ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Stage. 1 เด็กสาวผู้มาพร้อมกับวิญญาณ
Stage. 1 เด็กสาวผู้มาพร้อมกับวิญญาณ
    ความเงียบเข้าครอบคลุมบริเวณห้องอาหารขึ้นชื่อของป้อมอัศวิน  เมื่อดาบเรียวยาวของนักบวชแห่งกิลดิเรกทาบอยู่บนลำคองามระหงส์  แม้แต่เจ้าตัวยุ่งเฟรินที่แหกปากร้องลั่นเมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะนิ่งไปอึดใจ  สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังเด็กสาวที่เข้าปะทะลองดีกับนักบวชพูดน้อยแห่งป้อม
    บุรุษผู้ลงมือจ้องสาวน้อยตรงหน้าเขม็ง  ก่อนเอ่ยวาจาที่เค้นออกมา
    “คลายมนตร์ของเธอซะ”
    เด็กสาวใจกล้ามองผู้ไม่ประสงค์ดีตรงหน้า  ริมฝีปากอิ่มเอิบ  น่ารักน่าชังไร้ถ้อยคำใดสนองความต้องการของบุรุษ  ใบหน้านวลผ่องใสยังคงมีรอยยิ้มกวนอารมณ์ของนักบวช 
    วิญญาณร้ายภายใต้อาณัติของเจ้าหล่อนเคลื่อนกายมาหาผู้เป็นนาย
    วิญญาณ???
    ใช่...
    เธอ....เด็กสาวผู้มาพร้อมกับวิญญาณ...
    ***********************************************************
    ย้อนหลังไปก่อนหน้านี้ไม่เท่าไหร่....
    สายลมอ่อนพัดผ่านเบาๆ  นำพาความร่มเย็นมาสู่บุรุษผู้ยินยอมให้สตรีหนุนตักเพราะจำใจ  หากไม่ใช่แม่คนนี้  เขาคงไม่ได้มานั่งขาเหน็บกินอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่นี่หรอก! 
    “เฟริน...”
    เจ้าชายแห่งคาโนวาลเอ่ยด้วยความหนักอกหนักใจ  ก็แม่นี่เล่นนอนหลับอุตุมานานมากกว่าชั่วโมง โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เปลี่ยนอิริยาบถแม้แต่น้อย  อีกไม่นานเลือดคงไม่อาจไปส่งออกซิเจนให้ขาของเขา  และแน่นอน  ขามันได้เดี้ยงแน่...
    “เฟริน...”
    เรียกอีกครั้งสาวเจ้าก็ไม่ใคร่จะขยับตัวแม้แต่น้อย
    คาโลถอนหายใจเบา  มือขยับปิดหนังสือ  ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้าใกล้เจ้าหัวขโมยตัวยุ่ง 
    “...เฟริน...”
    แน่นิ่งสนิท...เหมือนคนตายก็ไม่ปาน...
    เจ้าของฉายาก้อนน้ำแข็งประจำป้อมโน้มใบหน้าเข้าใกล้ยิ่งไปอีก  จนปลายจมูกของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทั้งสองได้แนบชิดสัมผัสกันเรียบร้อย 
    เล่นขนาดนี้มันยังไม่ตื่น  หรือมันอยากให้เราเล่นหนักกว่านี้...
