ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Hero Academia [ MHA/BNHA x OC/You ] SF/OS

    ลำดับตอนที่ #5 : Kaminari Denki : Flirty boy 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 63


    Genre : Fluff
    Story : Flirty boy
    CollegeAU

    พ่อหนุ่มขี้หลี



         ใครๆก็รู้จัก คามินาริ เด็นกิ หรือก็คือพ่อหนุ่มขี้หลีที่จีบใครก็ไม่เคยติดเลยสักครั้ง จนเพื่อนของเขาก็ละเหี่ยใจกับนิสัยที่แก้ไม่หายนี้ของเพื่อนตัวเอง เพื่อนทุกคนต่างก็รู้ว่าไม่ว่าจะเตือนไปกี่ครั้งมันก็ไม่หยุด ได้แต่หวังว่ามันจะหยุดสักทีเพราะคนอื่นเขาไม่อยากเข้าใกล้มันแล้ว!

         ด้วยความที่หอของคามินารินั้นอยู่ใกล้กับมหาลัย โดยแค่เดินออกมาจากซอยบ้านและเดินบนฟุตบาทมาอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงอย่างรวดเร็ว แถมรอบๆยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟให้แวะอีก เพื่อนหัวแดงอย่าง คิริชิมะ เอย์อิจิโร่ จึงแวะมาค้างด้วยบางครั้งเวลากลับบ้านไม่ไหว ถามว่าเขานอนไหน อ๋อ นอนพื้นนั่นแหละ มาทีไรก็ต้องเก็บของให้เจ้าของหอมัน เพราะมันดันไม่ยอมทำให้แขก แล้วยังต้องขนหมอนมาเองอีก 


         เป็นเพื่อนเจ้าบ้านี่มันเหนื่อยจริงๆครับ..


         "นี่คิริชิมะ ไปร้านกาแฟกัน ยังไงก็มีคลาสตอน 10 โมงนี่ มีเวลาเหลือเฟือ" เสียงเจ้าเพื่อนตัวดีดังขึ้นมาราวกับรู้ว่าเขากำลังนินทา 

         "เอาสิ" ตอบรับเสร็จจึงพากันไปที่ร้านกาแฟร้านประจำข้างๆมหาลัย

         


         สองร่างชายหนุ่มเดินเข้าร้านไปสั่งกาแฟที่ตนต้องการอย่างเคยชิน สั่งเสร็จจึงยืนรอเสียงเรียกออเดอร์ของตัวเองอย่างใจเย็น พลางยืนคุยกันอย่างร่าเริง



         "นายว่าวันนี้อาจารย์จะสั่งงานอะไรปะ พรุ่งนี้ฉันยิ่งอยากไปเที่ยวด้วย" คิริชิมะถามหาความเห็นจากเด็นกิขึ้นมา

         "ฉันว่าสั่ง อาจารย์ไอซาวะชอบสั่งงานทุกครั้งที่มีวันหยุดนั่นแหละ ว่าแต่นายจะไปไห--" พูดไปเพียงงประโยคแรกจู่ๆเสียงของคนข้างกันก็หายไปเฉยๆ จึงหันไปหาเพื่อที่จะทักแต่เจ้าตัวดันมองราวกับตะลึงออกไปข้างนอกร้าน

         


         ดวงตาสีอำพันที่เบิกโพลงขึ้นนมองออกไปข้างนอก มองเห็นหญิงสาวในชุดเสื้อหนังสีดำดูทะมัดทะแมงแต่กลับยังดูบอกบาง สายลมพัดมาราวกับรู้ใจทำให้เส้นผมสีม่วงจนเกือบดำที่ถูกรวบขึ้นปลิวไปตามสายลม ดวงตาสีม่วงอ่อนภายใต้แพขนตากริบพริบลงและไล้สายตาไปตามตัวหนังสือบนมือ 

         สวยจัง..

