ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] You let me down ความผิดหวัง #Junhwan

    ลำดับตอนที่ #17 : EP.16

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 493
      37
      27 พ.ย. 61

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     

    EP.16

    You let me down

    #Junhwan





         บางทีผมว่าผมควรออกไปจากตรงนี้

         บรรยากาศมาคุที่ก่อตัวขึ้นมาดื้อๆแบบที่มันไม่เคยจะเป็นมาก่อน คุณซึงฮุนกับพี่จุนฮเวนั่งจ้องหน้ากันราวกับจะก่อสงครามขึ้นมา สมองประมวลผลแล้วก็มีแต่คำถามว่า มันเกิดอะไรขึ้น

         "น้องจิน พี่ขอคุยกับคุณซึงฮุนเป็นการส่วนตัวนะครับ" พี่จุนฮเวละสายตาออกมาแล้วบอกผมที่ยังนั่งอยู่

         "ครับ"

         ผมดีใจมากที่ได้ออกจากตรงนั้นเพราะมันอึดอัดจนผมแทบจะกลั้นหายใจ

         ผมเดินออกมาก็เจอยุนฮยองกำลังยืนรอที่หน้าห้องทำงานของผมเอง

         "มาทำอะไรยุน" ผมถามเจ้าตัวหลังจากที่เปิดประตูให้ยุนฮยองเข้ามา

         "เรื่องเจนนี่เป็นยังไงบ้าง"

         "ก็คงจัดการเรื่องงานศพให้ ส่วนคนร้ายยังไม่รู้ตัว" ผมพูดเท่าที่ผมรู้มาแค่นั้นแหละ เรื่องอะไรต่างๆที่ยังติดค้างอยู่ส่วนมากจะมีพี่จุนฮเวกับบ๊อบบี้จัดการกัน

         "แปลกว่ะ คอนโดนั่นไม่ใช่ว่าความปลอดภัยจะต่ำขนาดนี้"

         "มันก็จริงที่มึงพูดนั่นแหละ พี่จุนฮเวไม่เคยจะไม่คิดถึงความปลอดภัย"

         ผมเบ้ปากแต่ก็ยังไม่รู้สาเหตุของการที่เจนนี่โดนข่มขืนเลยสักนิด แถมยังมาเสียชีวิตเพราะเรื่องแบบนี้อีก พ่อแม่ของเจนนี่แทบจะกินเลือดพี่จุนฮเวด้วยซ้ำแต่ก็ทำไม่ได้เพราะพี่จุนฮเวไม่ใช่คนร้าย แต่ทางครอบครัวของเจนนี่ก็ยังคงโทษพี่จุนฮเวอยู่ดีที่ปล่อยให้ลูกสาวตนอยู่คอนโดลำพัง

         หลังจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานกลับไปพี่จุนฮเวก็จ้างคนมารื้อคอนโดและรีโนเวทใหม่ รอแค่นักออกแบบส่งแบบมาให้เท่านั้น

         "ยุนฮยอง กูขอเอกสารการเงินล่าสุดหน่อยสิ" ผมกลับมาทำงานและใช้ชีวิตปกติหลังจากเกิดเรื่องไปสามสี่วัน พนักงานก็ลือกันไปทั่วเรื่องของจุนฮเวแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนอย่างผมหวั่นอะไรหรอก

         "นี่ไง กูเอามาให้มึงพอดี" พูดแล้วก็ยื่นแฟ้มสีดำมาให้ ผมก้มลงตรวจเช็คบัญชีและเงินที่เข้าออกแต่ละวันของเดือนนี้ ไม่มีความผิดปกติอะไรแล้วผมก็เอาเอกสารในแฟ้มนั้นมาถ่ายเอกสารไว้ด้วย

         "ยุน กูถามเรื่องคุณซึงฮุนหน่อยดิ"

         "เออ มีไร"

         "ช่วงที่กูไม่เข้ามาทำงานคุณซึงฮุนแปลกๆบ้างมั้ย" ผมหยุดอ่านเอกสารตรงหน้าแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองที่กำลังคิดตามผม

         "เอาจริงๆมันก็แปลกนะ ช่วงที่มึงนอนโรงพยาบาลก็ไม่เห็นมาติดต่องานด้วยตัวเองสักครั้งเลย"

         "..."

         "แล้วก็นะ คนที่มาแทนก็ไม่ใช่คนเดิมสักครั้งเลย"

         "เมื่อกี้อยู่ในห้องรับแขก กูก็ว่ามันอึดอัดแปลกๆอ่ะ"ผมบอกความรู้สึกของตัวเองตอนที่นั่งในห้องกับพี่จุนฮเวและคุณซึงฮุนให้ยุนฮยองฟัง

         "อย่าคิดมาก คงไม่มีอะไรหรอก" ยุนฮยองพูดแล้วเอาเอกสารที่ผมเซ็นเรียบร้อยแล้วเดินกลับไป ผมนั่งท้าวคางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายๆเรื่องแต่ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะผมคิดไม่ออก

         "เห้อ..."

