ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทหารไทยตะลุยในต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #7 : การติดต่อค้าขาย

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 64


    เมืองหลวงของอาณาจักรโทปา

    "ว-ว่ายังไงนะ มีพวกโจรมาบุกที่เมืองชายแดนอย่างงั้นเหรอ!!!"พระราชา

    "ไม่น่าเชื่อ"ขุนนาง/แม่ทัพ

    พระราชารวมถึงขุนนางและแม่ทัพที่ได้ยินสารจากวิทยุเวทย์มนต์ถึงกับทรุดเมื่อรู้ว่าได้มีโจรบุกมาที่เมืองชายแดนซึ่งเป็นเมืองเศษรฐกิจที่สำคัญของอาณาจักร

    "ข-ขอรับตอนนี้ที่นั่น
    กำลังวุ่นวายมากๆเลยครับ ทหารที่นั่นต่างปกป้องกันสุดชีวิตแต่เนื่องจากอีกฝ่ายมีปืนคาบศิลากับปืนเวทย์มนต์ จึงทำให้ทหารฝ่ายเราเกิดการบาดเจ็บและสูญเสียกันไปเป็นจำนวนมากครับ!!"

    "รีบส่งกองทัพเข้าไปช่วยซะ!!?"พระราชา

    "ขอรับ-

    ปึ้ง!!

    ระหว่างที่ภายในห้องประชุมกำลังวุ่นวายอยู่นั้นจู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก ซึ่งบุคคลที่เข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นลอเลีย ผู้บัญชาการของเมืองชายแดน

    "ทำความเคารพผู้บัญชาการลอเลีย!!!"

    ทหารที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็ทำความ
    เคารพลอเลีอ

    "ผู้บัญชาการลอเลียทำไมคุณถึงมาที่นี่-
    ไม่ใช่สิทำไมคุณถึงมาที่เมืองหลวงได้เร็วขนาดนี้!!!"

    นายพลเผ่ามนุษย์สิงโตที่นั่งอยู่ที่โต๊ะได้
    ถามลอเลียที่เป็นเผ่าเอลฟ์ด้วยความสงสัย

    "ข้ามาด้วยม้าเหล็กของเผ่าๆหนึ่งและตอนนี้ไม่จำเป็นต้องส่งกองทัพไปแล้วค่ะ"ลอเลีย

    "ไม่ต้องไปงั้นเหรอ ขอถามเหตุผลหน่อยสิ!!"นายพล

    นายพลตวาดใส่ลอเลียไปด้วยความโมโห

    "เพราะว่าเมืองที่ข้าอยู่ได้ถูกช่วยเหลือจากเผ่าพันธุ์ที่พวกท่านคิดว่าเป็นไปไม่ได้น่ะสิ"ลอเลีย

    "เผ่าพันธุ์ที่่เป็นไปไม่ได้งั้นเหรอ แล้วมันเป็นเผ่าไหนล่ะ มังกรงั้นเหรอ!!?"นายพล

    "เผ่ามนุษย์ค่ะ"ลิเลีย

    เสียงในห้องประชุม ได้เงียบลงจนบรรยากาศเริ่มอึมครึม ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะของคนในห้อง

    "ฮ่าๆๆๆ เป็นถึงผู้บัญชาการแท้ๆ แต่คุณกลับมาล้อเล่นพวกเราเนี่ยนะ!!"นายพล

    "ใช่ๆ นึกว่าจะมาพูดอะไรที่แท้ก็แค่จะมาเล่านิทานหรือยังไงกัน!!"ขุนนาง

    ทุกคนในห้องยกเว้นพระราชา ต่างพูดถากถางใส่ลอเลียด้วยความตลก ส่วนลอเลียนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

    "เอาล่ะ คุณกลับไปซะก่อนที่จะทำให้ผมโมโหไปมากกว่านี้-

    "ไม่ทราบว่าทุกท่านหัวเราะเรื่องอะไรหรือครับ"


    ทันใดนั้นก็มีชายชุดเขียวลายพราง2คนเข้ามาในห้องโดยที่ทั้งคู่ยังสวมหน้ากากกันแก๊สอยู่ 

    "ค-ใครกัน!!"นายพล

    นายพลรวมถึงทุกคนในห้อง ต่างก็ตกใจกับบุคคลที่เดินเข้ามาในห้องประชุมอย่างหน้าตาเฉย

    "ทุกคนคะ นี่คือเผ่ามนุษย์ที่ข้าพูดถึง"ลอเลีย

    พูดจบชายชุดเขียว2คนก็ถอดหน้ากากกันแก๊สออก เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่เคยปรากฎอยู่บนโลกนี้เมื่อนานแสนนานมาแล้ว ส่วนขุนนางและพระราชาที่อยู่ในห้องประชุม เมื่อได้เห็นใบหน้านั้นถึงกับตกใจกับใบหน้าที่พวกเขาคุ้นเคยมานานแสนนาน

    "ป-เป็นไปไม่ได้ ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเผ่ามนุษย์ได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วนิ ท-ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้!!!"