         นั่นคือสิ่งแรกที่เด็นกิคิดขึ้นมาเมื่อเห็นภาพข้างหน้า แม้ฉากหลังของเธอจะเป็นผู้คนที่งนั่งดื่มกาแฟตามโต๊ะหรือเดินไปมาตรงลานร้านกาแฟ มันก็ยังไม่ลดความน่ามองของเธอเลย คนที่อยู่แถวนั้นยังแอบมองเธอด้วยซ้ำ มั่นใจได้เลยคนพวกนั้นก็ต้องคิดเหมือนเขา 

         พลันสายตาของเธอเหลือบขึ้นมาสบกับเขาเข้าอย่างจัง หัวใจก้อนโตเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

         "มองอะไรอยู่วะเด็นกิ" ถามเจ้าเพื่อนจึงได้คำตอบเป็นการยกนิ้วขึ้นมาชี้น้อยๆแทน

         "ทานากะ โทมิกะ อะนะ? นั่นดาวคณะมนุษยศาสตร์เลยนะ แต่เขาลือกันว่าเธอเย็นชามากๆ แทบไม่ยุ่งกับใครเลย ถอยเถอะว่ะเด็นกิ" บอกเตือนเพื่อนราวกับรู้ความคิด เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ขี้หลีแค่ไหน แต่พอเป็นสาวคนนี้คงต้องบอกให้ถอยอย่างเดียว

         "ฉันจะจีบ อยากจะเป็นแฟนเธอแบบจริงจังเลย" เมื่อได้ยินดังนั้น คิริชิมะจึงหันมามองเพื่อนข้างตนอย่างตกใจ เด็นกิน่ะขี้หลีสาว แต่ก็ไม่เคยจริงจังกับใครเลยเหมือนกัน 

         "กาแฟของคุณคิริชิมะและคุณคามินาริค่า" พลันเสียงของพนักงานของร้านเรียกให้ไปรับกาแฟดังขึ้นมา ชายหนุ่มทั้งสองจึงเดินไปและเดินออกมาจากร้านกัน

         "คิริชิมะ ฉันจะลองไปคุยกับเธอหน่อย นายรอนี่นะ" บอกคิริชิมะเสร็จจึวรีบสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวในลานหน้าร้านทันที




         เมื่อเธอรู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลังใกล้เข้า เธอจึงละสายตาจากหนังสือในมือมองคนที่เดินตรงมา  จึงเห็นว่าเป็นชายหนุ่มผมสีเหลืองดูโดดเด่น ดูๆไปก็ดูดีไม่เบา

         "เธอคือทานากะ โทมิกะใช่ไหม? ฉันชื่อคามินาริเด็นกินะ!" เสียงทุ้มแต่คงความสดใสอยู่เอ่ยขึ้นกับเธอ 

         "ฉันรู้จักคุณอยู่แล้วล่ะค่ะคุณคามินาริ" เสียงหวานน่าฟังดังตอบกลับเขา พร้อมกับเก็บของลงกระเป๋าอย่างไม่รีบร้อน 

         "เอ๊ะ?" 

         "เราเคยเรียนม.ปลายที่เดียวกันไงคะ ห้องเดียวกันด้วย คุณจำไม่ได้หรอ?" เธอถามเขาด้วยความสงสัยพร้อมหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย โดยไม่ลืมหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาด้วย

         "ถ้าเรียนที่เดียวกันจริง อย่างน้อยเพื่อนฉันต้องจำเธอได้บ้างสิ ล้อกันเล่ยใช่ไหมเนี่ย" เขาสามารถจำหน้าเพื่อนห้องเดียวกันได้นะ แต่เขาอาจจะจำชื่อไม่ได้เท่านั้นเอง แถมที่ๆเขาาเคยเรียนไม่เห็นจะมีคนที่สวยขนาดนี้ด้วย

         "เป็นความจริงค่ะ ยังไงฉันขอตัวนะ" เธอยืนยันอีกครั้งและเดินออกไป ปล่อยให้เขายืนอยู่ในภวังค์ทั้งแบบนั้น







         12.02 น. | U.A. University's canteen

         "เราเคยเรียนม.ปบายที่เดียวกับทานากะจริงหรอคิริชิมะ" คำถามดังขึ้นมาในตอนที่คิริชิมะกำลังซู๊ดราเม็งเข้าปากเสียงดัง 

         ในตอนนี้แก๊งค์ของเขามานั่งที่โต๊ะเดียวกันจนครบคนเรียบร้อย โดยโรงอาหารที่มานั่งคือโรงอาหารตึกวิศวะ ที่ๆบาคุโก คัตสึกิ เจ้าคนหัวร้อนประจำกลุ่มเรียนนั่นเอง ด้วยความที่เจ้าตัวเกิดอาการหัวร้อนหงุดหงิดมาอีกแล้ว จึงมาที่นี่กัน 