         "เป็นอะไรครับน้องจิน"

         ผมสะดุ้งเพราะไม่รู้ว่าพี่จุนฮเวเข้ามาตั้งเมื่อไหร่ ตอนนี้ร่างสูงกำลังยืนกอดอกมองผมอยู่ที่หน้าประตู ตอนนี้ห้องทำงานของผมกับพี่จุนฮเวเป็นห้องเดียวกันไปแล้วเรียบร้อย โต๊ะทำงานของผมก็อยู่ข้างๆพี่จุนฮเวนี่แหละ

         "เอ่อ เปล่าครับ"

         "หิวมั้ย"

         ผมไม่หิว 

         ผมมองหน้าพี่จุนฮเวที่ระบายยิ้มอ่อนออกมาต่างจากตอนที่อยู่ในห้องรับแขกเมื่อกี้แทบจะคนละคนกัน

         "ไม่หิวครับ" ผมเดินไปหาพี่จุนฮเวที่กำลังจิบกาแฟมองออกไปนอกหน้าต่าง

         ผมเอื้อมมือไปคว้าข้อมือใหญ่อีกข้างที่ว่างมากุมไว้ แล้วมองเข้าไปในตาของพี่จุนฮเว แววตาที่กำลังแสดงออกว่าเข้มแข็งแต่ความจริงพี่จุนฮเวกำลังคิดมาก

         "เหนื่อยหรือเปล่าครับ" ผมถามทั้งที่กำลังกุมมืออยู่เหมือนเดิม

         พี่จุนฮเววางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วหันมาหาผมตรงๆ ตอนนี้เราสองคนกำลังยืนหันหน้าเข้าหากัน

         "ไม่เหนื่อยหรอกครับ พี่จะพยายามทำให้มันจบเร็วที่สุดนะ"

         ถึงไม่ใช่คำพูดที่บ่งบอกว่ามั่นใจแต่ก็ทำให้ผมคลายกังวลลงมาก บางทีพี่จุนฮเวอาจจะกำลังสะสางเรื่องทั้งหมดอยู่ก็ได้ ผมไม่คะยั้นคะยอให้พี่จุนฮเวบอกผมหรอก ผมไม่ใช่คนงี่เง่าขนาดนั้นที่จะเซ้าซี้เรื่องที่ตัวเองไม่ควรจะยุ่ง

         "ทำงานกันเถอะครับ"

         "เดี๋ยวก่อน"

         พี่จุนฮเวรวบเอวของผมแล้วดันให้ผมหันหน้าไปมองหน้าเขา สองมือของผมรีบยันไว้กับหน้าอกของพี่จุนฮเวเพื่อไม่ให้หน้าเราใกล้กันไปมากกว่านี้

         "ที่นี่มัน..."

         "มันอะไรครับ" พี่จุนฮเวยื่นหน้ามาใกล้ๆผมอีกครั้งแล้วเลิกคิ้วถามผมอย่างกวนๆ

         "พี่จุน" ผมออกแรงดันอกของเขาออกถึงแม้ว่าจะมีแค่น้อยนิดก็เถอะ

         "อย่าดื้อ"

         เสียงเข้มทำให้ผมชะงักแขนสองข้างไว้ พี่จุนฮเวกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะรวบแขนผมทั้งสองข้างด้วยมือข้างเดียว

         "จะ... จะทำอะไร"

         เสียงของผมขาดห้วงเมื่อเงยหน้าปะทะสายตากับพี่จุนฮเว สายตาที่พร้อมจะกินผมอยู่ตลอดเวลานี่มันน่ากลัวจริงๆนะ พี่จุนฮเวเบียดร่างกายเข้ามาประชิดตัวผมอีกครั้งจนไม่มีช่องว่างตรงกลาง ใบหน้าเราสองคนห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

         ความรู้สึกมวนท้องและสองแก้มของผมเห่อร้อนขึ้นมาจนผมต้องหลบสายตาพี่จุนฮเวแล้วก้มมองหน้าอกพี่จุนฮเวที่อยู่ระดับสายตาตัวเอง

         "ฮะๆ"

         พี่จุนฮเวที่หัวเราะน้อยๆหลังจากปล่อยผมเป็นอิสระแล้วก็เดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงานตัวเอง ผมเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาทาบหน้าตัวเองเพราะรู้สึกว่ามันร้อนเกินไป

         "อย่าแกล้งจินสิครับ" ผมเบ้ปากแล้วเดินไปนั่งโต๊ะตัวเองแล้วรีบเอาเอกสารมาเปิดอ่านทันที

         "ไม่ได้แกล้งซะหน่อย"

         เสียงที่ยียวนกวนประสาททำให้ผมหันไปมองค้อนใส่แล้วกลับมาทำงานตัวเอง



    JUNHOE PART



         "เราจะคุยกันดีๆหรือจะทำแบบนั้นต่อไปครับ"

         ผมเอ่ยเปิดการสนทนาหลังจากที่ผมให้น้องจินออกไปรอข้างนอก

         "ทำอะไรเหรอครับ"

