ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Hero Academia [ MHA/BNHA x OC/You ] SF/OS

    ลำดับตอนที่ #7 : Dabi chapter 1 : That witch and her dragon 100%

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 63


    Genre : Drama
    Story : That witch and her dragon.
    FantasyAU Dragon!Dabi Witch!OC


    แม่มดตนนั้นและมังกรของนาง


    Chapter 1





         ณ อาณาจักรยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง อาณาจักรที่เต็มไปด้วยประชากรล้นเมือง การค้าขายทั้งบนบกและทางน้ำล้วนคึกคัก ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส มีองครักษ์คอยปกปักรักษาอยู่มาก พระราชาก็เป็นที่รักของทุกคน

         ทุ่งหญ้าเขียวขจีอยู่รอบนอกตัวเมือง เด็กๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เหล่าหญิงสาวชายหนุ่มทั้งหลายต่างพากันมาเดินเล่น บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาเป็นครอบครัว เรียกได้ว่าอาณาจักรนี้สงบสุขยิ่งนัก

         แต่เมื่อมีสุขก็ต้องมีทุกข์

         ในโลกแห่งนี้นอกจากการมีอยู่ของมนุษย์แล้ว สิ่งมีชีวิตอันตรายอย่างมังกรก็มีตัวตน มังกรพวกนั้นก็แยกไปอีกได้หลายรูปแบบ ทั้งมังกรผู้เฝ้าสมบัติ มั'งกรผู้อารักขาเขตแดนของตน มังกรที่มีนิสัยก้าวร้าว และเจ้าแห่งมังกร





         ในเมื่อมวลมนุษย์นั้นมีราชาเป็นผู้ปกครองแผ่นดิน สัตว์พิเศษอย่างมังกรก็ย่อมมีราชาผู้นำแห่งเผ่าพันธุ์เช่นเดียวกัน มีไม่มากนักที่มังกรจะญาติดีกับมนุษย์แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยซะทีเดียว 
         อย่างอีกอาณาจักรหนึ่งทางตอนใต้ก็มีมังกรสีแดงฉานปกครอง มังกรตัวนั้นเป็นมังกรที่มีนิสัยดุร้าย ชอบออกมาพ่นไฟใส่องครักษ์เล่นแต่ก็ไม่เคยฆ่าใครจริง แต่ถึงกระนั้นแล้ว มังกรสีแดงนั่นเมื่อเจอศัตรูก็สามารถสยบได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า 

         อาณาจักรแห่งนี้ก็มีการเล่าขานถึงเจ้ามังกรถิ่นนี้เช่นกัน มังกรทมิฬ เป็นมังกรที่ถูกเล่าขานกันว่ามันมีเกล็ดเงางามสีดำคลุมทั่วทั้งตัว ขนาดของมองใหญ่เกือบเทียบเท่าลานประลองของอาณาจักร มังกรตัวนี้มักจะโผล่ออกมายามค่ำคืนจนชาวบ้านแตกตื่นกันเมื่อเห็นมันบินไกลๆตอนช่วงเที่ยงวัน มีอัศวินมากหน้าหลายตาพยายามที่จะไปปราบมัน แต่สุดท้ายทุกคนที่กลับมาก็อยู่สภาพที่ปางตาย บางรายก็หายสาปสูญ จากการเล่าขานของอัศวินที่รอดชีวิต มังกรทมิฬนั้นมีไฟสีฟ้า ร้อนระอุยิ่งกว่าไฟของเจ้าชายอาณาจักรทางเหนือผู้แข็งแกร่ง แววตายามเห็นตอนกลางคืนนั้นเฉียบคมและดุดัน กรงเล็บแหลมคมแข็งยิ่งกว่าดาบของช่างตีดีเด่นของอาณาจักรเสียอีก บนหัวของมันมีเขาแหลมสองข้าง ตามสันหลิงมีหนามแหลมเป็นบางจุด ทั้งปีกบริเวณลำตัวทั้งสองด้านเมื่อกางออกมาก็เผยให้เห็นหความแข็งแรงยามโผบิน


         แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์เกรงกลัว


         แม่มดดำ

         
         แม่มดดำเป็นที่เล่าขานมานานแสนนานยิ่งกว่ามังกร แม่มดดำนั้นจะเป็นหญิงสาวรูปลักษณ์สวยงาม ผมยาวสยายกลางแผ่นหลังเป็นลอนสีคล้ายเฮเซลนัท แต่ไม่เคยมีใครเห็นนางอย่างชัดมาก่อน ผู้คนต่างเล่าต่อๆ กันมาอีกว่านางแม่มดดำจะปลอมตัวเข้ามาในเมืองและขโมยเด็กเล็กๆไปกิน เวลานางไปโผล่ที่อาณาจักรใด มักจะมีเมฆครึ้มบริเวณป่าลึกเป็นสัญญาณว่านางอยู่ที่นั่น แต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไปเพื่อพิสูจน์เลยสักคน เพราะเพียงแค่จะเดินเข้าไปบริเวณป่านั้น จะมีเวทมนต์ของนางผลักให้กระเด็นออกมาทุกครา 

         ตำนานเล่าว่านางนั้นเคยเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ แต่ไม่นางทำอีท่าไหนนางถึงได้มนต์ดำมาครอบครองและโดนขับไล่จากเมืองจนนางต้องหนีเข้าไปอยู่ในป่าลึกและมืดมน 

         








         เสียงพูดคุยกันในยามเช้าดังมาจากในตลาดใหญ่ของตัวเมือง แม่ค้าพ่อต่างตะโกนทักทายลูกค้าและพูดป่าวประกาศสินค้าที่ต่างคนต่างเอามาขายอย่างไร้ความเหน็ดเหนื่อย คนเดินสันจรผ่านกันไปมาจนแทบจะไม่มีอากาศหายใจ 

         อา.. เพราะงี้ไงข้าถึงเกลียดที่ๆ มีคนอยู่มาก

         หญิงสาวภายใต้ชุดคลุมสีน้ำตาลอ่อนปกปิดใบหน้าลอบถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ในมือถือตะกร้าที่ข้างในมีผลไม้ เนื้อและขนมปังสองก้อนอยู่ข้างใน นางเดินไปตามกระแสของผู้คนจนออกมาถึงกำแพงหนาๆ ของในตรอกหนึ่ง นางลอบมองไปข้างหลังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีองครักษ์หรือมนุษย์คนใดตามนางมา มือบางยกขึ้นทาบกับกำแพง พลันมีแสงสีขาวอ่อนๆส่องออกมาจากใต้ฝ่ามือ เมื่อนางเห็นแสงจึงเดินทะลุผ่านไปอีกฟากหนึ่งอย่างเงียบเชียบ

         เมื่อนางเดินออกมาจนพ้นเขตของเมือง นางจึงเดินเลี้ยวเข้าไปในป่า เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาด้วยความเคยชินกับเส้นทางจนลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงหน้าบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง ภายนอกถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์ ซึ่งมองดูแล้วช่างไม่เหมาะกับสภาพป่ามืดทะมึนเช่นนี้เลย ประตูหน้าบ้านถูกเปิดและปิดด้วยเวทมนต์ของนางเอง นางจัดของวางบนโต๊ะไม้เก่าๆ แล้วถอดเสื้อคลุมสีน้ำตาลออกทำให้ผมสีเฮเซลนัทที่ถูกเก็บเอาไว้สยายออกมาจนเกือบถึงสะโพก ใบหน้ากระจ่างใสเนื่องด้วยผ่านการบำรุงรักษามาเนิ่นนาน ดวงตาเฉี่ยวคมสีน้ำเงินคล้ายท้องฟ้ายามมืดมิด

         ร่างระหงส์หยิบของทุกอย่างไปที่ห้องครัว จัดการเก็บผลไม้ต่างๆ เข้าตู้ไม้และเริ่มตั้งเตาเตรียมทำอาหารเหมือนเช่นทุกวัน

         ใช้เวลาเพียงไม่นาน เนื้อตุ๋นที่มีทั้งสารอาหารจากผักและเนื้อก็พร้อมทาน แม้นางจะมีมนต์แต่นางก็ไม่ได้ทำทุกอย่างด้วยเวทมนต์จริงๆ นางเพียงแค่คิดว่าตราบใดที่ยังมีมือมีเท้าให้ใช้งาน นางก็ควรใช้ให้คุ้มค่า แต่ก็ต้องใช้มนต์มายกหม้อไปอยู่ เพราะมันร้อนเกินกว่าที่นางจะจับได้



         กึก



         มีเสียงบางอย่างสิ่งกระทบกับบ้านของเธอ เธอหันไปมองตรงบานหน้าต่างจึงเห็นเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง เขาจ้องมองหม้อที่นางร่ายมนต์ยกไว้อย่างหวาดกลัว ดูท่าทางแล้วน่าจะแอบพ่อแม่มาเล่นเป็นแน่ เขาทำสีหน้าคล้ายจะกรีดร้องออกมาเต็มทนเมื่อหันมามองหน้านาง

         "เด็กน้อย อย่าร้องออกมา-" 

         "มะ แม่มดดำ!!!!" 