         "จำไม่เห็นได้เลยนะ แต่โทโดโรกิน่าจะรู้นี่ หมอนั่นก็เรียนที่เดียวกับเราไม่ใช่หรือไง" ฝ่ายคิริชิมะที่กินเสร็จจึงตอบพร้อมถามไปหาเพื่อนที่เคยเรียนที่เดียวกันอีกคน 

         "แต่โทโดโรกิเรียนคนละห้องกับเราไม่ใช่หรือไง เธอบอกว่าเรียนห้องเดียวกับเรานะ" เด็นกิคิดแล้วคิดอีกจนรู่สึกกระวนกระวาย 

         "อะไรกันๆ มาพูดถึงสาวที่ไหนกันล่ะเนี่ยพวกนาย" เสียงร่าเริงของมินะ สาวน้อยผมสีชมพูถามขึ้นมาจากด้านหลังของเด็นกิ ทั้งสองชายหนุ่มจึงหันไปหาและเรียกให้มานั่งด้วยกัน 

         "รู้จักทานากะ โทมิกะไหมมินะ พอดีเธอบอกมาว่าเธอเคยเรียนม.ปลายห้องเดียวกับเราน่ะ" คิริชิมะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันเป็นฝ่ายถามให้

         "ฉันอยู่คนละที่กับพวกนายจะรู้ไหมเนี่ย แต่ถ้าในมหาลัยนี้น่ะเคยได้ยิน ทำไมอะ? เด็นกินายไปปิ๊งเขาหรือไงยะ" เธอตอบมาอย่างหน่ายใจพร้อมคาดเดาถึงสาเหตุที่เพื่อนเธอทั้งสองคนมาพูดเรื่องนี้

         "ฉันชอบเธอเข้าน่ะสิ เห็นหน้าแล้วใจมันเต้นตุ๊มๆต่อมๆไม่หยุด มันแบบคนนี้มันใช่" เด็นกิพูดทั้งกำมือแบมือตามจังหวะหัวใจเป็นท่าประกอบ
         
         "จะจีบติดหรอนายน่ะ" เสียงร่าเริงขอยขายหนุ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง

         "เซโร่!! นายพูดอย่างงี้หมายความว่ายังไง ห๊ะ?!" ได้ยินเสียงคนคุ้นเคย จึงไม่รอช้าที่จะหันไปทะเลาะด้วยทันที

         "ก็หมายความว่านายหมดหนทางแล้วล่ะ" บอกตอบกลับพร้อมอ้อมเดินโต๊ะไปนั่งข้างคิริชิมะ

         "ทำไมล่ะ ฉันยังไม่ได้เริ่มอะไรเลยนะ!"  เด็นกิบอกเสียงดัง

         "นี่พวกนายตาบอดหรือไง ดูนู่น" ไม่พูดเปล่า ก็จับหน้าของคามินาริด้วยมือทั้งสองให้หันไปทางที่ตยเองบอก

         ภาพปรากฏเป็นเธอคนนั้น คนที่ทำให้เขาใจอยู่ไม่สุขกับชายหนุ่มอีกคนที่นั่งโต๊ะเดียวกัน โทโดโรกิ โชโตะ ทั้งสองคนนั้นกำลังนั่งกินข้าวด้วยกัน ดูคุยกันสนุกสนาน สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นมือของฝ่ายชายยกขึ้นมาเกลี่ยผมสีม่วงเข้มของออกจากดวงหน้า ทานากะดูไม่มีท่าทีอะไร แต่ใจเขานั้นเดือดพล่านไปก่อนแล้ว 


         ตึง!!


         จู่ๆคามินาริก็ลุกขึ้นมากระทันหัน เก้าอี้ที่ใช้นั่งเมื่อครูก็ล้มลงจนเกิดเสียงดัง ทุกคนบริเวณนั้นหันไปมองผู้กระทำกันเป็นตาเดียว 


         นี่หมอนี่จริงจังจริงๆงั้นหรอ?..