         ซึงฮุนตีหน้ามึนใส่และทำเป็นไม่รู้เรื่อง จริงๆตัวคนร้ายผมเพิ่งจะได้ตัวมาสดๆร้อนๆเมื่อเช้านี่เอง บ๊อบบี้โทรมาบอกผมก่อนที่ผมจะออกมาทำงานพอดี นั่นแปลว่าจบการเจรจากับซึงฮุนผมจะไปหาบ๊อบบี้

         "จาร์...เป็นเพื่อนของคุณสินะครับ"

         "อะ...เอ่อ"

         ซึงฮุนชะงักไปเล็กน้อยและเก็บสีหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว คงไม่คิดว่าผมจะหาตัวเจอเร็วขนาดนี้ เพราะจาร์ที่บุกรุกเข้าไปคอนโดผมได้ก็ถือว่าเก่งในระดับหนึ่งอยู่ทีเดียว

         "ว่าไงครับ จะตอบความจริงหรือจะให้ใช้ความรุนแรง"

         "คุณจุนฮเวเองก็คงไม่อยากติดคุกเพราะทำร้ายร่างกายลูกค้าตัวเองหรอกใช่ไหม"

         ให้ตาย... ผมอยากจะหัวเราะใส่หน้ามันดังๆว่าที่มันคิดน่ะผิดทั้งหมด ผมไม่ใช่คนที่เล่นเกมไม่เป็นหรอกนะ แต่ผมรู้ดีว่าเวลาไหนควรเดินหมากของตัวเอง

         "คุณซึงฮุนดูเหมือนจะประหม่านะครับ"

         ซึงฮุนชะงักนิ้วมือที่กำลังเคาะขาตัวเองอย่างไม่เป็นธรรมชาติและเหงื่อที่กำลังผุดออกมา ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังคิดหนัก

         "เปล่าครับ คือผมมีธุระต้องขอตัวก่อนนะครับ"

         ผมพยักหน้าให้เพียงเท่านั้นก่อนจะแค่นหัวเราะกับท่าทางของซึงฮุนที่กำลังคิดว่าเหนือกว่าผมมาตลอด


         ผมออกจากห้องรับแขกแล้วเดินไปยังห้องทำงานของผมซึ่งมีจินฮวานอยู่ด้วย แน่นอนว่าผมยืนแอบฟังบทสนทนาของคนตัวเล็กที่กำลังถามยุนฮยองเรื่องซึงฮุน ผมจะให้จินฮวานรู้ได้ก็ต่อเมื่อซึงฮุนยอมรับว่าเป็นคนทำเท่านั้น เดี๋ยวพูดไปก็หาว่าผมหาเรื่องลูกค้า

         "อ้าวมึง"ยุนฮยองตาโตที่เห็นผมยืนพิงผนังอยู่หน้าห้องทำงาน

         "ว่าไง"

         "มึงได้ยินหรอ" มันถามผม

         "อืม"

         "สงสัยควรจะเปลี่ยนผนังใหม่ให้กันเสียงได้ซะแล้ว"

         ผมหัวเรากับท่าทางของเลขาตัวเองที่เดินไปมาในบริษัทเป็นว่าเล่น ดูเหมือนว่ายุนฮยองจะดีใจเมื่อผมกับจินฮวานกลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว เจ้าตัวเองคงไม่ทำงานหนักเหมือนช่วงที่ผ่านมา

         ผมเปิดประตูเข้าไปหาจินฮวานและแกล้งอะไรนิดหน่อยก่อนจะอ่านเอกสารในแฟ้มบางส่วน จินฮวานเองก็ทำงานของตัวเองไปเหมือนกัน ผมลอบมองใบหน้าสวยที่กำลังใจจดใจจ่อกับงานตรงหน้ามากกว่าผมที่นั่งตรงนี้

         น่ารักชะมัด...

         ครืด ครืด

         "ฮัลโหล"

         (มึงมาตอนไหน มันไม่ปริปากเลยว่ะ)

         "เดี๋ยวกูไปตอนนี้"

         (อืม)

         บ๊อบบี้โทรมาเรียกให้ผมไปหาไอ้ตัวก่อเหตุ ผมหันไปว่าจะบอกจินฮวานแต่คนตัวเล็กก็มองอยู่ก่อนแล้ว

         "ใครเหรอ" เจ้าตัวหันหน้ามาทำตากลมใสใส่ผม

         สาบานว่าถ้าที่นี่ไม่ใช่ที่ทำงานผมจะจับจินฮวานฟัดให้ไม่มีแรงตื่น

         "บ๊อบบี้น่ะ"

         "อ๋อ.."

         "น้องจินอยู่กับยุนฮยองนะ เดี๋ยวพี่มา" ผมคว้าสูทมาใส่ก่อนจะเดินออกจากห้องไม่วายหันไปบอกยุนฮยองให้ไปอยู่กับจินฮวานด้วย

         ผมถือซองเอกสารสีน้ำตาลที่ระบุดีเอ็นเอและน้ำลายของจาร์เพื่อให้มันสารภาพว่าเป็นคนทำ และผมจะสาวไปหาซึงฮุนอย่างแน่นอน

    ผมเข้ามาที่บริษัทบ๊อบบี้ก็เจอตัวก่อเหตุที่โดนมัดไว้กับเก้าอี้และประกบด้วยการ์ดร่างใหญ่สองคน ใบหน้าของจาร์มีแผลฟกช้ำและเลือดที่แห้งกรัง

         "ว่าไง มีอะไรจะพูดมั้ย" ทันทีที่นั่งลงผมก็กล่าวทักทายเขาด้วยประโยคที่ใครๆฟังก็ต้องสะดุ้ง

         "..."

