ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End of Peace

    ลำดับตอนที่ #15 : Battlefield Hawaii

    • อัปเดตล่าสุด 23 ธ.ค. 47


       เสียงคลื่นซัดมากระทบกราบเรือดังมาเป็นจังหวะ แสงยามเย็นสาดส่องมาจากสุดขอบฟ้า ท้องฟ้าเป็นสีแดงฉานราวกับเลือดกำลังไหลรินลงมายังผืนนภาอันกว้างใหญ่ เรือรบหนักติดธงอเมริกาลอยลำนิ่งๆอยู่กลางทะเล ภายในหอบังคับการนั้นดูเหมือนจะวุ่นวายไปหมด ลูกเรือต่างพยายามเช็คแผงควบคุมต่างๆเพื่อยืนยันพิกัดของเรือขณะที่กัปตันและต้นเรือยืนอยู่ตรงกลาง พวกเขาทำแบบนี้มาเป็นชั่วโมงๆแล้ว

       “รอบที่ 3 ในสัปดาห์ ต้องมีใครซักคนยุ่งกับดาวเทียมแน่ๆเลย” นายทหารคนหนึ่งบ่นขึ้น

       “ก็คงจะใช่ล่ะนะ” เพื่อนนายทหารที่นั่งข้างๆตอบกลับไป

       กัปตันเดินมาดูลูกเรือทำงานอย่างเงียบๆ ในเวลานี้เรือกำลังมีปัญหากับการระบุพิกัดตัวเองที่แน่นอน มีอะไรบางอย่างรบกวนการนำร่องโดยใช้ดาวเทียมของเรือรบที่ล้ำยุคลำนี้ อะไรก็ตามนั้นได้เจาะเข้ามาในระบบนำร่องแล้วเปลี่ยนพิกัดในเวลาชั่วเสี้ยววินาที เมื่อเรือมาถึงจุดที่ควรจะเป็นเกาะกลับพบแต่ความว่างเปล่า ระบบสื่อสารด้วยดาวเทียมก็ถูกรบกวนไปด้วยเช่นกัน วิทยุก็คงไม่มีประโยชน์อะไรมากเพราะไม่มีเรือลำอื่นๆอยู่ใกล้ๆ แต่อย่างน้อยระบบอาวุธและระบบหลักส่วนอื่นยังทำงานได้ดี

       “กัปตันครับ” ลูกเรือประจำเรดาร์กล่าวขึ้น “มีวัตถุขนาดเล็กเพิ่งโผล่ขึ้นจากผิวน้ำและกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงจากทางกราบขวาครับ ด้วยความเร็วขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นขีปนาวุธครับ”

       กัปตันคว้ากล้องส่องทางไกลออกมาดูแต่ด้วยแสงสลัวๆอย่างนี้ทำให้เขาไม่เห็นอะไรนอกจากคลื่นน้ำที่กระเพื่อมเป็นจังหวะ เขาลดกล้องลงแล้วพยายามเพ่งดูด้วยตาเปล่าก็ไม่เห็นอะไร แต่แล้วเสียงระเบิดก็ดังสนั่นหวั่นไหวทางกราบขวา ประกายไฟวาบขึ้นสูง 3-4 เมตร เรือสั่นอย่างรุนแรง ต้นเรือรีบสั่งให้ทุกคนประจำสถานีรบอย่างเร่งด่วน ทหารเริ่มวิ่งไปมาตามชั้นต่างๆของเรือรบลำนี้

       “กัปตันครับ ตอร์ปิโด 2 ลูกจากกราบซ้ายเฉียง 45 องศา ระยะ 500 หลาครับ”

       “หักซ้ายเต็มตัว เตรียมรับแรงระเบิด” กัปตันสั่งอย่างรวดเร็ว “ใช้ Active SONAR* หาเรือดำน้ำ เร็วเข้า”

