ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Stage. 5 เรื่องวุ่นวายน่าปวดหัว (จบแล้ว)+ว่าด้วยการบ่นของคนแต่ง
Stage. 5 เรื่องวุ่นวายน่าปวดหัว
    พี่หญิง...
    “อะไร?”
    ท้องฟ้าสีดำมันหดหู่จังเลยค่ะ...
    “พี่ว่ามันสวยไปอีกแบบนะ”
    แต่ว่า...เห็นเขาว่าท้องฟ้าที่โลกมนุษย์น่ะสวยมากเลย
    “หืม?”
    อยากเห็นซักครั้งจัง  อยากเห็นดอกไม้ที่นั่นด้วย
    “เอาไว้...ถ้าพี่ได้ไปจะเก็บมาฝากนะ”
    ขอบคุณค่ะ
    พี่หญิง....ท่านพ่อกับท่านแม่แต่งงานกันเพราะความจำเป็นหรอ
    “....”
    ถ้าอย่างนั้น...พี่หญิงกับหญิงก็ต้องด้วยใช่ไหม...
    “...พี่.......”
    ************************************
    เด็กสาวกระพริบตาถี่ๆ  เมื่อแสงยามเช้าส่องเข้าตา  นัยน์ตาสีเขียวอ่อนมองท้องฟ้ายามเช้าของโลกมนุษย์ที่ฉายผ่านกระจกใสของหน้าต่างบานใหญ่  ม่านสีลาเวนเดอร์พลิ้วไปมา
    “อยากให้พริลมาเห็นบ้างจัง”
    ************************************
    “โอ๊ย....”
    เฟรินร้องโอดโอย  มือคลำส่วนของขาที่บวดระบมจากการวิ่งหนีผรมาราธอนที่เอเรนจัดให้เป็นพิเศษด้วยความรักยิ่ง (เหอๆ)
  ขณะที่สาวน้อยผู้จัดโปรแกรมมหาโหดให้นั่งทานข้าวอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆ
    เจ้าหัวขโมยตัวยุ่งโล่งอกไปโขที่วันนี้เอเรนไม่ปล่อยไอวิญญาณออกมาให้ขนเฮดสแตนอัพ  แต่ก็น่าแปลกที่วันนี้ดูซึมๆชอบกล
    “เอเรนเป็นอะไรไปฮะ  เอาไก่ของผมมั้ย”
    ควับ!
    คิลหันหน้ามาอย่างรวดเร็วจนแทบหัวหลุด  ตาโตสีม่วงเบิกกว้างไม่เชื่อหู
    “ไอ้คิล  แกเป็นอะไรไป” เฟรินถาม
    “หันมาดูของหายาก”
    เฟรินมุ่นหัวคิ้ว 
    “เอ้า...”คิลหัวเราะออกมาเบาๆ “หายากจะตายที่ว่าที่ราชินีของคาโนวาลยกพระกายหารให้พระสหายเสวยแทน ฮา..ฮ...เอิ้ก...”
    ขณะที่คิลกำลังจะอ้าปากแสนอุบาทว์ของมันหัวเราะ  เฟรินก็จัดแจงนำขนมปัง + ส้นติงยัดปากมันเรียบร้อย
    “งั้นฉันให้ไอ้นี่แก”
    สาวน้อยเส้นอารมณ์ขาดสำทับ  ก่อนโซ้ยอาหารเช้าของมันต่อ
    ******************************************************
           
              ขอโผล่กบาลมาแค่นี้ก่อนฮับ  เพราะไอ้น้องรัก(ประชด) แมร่งแย่งคอมตรู...ไอ้บ้า!
              ดีใจมากเลยที่พี่ SP-163 มาเยี่ยม  เพราะพี่เป็นหนึ่งในคนที่หนูติดตามผลงานเลยทีเดียว 
              ตอนนี้ก้อกระดึบกระดึบฟิค  เพราะมีหลายเรื่องที่อยู่ในรับผิดชอบ  เรื่องโน้นคนเขาบอกว่าให้รีบอัพ
              แต่ฟิคนี้ก้อไม่อยากทิ้งอ่ะ  เอางายดี  ถ้าเรื่องนี้หายไปเลยก็ขออภัยฮับ  ช่วงนี้กลุ้ม  ทำมายไม่ค่อยมีใครเขาเม้นท์เลย
              ความปรารถนาของข้าพเจ้ามีเพียง เม้นท์! อยากได้มากกกก...กกก...กกก  เมนท์กันหน่อย  คนเขายิ่งขี้ใจน้อย  กำลังใจนิด
              ติก้อด้าย...ขอให้เม้นท์  นะ...น้า...  ด่าก้อได้....
