ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End of Peace

    ลำดับตอนที่ #3 : Deadly Shadow under the Sky

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 47


       Airforce One

       ประธานาธิบดี James Corwin แห่งสหรัฐกำลังนั่งยืนดูการทำงานของเหล่านายทหารด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อประมาณ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีรายงานเข้ามาว่าฐานทัพที่มีขีปนาวุธนิวเคลียร์ของโซเวียตได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลออกมานับร้อย ระบบป้องกันของประเทศนั้นทำงานได้ดีแต่ทำได้ไม่ทัน ขีปนาวุธได้พุ่งผ่านการป้องกันไปทำลายฐานขีปนาวุธที่ไม่ได้ตั้งตัวของอเมริกาจนราบหมด

       \"ท่านครับ สายของเรารายงานมาว่าพวกมันไม่เหลือหัวรบจากการโจมตีครั้งนี้ครับ\" เจ้าหน่าที่คนหนึ่งรายงานขึ้นมา

       \"เราคงเหลือวิธีเดียวเท่านั้นแล้วล่ะ\" ประธานาธิบดีพึมพำ \"การโจมตีด้วยกำลังทหารทั้งหมดที่มี\"

       \"เราควรเริ่มโจมตีฐานทัพเรือของพวกมันให้เร็วที่สุดนะครับ จากนั้นตามด้วยการส่งกำลังขึ้นบก\" นายพลคนหนึ่งกล่าวขึ้นทันที

       \"ดำเนินการแผนการแรกที่เราวางเอาไว้\" ประธานาธิบดีกล่าวสั้นๆแล้วเดินจากไป



       ศูนย์บัญชาการโซเวียต

       ประธานาธิบดียืนมองการประสานงานจากในฐานอย่างเงียบๆ ทหารต่างกรูกันไปมาตามที่ต่างๆ การโจมตีกลับของอเมริกานั้นเป็นที่คาดการณ์ไว้แล้ว ตอนนี้ฐานทัพทุกฐานอยู่ที่สถานะเตรียมพร้อมทำการรบเต็มที่ กล้องที่ติดไว้ตามฐานต่างๆส่งภาพทหารเตรียมทำการรบกลับมายังศูนย์แห่งนี้ ที่ลับแห่งนี้ถูกคุ้มกันอย่างหนาแน่น และเต็มไปด้วยนายทหารระดับสูง จากคำบอกเล่า ฐานแห่งนี้เคยถูกออกแบบให้กันระเบิดนิวเคลียร์ อาวุธเคมีและชีวภาพได้

       \"สายของเรารายงานว่าเครื่องบิน Stealth ของอเมริกาออกจากฐานบินใน LA แล้วครับ\" นายทหารคนหนึ่งรายงานขึ้น

       \"เตรียมกำลังทางอากาศทางตะวันออก สอยมันลงมาให้หมด\" ประธานาธิบดีสั่งด้วยเสียงเหี้ยมเกรียม

       \"สั่งฐาน Vladivostok 472 ให้ทำการส่งเครื่องขับไล่ออกไปลาดตระเวน\" พลอากาศเอกคนหนึ่งสั่งการต่อไป



       ฐานบิน Vladivostok 472 ครึ่งชั่วโมงต่อมา

       นายทหารคนหนึ่งวิ่งออกมาจากตึกที่พักทหารพร้อมชุดนักบินสวมมาอย่างรีบร้อน ดูได้จากซิปที่ยังไม่ได้รูดและหมวกที่ยังไม่ได้สวมให้เรียบร้อย ที่หน้าอกมีแถบชื่อปักไว้ว่า Thomas Voronin เครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดซึ่งคือ MiG-30 จอดรออยู่บนลานบิน หน่วยที่ได้ใช้มีเพียง 2 หน่วย หนึ่งในนั้นคือฝูงบิน Shershiyev ซึ่งนำโดย Voronin

       Voronin ปีนเข้าไปในห้องคนขับและค่อยๆติดเครื่องตามสัญญาณจากภาคพื้นดิน เสียงเครื่องยนต์ดงกระหึ่มแล้วเครื่องก็เริ่มแล่นออกไป ตามด้วยเครื่องรุ่นเดียวกันอีกหลายลำ เปลวไฟสีฟ้าเปล่งประกายจ้าจากไอพ่นเป็นแนวให้เห็นได้ชัดเจน แล้วเงาเครื่องบินก็ค่อยๆหายไปที่ขอบฟ้าสีส้มยามเย็น ทาบด้วยดวงอาทิตย์สีแดง



       \"พบอะไรบางอย่างทาง 3 นาฬิกาครับ\" นักบินลูกฝูงคนหนึ่งรายงานผ่านวิทยุเข้ามา

       \"เอาล่ะทุกคนเบนหัวไปทางทิศ 3 นาฬิกาแล้วเตรียมตัวให้พร้อม\" Voronin เอ่ยตอบกึ่งสั่งไป

       เครื่องบิน MiG-30 ลำแรกหันตัวเครื่องแล้วเลี้ยวไปทางขวา เครื่องบินลำอื่นหันตามไปอย่างรวดเร็ว เงาดำๆปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าแล้วค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆ มันคือเครื่องบินที่ราคาแพงที่สุดในโลก เครื่องบิน B3 Spirit นั่นเอง ด้วยตัวเครื่องที่แบนและวัสดุที่ใช้ในการสร้างทำให้เครื่อง B3 นี้ไม่สะท้อนคลื่นเรดาร์ จึงตรวจจับได้ยากมาก

       \"ทุกคน แปรขบวนโจมตีรูปแบบที่ 5\" Voronin สั่งแล้วบังคับเครื่องให้ช้าลงขณะที่ MiG ทั้งหมดเรียงกันเป็นแนวหน้ากระดาน

       ทันใดนั้นจรวดชุดแรกก็ยิงออกไป จรวดลูกแรกๆนั้นพลาดเป้าเนื่องจากระบบนำร่องไม่ทำงาน แต่ลูกหนึ่งก็ชนเข้าที่ปีกของเครื่อง B3 ลำหนึ่งอย่างจัง แรงระเบิดฉีกปีกขาดครึ่งในทันที การโจมตีด้วยจรวดนั้นได้ผลค่อนข้างต่ำ เครื่อง MiG-30 ทั้งหมดก็เปลี่ยนรูปขบวนเป็นตัว V โดยเครื่องของ Voronin อยู่ด้านหลัง เครื่องลำแรกๆกราดปืนกลออกไป กระสุนพุ่งออกไปเป็นสายเข้าหากลุ่มเครื่อง B3 เครื่องบินทิ้งระเบิดนั้นตกไปโดนยิงจนเละแล้วร่วงไป 2 ลำ แต่แล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เครื่องบินรบ F22 ของอเมริกาโผล่มาจากด้านล่างและสอย MiG-30 ไปด้วยจรวดชุดแรกถึง 4 ลำ MiG-30 เริ่มแปรขบวนอีกครั้งและเข้าโจมตี F22 แทน เปลวไฟวาบขึ้นกลางอากาศขณะที่การต่อสู้นั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆ นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×