    ความคิดโผล่แวบเข้ามาในหัวเจ้าชายนักรักขั้นอนุบาลปุ๊บ  เจ้าริมฝีปากตัวดีก็ไม่รอช้า  ประกบเข้าหาริมฝีปากเชอร์รี่ที่แสนรักแสนหวงเป็นหนักหนา
    เจ้าหญิงผู้เพิ่งรู้ตัวว่าถูกเอาเปรียบลืมตาเบิกโผลง  แต่เมื่อม่านตาปรับประสาทเสร็จ  เจ้าคนที่ว่ามันก็เข้าไปนัวเนียที่ซอกคอของเธอแล้ว  เพียงแค่รู้สึกแม่คัวดีก็แหกปากร้องลั่นไม่เป็นภาษา
    “จ้ากกกกกกกกกกกก--- ไอ้งี่เง่าคาโล ออกไปนะเฟร้ยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”
    แรงมีอยู่แค่ไหน  เจ้าหล่อนเอาออกมาใช้หมด  เจ้าชายขวัญใจนักอ่านถึงได้กระเด็นกลิ้งหลุนๆออกไป  ผู้ถูกจู่โจมหน้าแดงเถือก  จ้องเขม็งไปยังไอ้เจ้าชายแห่งคาโนวาลอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
    เจ้าชายผู้ถูกประทุษร้ายแย้มรอยยิ้ม  ยิ้มที่เรียกความอายแก่อดีตหัวขโมยหนุ่มได้เป็นอย่างดี
    “ไม่ต้องมาเสื อกยิ้ม! ไอ้หื่น!”
    เมื่อเห็นท่าทีที่ลุกลน  คาโลก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้นไปอีก 
    “ก็นายปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเองนี่  ฉันก็เลย....”
    “หุบปาก!!!”
    คำร้องด่า(สั่งด้วย) ส่งมาพร้อมหนังสือของเขาข้างตัวหล่อน  สันหนังสือกระแทกที่ใบหน้าเป็นรอยริ้วๆ  น่ากลัวอยู่ไม่น้อย  จาก
สถานการณ์ในตอนนี้  คาดว่าอีกไม่นานเฟรินคงเสร็จคาโล (เหอ..เหอ...) เพราะดูเหมือนน้ำแข็งจะเริ่มแตกกระจุย  เหตุคงเป็นเพราะผู้หญิงที่
ทำตัวไม่เป็นหญิงกำลังหน้าแดงแจ๋เป็นกุลสตรีดูน่ารักในสายตาเจ้าน้ำแข็งไสราดเฮลบลูบอยเป็นอย่างยิ่ง  ขาของเขาเริ่มทำหน้าที่พาเจ้าร่าง
เยื้องกรายเข้าใกล้เจ้าหญิง(ปาก)หมา
    “อย่าเข้ามานะ! ไอ้วิปริต!”
    ดูเหมือนคนเขียนต้องการแกล้งคาโล  และช่วยเฟริน  อากาศใกล้ๆคนทั้งสองแยกตัวออกเหมือนเป็นห้วงมิติดำมืด  เสียงดัง
เปรี๊ยะ!ๆ เหมือนไฟฟ้าช็อตเรียกให้คาโลและเฟรินหันไปมอง (เย้! สวรรค์ทรงโปรด เฟริน) 
    อะไรบางอย่างร่วงลงมาจากหลุมมืด  อะไรบางอย่างที่โปร่งใสเกินกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต  และก็ดูเหมือนว่าเฟรินถูกคนเขียนแกล้ง 
เจ้าตัวร้องว้ากวิ่งไปหลบหลังไอ้คนตัวโตกว่า  ทั้งๆที่เมื่อกี้มันยังสั่งห้ามไม่ให้เขาเข้ามา 
    อะไรล่ะที่ทำให้คนอย่างเฟริน  เดอเบอโรว์กลัวได้....
    หากไม่ใช่....
    ผี! ตอนกลางวันแสกๆด้วย!!!
    “อะว้ากกกกกกกกกก!!!! ไอ้คาโล  ไล่มันไปเด้!!!!!!!!!”