              หลายคนเขาบอกว่าสงสารแต่เฟรี่  แต่เราสุขใจที่ได้แกล้ง (แฟนคลับเฟรินอย่าพึ่งตามมาตื้บเรานา) 
              น้องสาวเอเรนโผล่หางมาแย้ว  แต่ชื่อจริงไม่ได้ชื่อว่าพริลนะ  นั่นชื่อย่อ จะได้เรียกง่ายพิมพ์ง่าย...เรายิ่งขี้เกียจอยู่
              เฮ้อ..ท่านผู้อ่านขา...กรุณาสละเวลาซักนิดเม้นท์ให้หน่อยเห้อ...  ข้าพเจ้าใจจะขาดแล้ว....
              ********************************************************
              ต่อคร้าบ  หลังจากกการดองเค็ม
    “...เรน...เอเรนฮะ...เอเรน!”
    “อ๊ะ..”
    เจ้าหญิงแห่งวิญญาณสะดุ้งโหยง  หนังสือที่เคยอยู่ในมือหล่นลงมาหมด
    “เป็นอะไรไปฮะ  เหม่ออยู่นั่นแหละ..” ยังไม่ทันที่เฟรินจะก้มลงไปใช้เก็บ  ร่างของคนจากกิลดิเรกก็มาแทนที่
    “ฉันช่วยเก็บ”
    “ฮะฮ้า!”
    เสียงอุทานของหัวขโมยแห่งบารามอสเรียกคนทั้งระเบียงทางเดินให้หันมามอง  ขณะที่เจ้าตัวหัวเราะคิกคัก ชี้มือไม้ไปทางกัว โทนีย่า
    “นาย...แอบชอบเอเรนใช่ไหม”
    บุรุษผู้ถูกกล่าวถึงหน้าแดงเถือกเป็นพยานที่ดีให้กับข้อกล่าวหา  ส่วนสตรีผู้อยู่ในหัวข้อสนทนาได้แต่จ้องมองด้วยใบหน้าเฉย
เมย  ทำเอากัสรู้สึกใจแป้วอย่างประหลาด
    “เฮ้ยจริงๆด้วยว่ะ...พวกเราโว๊ย! ไอ้กัสมัน...อู้..”
    มือใหญ่ของเจ้าชายแห่งคาโนวาลเอื้อมมาปิดปากแม่ตัวยุ่ง  ก่อนที่เพื่อนร่วมรุ่นจะถูกกล่าวหามากไปกว่านี้
    นัยน์ตาสีเขียวอ่อนไร้แววแห่งความมีชีวิต  ร่างบางเริ่มโอนอ่อนไหว  ก่อนที่สติของสตรีเจ้าของร่างจะดับวูบลงไปพร้อมกับร่างที่ได้ทรุดลงกับพื้น
    “เอเรน!”
    หัวขโมยแห่งบารามอสร้องลั่น  ขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเจ้าชายแห่งคาโนวาลไปรับร่างนั้น  เฟรินปัดปอยผมสีบลอนด์ที่บังเปลือกตาที่ปิดสนิท
    “เกิดอะไรขึ้น”
    มาทิลด้าแหวกฝูงชนออกเพื่อให้เห็นต้นเหตุแห่งการชุมนุม
    “เฟริน เอเรนเป็นอะไร...”
