไปดูได้เลย
“ ทำไมล่ะ นั่นมันตำแหน่งที่ใครๆก็ใฝฝันอยากจะเป็นสักครั้งในวัยมัธยมเลยนะ ”
“ ก็ไม่ใช่ฉันแล้วคนนึง ”
“ เพราะ? ”
“ น่าเบื่อออกนี่คะ ” ฉันพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายด้วย ”
ฉันแอบแซะรุ่นพี่ไปหนึ่งที
หึ! วันนั้นบังอาจหาว่าฉันเป็นต้นเหตุให้พวกผู้ชายเอะอะเสียงดัง
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ทำให้รุ่นพี่ยูสึกาโนะถึงกับชะลอรถแล้วหันมามองหน้าฉัน
“ พาดพิงกันเหรอเนี่ย ” พูดจบก็เสยผมสีดำขลับขึ้น “ โทษที ”
“ :( ”
“ ถึงแล้ว ” คุยกับคนอย่างเขาจนเพลิน จนตอนนี้ก็ขับรถมาจอดหน้าบ้านฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ว่าแต่เขารู้ได้ไงว่าบ้านฉันหลังไหน-0-
“ ร..รู้ได้ยังไงคะว่าหลังนี้ ”
“ ไปสืบมา :)
”
“ ห๊ะ-o- ” ฉันปากหวอเท่าไข่ห่าน
แต่เมื่อเขาเห็นว่าฉันทำหน้าตกใจแค่ไหน ก็หัวเราะเสียงดัง
“ ฮ่าๆๆ เธอนี่ต๊องจริงๆ ”
“ ... ”
“ ป้ายใหญ่จนแทบจะทิ่มตาอยู่แล้ว ” เขาหัวเราะอย่างสดใสแล้วจึงชี้ไปที่ป้ายอันโตหน้าบ้านฉันที่สลักไว้ว่า
‘ ยานากิสะ ’
“ ขอบคุณค่ะที่มาส่ง ” ฉันทำหน้านิ่งแล้วพูดขอบคุณแบบเมินๆใส่คนที่หัวเราะอยู่นั่นแหละ
อารมณ์ดีมากนักหรือไง หรือว่ามีความสุขที่ฉันหน้าแตกก็ไม่รู้-3- “ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ”
ฉันเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถ
แต่ก่อนจะปิดประตูเขาก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ ตื่นให้ไหวล่ะ
ยัยเด็กขี้เมา ”
“ เอ๊ะ! ” ฉันขมวดคิ้วหน้ามุ่ยใส่คนกวนประสาท
บ้าเอ๊ย เขาจะทำให้ฉันหงุดหงิดไปถึงไหนเนี่ย
“ ฮ่าๆ ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว ”
“
:( ”
หันหน้าหนีคนที่ชอบหัวเราะเยาะฉันอยู่เรื่อย ก่อนที่เขาจะพูดประโยคที่ทำให้ฉันต้องหันขวับกลับไปแทบจะเดี๋ยวนั้น
“ ฝันดียานากิสะจัง ” รุ่นพี่ยิ้มแล้วเอื้อมมือมาปิดประตูที่ฉันเปิดค้างไว้
แล้วขับรถออกไปทันที ปล่อยให้ฉันยืนมึนอยู่หน้าบ้านคนเดียว
ยานากิสะจัง..
อาจจะเพราะฉันชินกับการถูกเรียกว่า
‘
โอโตเมะ(จัง) ’ ซึ่งเป็นชื่อจริง
ฉันเปรียบเหมือนบุคคลสาธารณะของโรงเรียนเพราะว่าเป็นดาว ทำให้คนอื่นสามารถเรียกฉันด้วยชื่อจริงได้โดยที่ไม่ถามความพอใจของฉันสักคำ
แต่ฉันก็ชินไปกับมัน
จนบางทีก็เผลอบอกคนที่เพิ่งจะรู้จักกัน(เช่น อุซางิซัง)ว่าให้เรียกฉันว่า ‘ โอโตเมะ ’
เถอะ
พอมีคนมาเรียกนามสกุลแบบนี้ก็รู้สึกดีแปลกๆเหมือนกันแฮะ
เหมือนกับว่ากำลังโดนให้เกียรติอยู่อะไรแบบนี้..
อื้อออออ..คิดอะไรไร้สาระอีกแล้ว
เข้าบ้านนอนดีกว่า เดี๋ยวตื่นไม่ไหว>-<
วันต่อมา
ห้องชมรมเพาะปลูก
ฉันพยายามจะเข้าห้องชมรมช้าๆ
เพราะไม่อยากมานั่งหัวโด่ให้ไอ้พวกแมลงวันมายุกยิก หวังว่าตอนเดินไปถึงแล้วรุ่นพี่จะมาถึงห้องแล้วน่ะนะ
จะได้รีบๆประชุมรีบๆปล่อยกลับบ้าน วันนี้ฉันจะซื้อชีสเค้กไปฝากอุซางิ!
ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าห้องขมรมมา
ก็พบว่าความหวังของฉันเป็นจริง ประธานและรองประธานมาถึงแล้ว แต่รองประธานนั่นท่าทางจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นะ
ดูสิ ทำหน้าตากินเลือดกินเนื้อเชียว-_-;;
สงสัยจะได้รบกันอีกแล้ว..
“ ประธานนัดกี่โมง ทำไมเพิ่งมา ” โทอิกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ตั้งใจจะข่มให้ฉันกลัว
“ เดินสวยอยู่หรือไง ”
“ ค่ะ ” ฉันตอบนิ่งๆดูท่าเหมือนจะว่าง่าย แต่เปล่าเลย
เมื่อกี้ยัยนั่นถามว่า ‘เดินสวยอยู่หรือไง’ ฉันก็เลยตอบ ‘ค่ะ’ ไป ก็ใช่น่ะสิ
ฉันเดินสวยอยู่ สวยกว่าเธอด้วย แบร่~
“ มานั่งเลย กำลังจะเริ่มประชุมพอดี ” รุ่นพี่ยูสึกาโนะพูดขัดขึ้นมา
คงไม่อยากให้ทะเลาะกันล่ะมั้ง
ฉันเดินไปนั่งตรงที่ว่างอย่างเซ็งๆ
นี่ต้องเจอคนแบบโทอิกะจนจบปีการศึกษาเลยเหรอเนี่ย ฉันคงประสาทกินตายก่อนล่ะ ยัยนั่นเกลียดอะไรฉันนักหนา
ถึงจ้องจะกัดฉันเหมือนหมาทุกที หรือฉันไปฆ่าหมาเธอตาย-0-;;
“ เราจะเริ่มปลูกดอกไม้กันสุดสัปดาห์นี้นะ ขอให้ทุกคนเตรียมดอกไม้ที่จะปลูกมาด้วย
เอาเป็นเมล็ดพันธุ์นะ ไม่ใช่หอบมาทั้งดอกทั้งราก ”
ดีนะที่เขาพูดดักเอาไว้ก่อน ไม่งั้นฉันได้ยกมาทั้งต้นแน่
“ เอาดอกไม้ที่ชอบด้วยล่ะ เพราะจะต้องดูแลมันจนโตและหมดฤดูของมัน ” โทอิกะพูดเสริม เอ..ดอกไม้ที่ชอบ ฉันไม่ค่อยรู้จักเรื่องดอกไม้เท่าไหร่หรอก
แต่ว่าจะปลูกทั้งทีก็ต้องเอาดอกที่สวยๆ มีความหมายดีๆสิ
ฉันหยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชหาดอกไม้ที่ความหมายดีๆ
อืม..มีหลายดอกเลยแฮะ
‘
ดอกคิคุ(ดอกเบญจมาศ/Chrysanthemum) มีหลายสีและมีความหมายแตกต่างกันออกไป เช่น สีแดงสื่อถึงความรัก สีเหลืองสื่อถึงความโชคดี
สีขาวสื่อถึงความซื่อสัตย์ ’
เห..ดอกคิคุก็น่าสนใจนะ มีหลายสีแถมยังความหมายดีอีกด้วย ถ้าได้ปลูกล่ะก็จะได้ตั้งตารอด้วยว่าจะได้สีอะไร
ตกลงเอาดอกนี้ล่ะ ฉันจะปลูกดอกคิคุ~ >_<
ฉันยิ้มร่าให้กับไอเดียของตัวเอง ก่อนจะคิดได้ว่าไปซื้อเมล็ดที่ร้านของอุซางิซังหลังเลิกประชุมเลยดีกว่า
จะได้ทั้งไปซื้อและเอาชีสเค้กให้เขาด้วย อ๊ะ! ไลน์ไปบอกไว้ก่อนดีกว่า
ฉันกดเข้าโปรแกรมแชทไลน์แล้วพิมพ์ข้อความไปหาอุซางิซัง
ลืมบอกไปว่าเขาให้นามบัตรร้านมาแล้วมันมี IDไลน์อยู่
ฉันก็เลยแอดไปซะเลย
Otomechan
: อุซางิซังงง ช่วยเตรียมเมล็ดดอกคิคุเอาไว้ทีนะคะ เดี๋ยวฉันไปจ่ายเงินตอนกลับจากโรงเรียน
แล้วจะแวะเอาชีสเค้กไปให้ด้วยนะคะ>o<
ฉันกดข้อความที่แสนจะน่ารักคิคุเหมือนดอกไม้ไป
เขาตอบช้าจัง..นี่ก็
3 นาทีแล้ว ต้องมานั่งฟังยัยโทอิกะบ่นอะไรก็ไม่รู้รอ หรือว่าจะทำงานอยู่นะ
ติ๊ง~
โอ๊ะ-0-
ตอบมาแล้ว
U-SA-GARDEN : โทษทีนะโอโตเมะจังToT วันนี้ฉันต้องปิดร้านเร็ว
พ่อฉันป่วยเข้าโรงพยาบาลก็เลยต้องไปเยี่ยมน่ะ ส่วนเรื่องเมล็ดพันธุ์ฉันจะใส่ไว้ที่ตู้จดหมายหน้าร้านนะ
เงินค่อยเอาให้ก็ได้
U-SA-GARDEN : อดเจอเลยฮือT^T ไว้จะเลี้ยงชีสเค้กไถ่โทษแทนเอง
แย่จัง
เขาไม่อยู่T.T เอาเถอะ อย่างน้อยครั้งหน้าก็จะได้กินชีสเค้กฟรีจากเขาล่ะนะ
ฉันเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าโทอิกะยืนมองฉันด้วยท่าทางที่พร้อมจะเข่นด่าฉันแล้ว
“ รุ่นพี่พูดอยู่ปาวๆ
ก็ยังจะเล่นโทรศัพท์นะ เป็นดาวโรงเรียนแท้ๆแต่กลับไม่รู้เรื่องมารยาท ”
“ โทอิกะ
” รุ่นพี่ยูสึกาโนะพูดเสียงกดต่ำเพื่อจะให้เธอหยุด
แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นแบบครั้งก่อน เมื่อเธอทำตาแข็งใส่เขา
“ นายไม่เคยเข้าข้างฉันเลย!
