ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Stage. 9 ว่าด้วยศาสตร์แห่งการงอน เปิดสงครามบานบุรี-
Stage. 9 ว่าด้วยศาสตร์แห่งการงอน สงครามบานบุรี-
    “ถึงโคมิเน่แล้ว  แวะพักไหมครับคุณคาโล” ซีบิล หนุ่มน้อยผู้สุภาพเอ่ยถามคาโลที่คุมม้าอยู่ ณ ขณะนี้  แต่เมื่อความเงียบเป็นคำตอบ  เด็กหนุ่มจึงลุกออกไป“งั้นเดี๋ยวผมไปถามพวกข้างในให้นะครับ”
    ทันทีที่หนุ่มน้อยก้าวเข้าไปสู่อาณาเขตที่พัก  ก็ได้รับรังสีแห่งความตึงเครียดที่น่าตกใจ  ซีบิลก้าวไปยังห้องนั่งเล่นกลางที่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเพื่อนๆดังอยู่
    “มีอะ..”
    ปุ..
    หมอนอิงปามาโดนใบหน้าหวานของซีบิลและทันทีที่หมอนร่วงลงสู่พื้น  หูของเด็กหนุ่มแสนสุภาพก็ได้ยินเสียงแจ๊ดๆแว้ดๆของเรนอน
    “ถ้าพวกคุณยังดีกันไม่ได้อาหารเย็นวันนี้ไม่ต้องทานค่ะ!!! จำเอาไว้เลยนะคะ!! ถ้ารุ่นพี่ลูคัสยังไม่ลงมาล่ะก็อาหารเย็นที่มีเมนูพิเศษวันนี้งดค่ะ!”
    นัยน์ตาสีม่วงของสาวน้อยเรนอนมองสบกับซีบิล  ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยปากถามผู้มาใหม่
    “คุณซีบิลจะมาทำไมคะ” น้ำเสียงเจ้าตัวยังคงหนักแน่นราวคนอารมณ์ร้ายก็ไม่บาน
    “อ่า...พวกเราแวะพักที่เมืองโคมิเน่นะครับ”
    “ก็ดีค่ะ  เรนอนจะไปซื้อของ” เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลเดินไปเอาตะกร้าจ่ายตลาดมา “พวกคุณไม่ต้องไปไหนค่ะ! ระหว่างที่เรนอนไม่อยู่ทุกคนหาวิธีคืนดีกันให้ได้นะค่ะ..”
    ปัง!
    ทุกคนมองตากันเลิกลั่กหลังจากประตูเกวียนได้ปิดลง
    “เอาไงดีวะ” เฟรินกระซิบกระซาบกับทุกคน “พวกเราไม่เกี่ยวซะหน่อย”
    “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
    “พี่ลูคัสอ่ะดิ” ครี้ดกล่าวขึ้นพร้อมหาว “โกรธพี่ลอเรนซ์เรื่องที่พี่ท่านปามีดพลาดไปโดนรูปครอบครัวสุดรักสุดหวงเข้าให้”
    นัยน์ตาสีม่วงอะเมธิตถ์ตะวัดมองนายตาเดียว  ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่
    “ฉันไม่ผิดซะหน่อย”
    “ช่างเถอะ มาคิดกันดีกว่าว่าทำไงดี” แองจี้ท้วงให้กลับมาเรื่องสำคัญ
    “เรนอนเป็นคนเอาจริงเอาจัง  พูดจริงทำจริง” มาทิลด้าว่าพลางกุมขมับ
    “เฮ้ย..” เจ้าหัวขโมยร้องลั่น “อย่างนี้ก็อดข้าวดิ ไม่ได้นะโว๊ย!!!”
    “เอเรนมีวิธีค่ะ”    สาวเจ้ายิ้มแฉ่งแบบที่เฟรินนึกกลัวนักกลัวหนา  หวังว่าแม่คนนี้จะไม่ทำอะไรแผลงๆอีก....
