สิ่งที่ถูกต้อง
จะเป็นยังไงกันนะ? เมื่อตัวคุณค่าของคำว่า "มารยาท" เป็นเพียงสิ่งที่ถูกเรียกว่าเป็นสิ่งโบราณสำหรับไดโนเสาร์ในยุคสมัยใหม่
ผู้เข้าชมรวม
85
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
สิ่งที่ถูกต้อง
“สิ่งนี้มันถูกจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ…?”
ผมนั่งคิดวนไปวนมาอยู่หลาย ๆ รอบ
ระหว่างที่ผมคิดอยู่ ในห้องเรียนมีแต่ความวุ่นวานเต็มไปหมด เพื่อน
ๆวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนานโดยทุกคนมีลักษณะทรงผมตามระเบียบโรงเรียน
แอร์ที่เปิดในห้องเรียนก็เย็นเสียเหลือเกิน
จนผมต้องหยิบเสื้อกันหนาวสีดำตัวเก่งขึ้นมาใส่ ผมมองไปรอบ ๆ
เพื่อมองเพื่อนด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
ด้านหน้าห้องมีกระดานที่เขียนบักทึกตารางเรียนด้วยน้ำหมึกสีดำ
แต่ความวุ่นวายของผองเพื่อนก็ยังไม่จบลงง่าย ๆ แม้เวลาเรียนจะมาถึงภายในอีก 5
นาทีนี้แล้วก็ตาม !
“ให้ตายเถอะ...พวกนายไม่รู้จักอยู่เงียบ
ๆ กันบ้างหรือไงเนี้ย”
ผมกล่าวออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพื่อน ๆ
หันมามองที่ผม และทำท่าทางยักไหล่ขึ้นพร้อมกันบริเวณกลางห้อง พวกเขาทำเหมือนกับว่า
“ใครสน?”
ผมก้มหน้าพร้อมถอนหายใจออกมาดัง ๆ และมองขึ้นไปบนกระดาน
ทีวีที่ปิดสนิทและมีรูปพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่น่าเคารพติดอยู่ข้าง
ๆ ทันใดนั้นเอง
เพื่อนตัวแสบก็พุ่งเข้ามาเกาะไหล่ของผมแบบที่ผมไม่รู้ตัว
“เฮ้ย!!! เล่นบ้าอะไรของนายเนี้ย
ไอ้กล้า!”
กล้ายิ้มพลางเอาตัวยื่นเข้ามาใกล้
“เอ้า! ก็นายมัวแต่นั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างอย่างกับพระเอกในมิวสิควิดีโอนี่
ไหงไม่ไปเล่นกับเพื่อนบ้างละ?”
กล้าทำหน้าสงสัยเหมือนเด็กที่พึ่งรู้จักโทรศัพท์เป็นครั้งแรก
ให้ตายเถอะ..ผมคิดว่า การไปวิ่งเล่นในห้องเรียนแบบนี้ได้ส่งเสียงดังจนไปรบกวนห้องข้าง
ๆ น่ะสิ
“นี่นาย
ไม่คิดว่าจะเป็นการรบกวนห้องข้าง ๆ เหรอ…?”
ผมถามกล้าออกไป
พลางกลับไปคิดเรื่องที่คิดไว้ในหัวตอนแรก ๆ
“ใครสนล่ะ จริงไหม?”
กล้าตอบกลับเสียงแข็ง ก็ตามนั้นล่ะ…ผมห้ามอะไรไม่ได้อยู่แล้วขนาดหัวหน้ายังห้ามอะไรไม่ได้เลยนี่ อย่างผมน่ะแค่พูดคงไม่มีใครฟังแล้วละมั้ง
“เอาเหอะ ไม่ว่าจะคิดอะไรที่ฟุ้งซ่านอยู่
ก็อย่าไปทำอย่างนี้ในคาบต่อไปของครูเดียร์แล้วกัน”
กล้าพูดออกมาปนขำเล็กน้อยและเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง
ตัวผมที่มัวแต่คิดอะไรไปซะไกล จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเพื่อนคนนี้เลย
“มันถูกหรือผิดกันแน่นะ…?”
ผมบ่นออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อสองวันก่อน ผมได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ผมไม่รู้ว่าถูกหรือผิดกันแน่...ผมเริ่มนึกย้อนกลับไปทบทวนเหตุการณ์
“เอ้า…น้องเฟิร์ส ทำไมทำอย่างงี้ล่ะลูก...เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ก็ต้องก้มหัวสิ….”