         ความคิดของกลุ่มเพื่อนเดียวกันดังขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย ปกติแล้วหมอนี่ก็ชอบจีบไปเรื่อย พูดว่าจริงจังๆ ก็ปล่อยผ่านไปทุกที แต่พอดูจากการกระทำนี้แล้วท่าจะจริงจังมากจริงๆ







    15.41 น. | U.A. University's entrance


         "นี่นายจะยืนรอโทโดโรกิไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย" เสียงของคิริชิมะดังขึ้น เพนื่องจากเพื่อนตัวดีของเขามายืนรอเป็นชั่วโมงแล้ว

         "ก็จนกว่าจะมานั่นแหละ ฉันต้องคุยเรื่องทานากะให้ได้" เอ่ยด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

         "ถามหาฉันหรอ?" จู่ๆเสียงของคนที่กำลังพูดถึงก็ดังขึ้นมา ทำเอาชายหนุ่มทั้งสองคนสะดุ้งโหยงกันไปคนละทาง

         "มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!" คิริชิมะถามเสียงดัง

         "เมื่อกี้ พาเพื่อนมาด้วย" ชายหนุ่มผมสองสีพูดพร้อมทั้งดึงเพื่อนที่ว่าออกมาด้วย

         "อย่าดีงสิ.." เสียงหวานดังขึ้นมา เรียกความสนใจคนทั้งสองอีกครั้ง

         "ทำไม..อยู่ด้วยกันล่ะ" และคนที่นา่จะเสียอาการที่สุดก็ไม่พ้นคามินาริ

         "ก็ว่าจะไปหาขนมกินกันน่ะ" โทโดโรกิตอบออกมาคล้ายกำลังบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ

         "ไปด้วยได้ไหม" คามินาริโพล่งขึ้นมาอีกครั้ง

         "เฮ้ย คามินาริ.." ในจังหวะที่คิริลิมะกำลังจะห้ามเพื่อนตัวเองอยู่ โทโดโรกิก็หันไปถามความเห็นเพื่อนสาวตัวเองซะแล้ว

         "ทานูกิ เธอว่าไง?" สรรพนามที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้นมา ทำเอาใจของคามินาริสั่นคลอนด้วยความหวั่นใจกับความสัมพันธ์ที่ยังเป็นปริศนาของคนทั้งคู่นี้

         "ฉันไม่ใช่ทานูกิสักหน่อย ส่วนพวกคุณคามินาริไปได้อยู่แล้วค่ะ" เหลือบตาไปมองเพื่อนชายอย่างเคืองๆและตอบรับคำของอีกฝ่ายอย่างสุภาพ

         





    Cake Rikido


         "ที่เธอบอกฉันว่าเราเรียนห้องเดียวกันนี่จริงหรอ?" เมื่อทุกคนสั่งของหวานที่ต้องการกันเสร็จแล้ว คามินาริที่นิ่งเงียบมาสักพักเอ่ยถามทานากะขึ้นมาอีกครา

         "จริงค่ะ ฉันก็รู้จักกับโชโตะตอนช่วงนั้น ลองถามเขาสิคะ" เธอตอบไปด้วยและยกมิลค์เชคขึ้นมาดื่มไปด้วย

         "อา ก็จริง พวกนายจำเธอไม่ได้หรือไง" โทโดโรกิก็เป็นอีกคนที่ตอบและตักเค้กขึ้นมากิน

         "โรงเรียนเรามีคนหน้าตาแบบนี้ด้วยหรอ.." ไม่ใช่ว่าเขากำลังว่าเธอนะ แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ห้องเดียวกัน แล้วยิ่งสวยขนาดนี้เขาก็ต้องจำได้สิ

         "ฉันนั่งอยู่ข้างหลังคุณคามินารินั่นแหละค่ะ แต่ตอนนั้นฉันต่างกับตอนนี้มาก"

         "ห๊ะ?!!!" เสียงของชายหนุ่มทั้งสองดังขึ้นมาจนพนักงานในร้านต้องหันมามองปราม

         "นี่ไง คนที่ยืนตรงนี้" โทโดโรกิยื่นมือถือให้ทั้งสองคนดูและชี้ไปที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ตรงมุมของภาพถ่ายรวมรุ่น เป็นเด็กสาวสวมแว่นหนาเตอะ ทำผมหน้าม้า และมีสิวประปราย 