    พลันเจ้าเม็ดประหลาดส่องแสงประกายเสมือนดาวที่ผลุบออกมาตามเจ้าวิญญาณก็ลอยพลิ้วรอบๆวิญญาณที่หลุดออกมา  ก่อน
วิญญาณที่ทำให้เฟรินกลัวจะหายไป  เจ้าประกายดาวนั้นลอยมาหาเฟรินเหมือนอยากถามว่าเป็นอะไรมั้ย  แล้วเฟรินก็บ้าจี้ตามส่ายหัววืดยืนยัน
ว่าไม่เป็นอะไร
    เจ้าตัวส่องประกายลอยไปลอยมาอย่างลิงโลด  เหมือนจะพยายามให้เฟรินดีใจ  แต่แล้วเสียงเรียกหนึ่งก็เรียกให้เจ้าตัวส่อง
ประกายเข้าไปใกล้หลุมดำนั้นที่ยังไม่หายไป 
    “มาทางนี้เมย์เมย์”
    คาโลและเฟรินหันไปตามเสียงหวานที่ดังออกมาจากหลุมมืด  ก่อนที่แม่ตัวยุ่งจะหวีดร้องหลบหลังคาโลอีกครั้ง  เพราะแขนหนึ่ง
ลอดผ่านออกมาจากหลุมมิติ
    คาโลขบขันท่าทีของเฟรินแว้บหนึ่ง  แล้วเอ่ยวาจากลั้วหัวเราะที่ทำให้คุณเธอถอนหายใจออกมา
    “เฟริน....  คน”
    ใช่....  คน
    สาวน้อยผู้ครอบครองเรือนร่างที่งามพร้อมในชุดสีดำสนิทเหมือนการไว้ทุกข์ก้าวออกมาจากหลุมดำมืด  หล่อนใช้เสียงใสกิ๊งราว
ระฆังแก้วเรียกเมย์เมย์หรือเจ้าตัวประกายดาวอีกครั้ง 
    “เมย์เมย์”  เมื่อเจ้าตัวคล้ายดาวหายเข้าไปในเสื้อของหล่อน  สาวปริศนาก็เอ่ยชมเจ้าวิญญาณดาว “ทำดีมากเมย์เมย์  สมกับเป็น
วิญญาณดัดแปลงของฉัน”
    “วิญญาณ...ดัดแปลง...”  คาโลทวนคำอย่างไม่เชื่อหู “เจ้าสิ่งนั้นควรเป็นของผู้ปกครองโลกแห่งวิญญาณนี่นา”
    เด็กสาวปริศนาเบือนสายตามามองคนทั้งสอง 
    “มนุษย์ ?”
                ****************************************
    คาโลตัดสินใจ(จำใจ)พาเด็กสาวประหลาดที่ยิ้มตลอด  ยิ้มเหมือนดีใจอะไรบางอย่าง  ไปหาท่านมหาปราชญ์เลโมธี  เนื่องจาก
เด็กสาวตรงหน้าพอทำให้หลุมหายไป  เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมกลับ  บอกว่าหนีออกจากบ้านมา  ขอพักอยู่ด้วยซักแป๊ป 
                หลังจากเดินเข้าปราสาทเอดินเบิร์กมาซักพัก  เสียงหนึ่งก็พูดขึ้น
    “เธอน่ะชื่ออะไร”
    น่าแปลกที่สำหรับเฟริน  สาวสวยขนาดนี้มันน่าจะถาม  แต่ไอ้คนพูดดันเป็นเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่ทนรำคาญไม่ได้  ทั้งแม่ตัวยุ่ง
ที่เกาะเขาหนึบ  ทั้งแม่สาวประหลาดที่คอยชี้มือชี้ไม้ถามโน่นถามนี่ตลอด
    “เอเรน...  เอเรน  สปิเรีย”
    เสียงหวานใสตอบ 
    คาโลพยักหน้า  ก่อนมองด้วยสายตารำคาญไปที่แม่ยอดยุ่งเจ้าหัวใจของเขา  เฟรินเกาะหนึบไม่ปล่อยด้วยตรีนตุ๊กแก...
    เกาะหนึบ?  ทำไมล่ะ?
    “จ้ากกกกกกกก!!!! ยัยบ้า! เอามันออกไป!”