ก็เห็นอยู่ว่ายัยนั่นไม่สนใจที่ฉันพูด ฉันเป็นรองประธานนะ ”
“ ฉันทักไปสั่งเมล็ดพันธุ์กับร้านดอกไม้ที่จะใช้ปลูกในชมรมน่ะค่ะ
ขอโทษค่ะ ” ฉันพูดไปตามจริง ถึงจะเล่นโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากเรื่องของชมรมสักหน่อย
ไม่ยอมให้มาด่ากันฟรีหรอกย่ะ พอโทอิกะไดยินว่าฉันพูดด้วยท่าทางที่ต่อกรและไม่ยอมเธอเหมือนกัน
ก็ทำสีหน้าที่โกรธจนขึ้นสี
“ เอ๊ะ! อย่ามาต่อปากกับฉันนะ ”
“
ไม่ได้ต่อปากนะคะ ฉันก็พูดตามจริง แถมยังขอโทษรุ่นพี่แล้วด้วย ”
“ นี่เธอ!.. ”
“ โทอิกะ
หยุด ” สิ้นเสียงแข็งๆของรุ่นพี่ยูสึกาโนะ ยัยโทอิกะก็หันไปมองแล้วก็พบว่าเขามองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก
ทำให้เธอถอนหายใจแรงจนคนในชมรมแทบจะปลิว ก่อนที่จะกระฟัดกระเฟียดกระทืบเท้าออกจากห้องไป
“ เอาล่ะขอโทษที
เลิกประชุมได้ กลับบ้านกันดีๆล่ะ ”
พูดจบรุ่นพี่ก็เอามือบีบสันจมูกเหมือนกับเหนื่อยใจ คนอื่นๆในชมรมก็เดินเข้ามาปลอบฉันบ้าง
บอกให้ฉันใจเย็นบ้างแล้วก็เดินออกจากห้องไป จนตอนนี้เหลือแค่ฉัน
รุ่นพี่ไม่ได้มองมา
เลยน่าจะไม่รู้ว่าฉันยังยืนมองเขาหัวโด่แบบนี้ เขาถอนหายใจอย่างหนักใจแล้วลุกขึ้นไปหยิบบัวรดน้ำกำลังจะเดินออกไปทางประตูหลังห้องชมรม
คงจะออกไปรดน้ำต้นไม้ล่ะมั้ง
ฉันควรจะคุยกับเขาไหม
จริงๆฉันก็ทำตัวไม่ดีอยู่เหมือนกันนั่นแหละ อาจจะควรขอโทษเขาใช่ไหม-_- อ๊ะ! อย่าคิดว่าฉันลำเอียงที่ไม่คิดจะขอโทษยัยโทอิกะนะ
เพราะยัยนั่นมาโวยวายใส่ฉันก่อน แถมยังว่าฉันแรงๆหลายครั้งด้วย
ถือว่าประกาศตัวเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของฉันแล้ว เพราะฉะนั้นฉันไม่ขอโทษ! (แต่จริงๆก็ขอโทษไปแล้วนั้นแหละ แต่ขอโทษให้โมโห :P)
คุยกับเขาก่อนสักครั้งคงไม่เป็นไรมั้ง..ท่าทางรุ่นพี่จะดูเครียดกับสถานการณ์เมื่อกี้
ถ้างั้น..
แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ
“ รุ่นพี่คะ! ”
.
.
.
.
.
.
_______________________________________________________
ตัดจบแบบละครไทย คอมเมนต์ติชมกันได้น้าาาา
ความคิดเห็น