         "เอ๊ะ จำได้แล้ว!! เธอคือคนที่ชอบนั่งเงียบๆในห้องใช่ไหม?" คิริชิมะพูดขึ้นมาเหมือนนึกอะไรได้

         "อ่า น่าอายนะที่มาเห็นรูปนี้ แต่ใช่ค่ะนั่นฉันเอง" เธอตอบพร้อมเกาแก้มแก้เขินหน่อยๆ

         "สุดยอดเลย เปลี่ยนไปตั้งขนาดนี้เลยหรอ.." คามินาริพึมพำกับตัวเอง พอให้พวกเขาได้ยินกัน

         "มันก็ต้องมีการพัฒนาบ้างแหละค่ะ ตอนนี้ก็ยิงมีสิวอยู่นะ แต่ก็น้อยลงมากเลย ส่วนที่ฉันรู้จักกับโชโตะเป็นเพราะเราอยู่บ้านข้างกันน่ะค่ะ เลยสนิทกันมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ" เธอเล่าเรื่องในส่วนของโทโดโรกิเสริม

         





    14.56 น. 


         "คิริชิมะ นายไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันขออยู่อีกแปป" คามินาริหันไปบอกเพื่อนหัวแดงของตน พร้อมกับทำท่าทางบุ้ยหน้าไปหาทานากะ

         "อาๆ เข้าใจแล้ว ยังไงวันนี้ฉันจะกลับบ้านอยู่แล้วล่ะ บายนะพวกนาย" พูดเสร็จจึงโบกมือเพื่อเป็นการลาคนที่เหลือ

         "โชโตะ นายไปก่อนเลย" ทางด้านฝั่งของหญิงสาว เธอก็บอกเพื่อนสนิทของตัวเองเหมือนที่เขาบอกกับเพื่อนเมื่อครู่ แต่ฝ่ายโทโดโรกินั้นทำเพียงแค่พยักหน้ารับรู้และเดินออกไป

         "เธอ.. ขอโทษที่จำไม่ได้นะ" เขาทำหน้ารู้สึกผิด นัยน์ตาสีเหลืองอำพันดูเศร้าลง

         "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ" ในแววตาสีม่วงของเธอเกิดประกายหวั่นใจขึ้น แต่ก็หายไปภายในเสี้ยววินาที

         "ฉันขออะไรสักอย่างได้ไหม" เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ พร้อมกับใบหน้าแดงระเรื่อ

         "อะไรหรอคะ?" เธอเม้มปากแล้วจึงตอบเขา

         "ฉันจะขอจีบเธออย่างเป็นทางการ!" เขาพูดขึ้นมาเสียงดังลั่นพร้อมกับที่ก้มหัวและยื่นมือข้างหนึ่งออกมาเพื่อขออนุญาติ

         
         ฟึบ

         
         ในเวลาไม่นานก็มีสัมผัสนุ่มนวลเกิดขึ้นบนฝ่ามือหยาบกร้านของเขา เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองจึงได้รู้ว่าเธอนั้นกำลังจับมือเขาอยู่ ความร้อนบนใบหน้าเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าของอีกฝ่ายก็มีรอยแดงระเรื่อเกิดขึ้นเช่น 


         "จีบให้ติดนะคะ.." เธอกระชับมือที่จับกับมือของเขาราวกับเป็นการยืนยันในคำพูดของเธออีกครา

         "ครับ!!!"





    The End.







    Talk With Writer :
    ขออภัยที่มาช้านะคะ ไรท์ไม่มีเวลาจริงๆ ในแต่ละวันตัวไรท์สามารถมาแต่งได้แค่นิดๆหน่อย มันเลยช้าลง ขออภัยจริงๆค่ะ
    ช่วงนี้ไรท์รู้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ฮา พอดีเกิดอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้รู้สึกไม่ดี 
    แต่ถึงไรท์จะมาช้ายังไงไรท์ก็จะมาตลอดนะคะ สัญญาค่ะว่าจะมาแต่งเรื่อยๆ แต่ความต่อเนื่องนั้นอาจจะไม่ค่อยมี ฮา
    ขอบคุณรีดเดอร์ที่เข้ามาให้กำลังใจที่ถึงแม้จะเป็นแค่หัวใจก็ตาม ขอบคุณจริงๆค่ะ 
    ไว้เจอกันเรื่องต่อไปนะคะ บายบี



    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×