         "เงียบแบบนี้คิดว่าจะทำอะไรไม่ได้เหรอ สารภาพแล้วโทษเบาลงนะ"

         "..."

         โดนไอ้ซึงฮุนบอกให้เงียบมาสินะ ท่าทางอยากจะพูดเต็มทีนี่มันช่างขัดแย้งกับใบหน้าที่กังวลแบบนี้จริงๆ

         "เอาเถอะๆ นายเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกที่เราจะทำการตรวจดีเอ็นเอเพื่อดูว่าตรงกันกับที่เจอในร่างกายของเจนนี่หรือเปล่า"

         อันนี้บ๊อบบี้เป็นคนพูด จริงๆแล้วพวกผมจะตรวจอะไรแบบนี้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เพราะพวกผมไม่ใช่ตำรวจ แต่ถ้าพวกผมต้องการมันก็ไม่ยากเท่าไหร่

         "คือ..." สาบานว่าตั้งแต่นั่งลงนี่คือคำแรกที่ไอ้นี่พูดขึ้นมา

         "ว่าไง" ผมเลิกคิ้วถาม

         "มีคนจ้างมา.."

         "ใคร"

         "บอกไม่ได้"

         ภายในห้องนี้มีเครื่องอัดเสียงและวิดิโออยู่ ถ้าพูดออกมาครั้งเดียวคือจบ แต่จาร์ไม่พูด

         "ทำไมถึงบอกไม่ได้"

         "..." มันก้มหน้าลงและแสดงสีหน้าเศร้าไว้ ผมควรจะสงสารมันเหรอ

         "บอกมาแล้วจะลดโทษให้"

         "ไม่ได้จริงๆ" เสียงเข้มกว่าตอนแรกที่บอกทำให้ผมชะงัก

         "ซึงฮุนใช่มั้ย"

         ทันทีที่ผมถามจาร์มันสะดุ้งเล็กน้อย แค่นี้ก็พอรู้ว่าเป็นซึงฮุน แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้น ถ้าจาร์พูดมาแล้วมันก็จบแต่เพราะอะไรจาร์ถึงไม่ยอมพูดออกมา

         "ไม่ใช่"

         "ให้คิดคำตอบอีกที คิดด้วยว่าซึงฮุนเป็นคนยังไง"

         บ๊อบบี้กับผมเดินออกมาจากห้องปล่อยให้จาร์ใช้เวลากับความคิดของตัวเองไปก่อน ให้เขาได้ไตร่ตรองทุกอย่างที่กระทำมาทั้งหมดเอง แล้วอีกด้านของใจก็คือสำนึกผิด มันจะตีเข้ามาในหัวอย่างง่ายดาย

         "ได้ผลเหรอ" บ๊อบดูเหมือนจะกังวลที่ผมใช้การเจรจาแทนการเอาปลายกระบอกปืนขู่ให้พูดความจริง แต่ก่อนที่มีเรื่องมาผมก็ถือว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนมากถึงที่สุด เอะอะใช้ปืน ขัดนิดหน่อยก็ตาย

         แต่ตั้งแต่จินฮวานมาอยู่ในบ้านผมแทบจะไม่มีเรื่องอะไรพวกนั้นเลย แถมยังไม่ลงมือเองอีก จะว่าผมไม่อยากให้จินฮวานเห็นผมในด้านนี้ก็ได้ เพราะมันจริง

         เวลาผ่านไปยี่สิบนาทีแล้วผมกับบ๊อบบี้ก็กลับเข้าไปในห้อง จาร์ก็ยังคงนิ่งท่าเดิมเพราะถูกมัดไว้

         "แก้เชือก แล้วใส่กุญแจมือ" ผมบอกให้การ์ดแกะเชือกออกและยื่นกุญแจมือให้

         ท่าทางจะผ่อนคลายกว่าตอนแรกแล้ว งั้นผมจะเริ่มซักถามพยาน

         "นายวางแผนจะทำเรื่องนี้ยังไง" จาร์เงยหน้ามองผมและก้มลงไปอีกครั้ง

         "ผมปลอมเป็นคุณ" มันง่ายที่จะปลอมเป็นผมเหรอ หรือเจนนี่โง่

         "ปลอมยังไง"

         "ใช้เครื่องแปลงเสียงให้ผู้หญิงคนนั้นเปิดประตู"

         โลกนี้มีอะไรที่ไฮเทค ผมเองก็เคยใช้แต่ไม่ได้เอามาทำอะไรชั่วๆแบบนี้แล้วกัน

         "แล้วเจนนี่เปิดให้เลยงั้นเหรอ"

         "อืม"

         มันก็ไม่ต่างจากที่คาดไว้เท่าไหร่ ถ้าไม่มีคีย์การ์ดเจนนี่น่าจะเปิดให้เองซะมากกว่า

         "แล้วคนที่ว่าจ้างล่ะ"

         "บอกไม่ได้" คำตอบเดิม แสดงว่าซึงฮุนน่าจะยื่นข้อเสนอที่จาร์เองก็ไม่อยากให้

         "มันขู่อะไรไว้" ผมถามตรงๆอยู่แล้ว เพราะไม่มีเหตผลอื่นนอกจากโดนขู่ไว้แน่นอน

         "เอ่อ..."

