ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End of Peace

    ลำดับตอนที่ #14 : Off-world Visitor

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 47


       ทหารอเมริกันยืนรายล้อมซากยานไว้หลังจากเคลียร์ค่ายทหารแล้ว ระเบิดชุดแรกที่พวกเขาติดเข้ากับยานดูจะไม่ได้ผลมากนัก ยานเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ผู้กอง Nathan O’Neil ยืนมองดูอย่างครุ่นคิด เขาโบกมือขอวิทยุจากทหารคนหนึ่ง ทันทีที่ได้วิทยุมาเขาก็พูดเข้าไป “Alpha-1 ถึง Hammer ผมอยากให้คุณช่วยโจมตีซากยานนี้หน่อย ระเบิดของเราไม่สามารถทำอะไรมันได้”

       “รับทราบแล้ว” เสียงของนักบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีดังขึ้น

       ทันใดนั้นเอง ไฟก็ติดขึ้นตามด้านข้างยาน เฮลิคอปเตอร์โจมตีรีบยิงจรวดเข้าใส่ในทันที แต่แล้วจรวดเหล่านั้นก็ถูกทำลายด้วยลำแสงสีฟ้าจนหมด ทหารทั้งหลายต่างตกใจกันอย่างมาก O’Neil เดินเข้าไปดูอย่างแปลกใจแล้วโบกมือให้ทหารของเขาโจมตี กระสุนเปล่งแสงสีเขียวชุดหนึ่งพุ่งเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์คุ้มกันระเบิดไปในพริบตา ทหารกราดยิงใส่ยานอย่างหนัก ยานโต้ตอบกลับมาด้วยอาวุธที่ใช้ทำลายเฮลิคอปเตอร์ ทหารในส่วนหน้าๆระเหยไปในพริบตา O’Neil รีบสั่งถอยในทันที

       “กลับไปที่เฮลิคอปเตอร์ขนส่ง” เขาสั่งอย่างรีบร้อน

       ทหารเริ่มกระจายกำลังแล้ววิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง กลับไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่รออยู่ไม่ไกล แต่แล้วกระสุนพลังงานก็พุ่งเข้าชนเฮลิคอปเตอร์อย่างจัง ระเบิดมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ควันลอยโขมงจากซากที่ไหม้เกรียม กระสุนกราดยิงมาอีกรอบ ทหารเริ่มถอนกำลังออกมาอย่างไร้จุดหมาย พวกเขาเพียงแต่ถอยออกมาให้ห่างจากยานให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เท่านั้น O’Neil คอยตรวจดูลูกทีมให้ครบทุกคนก่อนถอยเอง ดูเหมือนว่าปฏิบัติการที่ไม่ซับซ้อนจะกลายมาเป็นหายนะสำหรับพวกเขาเสียแล้ว



       Nemirov ยืนพิงกำแพงอยู่ข้างๆ Zofia หน้าจอยานแสดงภาพทหารอเมริกันที่หายไปทีละคนสองคน จนกระทั่งเหตุการณ์สงบลง หน้าจอก็เปลี่ยนไปเป็นพื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม ตัวอักษรสีขาวปรากฏขึ้นเป็นข้อความอีกครั้ง “ในที่สุดเราก็ว่างที่จะมาคุยกันอีกครั้งแล้ว” แล้วข้อความใหม่ก็โผล่ขึ้น “ระบบหลักๆของผมเสียหายไปมาก คุณพอจะซ่อมได้หรือไม่”

       “เราไม่มีความสามารถและความเข้าใจในเทคโนโลยีของคุณมากพอที่จะซ่อมได้” Zofia ตอบไปเรียบๆ

       ข้อความเปลี่ยนไป “ลูกเรือของยานลำนี้มีเหลือหรือไม่”

       Nemirov ส่ายหน้าช้าๆแล้วกล่าวขึ้น “ตอนที่เราเข้ามาสำรวจตอนยานตกใหม่ๆ เราพบร่างของลูกเรือคุณจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีใครรอด”

       “เราศึกษาซากนี้มา 3 ปีแล้ว เราเพิ่งจะค้นพบสิ่งสำคัญไม่กี่อย่างเอง บวกกับการที่ทางรัฐตัดงบไปใช้ทำสงครามอีก ทำให้ประสิทธิภาพในการวิจัยของเราลดลงอย่างมาก” Zofia เสริม