เสียงแม่ดังขึ้นอยู่ข้าง ๆ โซฟาในห้องนั่งเล่น
“ผมแค่…สงสัยว่าทำไมเราต้องก้มหัวให้ผู้ใหญ่ล่ะ…”
ผมทำหน้าสงสัยและถามออกไป
“นี่แม่ต้องสอนลูกอีกกี่ครั้งกัน
ว่ามันคือมารยาทที่เราควรทำกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือคนรอบ ๆ
ข้างที่รู้จักหรือไม่รู้จักและเป็นการให้เกียรติคนนั้น ๆ ด้วย แถมยังช่วยทำให้เราเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนด้วยนะ”
หลังจากนั้น แม่ก็พูดต่ออีกยาวเป็นหางว่าวเกี่ยวมารยาทที่ควรทำ
ผมรู้สึกไม่ค่อยเห็นด้วยภายในใจลึก ๆ นี้คือสิ่งที่เราควรทำจริง ๆ เหรอ หรือเป็นแค่สิ่งที่สังคมต้องการให้เราทำ
นี้คือความถูกต้องจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ…?
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ!
สวัสดีครับครับครูเดียร์…….”
นักเรียนทุกคนยกมือขึ้นมาไหว้ครูอย่างพร้อมเพรียงกันและลากเสียงยาวเมื่อเริ่มสวัสดีคุณครู
ไอ้กระผมคนนี้กลับนั่งเหม่อคิดต่อไปเกี่ยวเรื่องที่โดนบ่นแม่บ่นไปเมื่อสองวันก่อน
“เด็กชายเฟิร์ส…ทำไมไม่สวัสดีคุณครูคะ!” ผมทำท่ายียวนกวนประสาทครูและไม่รู้สึกรู้สาในสิ่งที่ทำลงไป
และทันใดนั้นเอง
เก้าอี้ของผมเกิดชำรุดขึ้นมาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว
ตัวผมล้มลงไปหัวกระแทกพื้นอย่างจัง
“อั่ก!”
ผมล้มลงหัวกระแทกไปพื้นอย่างจัง
เสียงเพื่อนรอบตัวผมร้องเสียงหลง และทัศนวิสัยของผมค่อย ๆ เลือนรางลงไปอย่างช้า ๆ
“นี่... ผมอยู่ที่ไหน…?”
ผมลืมตาอย่างช้าและยังคงรู้สึกเจ็บบริเวณหัวไม่หาย
ผมเริ่มมองไปรอบ ๆ ผมรู้สึกสับสน…นี่ผมตายไปแล้วเหรอ…?ไม่จริงน่ะ…ผมจะตายกะแค่หัวกระแทกโต๊ะไม่ได้นะ!!!!
“นี่...มันมืดไปหมดเลย…ที่นี่มันที่ไหนกันนะ…”
ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง
ในชีวิตนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งมากมายเลยนะ
ทำไมผมต้องมาตายเพราะอะไรแบบนี้ด้วย
“เฮ้อ…จะอะไรนักหนา กะแค่เรื่องการไหว้
ขนาดคนต่างชาติเขาทำแค่จับมือกันทักทาย น่ารำคาญ…”
ทัศนวิสัยของผมเริ่มกลับมามองเห็นอีกครั้ง
จากที่เห็นแค่หมอกสีดำ
ผมเห็นชายคนหนึ่งใส่ชุดสูทสีดำและกระเป๋าทำงานเดินออกมาจากตึกที่สูงใหญ่ราวกับว่าเป็นตึกที่มาจากอนาคต
ผมหันไปรอบ ๆ ด้วยความตกใจ
ผมเห็นเพียงตึกที่สูงชันพร้อมอากาศที่เต็มไปด้วยควันจากโรงเรียนจากที่ไกล ๆ
ผมแทบไม่เห็นต้นไม้ซักต้นเลย…
“อา…พี่ครับ…ที่นี่ที่ไหนเหรอครับ?”
ผมเดินตรงเข้าไปถามชายคนนั้นด้วยความระแวงว่าชายคนนี้จะอารมณ์เหวี้ยงใส่ผมด้วยรึเปล่า
“…”
ชายคนนั้นเงียบและไม่พูดอะไรออกมาซักคำ
และมองไปรอบ ๆ อย่างกับว่าผมไม่มีตัวตนให้มองเห็น
“เอาจริงดิ…”
ผมสบถออกมาโดยที่ตัวเองยังรู้ตัวด้วยซ้ำ
นี้ผมเป็นวิญญาณไปแล้วเหรอเนี่ย ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นผมกันนะ
“จะอะไรก็ช่างเถอะ ไอ้ของโบราณเก่ากึ้กซะขนาดนั้น
ใครมันจะไปทำตามกันวะ”
เขาบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ ตัวผมที่ยังมึน ๆ
ว่านี่ผมเป็นวิญญาณหรือกำลังล่องหนได้ ผมตบหน้าตัวเองไป 1 ครั้ง
“หู๊ย….