         "หืม" ผมกอดอกมองปฏิกิริยาคนตรงหน้าที่เหมือนจะโดนขู่มา

         "บอกมาเถอะ ถ้ามันสำคัญพวกเราจะจัดการเอง" ผมไม่ใช่คนดีที่จะไปยุ่งเรื่องคนอื่น แต่ถ้ามันเกี่ยวกับการสารภาพของจาร์ผมก็จะทำให้

         "พ่อแม่ผม" เสียงสั่นเครือที่เอ่ยไม่ได้เต็มปาก แสดงว่าซึงฮุนต้องคิดจะฆ่าพ่อแม่ของจาร์เพื่อให้จาร์ปิดปากเรื่องตัวเอง

         "พ่อแม่อยู่ที่ไหน"

         "โดนจับตัวไป" ผมเบิกตากว้างขึ้นเมื่อจาร์พูดแบบนี้ การที่โดนซึงฮุนจับตัวไปแล้วมีโอกาสมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นที่จะไม่รอด

         "โถ่เว้ย!" ผมทึ้งหัวตัวเอง

         "โกดังร้างนอกเมือง" สายตาที่หวั่นไหวปนความกลัวบ่งบอกว่าผมต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

         ผมกับบ๊อบบี้สั่งลูกน้องเฝ้าจาร์ไว้และออกมาเพื่อจะไปที่โกดังที่จาร์บอก ใช้เวลาสองชั่วโมงในการไปที่นั่นแต่ยังไงก็ต้องไปให้เร็วที่สุด

         "มึงเร่งตีนเลยบ๊อบ"

         บ๊อบเพิ่มน้ำหนักเท้าเร่งไปยังโกดังร้างทันที ผมต้องไปช่วยพ่อกับแม่ของจาร์ก่อนที่จะโดนฆ่าหมกป่า

         บ๊อบเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าโกดังที่จาร์บอกมา ร้างจริงๆ โกดังนี่มันอยู่ไกลจากเมืองไม่พอยังไม่มีบ้านช่องหรือคนอยู่เลย ที่นี่เงียบซะจนใจผมยังหวาดอยู่เล็กน้อย

         "มากันแล้วเหรอ"

         เสียงคุ้นหูดังมาจาดข้างหลังทำให้ผมกับบ๊อบหันไปมอง ซึงฮุนที่ยืนกอดอกมองเราสองคน ส่วยข้างหลังเป็นคู่ชายหญิงแก่ที่โดนจับตัวมา

         "ซึงฮุน ปล่อยสองคนนั้น"

         แววตาของสามีภรรยาคู่นั้นเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาและเสียงดังอู้อี้ที่ร้องให้พวกผมช่วย

         "ปล่อยเหรอ เอาอะไรคิด"

         "ปล่อย" ผมบอกกับซึงฮุนที่ดูเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที

         "จาร์มันหักหลัง มีประโยชน์อะไรที่ต้องทำตามสัญญา" มันแค่นหัวเราะแล้วมองมาที่ผมด้วยสายตาแข็งกร้าว

         "แต่พ่อแม่มันก็ไม่เกี่ยว"

         "เพราะมึงจุนฮเว เพราะมึงที่ทำให้กูทำแบบนี้ เพราะมึงเป็นต้นเหตุ ...ของทุกอย่าง"

         เสียงแผ่วลงเมื่อซึงฮุนพูดสามคำสุดท้ายแต่ผมก็ยังได้ยิน ผมไปทำอะไรให้มันงั้นเหรอ

         "กูไปทำอะไรให้มึง"

         "มึงทำมาตลอด ตั้งแต่สมัยเรียนจนตอนนี้ทำงาน มึงก็ยังสร้างบริษัทมาเพื่อแย่งลูกค้ากู!"

         ตั้งแต่สมัยเรียนงั้นเหรอ... ผมไม่เคยคิด

         "..."

         "มึงแย่งทุกอย่างไป และตอนนี้กูจะเอาคืน!"

         ซึงฮุนเหมือนคนเสียสติที่กำลังดิ้นพล่านอยู่ต่อหน้าผม ในเวลานี้ที่ชีวิตของคนแก่สองคนนั่นสำคัญผมไม่มีเวลามาฟังอะไรไร้สาระแบบนี้

         "ปล่อยสองคนนั้นไป แล้วเรามาเคลียร์กันเอง"

         "ไม่! มันจะต้องตายเพราะปากลูกชายตัวเอง!"