       “20 วินาทีจะกระทบ” เสียงรายงานอย่างรีบร้อนดังขึ้น

       แล้วคราวนี้เสียงระเบิดก็ดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมสายน้ำที่พุ่งขึ้นสูงด้านหน้าเรือ เสียงเหล็กบิดตัวเริ่มดังขึ้นจากด้านใต้ของเรือ แต่นั่นก็ไม่ทำให้กัปตันสะทกสะท้านแต่อย่างใด เขาหันไปหาลูกเรือที่ SONAR แล้วถามขึ้น “เรือดำน้ำข้าศึกอยู่ที่ไหน”

       “600 หลา 7 องศาไปทางซ้ายครับ” ลูกเรือรายงานอย่างทันท่วงที “แต่มีวัตถุแปลกประหลาดกำลังเข้ามาจากด้านใต้ครับ กัปตัน”

       แล้วทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดก็ดังมาจากด้านล่างพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้กัปตันต้องเกาะแผงควบคุมไว้ไม่ให้ล้ม เขาหันไปหาลูกเรือที่กำลังพยายามแก้หน้าจอรายงานผลที่กำลังรวนอยู่ แต่เสียงรายงานของลูกเรือสื่อสารก็ดังขึ้นมาอย่างรีบร้อน “เราเสียการติดต่อจากห้องเครื่องหลักไปและห้องเครื่องรองรายงานเข้ามาว่ามีน้ำทะลักเข้ามาเป็นปริมาณมากครับ เราเสียการควบคุมของเครื่องยนต์ไปแล้วครับ”

       “สถานะเรือล่ะ” ต้นเรือแทรกขึ้น

       “ไม่ดีเลยครับ เรากำลังจมลงช้าๆครับ ผมประมาณว่าเราจะจมมิดน้ำในเวลา 30 นาทีถ้าน้ำยังคงทะลักเข้ามาอย่างนี้” ลูกเรือสื่อสารรายงานข้อมูลจากห้องเครื่อง

       “เตรียมตัวสละเรือ” กัปตันเอ่ยแผ่วๆ สีหน้าแสดงความผิดหวังอย่างยิ่ง



       “ยินดีด้วยครับ ท่านนายพลชุนฮวง หลี่หวัง” นายทหารจีนคนหนึ่งกล่าวขึ้น

       นายพลที่ตาตี่และไว้หนวดสีน้ำตาลเข้มพยักหน้ารับแล้วกล่าวขึ้นช้าๆ “เมื่อเรือที่คอยปกป้องน่านน้ำส่วนนี้หมดไป เราก็จะมุ่งหน้าไปยังที่หมายของเราได้อย่างง่ายดาย สั่งการลงไป เคลื่อนกองเรือเคลื่อนที่เร็วที่ 6 ล่วงหน้าไปก่อน ทันทีที่มีรายงานว่าเคลียร์เข้ามา ให้เคลื่อนกำลังหลักเข้าประชิดที่หมายทันที”

       “รับทราบครับ” ว่าแล้วนายทหารคนแรกก็รีบยกหูโทรศัพท์สั่งการต่อไป

       กองเรือจีนได้ใช้แผนโจมตีอย่างเงียบๆโดยการรบกวนระบบดาวเทียมของกองเรืออเมริกันแล้วดักซุ่มโจมตีไปทีละลำ โดยแผนการหลักต้องขอบคุณหน่วยทหารเจาะข้อมูล (Hacker) ที่เจาะระบบดาวเทียมและใส่ข้อมูลปลอมๆเข้าไป รวมไปถึงคำสั่งปลอมๆอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกเขาสามารถล่อเรือศัตรูเข้ามาแล้วทำการโจมตีไปทีละลำ จนตอนนี้แผนการใหญ่กำลังจะสมบูรณ์แล้ว ทหารราบ 20000 คนกำลังเตรียมตัวที่จะยกพลขึ้นบกไปทั่วที่หมายซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในแปซิฟิก ถ้าปฏิบัติการเสร็จสมบูรณ์ เหล่าพันธมิตรคอมมิวนิสต์จะไม่ต้องเป็นผู้ตั้งรับฝ่ายเดียวอีกต่อไป ที่หมายของพวกเขาคือหมู่เกาะ Hawaii สถานที่ตั้งของศูนย์บัญชาการกองเรืออเมริกันในแปซิฟิก หลังจากนั้นพวกเขาจะทำการโจมตีโต้ตอบจากทางตะวันตกของอเมริกา ซึ่งจะชะลอการเคลื่อนพลของอเมริกาแล้วทำให้โซเวียตได้เปรียบขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกำลังจะเริ่มแล้ว