    *******************************************************************************
    “โชคดีนะคะที่มีทุกอย่างที่ต้องการเลย”
    -*-<<< (สีหน้าทุกคน)
    เชือกยาวประมาณ 3 เมตรม้วนคล้องไว้ที่แขนของเจ้าหญิง มืออีกข้างถือสวิงดักปลา  หล่อนโยนแหจับปลาให้ครี้ด  โยนยาฆ่าแมลงให้เฟริน ส่งตาข่ายให้คิล  ส่วนซีบิลหลบฉากไปอยู่กับคาโลด้านนอกแล้ว
    “งั้นเราก็ไปจับแล้วลากพี่เค้าลงมาเถอะค่ะ” พูดเสร็จแม่คุณก็ทำท่าจะขึ้นข้างบน  แกว่งเชือกไปมาเตรียมคว้าลูคัส
    “เฮ้ยยยยย!!!” เฟรินร้องเสียงหลง “พี่เค้าไม่ใช่สัตว์”
    ร่างบางหันกลับมามองทำตาแป๋ว
    “เอ๋...มนุษย์ไม่ใช่สัตว์หรอคะ  ตอนเอเรนไปล่าวิญญาณมนุษย์กับท่านพ่อก็เอาเชือกไปคล้องนี่”
    “ก็ไม่ช่าย...” คิลร้องเสียงอ่อย 
    “ไม่เหมือนกันหรอ...”
    ทุกคนพยักหน้าหงึกๆ  เอเรนหน้าจ๋อยลง
    “อ่าว....ก็นึกว่าให้ไปกล่อมให้ลงมาน่ะยาก  สู้จับลงมาจะดีกว่าเสียอีก”
    “เฮ้อ----“  มาทิลด้าลมแทบจับ
    “เอางี้ดิ  ส่งคนไปเจรจามะ” เฟรินออกความคิดเห็น
    “น่าจะเวิร์ก” ครี้ดสนับสนุน  “ใครดีอ่ะ”
    “อืม---“
    “คุณ/ไอ้เฟรินแหละ” ทุกคนตอบแทบเป็นเสียงเดียวกัน
    “เฮ้ยยยยยย!!! มะอ้าวววววว---....!!!”
    *****************************************************************************
    “พี่ลูคัส”
    เสียงของหัวขโมยแห่งบารามอสดังขึ้นพร้อมหัวที่โผล่ออกมา  และแทบจะทันทีที่ต้องหดกลับเพราะโดนพี่เขาปาของใส่
    “เฟรี่ไม่ต้องมาพูดเลย ไปให้พ้น..”
    เฟรินแง้มประตูมาอีกครั้ง  คราวนี้โผล่มาทั้งตัว
    “พี่ก็...อย่าโกรธพี่ลอเรนซ์เลยนะฮะ”
    “ฮึ”
    ลูคัสที่นั่งกอดเข่าอยู่สะบัดหน้าหนี  ทำเอาเฟรินชักใจเสีย
    “โถ่..พี่  พี่กำลังทำให้เขาเดือดร้อนกันนะ”
    “งั้นเฟรี่ว่าใครผิดล่ะ  ลอเรนซ์ต่างหากที่ต้องมาขอโทษ” ซาตานแห่งป้อมพูดเสียงแข็ง
    ‘มันก็จริงเนอะ’ เฟรินคิด
    *******************************************************************
    “เฟรินไปนานชะมัด” แองจี้บ่นพึมพำ
    “หายต๋อมไปเลยอ่ะ” คิลว่า
    “อย่างนี้ให้มนุษย์เปี๊ยกขึ้นไปดูอีกรอบแล้วล่ะค่ะ” เอเรนพูดพลางดันหลังกัสให้เดินขึ้นไป
    “ก็แล้วทำไมต้องเป็นฉัน”
    “อยากแต่งตัวสไตล์ไหนอีกรึเปล่าคะ”
    “อุก...”
    *****************************************************************
    “หายต๋อม...อีกแล้ว” นักฆ่าไร้หัวคิดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “มันไปไหนกันฟ่ะ ส่งไปหลายคนแล้วนะเฟร้ย”
    ใช่...หลายคนแล้ว  เพราะตอนนี้เหลือแต่เอเรน มาทิลด้า  แองจี้ คิล ลอเรนซ์ โคล์ว เดท เท่านั้น  คนอื่น..ขึ้นไปชั้นบนแล้วก็..หาย....
    “เหล่าผู้อยู่ฝ่ายลอเรนซ์จงฟังให้ดี..”
    เสียงเฟรินที่ดังมาจากโทรโข่งทำให้คนที่อยู่ด้านล่างสะดุ้งโหยง
    “ขณะนี้เราได้ทำการยึดชั้นบนเป็นฐานทัพแล้ว  หากอยากมีที่นอนจงให้พี่ลอเรนซ์มาขอโทษซะดีๆ”
    ทั้ง 7 คนวิ่งไปหน้าบันได  แล้วก็ต้องตะลึง  เมื่อเห็นกำแพงปราการที่ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนฐานทัพไม่มีผิด 
    “ได้ยินแล้วจงส่งลอเรนซ์มาซะ”
    o[]o !!!!!