         "ซึงฮุน!"

    ผลั้วะ!!!

         หมัดที่มาพร้อมกับเสียงทำให้หน้าซึงฮุนหันไปตามแรงและเซล้มลง ผมมองหน้าคนที่มาใหม่

         "ว่าไงจุนฮเว ไม่เจอกันนาน" มินโฮที่จู่โผล่มาต่อยซึงฮุน

         "มึงมาได้ไง"

         "กูอยากแก้แค้นมันเหมือนกัน เอามันเข้าคุกซะ!"

    ผลั้วะ!!! ตุ้บ!!!

         การ์ดของซึงฮุนปรี่เข้ามารุมทำร้ายพวกผมทั้งสามคน ผมเองที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เซล้มลงเช่นกัน ทันทีที่ตั้งสติได้ก็เบี่ยงตัวหลบเท้าที่กำลังจะกระทืบลงมาและยันตัวเองลุกขึ้นมา

         "ถุ้ย!"

         ผมถุยน้ำลายที่มีรสคาวเลือดทิ้ง มองหน้าคู่ต่อสู้และยักคิ้วเพื่อกวนประสาท

    พลั้ก!!

         ผมกระโดดถีบหน้าอกให้มันล้มก่อนจะใช้เท้าถีบไปตรงใกล้บริเวณท้ายทอย และยกร่างมันขึ้นมาใหม่

    ผลั้วะ!! ผลั้วะ!! พลั้ก!!

         ผมสวนหมัดไปเต็มแรงหลายทีจนหน้ามันแสดงออกว่ามึนอยู่ผมก็จัดการกระแทกกำปั้นลงบนท้ายทอยเพื่อให้มันสลบไป

         ผมมองดูรอบๆมินโฮกับบ๊อบบี้กำลังตะลุมบอนกับการ์ดของซึงฮุน สายตาผมมองหาซึงฮุนทันที เท้ายาวๆของมันกำลังลากคนแก่สองคนไปทางด้านหลังของโกดัง

         "ซึงฮุน!!"

         ผมตะโกนก่อนจะวิ่งไปหามันที่พยายามหนี เท้าของผมวิ่งไปตามทางที่มันไปแต่ก็ไม่เจอ

         "โถ่เว้ย!!" ผมวิ่งไปอีกทางซึ่งน่าจะเป็นทางที่ออกไปยังนอกโกดังเร็วที่สุด

         ผมออกมานอกโกดังแล้ววิ่งไปยังด้านหลัง มันกำลังยัดคนแก่สองคนเข้าไปในรถ ผมสบถก่อนจะวิ่งกลับมาเอารถเพื่อตามมันออกไป

         ผมขับรถตามออกไป ซึงฮุนเองคงไปไกลแล้วพอสมควร ผมจึงเร่งเครื่องเพื่อจะไปให้ทัน ถ้าซึงฮุนฆ่าพ่อแม่ของจาร์ในรถละก็ ผมก็ลากเข้าคุกข้อหาฆ่าคนตายได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้ใครต้องมาจบชีวิตลงเพราะเรื่องงี่เง่าที่ซึงฮุนมันคิดขึ้นมาเองคนเดียว

         เนื่องจากทางมันเป็นเส้นทางตรงตลอดจึงทำให้ผมไม่ยากที่จะตามและไม่มีรถคันไหนนอกจากรถของผมกับมันเลยด้วยยิ่งทำให้ทางโล่งเหมาะแก่การไล่ล่ามาก ตอนนี้ผมมองเห็นรถของซึงฮุนแล้วซึ่งอยู่ไม่ไกลถ้าเร่งอีกนิดก็น่าจะตีขนาบข้างได้

         การกระทำไวกว่าความคิดผมเร่งเครื่องเพื่อจะตีขนาบข้างรถซึงฮุนและแซงเพื่อจะดักให้รถของซึงฮุนเบรก

    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

         เสียงล้อเสียดสีบนถนนและตอนนี้ทุกอย่างหยุดนิ่งแล้ว ผมลงจากรถพร้อมกระบอกปืนและเดินไปยังรถของซึงฮุนที่เบรกกะทันหัน

         "ลงมา"

         ซึงฮุนทำหน้าไม่สบอารมณ์และหยิบปืนมาด้วย หึ

         "ปล่อยคนแก่สองคนมากับกูแล้วกูจะปล่อยมึงไป" ผมบอกแบบนั้นทำให้มันชะงัก เพราะถ้าจับมันตอนนี้เลยก็ย่อมได้ แต่ผมไม่ทำแบบนั้น ความผิดของมันที่มีต่อผมคือฆ่าเจนนี่ไม่ใช้พยายามฆ่าพ่อแม่ของจาร์

         "มึงพูดจริง"

         ผมพยักหน้าให้มันแล้วลดปืนในมือลง มันโยนร่างของผู้หญิงมาและตามด้วยผู้ชายก่อนที่มันจะขึ้นรถและขับออกไป

