ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Flowers caramel หนุ่มหน้าใสหัวใจคาราเมล

    ลำดับตอนที่ #9 : พอกันทีเรื่องของเรา

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 47




        “สวัสดีจ๊ะ” ป้ามิเชลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาทักทายตามมารยาทของชนชาวอังกฤษ

        “สวัสดีครับ.....”

        “คือ....เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม” มิเชลถาม

        “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นไร ผมสบายดี” เขายกกระถางออกมาจากในร้านออกมาตั้งนอกร้าน

        “ป้าเสียใจนะ เหตุการณ์เมื่อวานนี้”

        “ครับ ผมทราบดี” เขาพูดสั้นๆ

        “นี่.....จดหมายจากคุณหนู ท่านฝากมาให้”

        “งั้นเหรอครับ มันคงไม่จำเป็นสำหรับผมแล้วละมั้ง” เขาหยุดและมองไปที่มือของป้ามิเชล

        “สำคัญซิ รับไว้เถอะ.....เชื่อป้า”



        เขาหยุดสายตายังคงจ้องมองมาที่มือของมิเชลอย่างไม่ลดละ เขายืนคิดและตัดสินใจอยู่นานสองนาน

        “ครับ.....” สุดท้ายเขาก็รับจดหมายจากเธอ



        เขากลับมานั่งที่โต๊ะทำงานในร้านดอกไม้ เขาหยิบซองสีชมพูที่เป็นซองจดหมายของโรส นำมาและเปิดซองออก ข้างในมีกระดาษสีครีมอยู่ด้านใน มีข้อความเล็กๆที่ไม่ยาวมากนัก เขียนไว้ว่า



        



    โจอี้ คือ.....ฉันขอโทษนะสำหรับอาหารมื้อค่ำ ฉันไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้ เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม โจอี้วันนี้มาพบฉันที่เดิมนะ ฉันอยากเจอเธอ



    โรส





    ผมขอโทษ.....ผมคงจะทำไม่ได้



    เวลาผ่านไปเหมือนฤดูที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มันคือมรสุม “เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม” คำพูดนี้มันก้องอยู่ในความนึกคิดของเขาตลอดเวลา เวลาก็ล่วงเลยและผ่านไป ในที่สุดเขาก็ปิดร้าน เรื่องที่นัดหมายเอาไว้ทุกอย่างสำหรับโรสก็ล้มเหลว



    “พี่โจอี้ค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ สีหน้าไม่ดีเลย” เลศถามขึ้นขณะที่นั่งดูพี่ชายเก็บของเข้าร้าน

    “ไม่เป็นไรจ๊ะ พี่โจอี้สบายดี ไหนวันนี้ทำอะไรให้พี่กินเหรอครับ”เขารีบทำสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ดวงตาของเขาซิ มันซ่อนอะไรบางอย่างไว้โดยที่ไม่มีใครรู้นอกจากตัวของเขาเอง



    หลังอาหารมื้อค่ำ เขาเริ่มบรรจงเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ลงในสมุดไดอารี่ของเขา ความรู้สึกที่ถ่ายทอดลงไปในแต่ละตัวอักษร คืนที่ไร้แสงจันทร์และหมู่ดาว เขามองออกไปนอกหน้าต่างมีแต่ความเวิ้งว้างและว่างเปล่า แม้แต่สายลมเองก็ไร้สิ้นเสียงทั้งสิ้น ดวงตาที่หม่นหมองกับเรื่องราวในวันวาน มันเป็นอดีตสำหรับเขาไปแล้ว เขาตัดสินใจแล้วว่าจะลืมเธอ และก็จะลืมเธอให้จงได้

    ตลอดทั้งอาทิตย์ที่สองของเดือนเมษายน โจอี้ได้รับจดหมายจากโรสทุกๆวันจากป้ามิเชล แต่เขาไม่ตอบอะไรทั้งนั้นและเธอเองก็ไม่ลดละความพยายามที่จะส่งจดหมายไปหาเขาทั้งสิ้น ตราบใดที่เขาไม่ตอบและสนใจใยดีเธอ โรสก็ยังคงเขียนจดหมายถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้มันมีอะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด



    แต่แล้ววันหนึ่งจดหมายที่เขาเคยได้รับทุกๆเช้าจากป้ามิเชล วันนี้เขากลับไม่ได้จดหมายจากโรส โจอี้เริ่มเอะใจว่าทำไมวันนี้คุณป้าไม่มา คุณป้าคงจะไม่สบายมั้ง หนึ่งชั่วโมงแล้ว สองชั่วโมงก็แล้ว มิเชลก็ไม่มาสักที ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงวัน เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปหาโรสที่ทราฟัลการ์สแควร์



    เมื่อเขาไปถึง เขากลับไม่พบแม้แต่ร่องรอยของอุปกรณ์ของเธอ โจอี้เริ่มเดินไปรอบๆบริเวณน้ำพุที่ทำจากหินที่สร้างมานับร้อยปี แต่เขาก็ไม่พบกับใครทั้งสิ้นแต่แล้ว เขาก็พบกับหญิงสาวผู้หนึ่ง ที่กำลังเดินจากไปจากเขา เธอหันหลังให้กับเขา