    แม่ตัวยุ่งส่ายหัววืด  “ไม่รู้  จู่ๆก็ล้มฟุบไปซะงั้น”
    “คุณ..เฟริน..” สาวน้อยผู้มีอาการประหลาดเริ่มรู้สึกตัว  หล่อนค่อยๆลุกขึ้นด้วยองศาการยืนที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก
    “เป็นอะไรไปหรอ” คิลถามด้วยความเป็นห่วง  เรียกสายตาเย็นชาจากเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าหญิงแห่งอเมซอนได้เป็นอย่างดี
    “ไม่เป็นไรค่ะ  แค่ง่วงเฉยๆ”
    ว่าเสร็จเจ้าตัวก็เดินไปด้วยอาการเหม่อลอยเช่นเดิม กระนั้น  ทุกคนหารู้ไม่  ว่ามีนัยน์ตาสีงาช้างคู่หนึ่ง  จ้องมองเหตุกราณ์นั้นอย่างเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว
                “ท่านควรจะรู้...ว่าไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป”
   
    *************************************************************
                มาวันละนิด  จิตแจ่มใส  5555+ เอิ้ก...ก็คนเม้นท์น้อยนี่หว่า  ไม่รู้จะแต่งไปไม 
                ตอบคุณ @oka ค่า  : ความจริงยัยคนแต่งมันก้อคิดที่จะทำคู่ของเฟรินอยู่แล้ว มะต้องห่วง  เพราะมันคลั่งคาโล 55+
                แล้วก้อนะ  คู่ของคิลนี่สิยังนึกไม่ออกง่ะ  ขอเดียไอหน่อยดิ
                *************************************************************
   
    “วันนี้เราจะเรียนเรื่องคาถาทำให้ใหม่” อาจารย์แม่มดวิงกี้พูดพลางเคาะคทาไปมา  ส่วสายตาขุ่นไปยังเจ้าหนูสายฟ้า เฟริน เด
อเบอโรว์  เนื่องจากมันกำลังคุยจ้อไม่ใส่ใจ “คาถานี้เราไม่สามารถใช้กับสิ่งมีชีวิตได้  แต่สามารถใช้ได้แต่กับสิ่งของ  เพื่อทำให้สิ่งของใหม่
ขึ้น  พูดง่ายๆคือเหมือนการซ่อมของ”
    อาจารย์สอนเวทย์เริ่มหรี่ตาเล็กลง  มองไปที่นักฆ่าตัวแสบ  คู่คุยของเจ้าหนูสายฟ้า
    “เข้าใจมั้ย! เฟริน  เดอเบอโรว์! คิลมัส  ฟีลมัส!”
    ตึง!
    ร่างของคนทั้งคู่ลอยขึ้นด้วยฤทธิ์เวทย์ของอาจารย์แม่มด  จำเลยทั้งสองหันมามองอาจารย์พลางส่งยิ้มเอาตัวรอด
    “เฮ้อ....พวกเธอนะพวกเธอ..ตัดธงป้อมอัศวิน...”
    “อาจารย์คะ!” เจ้าหญิงแห่งอเมซอนร้องท้วง “ป้อมเราแทบจะไม่มีธงให้ตัดแล้วค่ะ  กรุณาเถอะนะคะ”
    แม่มดสาว(ไปหมด) ถอนหายใจอีกครั้ง  แล้วติดสินใจวางเจ้าตัวยุ่งยกกำลังสองลง
    **************************************************************
    “...เรน...เอเรน...”
    “หือม์” นัยน์ตาสีเขียวตวัดมองตาแป๋ว
    “ทำอะไรอยู่  เราจับคู่ฝึกคาถากันอยู่ไม่ใช่หรอ” นักบวชแห่งกิลดิเรกกล่าวขึ้นพลางกุมขมับ
    “มนุษย์เปี๊ยก  ฉันเลือกมนุษย์เปี๊ยกได้ยังไง”
    คราวนี้กัสถึงขนาดอยากเป็นลม  แม่คุณจำอะไรได้บ้างเนี่ย  ว่าแล้วก็เลือบไปมองเจ้าหญิงเฟลิโอน่า  ที่ถูกอาจารย์แม่มดวิงกี้จับ
ไปฝึกตัวต่อตัวด้วยความสังเวช ก่อนร่ายคาถาใส่หมอนเก่าๆ แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
    “เธอทำไมไม่จัดการบ้างล่ะ  ปล่อยฉันทำคนเดียวอยู่ได้”
    “เออ..นั่นสินะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ร่ายคาถา  หัวคทาส่องแสงวาบ
    เจ็บ...
    ร่าบางทรุดลงแม้ปากจะพึมพำร่ายเวทย์อยู่  มือเลื่อนไปจับที่หน้าอกมือหนึ่ง...
    เจ็บ...หน้าอก..ปวด...
    “เฮ้ย!”
    เสียงร้องของใครซักคนทำให้เธอลืมตาตื่นเกือบเต็มที่  มองห้องที่เต็มไปด้วยควันขาวน่าตกใจที่เกิดมาจากฝีมือเธอ  ก่อนที่
นัยน์ตาสีเขียวอ่อนจะเบิกกว้าง  กับผลงานของตน
              ********************************************************
              ขอไปอู้ก่อนโว๊ย!!!!!!!!!!