    วิญญาณคนตายจากแม่เอเรนลอยข้ามหัวเงินๆไปแกล้งหยอกล้อกับคนหัวน้ำตาลฝั่งโน้น  เมื่อแม่สาวน้อยมาใหม่รับรู้จาก
วิญญาณดัดแปลงเมย์เมย์ว่ายัยนี่กลัวผี  แม่คุณเธอเลยได้ทีขี่แพะไล่  เอาผีออกมาจากโลกหลังความตายมาหลอกเฟรินเป็นว่าเล่น 
    “ฮือ...”  เฟรินเริ่มร้องไห้น้ำตาเล็ดจนคาโลเริ่มสงสัยว่าเรื่องมันจะป่วนก็งานนี้
    ก๊อกๆๆ
    “เชิญ”
    คาโลเปิดประตูเข้าไป  พบท่านมหาปราชญ์เลโมธีอยู่ ณ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร
    “ท่านเลโมธี  คือว่า....”
    “ข้ารู้  ท่านเจ้าชายคาโล  ข้าเห็น”  ปราชญ์แก่ชราขัด
    “แล้วท่านจะว่าอย่างไร” 
    เลโมธี ยันตัวออกจากที่นั่งก่อนเดินไปสบสายตากับเด็กสาวผู้มาใหม่ 
    “คิดว่าจะไม่ทำให้เดือดร้อนรึ  เอเรน”
    “เอาน่า!!เลโมตี้จัง”เอรนตอบเลโมตี้เสียงใสประดุจเด็กวัยเล่นซนทั่วไป  จนเลโมธีส่ายหัว
    “ไม่ได้เจอเจ้านาน โตแล้วสวยเหมือนแม่เลยนะ” 
    เด็กสาวยิ้มรับ  นัยน์ตาของเจ้าหล่อนมีแววระริกระรี้ดีใจ
    “เอาเถอะ...” ท่านมหาปราชญ์เดินกลับไปที่โต๊ะ  “เจ้าคงขออนุญาตท่านพ่อมาแล้วสิ  ถึงมาได้”
    พอถึงตรงนี้  สาวน้อยเริ่มอึกอัก  พยักหน้ารับไป  คาโลที่จะบอกมหาปราชญ์ว่าแม่คุณหนีออกจากบ้านก็โดนเฟรินหักเหความ
สนใจไปจนลืมหมดสิ้น
    “งั้นเจ้าชายคาโล  ท่านก็พาเอเรนไปที่ป้อมอัศวินละกัน  ไปที่อื่นเดี๋ยวยุ่ง” เลโมธียกมือโบกไล่ไป “ถ้ามีปัญหาก็บอก”
    ปึง...
    ทันทีที่ประตูห้องปิดลง  มหาปราชญ์ก็ควานหาของในกระเป๋าเสื้อ...ก่อนจะโมโหปิดหนังสือกระแทกปัง
    “เอเรน! นี่เจ้าเอาเกมส์บอยข้าไปรึ!”