    “โรส....โรส....” โจอี้ตะโกนแต่แล้ว เขาก็ยื่นมือไปทัก

    “ขอโทษครับ” เขาทักคนผิด



    เขากลับบ้านโดยที่เขารู้สึกว่า เขาผิดไปแล้วที่ทำกับโรสอย่างนั้น ทำยังไงเขาถึงจะถ่ายโทษเธอได้ โรสคงไม่อยากจะเจอกับเขาอีกแล้ว คุณป้ามิเชลเองก็ไม่มาที่ร้านดอกไม้เหมือนอย่างเคย วันเวลาผ่านไป หนึ่งวัน สองวัน สามวันก็แล้ว ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ป้ามิเชลก็ไม่มา



    “เฮ้อ.....” โจอี้หายใจดังเฮือกใหญ่ที่ห้องนั่งเล่น

    “เป็นอะไรไปเหรอหลาน” โจแอนแหวกผ้าม่านที่อยู่ติดกับห้องครัวออกมา

    “คุณย่า......”

    “มีเรื่องไม่สบายใจอย่างนั้นเหรอ สีหน้าไม่ค่อยจะดีเลย”โจแอนมานั่งข้างๆและโอบกอดหลาน

    “ก็นิดหน่อยครับ”

    “หญิงสาวคนนั้นเหรอ” โจแอนถามขึ้น

    “คุณย่าทราบเหรอครับ”

    “อืมใช่.....” โจแอนขยับแว่นและกล่าวต่อว่า “ย่ามีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟังนะ.......”



    “ตอนที่ย่ามีนัดครั้งแรกกับปู่นะ ย่าตื่นเต้นมากเลย และเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดเลยนะ เราไปสวนสาธารณะด้วยกัน แอบไปกันสองคนย่าทำอาหารกลางวันไปทานกับเขาส่วนเขาเองก็เอาจักรยานมารับย่า พอย่ากลับมาทวดรู้ว่าไปกับคุณปู่ ก็ไล่ตีปู่ใหญ่เลย”

    “ทำไมละครับ”

    “ก็ทวดของหลานหวงย่าจะตาย ย่าสวยนะจ๊ะสมัยที่ยังรุ่นๆอยู่ ปู่นะวิ่งหนีใหญ่เลยแต่สายตาของปู่ก็ยังหันมามองย่านะ” โจแอนยิ้ม

    “แล้วอะไรที่ทำให้คุณทวดยอมคุณปู่ละครับ”

    “เขาสองคนทะเลาะกันทุกวัน บางวันปู่ก็หัวแตกนะ เพราะทวดตีหัวเขา หาว่าปู่เจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ สุดท้ายเจ้าปู่ขี้ตื้อก็ตามตื้อจนทวดยอม”

    “จริงเหรอครับ.....”

    “จริงซิ......คราวนี้เข้าใจหรือยังว่าต้องทำยังไง” โจแอนมองหน้าเขาอย่างเอ็นดู

    “ครับ ผมทราบแล้วว่าผมต้องทำยังไง”



    เขาไม่รอช้าเมื่อพระอาทิตย์สัมผัสกับท้องฟ้า เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับเปิดร้านซึ่งเป็นหน้าที่ปรกติของเขาที่จะต้องออกมาเปิดร้านอยู่แล้ว วันนี้โจแอนตื่นเช้ากว่าปรกติ เธอนั่งอยู่ที่เครื่องคิดเงินอย่างเงียบๆและให้ของอะไรบางอย่างแก่โจอี้



        “ไปซิ.....เขาอาจจะรอหลานอยู่ก็ได้” โจแอนยื่นของบางอย่างให้กับเขา

        “เขาคงไม่อยากจะเจอผมแล้วมั้ง” เขาเบี่ยงบ่ายหน้าไปทางอื่น

        “เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยซิ” โจแอนให้กำลังใจเขาอีกครั้ง ในที่สุด

        “ครับ....ฝากร้านด้วยนะครับ”



        โจอี้ไม่รีรออะไรทั้งนั้น เขาวิ่งไปตามถนนอ๊อกฟอร์ดโดยไม่คิดเลยว่าเส้นทางที่เขาวิ่งนั้นมันไกลแค่ไหน เขานึกได้อีกทีก็คือเขาหยุดอยู่ที่อนุสาวรีย์นโปเลียนเรียบร้อยแล้ว เขาเริ่มค้นหาเธอท่ามกลางฝูงชนและนกอีกครั้ง และก็เหมือนเดิม ไม่มีวี่แววของเธอเหมือนอย่างที่เธอเคยสัญญาว่าเธอจะรออยู่ที่ทราฟัลการ์สแควด์



        ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น ผมจะรอโรสนะ รอที่นี่ รอจนกว่าคุณจะมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×