       นักบินชาวจีนกว่า 30 คนนั่งเรียงกันเป็นแถวอย่างมีระเบียบ นายทหารคนหนึ่งยืนอยู่หน้าห้อง บนกระดานมีแผนที่ของจุดยุทธศาสตร์บนเกาะ Hawaii ติดเอาไว้ ในแผนที่มีเส้นสีแดงลากไว้แสดงแผนการบิน มีกากบาทสีเขียวแสดงจุดที่จะต้องทิ้งระเบิดใส่ กากบาทสีแดงแสดงจุดที่เป็นอาวุธต่อต้านอากาศยาน แล้วก็มีพื้นที่ที่แรเงาด้วยสีน้ำตาลบ่งบอกว่าเป็นเมืองและพื้นที่ทางฝ่ายพลเรือน

       “เอาล่ะ ผมจะย้ำอีกครั้ง” นายทหารจีนกล่าว “เราจะบินในระดับต่ำเพื่อหลบเรดาร์ไปตามเส้นทางสีแดง จากนั้นพวกคุณจะแยกไปตามเป้าหมายเมื่อถึงจุดนี้” เขาชี้ไปที่ทางแยกของเส้นสีแดง “ขอให้พวกคุณโจมตีเป้าหมายให้เร็วที่สุดและอย่าให้เหลือ เราบรรจุอาวุธให้กับเครื่องของคุณเต็มที่ ขอให้จัดการข้าศึกในส่วนของคุณให้หมด พยายามหลีกเลี่ยงอาวุธต่อต้านอากาศยานแล้ววกกลับมารอบนอกของเกาะก่อนลงจอดที่เรือบรรทุกเครื่องบิน มีใครสงสัยอะไรให้รีบถามตั้งแต่ตอนนี้”

       ห้องทั้งห้องเงียบสงัด เมื่อไม่มีใครยกมือถาม นายทหารก็พยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ “ไปเตรียมตัวได้ เราจะออกทำการบินในเวลา 0545 และขอให้ทุกคนโชคดี”



      น้ำทะเลซักมากระทบฝั่งที่ยังคงมืดครึ้มอยู่อย่างเป็นจังหวะ คนจำนวนไม่น้อยยังไม่ตื่นขึ้นมา ทุกอย่างดูสงบดีจนกระทั่ง… เครื่องบินรบ 3 ลำแรกโฉบผ่านไปอย่างรวดเร็ว เครื่องบินทั้งสามพุ่งผ่านทิวเขาไป ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงระเบิดครั้งแรกก็ดังขึ้นจากฐานบินของอเมริกัน ประกายไฟวาบขึ้นและลุกโชนเป็นควันดำทะมึน ระเบิด Napalm ทิ้งลงไปลูกแล้วลูกเล่าจนเหลือแต่กองเพลิง ทหารบางส่วนที่ตื่นตัวทันเริ่มเข้าประจำรถถังต่อต้านอากาศยานแต่ก็ไม่สามารถอยู่การโจมตีด้วยอาวุธหนักไปได้ ในเวลาเดียวกันฐานทัพทหารอีก 2-3 แห่งก็ถูกโจมตีไปพร้อมๆกัน ฐานทัพเรือเริ่มถูกยิงกระหน่ำด้วยขีปนาวุธระยะไกลที่รุนแรงพอที่จะจมเรือได้ในนัดเดียว มันเจาะเรือเข้าไปแล้วระเบิดขึ้นจากภายใน จุดระเบิดคลังกระสุนของเรือไปด้วยในตัว เรือรบหลักในท่าจมไปทันที 4 ลำ ที่เหลือก็เสียหายอย่างหนัก มันเหมือนเป็นการจำลองเหตุการณ์ที่ Pearl Harbor ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว เพียงแต่รวดเร็วกว่ามาก เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วเกาะ ในเวลาชั่วขณะมันก็สงบลง ทหารอเมริกันวิ่งกันพล่านเพื่อทำการดับไฟและเตรียมโจมตีโต้ตอบ

