ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    History of England

    ลำดับตอนที่ #3 : อรุณรุ่งแห่งชาวเซลต์ ตอนที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 446
      0
      3 ต.ค. 47

    ชนยุคแรกบนเกาะอังกฤษเป็นพวกเร่ร่อน ล่าสัตว์และเก็บหาของป่าเลี้ยงชีวิต ประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาลมนุษย์ในยุคหินขัดเดินทางข้ามมาจากยุโรป โดยอพยพมาจากคาบสมุทรไอบีเรียหรือสเปนในปัจจุบัน คนเหล่านี้รู้จักเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูก โดยปรากฏเนินฝังศพขนาดใหญ่ของชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่พบในแถบพื้นที่ซึ่งเป็นหินปูนในมณฑลวิลต์เชอร์



        แต่ประจักษ์พยานอันน่าทึ่งกว่าก็คือการตั้งหมู่หินเพื่อเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง โดยเฉพาะสโตนเฮนจ์ก้อนหินขนาดมหึมาที่ตั้งเป็นหมู่ในวิลต์เซอร์นั้นสร้างขึ้นมานานไม่ต่ำกว่า 2000ปีก่อนคริสตกาล จุดประสงค์ในการสร้างยังคงมืดมน แต่น่าจะมีความสำคัญในแง่ศาสนาหรือการเมือง การขนหินสีน้ำเงินส่วนหนึ่งมาจากเวลส์ชวนให้คิดว่าผู้สร้างต้องทรงอำนาจยิ่งใหญ่ ม้ตำนานจะระบุว่าพวกดรูอิด ซึ่งเป็นนักบวชชาวเซลต์ ได้ประกอบพิธีกรรมที่นี่ แต่ก็มาถึงทีหลังการสร้างสโตนเฮนจ์นานมาก พวกดรูอิดจะชุมนุมกันในป่าละเมาะศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมักอยู่ใกล้น้ำ อันหมายถึงความอุดมสมบูรณ์และมีหลักฐานว่าดรูอิดนำมนุษย์มาบูชายัน



        พวกบีเกอร์อพยพจากยุโรปมายังเกาะอังกฤษในช่วงใกล้เคียงกับการสร้างสโตนเฮนจ์ พวกบีเกอร์ซึ่งเป็นชื่อเรียกภายหลังจากการขุดพบถ้วยน้ำดินเผาประดับลวดลายอยู่ในหลุมฝังศพ รู้จักทำเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือสำริด และมีธรรมเนียมฝังศพคนตายโดยยกฝัง สร้างสังคมกสิกรรม และป้อมปราการบนเนินเขา ป้อมที่ปราสาทเมเด็นในดอร์เซ็ตเป็นสถาปัตยกรรมสวยที่สุดแห่งหนึ่งของชนเผ่านี้



        ผู้อพบพรุ่นต่อมาคือพวกเซลต์จากยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง โดยเริ่มอพบพเข้ามาในราว 700 ปีก่อนคริสตกาล และทยอยกันมาไม่ขาดสายกระทั่งพวกโรมันเขามา อาจเพราะพวกเซลต์เป็นช่ายตีเหล็กจึงสามารถสร้างอาวุธที่มีประสิทธิภาพดีกว่าชนเผ่าอื่นจนทำให้มีฐานะเป็นผู้ปกครอง วิถีชีวิตของชุมชนชาวเซลต์นั้นซัลซ้อน พวกเขารู้จักระบายน้ำออกจากหนองบึง การสร้างบ้านด้วยไม้ เครื่องสาน แล้วฉาบโคลนเพื่อกันน้ำซึม ชนเผ่าเซลต์เป็นบรรพบุรุษของชาวสก็อตในแถบภูเขาสูง ชาวไอริช และชาวเวลส์ อีกทั้งภาษายังเป็นต้นกำเนดของภาษาเวลช์และเกลิกอีกด้วย



        ชาวเซลต์ฝากมรดกงานโลหะอันงดงามตื่นตาไว้แก่ชาวโลก บางชื้นสร้างเป็นเครื่องประดับ และบางชิ้นมีความสำคัญทางศาสนา ซึ่งจะหาชมได้ที่บริติช มิวเซียมในกรุงลอนดอน



        นอกจากนั้นชาวเซลต์ยังได้จารึกวีรกรรมของราชินีโบอาดิเซียหรือบูดิกคาแห่งอาณาจักรไอซีไน ซึ่งปัจจุบันก็คือมณฑลอีสต์แองเกลียไว้ในประวัติศาสตร์ด้วยในค.ศ.61 พระนางผู้มีเกศาสีแดง วรกายสูงน่าเกรงขามพร้อมเหล่านักรบสตรีทำสงครามขับไล่พวกโรมันและทำลายกรุงลอดดินุมได้สำเร็จ ทว่าในที่สุดก็ทรงปราชัยแต่พวกโรมันก็ได้กล่าวขวัญถึงความกล้าหาญนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×