    “ถึงโคมิเน่แล้ว  แวะพักไหมครับคุณคาโล” ซีบิล หนุ่มน้อยผู้สุภาพเอ่ยถามคาโลที่คุมม้าอยู่ ณ ขณะนี้  แต่เมื่อความเงียบเป็นคำตอบ  เด็กหนุ่มจึงลุกออกไป“งั้นเดี๋ยวผมไปถามพวกข้างในให้นะครับ”
    ทันทีที่หนุ่มน้อยก้าวเข้าไปสู่อาณาเขตที่พัก  ก็ได้รับรังสีแห่งความตึงเครียดที่น่าตกใจ  ซีบิลก้าวไปยังห้องนั่งเล่นกลางที่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเพื่อนๆดังอยู่
    “มีอะ..”
    ปุ..
    หมอนอิงปามาโดนใบหน้าหวานของซีบิลและทันทีที่หมอนร่วงลงสู่พื้น  หูของเด็กหนุ่มแสนสุภาพก็ได้ยินเสียงแจ๊ดๆแว้ดๆของเรนอน
    “ถ้าพวกคุณยังดีกันไม่ได้อาหารเย็นวันนี้ไม่ต้องทานค่ะ!!! จำเอาไว้เลยนะคะ!! ถ้ารุ่นพี่ลูคัสยังไม่ลงมาล่ะก็อาหารเย็นที่มีเมนูพิเศษวันนี้งดค่ะ!”
    นัยน์ตาสีม่วงของสาวน้อยเรนอนมองสบกับซีบิล  ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยปากถามผู้มาใหม่
    “คุณซีบิลจะมาทำไมคะ” น้ำเสียงเจ้าตัวยังคงหนักแน่นราวคนอารมณ์ร้ายก็ไม่บาน
    “อ่า...พวกเราแวะพักที่เมืองโคมิเน่นะครับ”
    “ก็ดีค่ะ  เรนอนจะไปซื้อของ” เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลเดินไปเอาตะกร้าจ่ายตลาดมา “พวกคุณไม่ต้องไปไหนค่ะ! ระหว่างที่เรนอนไม่อยู่ทุกคนหาวิธีคืนดีกันให้ได้นะค่ะ..”
    ปัง!
    ทุกคนมองตากันเลิกลั่กหลังจากประตูเกวียนได้ปิดลง
    “เอาไงดีวะ” เฟรินกระซิบกระซาบกับทุกคน “พวกเราไม่เกี่ยวซะหน่อย”
    “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
    “พี่ลูคัสอ่ะดิ” ครี้ดกล่าวขึ้นพร้อมหาว “โกรธพี่ลอเรนซ์เรื่องที่พี่ท่านปามีดพลาดไปโดนรูปครอบครัวสุดรักสุดหวงเข้าให้”
    นัยน์ตาสีม่วงอะเมธิตถ์ตะวัดมองนายตาเดียว  ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่
    “ฉันไม่ผิดซะหน่อย”
    “ช่างเถอะ มาคิดกันดีกว่าว่าทำไงดี” แองจี้ท้วงให้กลับมาเรื่องสำคัญ
    “เรนอนเป็นคนเอาจริงเอาจัง  พูดจริงทำจริง” มาทิลด้าว่าพลางกุมขมับ
    “เฮ้ย..” เจ้าหัวขโมยร้องลั่น “อย่างนี้ก็อดข้าวดิ ไม่ได้นะโว๊ย!!!”
    “เอเรนมีวิธีค่ะ”    สาวเจ้ายิ้มแฉ่งแบบที่เฟรินนึกกลัวนักกลัวหนา  หวังว่าแม่คนนี้จะไม่ทำอะไรแผลงๆอีก....