       เหตุการณ์นี้สงบได้ไม่ถึง 20 นาที การโจมตีระลอกใหม่ก็ตามมา ปืนใหญ่ชายฝั่งถูกระดมยิงจนหมดสภาพ ฐานทัพเรือถูกปืนใหญ่จากเรือกราดยิงอย่างหนัก ทหารที่ยังไม่ทันตั้งตัวเต็มที่เริ่มระส่ำระส่าย ในขณะเดียวกันนั้นเองเรือยกพลประมาณ 100 ลำก็เริ่มแล่นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ฝูงเฮลิคอปเตอร์เริ่มบินเข้ามาตามจุดต่างๆของเกาะ ทหารราบในเครื่องแบบสีกากีเริ่มกระจายกำลังขึ้นมาบนเกาะทีละส่วน



       พลทหารยิน จูเหลียง ยืนอยู่แถวที่ 2 จากด้านหน้าของเรือยกพล ควันไฟลอยฟุ้งไปทั่ว เรือของเขาแล่นเข้าสู่อ่าวอย่างระมัดระวัง หาดทรายเริ่มใกล้เข้ามาทีละนิด คำสั่งของทหารหน่วยของเขาคือให้ยึดหาดบริเวณใกล้ๆกับปากอ่าวให้ได้เพื่อที่จะทำให้การส่งกำลังบำรุงเป็นไปได้สะดวก เมื่อเรือเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น กระสุนปืนใหญ่เริ่มยิงกราดลงมา น้ำสาดกระเด็นไปทั่วบริเวณ เรือของเขามุ่งหน้าเข้าไปเฉียดการที่จะโดนระเบิดไปหลายครั้งแต่ก็สามารถผ่านออกมาได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง

       เรือหยุดลงที่ฝั่ง หัวเรือเปิดออกอย่างรวดเร็ว ทหารจีนรีบกระโดดลงไปบนหาดแล้วรีบเคลื่อนพล เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นเป้านิ่งแล้ว ทหารชุดแรกเคลื่อนเข้าสู่แนวต้นมะพร้าวที่ขึ้นเรียงรายอยู่เต็มหาด จูเหลียงรีบวิ่งตามทหารในหมู่ไปอย่างไม่รอช้าจนถึงแนวต้นไม้ ด้านหน้าของพวกเขาเป็นอาคารบ้านเรือนที่ไม่ใหญ่โตมากนักตั้งกระจัดกระจายกันอยู่ ทหารหมู่แรกวิ่งออกไป เสียงปืนกลกราดใส่ดังขึ้นจากทางขวา ทหารชุดนั้นล้มลงอย่างรวดเร็ว จ่าฮวง ลีหยาง โบกมือสั่งการให้ทหารของเขาเริ่มระดมยิงจุดที่ทหารเอเมริกันกราดยิงมาอย่างรวดเร็ว