    ขุนนางที่เป็นเอลฟ์นั้นถึงกับสบถออกมาด้วยความตกใจกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า

    "ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่านี่เป็นอีกครั้งที่ข้าจะได้เห็นมนุษย์อีกนับตั้งแต่ตอนนั้น"

    เสียงนั่นได้ทำให้ทั้งหมดได้หันไปทางเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพระชาที่เป็นเผ่าคนแคระที่มีอายุมากที่สุด และมีชีวิตอยู่ในยุคสมัยที่เผ่ามนุษย์ยังไม่ล่มสลาย

    "ท-ท่านราชา-

    "ไม่ต้องพูด ข้าจะเป็นคนพูดแทนเอง"

    พระราชาได้ลุกขึ้นมาจากโต๊ะนั่งพร้อมกับเดินไปหาชายชุดเขียว2คนที่ยืนอยู่ข้างหลังลอเลีย

    "ข้าขอโทษพวกท่านจริงๆที่ตอนนั้นไม่ได้ช่วยพวกเผ่าพนัธุ์พวกคุณไว้จากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์!"

    ราชาเริ่มน้ำตาไหลออกมา ภายในความาทรงจำของราชา เมื่อตอนยังเด็กเขาเคยมีเพื่อนที่เป็นมนุษย์อยู่5คนเมื่อสมัยที่เผ่ามนุษย์ยังไม่ถูกฆ่าล้างบาง ก่อนที่ฆ่าจะตัดไปที่เพื่อนของราชาได้ถูกเผ่าอื่นไล่รุมฆ่าอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับมนุษย์คนอื่นๆที่ได้ทยอยตายกันไปทีละคนๆตรงหน้าโดยที่ราชาคนนี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

    "บ-บ้าน่า ท่านราชาร้องไห้!!"


    เหล่าขุนนางและเหล่าแม่ทัพที่อยู่ในนั้นถึงกับตกใจกับการกระทำของราชา ยกเว้นขุนนางเผ่าเอลฟ์คนนั้นที่เคยผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายพร้อมดับราชาของตนมาก่อน จึงทำให้เขาเข้าใจดีกับการกระทำของพระราชา

    "ท่านราชาครับ ทำไมถึงท่านร้องไห้-

    "เงียบซะ!!!"

    ราชาตวาดใส่เหล่าขุนนางและแม่ทัพที่พูดออกมาด้วยความร้อนลน ก่อนที่ทั้งหมดจะเงียบตามที่ราชาคนนั้นพูด

    "แล้วพวกท่านเผ่ามนุษย์ที่มาที่แห่งนี้ จุดประสงค์ของพวกท่านต้องการอะไรงั้นหรือ?"

    ราชาได้ถามชายชุดเขียวที่อยุ่ตรงหน้า แต่ลอเลียที่เป็นผู้บัญชาการเมืองชายแดน ได้เข้ามาพูดแทนให้กับพวกเขาทั้งสอง พร้อมกับยื่นเอกสารราชการไปให้

    "อืม แบบนี้เองสินะ พวกท่านต้องการทำการค้ากับพวกเรางั้นสินะ"ราชา

    "ใช่ครับ พวกเรามาเพื่อสิ่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ไม่ดีต่อพวกท่านแน่นอน"ชายชุดเขียว

    "แล้ว ของที่พวกท่านจะใช้เเลกเปลี่ยนล่ะ"ราชา

    "เนื่องจากว่าตอนที่พวกเราได้คุยกับคุณลอเลียที่เมืองชายแดน พวกเราได้ทำการขอซื้ออาหารจำนวน10ล้านตันไว้"ชายชุดเขียว

    "สะสิบล้านตัน!!"

    เหล่าขุนนางและแม่ทัพ ต่างก็ตกใจกับจำนวนที่มากมายของอาหารที่ต้องการซื้อเพราะการที่จะไปขนาดนั้นต้องใช้ม้าและเกวียนเป็นจำนวนมากในการขนส่งมัน

    "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ พวกเราจะสร้างสาธารณูปโภคให้แลกกับการซื้ออาหารเป็นไงครับ"ชายชุดเขียว


    "สาธารณูปโภคงั้นเหรอ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลย แต่ว่าข้ารู้มาก่อนว่าวิทยาการของมนุษย์นั้นมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และนี่ถือว่าเป็นการดีเลยตอนที่ข้าเห็นเมื่อตอนยังเด็ก ข้าก็ได้ทึ่งไปกับมันและได้แต่ฝันว่าซักวันหนึ่งข้าต้องสร้างสิ่งที่ก้าวข้ามเวทย์มนต์เหมือนกับเผ่ามนุษย์ให้ได้ ต่อให้ถึงแม้จะถูกห้ามเกี่ยวกับเรื่องนี่ก็ตาม"ราชา

    จากนั้นราชาก็ได้ยื่นมือเข้ามาจับมือกับชายชุดเขียว

    "ได้ ข้าอนุญาต"ราชา

    หลังจากนั้นทั้งสองดินแดนก็ได้เริ่มทำการค้าขายทันทีโดยแลกกับระบบสาธรณูปโภคและวิทยาการทางทหารบางส่วนที่สามารถเผยแพร่ได้โดยที่ราชาเชื่อว่าจะทำให้ประเทศของตัวเองสามารถต่อกรกับจักรวรรดิ์พาร์ลอวในอนาคตได้

    ______________________________________
    ตอนต่อไป สงครามที่ใกล้เริ่ม

    นิยานเรื่องนี้ผมจะเน้นเล่าหลายมุมมอง หลายบุคคลนะครับ เพราะจะสามารถดระจายบทได้หลากหลายกว่าเน้นตัวละครตัวนั้นมากเกินไป




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×