    *******************************************************************************
    “โชคดีนะคะที่มีทุกอย่างที่ต้องการเลย”
    -*-<<< (สีหน้าทุกคน)
    เชือกยาวประมาณ 3 เมตรม้วนคล้องไว้ที่แขนของเจ้าหญิง มืออีกข้างถือสวิงดักปลา  หล่อนโยนแหจับปลาให้ครี้ด  โยนยาฆ่าแมลงให้เฟริน ส่งตาข่ายให้คิล  ส่วนซีบิลหลบฉากไปอยู่กับคาโลด้านนอกแล้ว
    “งั้นเราก็ไปจับแล้วลากพี่เค้าลงมาเถอะค่ะ” พูดเสร็จแม่คุณก็ทำท่าจะขึ้นข้างบน  แกว่งเชือกไปมาเตรียมคว้าลูคัส
    “เฮ้ยยยยย!!!” เฟรินร้องเสียงหลง “พี่เค้าไม่ใช่สัตว์”
    ร่างบางหันกลับมามองทำตาแป๋ว
    “เอ๋...มนุษย์ไม่ใช่สัตว์หรอคะ  ตอนเอเรนไปล่าวิญญาณมนุษย์กับท่านพ่อก็เอาเชือกไปคล้องนี่”
    “ก็ไม่ช่าย...” คิลร้องเสียงอ่อย 
    “ไม่เหมือนกันหรอ...”
    ทุกคนพยักหน้าหงึกๆ  เอเรนหน้าจ๋อยลง
    “อ่าว....ก็นึกว่าให้ไปกล่อมให้ลงมาน่ะยาก  สู้จับลงมาจะดีกว่าเสียอีก”
    “เฮ้อ----“  มาทิลด้าลมแทบจับ
    “เอางี้ดิ  ส่งคนไปเจรจามะ” เฟรินออกความคิดเห็น
    “น่าจะเวิร์ก” ครี้ดสนับสนุน  “ใครดีอ่ะ”
    “อืม---“
    “คุณ/ไอ้เฟรินแหละ” ทุกคนตอบแทบเป็นเสียงเดียวกัน
    “เฮ้ยยยยยย!!! มะอ้าวววววว---....!!!”
    *****************************************************************************
    “พี่ลูคัส”
    เสียงของหัวขโมยแห่งบารามอสดังขึ้นพร้อมหัวที่โผล่ออกมา  และแทบจะทันทีที่ต้องหดกลับเพราะโดนพี่เขาปาของใส่
    “เฟรี่ไม่ต้องมาพูดเลย ไปให้พ้น..”
    เฟรินแง้มประตูมาอีกครั้ง  คราวนี้โผล่มาทั้งตัว
    “พี่ก็...อย่าโกรธพี่ลอเรนซ์เลยนะฮะ”
    “ฮึ”
    ลูคัสที่นั่งกอดเข่าอยู่สะบัดหน้าหนี  ทำเอาเฟรินชักใจเสีย
    “โถ่..พี่  พี่กำลังทำให้เขาเดือดร้อนกันนะ”
    “งั้นเฟรี่ว่าใครผิดล่ะ  ลอเรนซ์ต่างหากที่ต้องมาขอโทษ” ซาตานแห่งป้อมพูดเสียงแข็ง
    ‘มันก็จริงเนอะ’ เฟรินคิด
    *******************************************************************
    “เฟรินไปนานชะมัด” แองจี้บ่นพึมพำ
    “หายต๋อมไปเลยอ่ะ” คิลว่า
    “อย่างนี้ให้มนุษย์เปี๊ยกขึ้นไปดูอีกรอบแล้วล่ะค่ะ” เอเรนพูดพลางดันหลังกัสให้เดินขึ้นไป
    “ก็แล้วทำไมต้องเป็นฉัน”
    “อยากแต่งตัวสไตล์ไหนอีกรึเปล่าคะ”
    “อุก...”
    *****************************************************************
    “หายต๋อม...อีกแล้ว” นักฆ่าไร้หัวคิดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “มันไปไหนกันฟ่ะ ส่งไปหลายคนแล้วนะเฟร้ย”
    ใช่...หลายคนแล้ว  เพราะตอนนี้เหลือแต่เอเรน มาทิลด้า  แองจี้ คิล ลอเรนซ์ โคล์ว เดท เท่านั้น  คนอื่น..ขึ้นไปชั้นบนแล้วก็..หาย....
    “เหล่าผู้อยู่ฝ่ายลอเรนซ์จงฟังให้ดี..”
    เสียงเฟรินที่ดังมาจากโทรโข่งทำให้คนที่อยู่ด้านล่างสะดุ้งโหยง
    “ขณะนี้เราได้ทำการยึดชั้นบนเป็นฐานทัพแล้ว  หากอยากมีที่นอนจงให้พี่ลอเรนซ์มาขอโทษซะดีๆ”
    ทั้ง 7 คนวิ่งไปหน้าบันได  แล้วก็ต้องตะลึง  เมื่อเห็นกำแพงปราการที่ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนฐานทัพไม่มีผิด 
    “ได้ยินแล้วจงส่งลอเรนซ์มาซะ”
    o[]o !!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น