       จูเหลียงเริ่มกราดยิงไปพร้อมกับทหารในหมู่ พลทหารเกาซุนนำเครื่องยิงลูกระเบิดออกมาแล้วยิงใส่ในทันที ตึกระเบิดออกทหารอเมริกันหยุดยิงไปในทันที ลีหยางสั่งให้พวกเขารุกแล้ววิ่งนำออกไป จูเหลียงวิ่งตามอย่างรวดเร็ว ทหารหมู่อื่นๆเริ่มเคลื่อนเข้าปะทะตามไปติดๆ พวกเขาวิ่งเข้าไปในอาคารแล้วทำการเคลียร์ตึก ชายคนหนึ่งชักปืนลูกซองออกมาแต่ก็ถูกจูเหลียงยิงตายไปก่อนที่เขาจะทำอะไรได้ ในอาคารมีผู้หญิงและเด็กอยู่พอสมควร ทหารจีนต้อนพวกเขาออกไปให้ไปรวมกันอยู่กลางลานโล่ง

       ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาพื้นที่ส่วนนี้ก็เคลียร์ ทหารอเมริกันถูกส่งมาป้องกันที่นี่ไม่มากนัก ทำให้สามรถเคลียร์ได้อย่างรวดเร็ว พวกพลเรือนก็ถูกต้อนไปรวมกันไว้ก่อน ป้องกันการวางแผนต่อต้าน ในขณะเดียวกันทหารก็เสริมเข้ามาเรื่อยๆ แต่สิ่งที่จูเหลียงคิดว่าจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆคือการที่ทหารอเมริกันจะโต้กลับ ซึ่งมันก็เป็นจริง



       เรือบรรทุกยุทโธปกรณ์แล่นเข้ามาเรื่อยๆขนกระสุนและอาวุธเข้ามาที่หาด ทหารจีนบนหาดตอนนี้มีจำนวนเป็น 2 เท่าแล้ว แสงแดดยามสายเริ่มแผดเผามากขึ้นและมากขึ้น ขณะที่จูเหลียงเดินลงมาเติมน้ำในกระติกนั้นเอง เสียงปืนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เขาหันกลับไปพบทหารในหมู่ 2 คนล้มลง เขาหมอบลงเป็นอันดับแรกแล้วเริ่มคลานไปช้าๆเพื่อเช็คสมาชิกหมู่ที่ล้มลงว่ายังรอดมั้ย ทหารจีนเริ่มทำการยิงโต้ตอบ จูเหลียงคลานไปดูพบว่าทั้งคู่ไม่เหลือลมหายใจแล้ว ทหารอเมริกันยิงเข้าที่คอของทั้งสองคนอย่างแม่นยำ

       “ระเบิดมือ” เสียงทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นตามด้วยการระเบิดไม่ไกลออกไป

       จูเหลียงที่หูอื้อจากแรงระเบิด ชะเง้อหน้าเล็กน้อยเพื่อค้นหาตำแหน่งทหารอเมริกัน ทันทีที่เข้าโผล่หน้าไป กระสุนชุดหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปะทะเนินทรายที่เขาหมอบหลบอยู่ เขารีบก้มลงมาและยกปืนกราดมั่วไปทางทิศของทหารข้าศึก เขาเหลือบไปเห็นทหารวิทยุกำลังขอการสนับสนุนทางใดทางหนึ่งอย่างรีบร้อนและกระสุนนัดหนึ่งก็เจาะเข้าที่กลางหัว จูเหลียงคลานกลับไปแล้วลากวิทยุมาในที่หลบซ่อนของเขา ทหารจีนส่วนหนึ่งวิ่งมาเสริมจากทางด้านกลุ่มอาคาร เสียงปืนยิงโต้ตอบดังสนั่นหวั่นไหว จูเหลียงกดปุ่มส่งสัญญาณแล้วรีบพูดเข้าไป

       “ขอปืนใหญ่สนับสนุนที่หาดรหัส 21 โดยด่วน ทหารอเมริกันอยู่ทางเหนือจากจุดรวมพล 400 เมตร ขอย้ำ ด่วน”

