ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไดอารี่เรื่องรัก ฉบับป้อมอัศวิน

    ลำดับตอนที่ #4 : Stage. 4 สีดำ...

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 48


    Stage. 4 สีดำ...







        “อ๊ะ  มนุษย์เปี๊ยก...”



        เด็กสาวจากแดนแห่งความตายอุทานออกมา  ตามด้วยสายตาไม่พอใจของผู้ถูกกล่าวถึง



        “หวัดดี กัส” เฟรินทักทายพร้อมส่งยิ้มแฉ่ง  



        “ลมอะไรหอบมา  เฟริน”



        “ลมแห่งความโชคร้าย” แม่ตัวยุ่งยักไหล่ก่อนเดินไปตบบ่าพ่อนักบวช “เฮ้ย  กัส  เราเพื่อนกันป่าววะ”



        กัสพยักหน้าเล็กน้อย  พลางมองเฟรินด้วยแววตาฉงนปนไม่ไว้ใจ



        “งั้น...”จัดแจงวางหลุมเสร็จ  แม่คุณก็ดันหลังเจ้าหญิงที่ยืนงงไม่รู้เรื่องไปหาคู่ปรับ “แกพาเอเรนไปซื้อของที่ตลาดหน่อย  ฉันไม่ว่างเฟร้ย!!!”



        ว่าแล้วเฟรินก็เผ่นแนบ  ไม่คิดหันมามองหน้าเอ๋อของผู้ถูกหลอกแม้แต่น้อย







        *****************************************************







        “ว่าแต่คาโล” นักฆ่าอารมณ์ดีเอ่ยถามเพื่อนรักขณะที่หญิงทั้งสองยังอยู่ที่โรงอาหาร “พี่โรเวนเรียกนายไปคงไม่ใช่แค่ให้เฟรินพาเอเรนไปซื้อของใช่ไหม”





        คาโลมองหน้าคิลอย่างภูมิใจว่ามีเพื่อนฉลาดก่อนตอบรับคำเพื่อนรัก



        “แน่นอน” คาโลพูดพลางกางหนังสือที่ตั้งใจจะอ่าน  





        “เฮ้ย! ถ้าแกไม่บอกภายในสามวิ  ฉันจะเลิกคบแก!”



        นัยน์ตาสีฟ้ามองปรายดุ  แล้วจำใจปิดหนังสือ  



        “นายอยากรู้...” คาโลถาม  คิลพยักหน้า 1 เพราะความสอด 2 เพราะมันเปงเพื่อน  ไม่ว่าเรื่องไหนมันไม่ควรปิดตรูให้มากนัก





        “ยัยนั่น เอเรน  ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคิงฮาเดส เจ้าแห่งโลกวิญญาณ  ท่านมหาปราชญ์เตือนพวกเราไว้ว่า...” เจ้าชายแห่งคาโนวาลถอนหายใจเฮือก  “ระวังคิงฮาเดสจะมาตามลูก..พวกเราจะตายหมด..”





        “เหตุผลที่ส่งยัยนี่มาป้อมเรา  ให้เราช่วยหล่อนงั้นสิ”





        “เท่าที่ได้ยินมา  หล่อนไม่น่าปรากฏตัวบนโลกนี้  คงเพราะหนีมาเพราะเหตุผลบางอย่าง...ที่ทำให้ท่านมหาปราชญ์ยอมช่วยเหลือ...”



        คิลหมุนตัวกลับ  แล้วจัดการพาร่างตนล้มสู่เตียงนอน



        “ทำไมนายไม่ให้เฟรินมันรู้ล่ะ  ไล่มันไปตลาดอย่างนั้น”



        “เดี๋ยวมันจะยิ่งเกลียดเอเรน  เล่นเอาชะตาขาดได้ง่ายๆ” คาโลตอบพร้อมเปิดหนังสืออีกครั้ง “ถ้าเอเรนโกรธขึ้นมา  ไม่รู้ว่าใครจะเป็นเยื่อของมัจจุราช...”





        กึก!



        เสียงดังที่ทำเอาคนในห้องหันควับไปที่ประตู  เจ้าชายแห่งคาโนวาลไม่รอช้า  ลุกไปเปิดประตูทันที





        “เฟริน” คาโลเอ่ยชื่อคนแอบฟังด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ



        “ง่า...คาโล....คือชั้น...”







        *************************************







        “สรุปนายส่งเอเรนให้ไปอยู่กับกัส”





        ผู้พิพากษาคิลถาม  จำเลยเฟริน  เดอเบอโรว์พยักหน้ารับสารภาพ



        “แล้วเราจะเอาไง...  นาย  เฟริน  นายต้องไม่ไปบอกคนอื่นนะเฟ้ย...  เด๋วเขาพากันอกสั่นขวัญแขวนไปหมด”



        “กล่องอะไร?”