เจ็บสุด ๆ ไปเลย”
ผมทำแบบนั้นทำไมน่ะเหรอ ก็เวลาทำให้ตัวเองเจ็บแล้วมันจะทำให้ตื่นจากความฝันไงล่ะ
แบบในหนังไง แต่ก็นะ…มันไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นเลย
“เออ ได้ยินเรื่องไอ้คนที่มาสมัครงานนั่นรึเปล่า? ไอ้คนที่เพิ่งเดินล่วงเราไปอะ โครตจะไร้มารยาทเลยว่ะ”
ผมหันหลังกลับไปมองที่ประตูทางเข้า-ออกของตึก
และได้เห็นชายสองคนที่มีลักษณะเป็นพนักงานบริษัทใส่เสื้อสูทสีดำและขอบตาเป็นสีดำอย่างกับคนไม่ได้นอนมาอาทิตย์หนึ่งเต็ม
ๆ กำลังคุยกันตามประสาเพื่อนร่วมงาน
“เออ ๆ เห็นแล้วแหละ
นิสัยแย่เนอะ เนี่ย...ขนาดเข้าไปสมัครงานกับหัวหน้าแผนก ยังไม่ยกมือมาไหว้
ไม่เดินก้มหัวให้ผู้ใหญ่ ที่บ้านพ่อแม่สั่งสอนบ้างไหมเนี่ย แย่จริง ๆ”
ชายชุดสูทสีดำคนข้าง ๆ ตอบกลับ อย่างอารมณ์เสีย
“หึหึ…เชื่อเถอะ
คนอย่างนั้นไม่มีวันได้เข้ามาทำงานกับเราหรอก
ถึงจะเก่งมากแค่ไหนแต่ถ้าไร้มารยาทก็แค่นั้น ฮ่าฮ่า!”
ชายชุดสูทตอบกลับเพื่อนร่วมงานคนข้าง ๆ ด้วยความสะใจ
“คนที่โดนนินทาอยู่นี่…จะเป็นเหมือนกับเรารึเปล่านะ…?”
ถ้าผมโตขึ้นและยังมีนิสัยแบบนี้อยู่
มันจะต้องเป็นปัญหาแน่ ๆ …ไม่ว่าผมจะเก่งแค่ไหนหรือจบสูงมาขนาดไหน
ไม่มีใครสนหรอกกับคนที่ไม่มีมารยาทแบบนี้… ผมควรที่เปลี่ยนตัวเองใช่ไหม…?
แต่..อีกใจหนึ่งก็คิดว่า
“พวกคุณมันหัวโบราณ! กะอีแค่การไหว้และก้มหัว พวกคุณจะสนมารยาทที่เก่าขนาดนี้ นี่พวกคุณเป็นไดโนเสาร์เมื่อหลายล้านปีก่อนรึไง!?”
ผมถึงกับสะดุ้งโหยงกับชายสูทสีดำพร้อมกับถือกระเป๋าทำงานของเขาเดินตรงเข้ามาที่พนักงานบริษัททั้งสองคน
เอาแล้วหล่ะสิ ผมยังไม่หายกังวลเรื่องที่พวกเขาไม่เห็นผม แต่ก็ดีกว่าการที่ให้พวกเขาเห็นว่าผมอยู่นี่
ไม่งั้นเรื่องจะบานปลายกว่านี้แน่ ๆ
“อะไรของคุณครับ? นี้อย่าบอกนะว่าคุณยังไม่เข็ดกับหัวหน้าแผนกของเราอีก?”
พนักงานบริษัททั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
ความรู้สึกคือแบบ ว้าววว! ทั้งสองคนเป็นฝาแฝดหรือเพื่อนร่วมงานกันแน่
ยังไม่ทันที่จะเปลี่ยนอารมณ์ ชายที่ถือกระเป๋าได้ตะคอกลับไปในทันที
“แน่นอนอยู่แล้ว ผมจบมาจากอเมริกาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของที่นั่น
ระดับผมน่ะกะแค่เรื่องมารยาทโบราณ ๆ
แบบนี้น่ะ มันก็เหมาะสมกับแค่พวกหัวโบราณแบบพวกคุณนี้ล่ะ!”