             
    พี่หญิง...
    “อะไร?”
    ท้องฟ้าสีดำมันหดหู่จังเลยค่ะ...
    “พี่ว่ามันสวยไปอีกแบบนะ”
    แต่ว่า...เห็นเขาว่าท้องฟ้าที่โลกมนุษย์น่ะสวยมากเลย
    “หืม?”
    อยากเห็นซักครั้งจัง  อยากเห็นดอกไม้ที่นั่นด้วย
    “เอาไว้...ถ้าพี่ได้ไปจะเก็บมาฝากนะ”
    ขอบคุณค่ะ
    พี่หญิง....ท่านพ่อกับท่านแม่แต่งงานกันเพราะความจำเป็นหรอ
    “....”
    ถ้าอย่างนั้น...พี่หญิงกับหญิงก็ต้องด้วยใช่ไหม...
    “...พี่.......”
    ************************************
    เด็กสาวกระพริบตาถี่ๆ  เมื่อแสงยามเช้าส่องเข้าตา  นัยน์ตาสีเขียวอ่อนมองท้องฟ้ายามเช้าของโลกมนุษย์ที่ฉายผ่านกระจกใสของหน้าต่างบานใหญ่  ม่านสีลาเวนเดอร์พลิ้วไปมา
    “อยากให้พริลมาเห็นบ้างจัง”
    ************************************
    “โอ๊ย....”
    เฟรินร้องโอดโอย  มือคลำส่วนของขาที่บวดระบมจากการวิ่งหนีผรมาราธอนที่เอเรนจัดให้เป็นพิเศษด้วยความรักยิ่ง (เหอๆ)
  ขณะที่สาวน้อยผู้จัดโปรแกรมมหาโหดให้นั่งทานข้าวอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆ
    เจ้าหัวขโมยตัวยุ่งโล่งอกไปโขที่วันนี้เอเรนไม่ปล่อยไอวิญญาณออกมาให้ขนเฮดสแตนอัพ  แต่ก็น่าแปลกที่วันนี้ดูซึมๆชอบกล
    “เอเรนเป็นอะไรไปฮะ  เอาไก่ของผมมั้ย”
    ควับ!
    คิลหันหน้ามาอย่างรวดเร็วจนแทบหัวหลุด  ตาโตสีม่วงเบิกกว้างไม่เชื่อหู
    “ไอ้คิล  แกเป็นอะไรไป” เฟรินถาม
    “หันมาดูของหายาก”
    เฟรินมุ่นหัวคิ้ว 
    “เอ้า...”คิลหัวเราะออกมาเบาๆ “หายากจะตายที่ว่าที่ราชินีของคาโนวาลยกพระกายหารให้พระสหายเสวยแทน ฮา..ฮ...เอิ้ก...”
    ขณะที่คิลกำลังจะอ้าปากแสนอุบาทว์ของมันหัวเราะ  เฟรินก็จัดแจงนำขนมปัง + ส้นติงยัดปากมันเรียบร้อย
    “งั้นฉันให้ไอ้นี่แก”
    สาวน้อยเส้นอารมณ์ขาดสำทับ  ก่อนโซ้ยอาหารเช้าของมันต่อ
    ******************************************************
           
              ขอโผล่กบาลมาแค่นี้ก่อนฮับ  เพราะไอ้น้องรัก(ประชด) แมร่งแย่งคอมตรู...ไอ้บ้า!
              ดีใจมากเลยที่พี่ SP-163 มาเยี่ยม  เพราะพี่เป็นหนึ่งในคนที่หนูติดตามผลงานเลยทีเดียว 
              ตอนนี้ก้อกระดึบกระดึบฟิค  เพราะมีหลายเรื่องที่อยู่ในรับผิดชอบ  เรื่องโน้นคนเขาบอกว่าให้รีบอัพ
              แต่ฟิคนี้ก้อไม่อยากทิ้งอ่ะ  เอางายดี  ถ้าเรื่องนี้หายไปเลยก็ขออภัยฮับ  ช่วงนี้กลุ้ม  ทำมายไม่ค่อยมีใครเขาเม้นท์เลย
              ความปรารถนาของข้าพเจ้ามีเพียง เม้นท์! อยากได้มากกกก...กกก...กกก  เมนท์กันหน่อย  คนเขายิ่งขี้ใจน้อย  กำลังใจนิด
              ติก้อด้าย...ขอให้เม้นท์  นะ...น้า...  ด่าก้อได้....