         ผมปล่อยมันหนีไปง่ายๆว่ามั้ย แต่รับรองว่ามันดิ้นไม่หลุดแน่

         ซึงฮุนไม่ยอมทิ้งบริษัทตัวเองแน่นอน และในวันพรุ่งนี้มันต้องไปที่บริษัทตามปกติแน่นอน

         "เป็นอะไรมั้ยครับ" ผมพยุงทั้งสองคนให้ขึ้นรถพลางถามไปด้วย

         "ขอบคุณมากนะพ่อหนุ่ม" เสียงสั่นเครือของคนแก่สองคนทำให้ผมนึกถึงพ่อแม่ตัวเอง ถ้าพ่อแม่ผมตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

         ผมขับรถกลับมาหาบ๊อบบี้กับมินโฮที่โกดังเหมือนเดิม ผมบอกให้คนแก่สองคนรอในรถและผมลงไปหาบ๊อบบี้และมินโฮที่ยืนรอผมอยู่

         "เป็นไง"

         "พ่อแม่จาร์อยู่ในรถ กูปล่อยมันไป"

         "ว่าไงนะ!" มินโฮเอามือกุมขมับทันทีที่ผมบอก

         "ยังไงพวกกูไม่ปล่อยให้มันลอยนวลแน่ มึงใจเย็น" บ๊อบบี้รู้ดีว่าที่ผมทำไปมันมีเหตุผลทั้งหมด

         "กูไปละ" มินโฮพยักหน้ารับและขับรถออกไป ส่วนผมกับบ๊อบก็กลับไปยังบริษัทเพื่อจะคุยกับจาร์





         "พ่อ! แม่!" ใบหน้าที่โศกเศร้าหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจอหน้าพ่อแม่

         "จาร์ ทำไมใส่กุญแจมือ"

         "ผมขอโทษครับ..."

         ผมพยักหน้าให้บ๊อบไปคุยกับพ่อแม่ของจาร์และผมนั่งลงตรงหน้าเพื่อจะเอาคำสารภาพ

         "สารภาพมาเถอะ โทษจะได้เบา" ผมมองหน้าจาร์

         "ซึงฮุนเป็นคนจ้างให้ทำ ทั้งเรื่องที่บริษัทคุณ และเจนนี่"

         "ว่าไงนะ!!" ผมลุกไปกระชากคอเสื้อของจาร์ทันที เรื่องที่เกิดขึ้นในบริษัท ที่จินฮวานโดนหมอนอัดหน้าจนแทบจะไม่หายใจ เพราะมันคนนี้หรอ

         "ผมขอโทษ ผมโดนขู่มาตลอด"

         "อั้ก!" ผมปล่อยมันลงและพยายามสะกดอารมณ์ไว้

         "คุยกับตำรวจแล้วกัน"

         จาร์ไม่ได้ตอบอะไรเพียงก้มหน้าลงยอมรับความผิดที่ตัวเองก่อ แถมยังได้รับข้อหาพยายามฆ่าจินฮวานไปอีกหนึ่งกระทง ส่วนซึงฮุนตำรวจกำลังตามตัว

    แต่ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดซึงฮุนเพราะจาร์แค่บอกว่าโดนจ้างวานให้ทำ ไม่มีเป็นลายลักษณ์อักษรตำรวจจึงยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่

         "เอาไงต่อวะ" บ๊อบบี้หันมาถามผมหลังจากที่จบเรื่องจาร์ไปแล้ว

         "โทรศัพท์ของจาร์อยู่ไหน"

         บ๊อบบี้กับผมมองหน้ากันอย่างรู้งาน ถ้าจาร์โดนซึงฮุนจ้างมาแสดงว่าในโทรศัพท์จะต้องมีบันทึกโทรเข้าออกที่ติดต่อกับซึงฮุน

         "กูให้ลูกน้องจัดการก็ได้ มึงกลับไปหาจินฮวานเถอะ" บ๊อบบี้มองนาฬิกาก่อนจะดันตัวผมให้เดินออกไป



    JINHWAN PART



         ผมมองดูร่างสูงที่นั่งรอผมที่โซฟาสักพักแล้ว ผมเพิ่งจะสังเกตใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำตามจุดต่างๆและคราบเลือดที่แห้งไปแล้ว ผมลุกไปยังห้องพักเบรกของพนักงานเพื่อจะเอากล่องปฐมพยาบาล

         "มึงเอาไปทำไม" ยุนฮยองเดินเข้ามาชงกาแฟพอดีจึงถามผม

         "พี่จุนฮเวน่ะสิ อยู่ดีๆก็มีแผลกลับมา"

         "มันไปทำอะไรอีกล่ะ"

         "ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวไปทำแผลให้พี่จุนก่อนแล้วกัน"

         ยุนฮยองพยักหน้าแล้วชงกาแฟต่อ ผมเดินถือกล่องปฐมพยาบาลกลับมาที่ห้องก็เห็นพี่จุนฮเวนั่งหลับ

         "พี่จุนครับ" ผมเรียกและสังเกตแผลบนหน้า แผลที่คิดว่าควรทำคงจะมีแค่มุมปากและหางคิ้ว ผมลากสายตาจากหน้าผากลงไปก็ต้องชะงักเมื่อพี่จุนฮเวลืมตามองผม ผมเพิ่งจะรู้ว่าผมยื่นหน้าไปใกล้พี่เขาพอสมควร