    ************************************************
    “นี่หรอป้อมอัศวิน” สาวน้อยคนรู้จักของมหาปราชญ์โดแหย่งๆ หน้าลานตะวัน  ก่อนหยุดกึกเพราะนึกอะไรขึ้นได้  “จริงสิ  คุณชื่อ
อะไรกันน่ะ”
    คำถามถูกส่งมาหาเฟรินพร้อมผีซอมบี้ 
    “จ้ากกกกกกกกกก!!!!!!!!!!” เฟรินเผ่นป่าราบเข้าป้อมไปโดยไม่ตอบ  ลำบากเจ้าชายคาโลต้องตอบแทน
    “ฉันคาโลยัยนั่นเฟลิโอน่า  ถ้าอยากอยู่ก็รีบเดิน  ไม่งั้นฉันจะพาไปส่งมหาปราชญ์”
    เอเรนเบ้หน้า  ก่อนเดินตามเจ้าชายแห่งคาโนวาลไป
                   
              ************************************************
              ฟิคนี้เป็นเรื่องของเฟรินและคาโล + เจ้าหญิงและนักบวชฮะ      เด๋วมาอัพต่อ  ไปแย้ว
    ความเงียบเข้าครอบคลุมบริเวณห้องอาหารขึ้นชื่อของป้อมอัศวิน  เมื่อดาบเรียวยาวของนักบวชแห่งกิลดิเรกทาบอยู่บนลำคองามระหงส์  แม้แต่เจ้าตัวยุ่งเฟรินที่แหกปากร้องลั่นเมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะนิ่งไปอึดใจ  สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังเด็กสาวที่เข้าปะทะลองดีกับนักบวชพูดน้อยแห่งป้อม
    บุรุษผู้ลงมือจ้องสาวน้อยตรงหน้าเขม็ง  ก่อนเอ่ยวาจาที่เค้นออกมา
    “คลายมนตร์ของเธอซะ”
    เด็กสาวใจกล้ามองผู้ไม่ประสงค์ดีตรงหน้า  ริมฝีปากอิ่มเอิบ  น่ารักน่าชังไร้ถ้อยคำใดสนองความต้องการของบุรุษ  ใบหน้านวลผ่องใสยังคงมีรอยยิ้มกวนอารมณ์ของนักบวช 
    วิญญาณร้ายภายใต้อาณัติของเจ้าหล่อนเคลื่อนกายมาหาผู้เป็นนาย
    วิญญาณ???
    ใช่...
    เธอ....เด็กสาวผู้มาพร้อมกับวิญญาณ...
    ***********************************************************
    ย้อนหลังไปก่อนหน้านี้ไม่เท่าไหร่....
    สายลมอ่อนพัดผ่านเบาๆ  นำพาความร่มเย็นมาสู่บุรุษผู้ยินยอมให้สตรีหนุนตักเพราะจำใจ  หากไม่ใช่แม่คนนี้  เขาคงไม่ได้มานั่งขาเหน็บกินอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่นี่หรอก! 
    “เฟริน...”
    เจ้าชายแห่งคาโนวาลเอ่ยด้วยความหนักอกหนักใจ  ก็แม่นี่เล่นนอนหลับอุตุมานานมากกว่าชั่วโมง โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เปลี่ยนอิริยาบถแม้แต่น้อย  อีกไม่นานเลือดคงไม่อาจไปส่งออกซิเจนให้ขาของเขา  และแน่นอน  ขามันได้เดี้ยงแน่...
    “เฟริน...”
    เรียกอีกครั้งสาวเจ้าก็ไม่ใคร่จะขยับตัวแม้แต่น้อย
    คาโลถอนหายใจเบา  มือขยับปิดหนังสือ  ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้าใกล้เจ้าหัวขโมยตัวยุ่ง 
    “...เฟริน...”
    แน่นิ่งสนิท...เหมือนคนตายก็ไม่ปาน...
    เจ้าของฉายาก้อนน้ำแข็งประจำป้อมโน้มใบหน้าเข้าใกล้ยิ่งไปอีก  จนปลายจมูกของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทั้งสองได้แนบชิดสัมผัสกันเรียบร้อย 
    เล่นขนาดนี้มันยังไม่ตื่น  หรือมันอยากให้เราเล่นหนักกว่านี้...