        เสียงจากเจ้าชายแห่งคาโนวาลเรียกให้ผู้พิพากษาและจำเลยหันไปมอง  ก่อนเลื่อนสายตาไปมองไอ้ที่เป็นต้นเหตุ



        กล่อง...อะไรวะ



        “เฮ้ยเฟริน มันมีชื่อแกติดอยู่นิ มาดูดิวะ” คิลเรียกเฟรินให้มาเปิด  และสิ่งที่อยู่ไหนกล่องก็คือ.....





        “จ้ากกกกกกกกกกกก อะว้ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!”





        เฟรินวิ่งทำสถิติโลกหนีซอมบี้ที่โผล่ออกมาจากกล่อง  กระดาษแผ่นน้อยปลิวลงพื้น....



        ขอบคุณมากค่ะคุณเฟริ้น!!! ที่ส่งฉันไปอยู่กับมนุษย์เปี๊ยก  ของขวัญตอบแทนค่ะ!!! (ประชด!!)





        *************************************





        ‘น่ารำคาญชะมัด’





        นักบวชหนุ่มนึกอย่างรำคาญใจ  เมื่อสาวน้อยข้างตัวไม่ยอมกลับแม้จะซื้อของครบแล้ว  คอยแต่จะถามโน่นถามนี่ราวกับอายุ 4



    ขวบ

        “มนุษย์เปี๊ยก....”



        “ฉันชื่อกัส” เด็กชายสวนทันควัน



        “ไม่เอา  นายน่าจะชื่อมนุษย์เปี๊ยกมากกว่า” เจ้าหญิงน้อยไม่ยอม  ทำให้กัสเริ่มคิดว่า  ถ้าหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงเขาคงเอาหล่อนไปกระทำส่งโรงงานปลากระป๋องให้เอาไปยัดใส่กระป๋องให้รู้แล้วรู้รอดแน่นอน





        “นี่มนุษย์เปี๊ยก  มันไม่ยุติธรรมเลยนะ...”



        นัยน์ตาสีฟ้ามองร่างบางของสาวน้อย ที่ปากสวยได้รูปเอ่ยถ้อยคำประหลาดออกมา หล่อนหยุดเดิน  ทำให้เขาต้องหยุดด้วย  นัยน์คาสีเขียวอ่อนมองท้องฟ้าสวย



        “ทำไมโลกมนุษย์มีท้องฟ้าที่สวยจังเลย  ทีที่โลกแห่งความตาย...”เอเรนหลุบตาลงต่ำ “มันไม่มีอะไรเลย  ท้องฟ้าดำมืด  บรรยากาศอีมครึม  มีกลิ่นอายแห่งความเศร้าตลอดเวลา...”



        กัสได้แต่เงียบ  มองโครงหน้าที่สะท้อนสีส้มจากดวงอาทิตย์ยามเย็น  



        “ฉันเห็นการลาจากมามาก...”เอเรนเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง “ก็เลยไม่อยากลาจากท่านพ่อท่านแม่ไปกับท่านผู้นั้น”





        “ท่านผู้นั้น..?”





        “ท่านพ่อบังคับให้ฉันรับคำของท่านผู้นั้น  แต่งงานแล้วออกจากโลกวิญญาณไป”





        “เธอก็เลยหนี...”



        เจ้าหล่อนก้มศีรษะมองรองเท้าสีดำของตน  



        “แม้จะเป็นท้องฟ้าสีดำ  แต่ฉันก็รักมันมากเช่นเดียวกับตัวฉัน .... ”



                    ใบหน้าของเจ้าหล่อนในยามนี้  เรียกให้กัสมองไปโดยไม่รู้ตัว  ดวงหน้าที่ฉาบสีโอรสอ่อนๆของยามสายันห์และสีหน้ามองหม่นที่



    ชวนให้เขานึกถึงวันวานก่อนออกจากกิลดิเรกมา



        นี่เป็น...เหตุผลของเธอหรือเอเรน...



        เหตุผลที่สีดำเป็นสิ่งที่เธอรัก....



        การลาจาก...



        นักบวชแห่งกิลดิเรกหลุบตาลง



        หากเป็นเช่นนั้น...



        เธอก็เหมือนกับฉัน...



                  ***************************************************

          



                   โอ้! yes เราอัพได้แล้วโว้ย  555+ หลังจากหลบฉากงอนไม่มีใครมาอ่าน  ฮ่าฮ่า



                  ยิ่งเม้นท์เรายิ่งขยันแต่ง  เราเพราะฉะนั้น  อ่านแล้วเม้นท์ทีเหอะ!!!



                  

                

        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×