         ไม่ทันที่นางจะได้พูดจบประโยคดี เด็กชายตัวน้อยก็ตะโกนออกมาสุดเสียงลั่นป่าและวิ่งออกไปจนใบหญ้าแถวนั้นปลิวว่อน

     


         "สงสัยได้เวลาเก็บของอีกรอบแล้วสินะ.." ดวงตาสีน้ำเงินหลุบต่ำลง



         
         นางคิดอย่างเหนื่อยหน่ายกับตนเอง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางย้ายบ้านเพื่อหนีผู้คน นางหนีอย่างนี้มาได้ประมาณห้าครั้งแล้วและนี่ก็จะเป็นครั้งที่หกของนาง ว่าแล้วนางก็เดินไปเก็บข้าวของทุกอย่างเพื่อเตรียมตัวหนีอีกครั้ง ส่วนอาหารที่ทำไว้นั้นก็เอามันวางไว้บนโต๊ะอย่างนั้นแหละ นางคงไม่ได้กินแล้วล่ะ 

         








         เสียงเหล่าคนในเมืองเดินเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่พร้อมถือคบเพลิงและอาวุธต่างๆ เดินเข้ามาในป่าลึกยามวิกาลตามคำบอกของเด็กน้อยที่เจอของเด็ดเข้า 

         เสียงพูดคุยและเสียงย่ำเท้าหนักๆ เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนถึงหน้าบ้านของนางแม่มดดำ ในบ้านที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่มีแสงลอดออกมา แต่ดูจากสภาพภายนอกแล้วดูท่าว่านางแม่มดจะอยู่ที่นี่มานานจนสามารถตกแต่งบ้านได้ขนาดนี้ 

         เมอเรียลที่ได้ยินเสียงการมาของคนในเมืองที่มาเพื่อล่านาง นางรีบยกกระเป๋าและเอาผ้าคลุมผืนเดิมปิดบังใบหน้าและร่างกายไว้ นางวิ่งออกจากประตูทางหลังบ้านไปทางฝั่งหนึ่งที่เชื่อมไปทางน้ำตก โดยร่ายมนต์ให้มีร่างปลอมของนางวิ่งไปอีกทางให้คนพวกนั้นเห็นอย่างจงใจ

         "นั่นนางแม่มดดำ!! เราต้องจับมันมาให้ได้!!!!!"

         เสียงตะโกนของหัวหน้าภารกิจการล่าแม่มดดังขึ้นและตามมาด้วยเสียงโห่ร้องของคนในกลุ่ม แต่ละคนรีบวิ่งตามนางแม่มดตนนั้นไปพร้อมทั้งยิงธนูเพื่อสร้างบาดแผลไปด้วยอย่างไม่เกรงกลัว

         เมอเรียลยืนมองเหล่าผู้คนที่วิ่งตามร่างปลอมไปจากอีกฝั่งหนึ่งไกลยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยันและเดินออกไปทางที่หมายมั่นไว้

         "พวกมนุษย์โง่เง่า"
         
         








        
         เดินออกมาจนทิ้งห่างจากเหล่ามนุษย์พวกนั้นจนไกล นางเดินไปตามทางที่จำได้ขึ้นใจจนมาถึงน้ำตกแห่งหนึ่ง บนพื้นเต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวดมากมาย แม่น้ำที่ไหลมาจากน้ำตกเป็นทางก็ไหลไปไกลจนสุดสายตา แม้จะอยู่ในช่วงยามดีกแบบนี้ แต่นางก็ยังสามารถมองเห็นได้เพราะแสงของดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ใกล้ๆ ริมแม่น้ำมีขอนไม้วางอยู่ ใหญ่พอที่นางจะใช้เป็นที่นั่งได้ นางวางของทุกอย่างลง หยิบเศษไม้เล็กๆ แถวนั้นมากองไว้ตรงหน้าและเสกไฟจุดมันพร้อมทั้งทิ้งตัวนั่งลงบนขอนไม้ใหญ่ หมวกของชุดคลุมที่สวมใส่ไว้ถูกถอดออก เผยให้เห็นใบหน้างามล้ำอีกครา




         เมอเรียลนึกย้อนไปถึงชีวิตเมื่อตอนยังเด็ก นางเคยอยู่อาศัยกับแม่ นางมักจะถามท่านตลอดเมื่อต้องย้ายบ้านว่า



         'ท่านแม่ ทำไมเราจึงต้องหนีมนุษย์กันด้วย?' 