    ความคิดโผล่แวบเข้ามาในหัวเจ้าชายนักรักขั้นอนุบาลปุ๊บ  เจ้าริมฝีปากตัวดีก็ไม่รอช้า  ประกบเข้าหาริมฝีปากเชอร์รี่ที่แสนรักแสนหวงเป็นหนักหนา
    เจ้าหญิงผู้เพิ่งรู้ตัวว่าถูกเอาเปรียบลืมตาเบิกโผลง  แต่เมื่อม่านตาปรับประสาทเสร็จ  เจ้าคนที่ว่ามันก็เข้าไปนัวเนียที่ซอกคอของเธอแล้ว  เพียงแค่รู้สึกแม่คัวดีก็แหกปากร้องลั่นไม่เป็นภาษา
    “จ้ากกกกกกกกกกกก--- ไอ้งี่เง่าคาโล ออกไปนะเฟร้ยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”
    แรงมีอยู่แค่ไหน  เจ้าหล่อนเอาออกมาใช้หมด  เจ้าชายขวัญใจนักอ่านถึงได้กระเด็นกลิ้งหลุนๆออกไป  ผู้ถูกจู่โจมหน้าแดงเถือก  จ้องเขม็งไปยังไอ้เจ้าชายแห่งคาโนวาลอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
    เจ้าชายผู้ถูกประทุษร้ายแย้มรอยยิ้ม  ยิ้มที่เรียกความอายแก่อดีตหัวขโมยหนุ่มได้เป็นอย่างดี
    “ไม่ต้องมาเสื อกยิ้ม! ไอ้หื่น!”
    เมื่อเห็นท่าทีที่ลุกลน  คาโลก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้นไปอีก 
    “ก็นายปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเองนี่  ฉันก็เลย....”
    “หุบปาก!!!”
    คำร้องด่า(สั่งด้วย) ส่งมาพร้อมหนังสือของเขาข้างตัวหล่อน  สันหนังสือกระแทกที่ใบหน้าเป็นรอยริ้วๆ  น่ากลัวอยู่ไม่น้อย  จาก
สถานการณ์ในตอนนี้  คาดว่าอีกไม่นานเฟรินคงเสร็จคาโล (เหอ..เหอ...) เพราะดูเหมือนน้ำแข็งจะเริ่มแตกกระจุย  เหตุคงเป็นเพราะผู้หญิงที่
ทำตัวไม่เป็นหญิงกำลังหน้าแดงแจ๋เป็นกุลสตรีดูน่ารักในสายตาเจ้าน้ำแข็งไสราดเฮลบลูบอยเป็นอย่างยิ่ง  ขาของเขาเริ่มทำหน้าที่พาเจ้าร่าง
เยื้องกรายเข้าใกล้เจ้าหญิง(ปาก)หมา
    “อย่าเข้ามานะ! ไอ้วิปริต!”
    ดูเหมือนคนเขียนต้องการแกล้งคาโล  และช่วยเฟริน  อากาศใกล้ๆคนทั้งสองแยกตัวออกเหมือนเป็นห้วงมิติดำมืด  เสียงดัง
เปรี๊ยะ!ๆ เหมือนไฟฟ้าช็อตเรียกให้คาโลและเฟรินหันไปมอง (เย้! สวรรค์ทรงโปรด เฟริน) 
    อะไรบางอย่างร่วงลงมาจากหลุมมืด  อะไรบางอย่างที่โปร่งใสเกินกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต  และก็ดูเหมือนว่าเฟรินถูกคนเขียนแกล้ง 
เจ้าตัวร้องว้ากวิ่งไปหลบหลังไอ้คนตัวโตกว่า  ทั้งๆที่เมื่อกี้มันยังสั่งห้ามไม่ให้เขาเข้ามา 
    อะไรล่ะที่ทำให้คนอย่างเฟริน  เดอเบอโรว์กลัวได้....
    หากไม่ใช่....
    ผี! ตอนกลางวันแสกๆด้วย!!!
    “อะว้ากกกกกกกกกก!!!! ไอ้คาโล  ไล่มันไปเด้!!!!!!!!!”