       เสียงวิทยุตอบกลับมาแต่จูเหลียงไม่ได้ยินเพราะหูอื้อ แล้วอีกครึ่งนาทีต่อมา แนวทางด้านทหารอเมริกันก็เกิดระเบิดขึ้นหนึ่งครั้งจากกระสุนปืนใหญ่ เขาโผล่หน้าออกไปดูก็เห็นทหารอเมริกันพยายามรวมพลขณะถูกกระหน่ำยิง หลุมระเบิดดูจะอยู่ห่างเกินไป เขาจึงรีบยกหูวิทยุแล้วกล่าวไปอีกครั้งหนึ่ง

       “ลดระยะมาทางใต้ 50 เมตร” เขาตะโกนในเข้าไป

       คราวนี้ปืนใหญ่อีกลูกพุ่งมากระทบ เขาสามารถรู้สึกถึงลมที่พัดมาปะทะได้ เขามองดูอีกครั้ง ศพทหารอเมริกัน 2-3 นายกระจัดกระจายอยู่ไม่ไกลออกไป แต่ทหารที่เหลือยังคงเสริมเข้ามา ทหารจีนที่เสริมเข้ามาดูจะป้องกันแนวไม่อยู่เพราะทหารอเมริกันอีกกองเริ่มตีประกบเข้ามาจากทางตะวันออก จูเหลียงรีบตะโกนใส่วิทยุเข้าไปด้วยความเร่งรีบ “ยิงหวังผล”

       ในเวลาไม่ถึงนาที กระสุนปืนใหญ่ชุดใหญ่ระดมยิงลงมาอย่างหนัก เสียงระเบิดบวกกับควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว ทำให้จูเหลียงไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย แล้วก็มีทหารอเมริกันคนหนึ่งลอยมาตกหน้าจูเหลียง เขารีบกราดยิงใส่อย่างไม่ยั้งโดยไม่ทันคิดว่าทหารคนนั้นคงไม่รอดตั้งแต่แรกแล้ว เขาลุกขึ้นอย่างงุนงงแล้ววิ่งไปรวมกับทหารจีนที่เหลือ แนวด้านเหนือนั้นเคลียร์แล้ว เหลือแต่ทางด้านตะวันออก เขาโยนซองกระสุนเปล่าทิ้งแล้วใส่อันใหม่เข้าไป นายสิบคนหนึ่งสั่งให้เขาเข้าตึกทางขวาไปแล้วระดมยิงทหารอเมริกันจากชั้น 2

       เขาวิ่งขึ้นไปอย่างไม่รีรอแล้วผลักหน้าต่างออก กระสุนกราดยิงเข้ามาจนเขาต้องหลบหลังกำแพง ยังดีที่เป็นกำแพงคอนกรีต ไม่งั้นเขาคงพรุนไปแล้ว เขาโผล่ไปกราดชั่วขณะแล้วหลบเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขานึกถึงสิ่งที่สังเกตได้คือมีทหารแบกอาวุธหนักมาด้วยคนหนึ่ง จูเหลียงออกวิ่งแล้วโดดทันทีที่จรวดกระทบกับหน้าต่าง แรงระเบิดผลักเขาตีลังกาไป 2-3 ตลบแต่ก็รอดมาได้ ตัวเขาปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาจากการระเบิด เขามองกลับไปช้าๆแล้วก็เห็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่อาคาร เขาได้แต่นอนนิ่งๆไปเพราะเขาไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อสู้แล้วสำหรับตอนนี้









    * Active SONAR = SONAR ที่ทำงานโดยการส่งคลื่นเสียงออกไปแล้วรับเสียงสะท้อนเพื่อหาตำแหน่งวัตถุใต้น้ำ โดยทั่วไปในเรือดำน้ำจะไม่ใช้ Active SONOR นี้เนื่องจากสามารถถูกตรวจจับได้ จะได้ Passive SONAR ที่จะรับเสียงจากเครื่องยนต์แทน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×