              หลายคนเขาบอกว่าสงสารแต่เฟรี่  แต่เราสุขใจที่ได้แกล้ง (แฟนคลับเฟรินอย่าพึ่งตามมาตื้บเรานา) 
              น้องสาวเอเรนโผล่หางมาแย้ว  แต่ชื่อจริงไม่ได้ชื่อว่าพริลนะ  นั่นชื่อย่อ จะได้เรียกง่ายพิมพ์ง่าย...เรายิ่งขี้เกียจอยู่
              เฮ้อ..ท่านผู้อ่านขา...กรุณาสละเวลาซักนิดเม้นท์ให้หน่อยเห้อ...  ข้าพเจ้าใจจะขาดแล้ว....
              ********************************************************
              ต่อคร้าบ  หลังจากกการดองเค็ม
    “...เรน...เอเรนฮะ...เอเรน!”
    “อ๊ะ..”
    เจ้าหญิงแห่งวิญญาณสะดุ้งโหยง  หนังสือที่เคยอยู่ในมือหล่นลงมาหมด
    “เป็นอะไรไปฮะ  เหม่ออยู่นั่นแหละ..” ยังไม่ทันที่เฟรินจะก้มลงไปใช้เก็บ  ร่างของคนจากกิลดิเรกก็มาแทนที่
    “ฉันช่วยเก็บ”
    “ฮะฮ้า!”
    เสียงอุทานของหัวขโมยแห่งบารามอสเรียกคนทั้งระเบียงทางเดินให้หันมามอง  ขณะที่เจ้าตัวหัวเราะคิกคัก ชี้มือไม้ไปทางกัว โทนีย่า
    “นาย...แอบชอบเอเรนใช่ไหม”
    บุรุษผู้ถูกกล่าวถึงหน้าแดงเถือกเป็นพยานที่ดีให้กับข้อกล่าวหา  ส่วนสตรีผู้อยู่ในหัวข้อสนทนาได้แต่จ้องมองด้วยใบหน้าเฉย
เมย  ทำเอากัสรู้สึกใจแป้วอย่างประหลาด
    “เฮ้ยจริงๆด้วยว่ะ...พวกเราโว๊ย! ไอ้กัสมัน...อู้..”
    มือใหญ่ของเจ้าชายแห่งคาโนวาลเอื้อมมาปิดปากแม่ตัวยุ่ง  ก่อนที่เพื่อนร่วมรุ่นจะถูกกล่าวหามากไปกว่านี้
    นัยน์ตาสีเขียวอ่อนไร้แววแห่งความมีชีวิต  ร่างบางเริ่มโอนอ่อนไหว  ก่อนที่สติของสตรีเจ้าของร่างจะดับวูบลงไปพร้อมกับร่างที่ได้ทรุดลงกับพื้น
    “เอเรน!”
    หัวขโมยแห่งบารามอสร้องลั่น  ขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเจ้าชายแห่งคาโนวาลไปรับร่างนั้น  เฟรินปัดปอยผมสีบลอนด์ที่บังเปลือกตาที่ปิดสนิท
    “เกิดอะไรขึ้น”
    มาทิลด้าแหวกฝูงชนออกเพื่อให้เห็นต้นเหตุแห่งการชุมนุม
    “เฟริน เอเรนเป็นอะไร...”