ผมถึงกับอ้าปากค้าง
ผู้ใหญ่แบบนี้ก็มีด้วย ผู้ใหญ่ในสังคมแบบนี้ก็มีด้วย
แต่ดูจากลักษณะท่าทางเขาดูพึ่งจบมาใหม่ ๆ ด้วย เป็นคนที่ไฟแรงจนน่ากลัวจริง ๆ…
“พอได้แล้ว!”
มีเสียงดังออกมาจากหน้าประตูทางเข้า-ออก
เป็นเสียงของคนที่พอมีอายุแล้ว
แต่ผมยังไม่เห็นตัวของเขาว่าเป็นยังเพราะกระจกมันสะท้อนจนแทบไม่เห็นรูปร่างเลย
“ผมดูประวัติของคุณมาแล้ว คุณเนี่ยมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในหลาย ๆ ด้านโดยเฉพาะการบริหารการเงิน
แต่คุณกลับพลาดโอกาสของคุณเพียงเพราะคุณน่ะ… ไม่มีมารยาทอย่างไงล่ะ!”
ชายในชุดสูทพร้อมใส่หูฟังแบบบลูทูธ
เดินออกมาจากประตู เผยถึงรัศมีความเป็นผู้นำในกลุ่มพนักงานบริษัท
“สวัสดีครับ! หัวหน้าแผนกชิน!”
พนักงานบริษัทตรงหน้ายกมือขึ้นมาไหว้พร้อมกันในท่าที่ถูกต้อง
ทั้งสองคนนี้นี่น่าทึ่งจริง ๆ สามารถไหว้ให้พร้อมกันได้โดยที่ไม่ได้เตรียมกันมาเลยซักนิด
“คุณปังและคุณมิกซ์…รู้ไหมว่าการพูดถึงผู้อื่นลับหลังเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ…”
หัวหน้าแผนกพูดออกมาเสียงแข็ง
โดยพนักงานทั้งคู่ก้มหน้าพร้อมกันด้วยความรู้สึกผิด
“ขอโทษครับ”
ทั้งสองพูดขึ้นมาพร้อมกันพร้อมกับยกมือไหว้
“อะแฮ่ม…สวัสดีครับผมต้องขอโทษคุณแทนพนักงานในแผนกของผมทั้งสองคนด้วยนะครับ ผมได้ยินในสิ่งที่เขาพูดถึงคุณแล้วล่ะ
ตัวผมที่เป็นหัวหน้าแผนกจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของผม คุณกล้า…คุณยังไม่ผ่านการพิจารณาที่จะได้ทำงานที่นี่ด้วยเหตุผลว่า
ทางบริษัทของเราอาจมีปัญหาภายหลังจากรับคุณเข้ามาทำงานในบริษัทของเรา แต่ถ้าหากคุณกลับไปทบทวนและทดลองปรับตัวในบางสิ่งที่คุณอาจจะยังไม่เข้าใจหรือหลงลืมไป
ผมเองก็ยินดีจะรับคุณมาพิจารณาอีกครั้ง หากถึงเวลานั้นแล้ว
โปรดโทรมาหาผมที่เบอร์นี้นะครับ ขอบคุณที่คุณสนใจจะมาร่วมทำงานบริษัทของเรานะครับ”
เดี๋ยวนะ…ฟังผิดไปรึเปล่า…ชายคนนี้คือกล้าเพื่อนผมเหรอ..? ไม่หรอกน่า...เพื่อนผมไม่ใช่คนอย่างนี้
“เฟิร์ส! เฟิร์ส! ตื่นขึ้นมาสิ
ทุกคนไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาเร็วเข้า เด็กชายกล้าอยู่ดูเฟิร์สนะ เดี๋ยวครูมา!”
ผมตื่นขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก นี่ผม…ยังไม่ตายสินะ!!! เยี่ยมไปเลย ผมไม่ได้ตายเพราะเรื่องแค่หัวกระแทกโต๊ะ
ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไม่ตายด้วยนะครับ!!
“เฟิร์ส เป็นอะไรรึเปล่า!? นายสลบไปตั้ง 5 นาทีน่ะ! เจ็บตรงไหนรึเปล่า!?”
ผมสลบไปแค่ 5 นาทีเองเหรอ…? ทำไมในความฝันรู้สึกเหมือนกับสลบไปเป็นนานแสนนาน
“แค่ 5 นาทีเองเหรอ…?”
ผมถามกล้าออกไปอย่างมึนงง
“5 นาทีก็ดีแค่ไหนแล้ว
อยากจะสลบนานเป็นชั่วโมงหรือไง!?”