         ยามนั้นนางถามแม่ในตอนอายุได้เพียง 8 ปี 



         'เพราะพวกเขากลัวเราที่เป็นแม่มดไงล่ะ'



         ถึงกระนั้น ท่านก็ยังตอบนางด้วยรอยยิ้ม มือเล็กและมือผอมบางของผู้ใหญ่จับกันไว้แน่น



         'แต่ท่านบอกข้าว่า ท่านยายเคยเป็นเทพีของเหล่ามนุษย์ไม่ใช่หรือ?'



         นางถามขึ้นอีกครา



         'ใช่แล้วลูกข้า ท่านยายของเจ้าเป็นเทพี แต่นางได้รับคำสั่งจากราชาองค์หนึ่งที่เป็นเพื่อนสนิทของนาง ทำให้นางต้องสละตัวเอง จนได้กลายเป็นแม่มดอย่างพวกเรา'



         'งั้นเราเป็นพวกคนไม่ดีหรือ?'
         


         'การที่จะเป็นคนดีหรือไม่ดีนั้นไม่ได้ดูจากชื่อเรียกหรอกนะเมอเรียล การที่เขาบอกว่าเราเป็นคนไม่ดีนั่นก็เพราะเขาเชื่อคำบอกเล่าจากปากสู่ปาก แต่ไม่เคยเห็นตัวตนของเราจริงๆ'


         
         ท่านแม่ตอบด้วยความใจเย็น ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองกัน


         
         'เพราะฉะนั้นลูกรักของข้า จงอย่าตัดสินผู้อื่นเพียงรูปลักษณ์ จงตัดสินเขาจากภายใน'



         นางใช้นิ้วเรียวยาวชี้มาที่กลางอกของเมอเรียล



         'และเมื่อแม่ไม่อยู่กับเจ้าแล้ว จงมีชีวิตอยู่ อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์และจงมีความสุข แม่จะอยู่กับเจ้าเสมอ' 






         ตู้ม!!!!

         เสียงบางอย่างกระแทกลงแม่น้ำใกล้ๆ นางอย่างรุนแรงจนทำให้นางหลุดออกจากภวังค์ ภาพในอดีตถูกปัดหายไปเหลือแต่ความตกใจเพียงเล็กน้อยและการระวังตัว ดวงตาเฉี่ยวคมของนางจ้องมองไปทางต้นตอของสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นนั่น

         เสียงดังขนาดนี้ ถ้ามนุษย์มาที่นี่จะแย่เอาน่ะสิ

         สิ่งที่อยู่ตรงหน้านางนั้นดูแล้วท่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง เมื่อนางไม่เห็นท่าทีการขยับใดๆ จึงเดินเข้าไปใกล้อีกสักนิดเพื่อให้เห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้มีปีกขนาดใหญ่ ตามตัวยาวๆ ของมันเต็มไปด้วยเกล็ดสีดำสะท้อนกับแสงจันทร์ บนกระหม่อมมีเขาประดับอยู่สองอัน ตัวของมันเต็มไปด้วยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ปนกันมากมายลามจนถึงใบหน้า นางสังเกตเห็นว่ามันเริ่มหายใจอย่างติดขัด แถมยังไม่ลืมตาอีกต่างหาก ดูๆ แล้วน่าจะฝืนบินมาถึงที่นี่ หรือที่นี่คือที่หลบของมันกัน?

         แต่พิจารณาจากเกล็ดสีดำเงาทั้งตัว เขาสองข้างและปีกใหญ่ขนาดนี้ นางก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าตัวนี้คือเจ้าถิ่นของที่นี่






         "มังกรทมิฬ.." 














    Talk with writer :
    คิดถึงกันไหมคะทุกคน ไม่ได้เจอกันสักพักเลยเนอะ 
    ช่วงนี้งานยุ่งหัวหมุนไปหมดเลยค่ะ ฮา 
    พยายามมาแต่งทีละเล็กทีละน้อยทุกวันจนมาถึงตรงนี้แล้วล่ะ! 
    บอกเลยว่าเรื่องนี้จะค่อนข้างยาวนะคะ เพราะว่าไรท์แต่งเรื่อยๆ ไรท์ไม่อยากเร่งน่ะ กลัวจะออกมาไม่ดี
    ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถ้ามีใครอยากโดเนท สามารถโดเนทได้ใน ReadAwrite เลยค่ะ ┗|`O′|┛
    เจอกันครั้งหน้านะคะ บายบี
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×