    พลันเจ้าเม็ดประหลาดส่องแสงประกายเสมือนดาวที่ผลุบออกมาตามเจ้าวิญญาณก็ลอยพลิ้วรอบๆวิญญาณที่หลุดออกมา  ก่อน
วิญญาณที่ทำให้เฟรินกลัวจะหายไป  เจ้าประกายดาวนั้นลอยมาหาเฟรินเหมือนอยากถามว่าเป็นอะไรมั้ย  แล้วเฟรินก็บ้าจี้ตามส่ายหัววืดยืนยัน
ว่าไม่เป็นอะไร
    เจ้าตัวส่องประกายลอยไปลอยมาอย่างลิงโลด  เหมือนจะพยายามให้เฟรินดีใจ  แต่แล้วเสียงเรียกหนึ่งก็เรียกให้เจ้าตัวส่อง
ประกายเข้าไปใกล้หลุมดำนั้นที่ยังไม่หายไป 
    “มาทางนี้เมย์เมย์”
    คาโลและเฟรินหันไปตามเสียงหวานที่ดังออกมาจากหลุมมืด  ก่อนที่แม่ตัวยุ่งจะหวีดร้องหลบหลังคาโลอีกครั้ง  เพราะแขนหนึ่ง
ลอดผ่านออกมาจากหลุมมิติ
    คาโลขบขันท่าทีของเฟรินแว้บหนึ่ง  แล้วเอ่ยวาจากลั้วหัวเราะที่ทำให้คุณเธอถอนหายใจออกมา
    “เฟริน....  คน”
    ใช่....  คน
    สาวน้อยผู้ครอบครองเรือนร่างที่งามพร้อมในชุดสีดำสนิทเหมือนการไว้ทุกข์ก้าวออกมาจากหลุมดำมืด  หล่อนใช้เสียงใสกิ๊งราว
ระฆังแก้วเรียกเมย์เมย์หรือเจ้าตัวประกายดาวอีกครั้ง 
    “เมย์เมย์”  เมื่อเจ้าตัวคล้ายดาวหายเข้าไปในเสื้อของหล่อน  สาวปริศนาก็เอ่ยชมเจ้าวิญญาณดาว “ทำดีมากเมย์เมย์  สมกับเป็น
วิญญาณดัดแปลงของฉัน”
    “วิญญาณ...ดัดแปลง...”  คาโลทวนคำอย่างไม่เชื่อหู “เจ้าสิ่งนั้นควรเป็นของผู้ปกครองโลกแห่งวิญญาณนี่นา”
    เด็กสาวปริศนาเบือนสายตามามองคนทั้งสอง 
    “มนุษย์ ?”
                ****************************************
    คาโลตัดสินใจ(จำใจ)พาเด็กสาวประหลาดที่ยิ้มตลอด  ยิ้มเหมือนดีใจอะไรบางอย่าง  ไปหาท่านมหาปราชญ์เลโมธี  เนื่องจาก
เด็กสาวตรงหน้าพอทำให้หลุมหายไป  เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมกลับ  บอกว่าหนีออกจากบ้านมา  ขอพักอยู่ด้วยซักแป๊ป 
                หลังจากเดินเข้าปราสาทเอดินเบิร์กมาซักพัก  เสียงหนึ่งก็พูดขึ้น
    “เธอน่ะชื่ออะไร”
    น่าแปลกที่สำหรับเฟริน  สาวสวยขนาดนี้มันน่าจะถาม  แต่ไอ้คนพูดดันเป็นเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่ทนรำคาญไม่ได้  ทั้งแม่ตัวยุ่ง
ที่เกาะเขาหนึบ  ทั้งแม่สาวประหลาดที่คอยชี้มือชี้ไม้ถามโน่นถามนี่ตลอด
    “เอเรน...  เอเรน  สปิเรีย”
    เสียงหวานใสตอบ 
    คาโลพยักหน้า  ก่อนมองด้วยสายตารำคาญไปที่แม่ยอดยุ่งเจ้าหัวใจของเขา  เฟรินเกาะหนึบไม่ปล่อยด้วยตรีนตุ๊กแก...
    เกาะหนึบ?  ทำไมล่ะ?
    “จ้ากกกกกกกก!!!! ยัยบ้า! เอามันออกไป!”