    แม่ตัวยุ่งส่ายหัววืด  “ไม่รู้  จู่ๆก็ล้มฟุบไปซะงั้น”
    “คุณ..เฟริน..” สาวน้อยผู้มีอาการประหลาดเริ่มรู้สึกตัว  หล่อนค่อยๆลุกขึ้นด้วยองศาการยืนที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก
    “เป็นอะไรไปหรอ” คิลถามด้วยความเป็นห่วง  เรียกสายตาเย็นชาจากเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าหญิงแห่งอเมซอนได้เป็นอย่างดี
    “ไม่เป็นไรค่ะ  แค่ง่วงเฉยๆ”
    ว่าเสร็จเจ้าตัวก็เดินไปด้วยอาการเหม่อลอยเช่นเดิม กระนั้น  ทุกคนหารู้ไม่  ว่ามีนัยน์ตาสีงาช้างคู่หนึ่ง  จ้องมองเหตุกราณ์นั้นอย่างเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว
                “ท่านควรจะรู้...ว่าไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป”
   
    *************************************************************
                มาวันละนิด  จิตแจ่มใส  5555+ เอิ้ก...ก็คนเม้นท์น้อยนี่หว่า  ไม่รู้จะแต่งไปไม 
                ตอบคุณ @oka ค่า  : ความจริงยัยคนแต่งมันก้อคิดที่จะทำคู่ของเฟรินอยู่แล้ว มะต้องห่วง  เพราะมันคลั่งคาโล 55+
                แล้วก้อนะ  คู่ของคิลนี่สิยังนึกไม่ออกง่ะ  ขอเดียไอหน่อยดิ
                *************************************************************
   
    “วันนี้เราจะเรียนเรื่องคาถาทำให้ใหม่” อาจารย์แม่มดวิงกี้พูดพลางเคาะคทาไปมา  ส่วสายตาขุ่นไปยังเจ้าหนูสายฟ้า เฟริน เด
อเบอโรว์  เนื่องจากมันกำลังคุยจ้อไม่ใส่ใจ “คาถานี้เราไม่สามารถใช้กับสิ่งมีชีวิตได้  แต่สามารถใช้ได้แต่กับสิ่งของ  เพื่อทำให้สิ่งของใหม่
ขึ้น  พูดง่ายๆคือเหมือนการซ่อมของ”
    อาจารย์สอนเวทย์เริ่มหรี่ตาเล็กลง  มองไปที่นักฆ่าตัวแสบ  คู่คุยของเจ้าหนูสายฟ้า
    “เข้าใจมั้ย! เฟริน  เดอเบอโรว์! คิลมัส  ฟีลมัส!”
    ตึง!
    ร่างของคนทั้งคู่ลอยขึ้นด้วยฤทธิ์เวทย์ของอาจารย์แม่มด  จำเลยทั้งสองหันมามองอาจารย์พลางส่งยิ้มเอาตัวรอด
    “เฮ้อ....พวกเธอนะพวกเธอ..ตัดธงป้อมอัศวิน...”
    “อาจารย์คะ!” เจ้าหญิงแห่งอเมซอนร้องท้วง “ป้อมเราแทบจะไม่มีธงให้ตัดแล้วค่ะ  กรุณาเถอะนะคะ”
    แม่มดสาว(ไปหมด) ถอนหายใจอีกครั้ง  แล้วติดสินใจวางเจ้าตัวยุ่งยกกำลังสองลง
    **************************************************************
    “...เรน...เอเรน...”
    “หือม์” นัยน์ตาสีเขียวตวัดมองตาแป๋ว
    “ทำอะไรอยู่  เราจับคู่ฝึกคาถากันอยู่ไม่ใช่หรอ” นักบวชแห่งกิลดิเรกกล่าวขึ้นพลางกุมขมับ
    “มนุษย์เปี๊ยก  ฉันเลือกมนุษย์เปี๊ยกได้ยังไง”
    คราวนี้กัสถึงขนาดอยากเป็นลม  แม่คุณจำอะไรได้บ้างเนี่ย  ว่าแล้วก็เลือบไปมองเจ้าหญิงเฟลิโอน่า  ที่ถูกอาจารย์แม่มดวิงกี้จับ
ไปฝึกตัวต่อตัวด้วยความสังเวช ก่อนร่ายคาถาใส่หมอนเก่าๆ แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
    “เธอทำไมไม่จัดการบ้างล่ะ  ปล่อยฉันทำคนเดียวอยู่ได้”
    “เออ..นั่นสินะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ร่ายคาถา  หัวคทาส่องแสงวาบ
    เจ็บ...
    ร่าบางทรุดลงแม้ปากจะพึมพำร่ายเวทย์อยู่  มือเลื่อนไปจับที่หน้าอกมือหนึ่ง...
    เจ็บ...หน้าอก..ปวด...
    “เฮ้ย!”
    เสียงร้องของใครซักคนทำให้เธอลืมตาตื่นเกือบเต็มที่  มองห้องที่เต็มไปด้วยควันขาวน่าตกใจที่เกิดมาจากฝีมือเธอ  ก่อนที่
นัยน์ตาสีเขียวอ่อนจะเบิกกว้าง  กับผลงานของตน
              ********************************************************
              ขอไปอู้ก่อนโว๊ย!!!!!!!!!!
             
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น