นั้นสินะ อะไรของผมเนี่ย ใครมันอยากจะสลบไปนาน
ๆ จนไม่ตื่นล่ะ?
“เด็กชายเฟิร์สฟื้นแล้วเหรอ! เจ็บตรงไหนรึเปล่า!? ไม่เป็นไรนะ ครูขอโทษ!”
สีหน้าของครูดูตื่นตระหนกมากจนผมคิดว่านี่ผมเกือบตายแล้วเหรอ
ครูเลยกังวลขนาดนั้น
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับครู…แค่ยังปวดแถว ๆ หลังหัวนิดหน่อยน่ะครับ...แต่เชื่อผมเถอะ
ผมไม่เป็นอะไรแล้ว จริง ๆ ครับ”
สีหน้าของครูยังดูไม่ค่อยดีนัก แต่พอเมื่อผมยืนหยัดอย่างนั้นแล้วครูก็ขัดอะไรไม่ได้
ครูจึงเริ่มสอน
“เฮ้อ…ครูขอโทษ
เฟิร์สด้วยนะ ครูไม่น่าทำอย่างนั้นเลย นักเรียนคนอื่น ๆ อย่านำไปทำตามนะ ไม่นั้นจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีอย่างนี้ขึ้นอีก”
นักเรียนขานรับ ครับ/ค่ะ
พร้อมกันรวมถึงผมด้วยและเริ่มแจกจ่ายงานกลุ่มที่จะต้องทำให้เสร็จภายในสิ้นเดือน
“เอาล่ะนักเรียนต้องทำงานกันเป็นคู่
เพื่อทำโปรเจ็คที่ครูสั่งให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ หัวข้อของเราคือ
เรื่องมารยาทไทยในสังคมนะ”
กล้าทำหน้าเบื่อเล็กน้อยและเริ่มกระซิบกับผม
“งานนี้ มันเหมือนสำหรับพวกหัวโบราณเลยเนอะว่าไหม…?”
นี้มัน…คำพูดนี้ทำไมรู้สึกเหมือนเคยได้ยินตอนระหว่างตอนที่ผมสลบอยู่
หรือว่า
“ไอ้พวกที่คิดว่าการไหว้
การก้มหัวในมารยาทไทย มันก็เป็นแค่พวกไดโนเสาร์เท่านั้นล่ะ จริงไหม…?”
ใช่แน่ๆ…คำพูดเดียวกันด้วย
เอาล่ะ…เราต้องถามคำถามนี้…ถึงจะรู้ว่าใช่จริง
ๆ รึเปล่า…
“กล้า…นายมีแผนว่าจะไปต่อมหาลัยที่อเมริการึเปล่า…?”
กล้าทำหน้าแปลกใจ ตอบกลับทันที
“นายรู้ได้ไงวะ? ว่าเราจะไปต่อที่อเมริกา? นี้นายแอบไปถามพ่อแม่เรารึเปล่าเนี่ย…?”
ใช่จริง ๆ ด้วย…ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวในความคิดของผม
เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ถ้ามันทำร้ายอนาคตเพื่อนของผมเพียงเพราะเขาไม่มีรู้เรื่องมารยาทและปล่อยปละละเลย
มันต้องเป็นแบบที่ผมเจอแน่ ๆ
“กล้า…เดี๋ยวเรามาทำงานนี้ให้ดีกันเถอะนะ”
กล้าทำหน้างง ๆ เหมือนกับสงสัยว่า สติของผมยังกลับมาไม่ครบจากที่หัวกระแทกโต๊ะหรือเปล่า?
“นายโอเคใช่ไหม…? นายยังปวดหัวอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”
ผมยิ้มกลับ
และหยิบกระดาษขึ้นเริ่มที่จะจดบักทึก
“ไม่ใช่หรอก เรายังสบายดี…แค่อยากจะลองทำให้มันดีที่สุดน่ะ”
กล้ายักไหล่และนั่งลงข้าง ๆ ผม
“เอางั้นก็ได้ เพื่อคะแนน จะได้ไม่ซ้ำชั้นอะนะ
ฮ่าฮ่า”
กล้าหัวเราะชอบใจ และผมหยิบอุปกรณ์เครื่องเขียนขึ้นมาไว้บนโต๊ะ
ผมคิดในใจ
“ไม่ใช่แค่คะแนนหรอก แต่เพื่อพวกเรา… เพื่อพวกเราที่จะไม่ลืมรากฐานที่ดีของสังคมไทยที่ทุกคนควรคำนึงถึงอยู่อย่างไงล่ะ…”
*****************
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ChaosFoster ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ChaosFoster
ความคิดเห็น