         "อ๊ะ!" ผมที่ควรถอยกลับไปดันโดนพี่จุนฮเวจับข้อมือไว้ก่อน

         "จะทำแผลไม่ใช่หรอ ทำสิ" ทำได้ยังไงล่ะ ก็เล่นอุ้มเราไปนั่งตักแบบนี้

         "มันไม่ถนัด"

         "อย่าดิ้น"

         "ก็มันไม่ถนัดจริงๆอ่ะ" ผมดิ้นแรงกว่าเดิม

         "จุนฮเวน้อยของพี่จะตื่น อย่าดิ้นนะครับ" ผมหยุดนิ่งราวกับโดนสะกดไว้ ผมรีบเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ขึ้นมาจ่อแผลและเริ่มทำแผลให้ทันที

         พี่จุนฮเวหัวเราะน้อยๆกับท่าทางของผม ก็แกล้งกันแบบนี้ตลอดไม่ให้อายได้ไงล่ะ ผมแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

         "อะแฮ่ม!"

         เสียงกระแอมของยุนฮยองทำให้ผมกระโดดลงจากตักพี่จุนฮเวทันที สายตาที่ยุนฮยองมองมาแทบจะทำให้ผมถอดหัวไปไว้ที่อื่น สองข้างแก้มก็เห่อร้อนขึ้นมาจนผมต้องเอามือสองข้างทาบไว้

         "อายหรอจ๊ะ"

         ยุนฮยองยังล้อผมไม่เลิกตั้งแต่ผมเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ แต่ก็ไม่วายเดินตามมาล้อผมอยู่ดี

         "แยกกันตรงนี้แหละ ชานมารับ" ยุนฮยองส่งเราสองคนขึ้นรถแล้วตัวเองก็เดินไปขึ้นรถบีเอ็มที่มาจอดรอที่หน้าบริษัท

         พี่จุนฮเวเคลื่อนรถไปจอดขนาบข้างและเปิดกระจกทักทายชานและบอกลายุนฮยอง จากนั้นพวกเราก็กลับมาที่บ้านเช่นเคย

         "พี่ไปทำอะไรมาเหรอ ถึงมีแผล"

         นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ถามก็ถามหน่อยแล้วกัน

         "ไปเคลียร์คดีเจนนี่แหละ"

         "จบยังอ่ะ"

         "จบแล้วครับ"

         พี่จุนฮเวฉีกยิ้มพร้อมกับผมที่รู้ว่าคนร้ายตัวจริงได้รับผลการกระทำของตัวเอง ทำไมถึงทำอะไรแบบนี้กันนะ คนพวกนี้ ยิ่งเจนนี่กำลังท้องอยู่ด้วย น่าสงสารออก

        

    "ถึงแล้วครับน้องจิน"

         พี่จุนฮเวเดินอ้อมมาเปิดประตูให้แล้วส่งยิ้มบางๆมาทำเอาใจผมสั่นเลยทีเดียว ไม่บ่อยนักหรอกที่คนอย่างพี่จุนฮเวจะยิ้มแบบนี้ เวลาที่อยู่ข้างนอกตีหน้านิ่งซะจนผมกลัว

         ผมเดินนำเข้ามาในบ้านก่อนเพื่อจะไปที่ครัว วันนี้ว่าจะทำอาหารเย็นให้พี่จุนฮเวทานเอง

         ผมขึ้นไปเปลี่ยนชุดและลงมาใช้เวลาที่ครัวประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้ว กลิ่นหอมจากหม้อตรงหน้าทำเอาผมยิ้มร่าทันที

         "หอมจัง หิวแล้วครับ" พี่จุนฮเวเดินมาหยิบน้ำกินเอ่ยปากบอกและชะโงกดูหม้อที่กำลังเดือด

         "ไปรอที่โต๊ะนะครับ" ผมยิ้มให้คนตัวสูงที่กินน้ำเสร็จแล้วไม่ยอมไปไหนยังยืนมองผมอยู่ที่เคาท์เตอร์ ไม่นานผมก็ทำอาหารเย็นเสร็จ กลิ่นหอมอบอวลทำให้ผมเองก็หิวขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน

         ผมให้แม่บ้านเตรียมโต๊ะอาหารไว้และยกอาหารไปเสิร์ฟที่โต๊ะแทน

         "น้องจิน ตรวจดูบ้างหรือยัง"

         ผมแปลกใจกับคำถามของพี่จุนฮเว เขาจะให้ผมตรวจอะไร

         "ตรวจอะไรเหรอ"

         "งั้นพรุ่งนี้ไปหาหมอด้วยเลยแล้วกันเนอะ"

         พูดเองเออเองก็เป็น




    ขอโทษทุกคนที่หายไปนานนะคะ

    ไรท์ป่วยเพิ่งจะฟื้นตัวได้ ฮ่าๆ

    มาลงแล้วเนอะ เอ็นจอยน้าาาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×