       “ทำสงครามหรือ” ข้อความใหม่ปรากฏขึ้น “กับใคร”

       “กับพวกที่เพิ่งจะ โจมตีเราตะกี้นี้” Zofia กล่าว

       “รับทราบแล้ว” เจ้าคอมพิวเตอร์ของยานส่งข้อความมา

       “คุณมีชื่อรึเปล่า” Nemirov ถามขึ้นอย่างสงสัย

       “ชื่อหรือ ไม่มีใครตั้งชื่อให้โปรแกรมของผมหรอก แต่ยานนี้มีชื่อนะ”

       “ชื่ออะไรล่ะ” Zofia โพล่งขึ้นทันที

       “แปลเป็นอักษรที่คุณอ่านได้ ยานลำนี้ชื่อ ฮารอค”

       Nemirov กับ Zofia ใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงอยู่ในยานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฮารอค พวกเขาพบว่ายานลำนี้เป็นยานของเผ่าพันธุ์ที่เรียกตัวเองว่า “ทีรานัน” ยานของพวกเขาได้เดินทางโดยใช้เทคโนโลยี Hyperspace เดินทางไปทั่วอวกาศค้นหาเผ่าพันธุ์อื่นๆ ยานฮารอคเกิดขัดข้องในช่วงออกจาก Hyperspace ทำให้ยานหลุดเข้าสู่แรงดึงดูดโลกและทำให้ยานตกลงที่นี่ Nemirov ยังรู้สึกสงสัยอีกหลายเรื่องแต่ดูเหมือนว่าฮารอคจะไม่สามารถตอบอะไรได้ หรือบางทีฮารอคนั้นอาจปิดบังไว้ แต่เขาเองก็ไม่อยากแสดงท่าทีเป็นการยั่วยุให้ฮารอคโจมตีแต่อย่างใด



       Kevin Preston ทุบกำปั้นลงไปบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด หลังจากปฏิบัติการของหน่วยรบพิเศษไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ก่อนที่หน่วยจู่โจมจะสามารถทำลายสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นยานอวกาศได้ พวกเขาขาดการติดต่อไปโดยสิ้นเชิง ดาวเทียมสอดแนมตรวจพบควันปริมาณมากในพื้นที่ส่วนนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าจะบ่งชี้ถึงการต่อสู้ที่หนักหน่วงได้เท่านั้น เขาไม่ชอบที่จะต้องขาดข้อมูลสำหรับการตัดสินใจทำอะไรลงไป ปฏิบัติการช่วยเหลืออาจจำเป็นสำหรับทหารที่ติดค้างอยู่หรืออาจจะมีความเสี่ยงกับหน่วยทหารที่ส่งเข้าไปอีกก็เป็นได้

       เสียงฝีเท้าดังขึ้นตามทางเดินขณะที่ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามา Preston รอจนเสียงใกล้เข้ามาแล้วเสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆรัวๆ เขาตอบรับอย่างไม่แปลกใจ “เข้ามา”

       ประตูเปิดอ้าขึ้น ทหารคนหนึ่งในมือมีแผ่นกระดาษ 3-4 แผ่นเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน เขาวางแผ่นกระดาษลงแสดงให้เห็นภาพถ่ายทางอากาศของพื้นที่เป้าหมาย ควันจางไปหมดแล้ว สิ่งที่เขาเห็นคือซากมากมายเรียงรายกลาดเกลื่อน แต่ไม่มีวี่แววของเฮลิคอปเตอร์หรือทหารราบแต่อย่างใด เขาถอนใจแรงๆทีหนึ่งแล้วลุกขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ทหารคนนั้นตามมา ทั้งคู่เดินไปตามอุโมงค์จนถึงห้องขนาดใหญ่ แล้วนายพลก็เปิดประตูเข้าไปสู่ห้องที่ค่อนข้างจะมืด เขาเดินตรงไปหานายทหารคนหนึ่งซึ่งนั่งข้างหน้าจอขนาดใหญ่แสดงรูปโลกและวงโคจรของดาวเทียมต่างๆกัน Preston พิงตัวลงไปบนแท่นข้างๆแล้วสั่งขึ้น