    วิญญาณคนตายจากแม่เอเรนลอยข้ามหัวเงินๆไปแกล้งหยอกล้อกับคนหัวน้ำตาลฝั่งโน้น  เมื่อแม่สาวน้อยมาใหม่รับรู้จาก
วิญญาณดัดแปลงเมย์เมย์ว่ายัยนี่กลัวผี  แม่คุณเธอเลยได้ทีขี่แพะไล่  เอาผีออกมาจากโลกหลังความตายมาหลอกเฟรินเป็นว่าเล่น 
    “ฮือ...”  เฟรินเริ่มร้องไห้น้ำตาเล็ดจนคาโลเริ่มสงสัยว่าเรื่องมันจะป่วนก็งานนี้
    ก๊อกๆๆ
    “เชิญ”
    คาโลเปิดประตูเข้าไป  พบท่านมหาปราชญ์เลโมธีอยู่ ณ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร
    “ท่านเลโมธี  คือว่า....”
    “ข้ารู้  ท่านเจ้าชายคาโล  ข้าเห็น”  ปราชญ์แก่ชราขัด
    “แล้วท่านจะว่าอย่างไร” 
    เลโมธี ยันตัวออกจากที่นั่งก่อนเดินไปสบสายตากับเด็กสาวผู้มาใหม่ 
    “คิดว่าจะไม่ทำให้เดือดร้อนรึ  เอเรน”
    “เอาน่า!!เลโมตี้จัง”เอรนตอบเลโมตี้เสียงใสประดุจเด็กวัยเล่นซนทั่วไป  จนเลโมธีส่ายหัว
    “ไม่ได้เจอเจ้านาน โตแล้วสวยเหมือนแม่เลยนะ” 
    เด็กสาวยิ้มรับ  นัยน์ตาของเจ้าหล่อนมีแววระริกระรี้ดีใจ
    “เอาเถอะ...” ท่านมหาปราชญ์เดินกลับไปที่โต๊ะ  “เจ้าคงขออนุญาตท่านพ่อมาแล้วสิ  ถึงมาได้”
    พอถึงตรงนี้  สาวน้อยเริ่มอึกอัก  พยักหน้ารับไป  คาโลที่จะบอกมหาปราชญ์ว่าแม่คุณหนีออกจากบ้านก็โดนเฟรินหักเหความ
สนใจไปจนลืมหมดสิ้น
    “งั้นเจ้าชายคาโล  ท่านก็พาเอเรนไปที่ป้อมอัศวินละกัน  ไปที่อื่นเดี๋ยวยุ่ง” เลโมธียกมือโบกไล่ไป “ถ้ามีปัญหาก็บอก”
    ปึง...
    ทันทีที่ประตูห้องปิดลง  มหาปราชญ์ก็ควานหาของในกระเป๋าเสื้อ...ก่อนจะโมโหปิดหนังสือกระแทกปัง
    “เอเรน! นี่เจ้าเอาเกมส์บอยข้าไปรึ!”
    ************************************************
    “นี่หรอป้อมอัศวิน” สาวน้อยคนรู้จักของมหาปราชญ์โดแหย่งๆ หน้าลานตะวัน  ก่อนหยุดกึกเพราะนึกอะไรขึ้นได้  “จริงสิ  คุณชื่อ
อะไรกันน่ะ”
    คำถามถูกส่งมาหาเฟรินพร้อมผีซอมบี้ 
    “จ้ากกกกกกกกกก!!!!!!!!!!” เฟรินเผ่นป่าราบเข้าป้อมไปโดยไม่ตอบ  ลำบากเจ้าชายคาโลต้องตอบแทน
    “ฉันคาโลยัยนั่นเฟลิโอน่า  ถ้าอยากอยู่ก็รีบเดิน  ไม่งั้นฉันจะพาไปส่งมหาปราชญ์”
    เอเรนเบ้หน้า  ก่อนเดินตามเจ้าชายแห่งคาโนวาลไป
                   
              ************************************************
              ฟิคนี้เป็นเรื่องของเฟรินและคาโล + เจ้าหญิงและนักบวชฮะ      เด๋วมาอัพต่อ  ไปแย้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น