       “ขอดูรายงานการเคลื่อนพลของโซเวียตในบริเวณเทือกเขายูราลที”

       “ได้ครับ” ทหารคนนั้นตอบรับแล้วกดปุ่มเปลี่ยนภาพหน้าจอเป็นภาพขยายของภูมิศาสตร์ในพื้นที่แถบนั้น

       “มีการเคลื่อนพลอะไรบ้าง” Preston ยิงคำถามออกไป

       “มีกองพลอากาศโยธิน 2 หน่วยเคลื่อนที่จากทิศใต้เข้าไปยังแถบเทือกเขาเมื่อประมาณชั่วโมงที่แล้ว และมีกองพันทหารราบหนึ่งกองเคลื่อนพลจากแนวหน้ากลับมายังที่เทือกเขานี้ประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนครับ” ทหารคนนั้นแสดงท่าทางฉงนกับการเคลื่อนพลนี้เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

       “เอาล่ะ” นายพลกล่าวพร้อมเกาคางนิดๆ “คอยตรวจตราดูต่อไป ถ้ามีการเคลื่อนพลมากกว่านี้ขอให้รายงานมาโดยด่วน เข้าใจมั้ย”

       “ครับ” ทหารคนเดิมตอบแล้วหันกลับไปที่หน้าจอ คอยดูอย่างใจจดใจจ่อ

       Preston เดินออกมาจากห้องแล้วตรงไปยังห้องอาหารส่วนกลาง ตามปกติแล้วเขาจะกินอาหารในห้องอาหารของนายทหาร นี่เป็นครั้งแรกที่เขามายังส่วนกลาง เขาอยากลองอะไรใหม่ๆดูบ้าง เขาเดินขึ้นลิฟต์มายังชั้นที่อยู่บนผิวดินของฐานทัพ ทันทีที่เขาเข้ามาถึงห้องอาหาร ทหารส่วนหนึ่งก็หันมาแล้วทำความเคารพในทันที เขาตอบรับด้วยวิธีเดียวกันแล้วเลือกที่นั่งตรงมุมห้อง เขามองไปรอบๆแล้วหานายทหารบริการ แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่าทหารทั่วไปไม่มีทหารบริการมาคอยรับรายการ เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์หน้าครัว ทหารที่คอยจัดอาหารให้รีบทำความเคารพอย่างรวดเร็ว Preston ตอบกลับไปตามสัญชาตญาณแล้วหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์

       “วันนี้มีอะไรให้กินบ้าง” เขาถามไปพร้อมวางมือลงบนเคาน์เตอร์

       “เอ่อ ตอนนี้เรามีไส้กรอกอบกับมันฝรั่งบดราดน้ำเกรวี และก็มีซุปเห็ดครับ” ทหารคนเดิมดูจะลังเลเล็กน้อย “เรามีแค่นี้ละครับ ไม่มีมากกว่านี้ ต้องขอโทษด้วยในความไม่สะดวก”

       “ฉันกินเหมือนกับทหารคนอื่นน่ะแหละ ไม่ต้องบริการเป็นพิเศษ” เขากล่าวไปในทันที ทหารคนนั้นรีบวิ่งกลับไปเอาถาดอาหารมาให้อย่างรวดเร็ว Preston มองดูเล็กน้อยแล้วหยิบไป

       เขานั่งลงและกินอย่างช้าๆ รอรายงานชิ้นต่อๆไปอย่างไม่รีบร้อน



      Nemirov เหม่อมองออกไปภายนอกเฮลิคอปเตอร์ที่ทางกองทัพส่งมาต้นหาผู้รอดชีวิต ในขณะนี้ ทหารกำลังเคลื่อนกำลังมายึดจุดตกของฮารอคเอาไว้ Nemirov กับ Zofia จะถูกย้ายไปรอการเคลียร์พื้นที่ที่ฐานทัพ Preska ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เขาทำได้ ยังโชคดีที่รายงานในการวิจัยฮารอคของเขาไม่เสียหายมากนัก ส่วนใหญ่ยังอยู่ครบ เขาสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทั้งใหม่และเก่าได้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายเมื่อไร เขาจะรีบกลับมาทำการดาวน์โหลดข้อมูลจากหน่วยความจำหลักของฮารอคโดยเร็วที่สุด ยิ่งรอช้าปัญหาอื่นๆจะยิ่งตามมา

       ในเวลาไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็ร่อนลงจอดในลานบิน เขาและ Zofia ลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้วก็มีทหารคนหนึ่งมารับตัวขึ้นไปขับไปส่งที่ห้องพัก

       “ผมชื่อ Sergay Larev ผมจะอำนวยความสะดวกให้คุณในขณะที่คุณอยู่ในฐานนี้ ตอนนี้ผมจะพาคุณไปยังที่พัก แล้วในอีก 1 ชั่วโมง จะมีคนคอยพบคุณอยู่”

       Nemirov พยักหน้ารับแล้วนั่งเงียบๆต่อไป



       ชั่วโมงหนึ่งต่อมา Larev พาพวกเขามาหาชายหัวล้านคนหนึ่ง ท่าทางของเขาดูต่างจากคนธรรมดา เขาไว้หนวดเคราไว้เต็มหน้า ตาสีฟ้าของเขาดูดุดัน แต่แฝงไว้ด้วยความเฉลียวฉลาดและเป็นจอมบงการ เขาเดินเข้ามาจับมือกับ Nemirov และ Zofia ด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง ด้านหลังมีชายในชุดทหารแต่โดนหัวล้านอยู่ 2 คน สัญลักษณ์หน่วยนั้นเป็นรูปค้อนเคียวสีเหลืองทับสามเหลี่ยมสีแดงเข้มและมีรูปตาอยู่ด้านบน หน่วยนี้ Nemirov ไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่คิดว่ามันเป็นทหารหน่วยธรรมดาๆอีกด้วย ทหารทั้งคู่นั้นติดอุปกรณ์ไว้บนหัวคล้ายๆกับหูฟังสำหรับเจ้าหน้าที่สื่อสารทั้งหลาย

       “ผมชื่อ Sasha Dimerov ผมมาจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ Naztrokov ซึ่งผมเชื่อว่าคุณคงไม่เคยได้ยินชื่อ” ชายคนนั้นกล่าวไปเรียบๆ “ผมจะขอพูดตรงๆเลยก็แล้วกัน ทหารหน่วยของเราได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดจากการวิจัยมากมายมาใช้เพื่อสหภาพโซเวียตของเรา ผมได้เห็นงานวิจับของคุณแล้ว มันน่าทึ่งมากและผมอยากให้คุณซ่อมยานลำนั้นและนำมาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยของเรา”

       “ที่คุณพูดมานั้นมันฟังดูง่ายมาก แต่จะทำจริงๆคงยากกว่าที่พูดนะ” Nemirov แย้งกลับไปอยากระมัดระวัง มีบางอย่างที่เขารู้สึกได้ในชายคนนี้และไม่อยากขัดขืนนัก

       “เราจะให้กำลังคนไปช่วยในการซ่อมแซมเท่าที่คุณต้องการ” Dimerov เสนออย่างไม่รีรอ

       “ปัญหาอยู่ที่เทคโนโลยี ไม่ใช่กำลังคน เราไม่มีเทคโนโลยีที่จะซ่อมฮารอคได้” Zofia ทำการอธิบายปัญหา

       “อา…คุณตั้งชื่อยานไว้ด้วย เรามีทุนให้ ขอให้คุณศึกษามันให้เร็วที่สุด เราต้องการยานลำนี้มากๆ” Dimerov กล่าวต่อไปอย่างไม่ลังเลใจ แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่มากเกินพอของเขา

       “ถ้ายังงั้น ผมจะกลับไปศึกษาฮารอคทันทีที่ทหารเคลียร์พื้นที่เสร็จ และผมไม่ต้องการให้เหตุการณ์นองเลือดแบบที่เกิดไม่นานมานี้เกิดขึ้นอีก มันส่งผลต่อเราอย่างมาก มันทำให้การทำงานล่าช้าลง…” Nemirov พูดไม่ทันจบ Dimerov ก็ยกมือขึ้นห้ามแล้วพยักหน้ารับ

       “เราจะจัดการให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง” ว่าแล้วเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทหารหน่วยของเขาเดินคุ้มกันไปอย่างเป็นระเบียบและเงียบกริบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×