ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Galactic Destination

    ลำดับตอนที่ #10 : End of Search

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 47


       กัปตัน Walls นั่งดูรายงานสถานการณ์ของทีมที่ส่งลงไปโดยมี Yenart ยืนอยู่ด้วย ในรายงานมีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแสดงไว้ จากการที่พบว่า Shea ได้นำอาวุธ Erorum มาใช้นั้นได้สร้างความหนักใจให้กับทาง Neju อย่างมาก เรื่องราวทั้งหมดดูจะถูกต่อให้ยืดยาวขึ้นไปอีกหลังจากที่พวกเขามาทำการสำรวจที่ดาวดวงนี้แล้ว Rick ยังคงอ่านรายงานต่อไป ยิ่งอ่านมากเขาก็ยิ่งนึกถึงบ้านของเขาสมัยยังเด็กๆบนโลก บ้านไร่ในหุบเขาที่เขียวขจี เต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด เขาชอบเดินเล่นไปตามลำธารสายเล็กๆในหุบเขานั้น แต่เมื่อเขามาเข้าร่วมกับกองทัพสหพันธ์ก็ทำให้เขาไม่มีเวลาอยู่ที่บ้านมากนัก โครงการ Aurora นี้ทำให้เขาต้องใช้เวลาในอวกาศเกือบตลอดเวลา เขาได้เป็นคนเลือกลูกเรือด้วยตนเองทั้งสิ้นจากคนที่สมัครใจมาเข้าร่วมโครงการ แต่การเดินทางครั้งนี้ดูจะไม่เป็นไปตามความคาดหมายมากนัก เขารู้ว่าการเดินทางนี้จะทำให้เขาต้องจากบ้านเป็นเวลาหลายปี หรือเขาอาจไม่ได้กลับมาอีกเลยก็เป็นได้ แต่เขายอมเสียสละเพื่อมวลมนุษย์ และแล้วเขาก็สลัดความคิดทิ้งไปหมด เขาต้องทำหน้าที่ในตอนนี้ให้ดีที่สุด เขาจะมัวแต่ยึดติดกับอดีตไม่ได้

       “Yenart คุณตกลงรึยังว่าจะทำอย่างไรต่อไป” เขาเอ่ยขึ้น

       “เราจะเอาข้อมูลล่าสุดไปให้กับทางสภาก่อน แล้วเราคงจะขอยานมาคุ้มกันบริเวณแถบนี้ทั้งหมด” เธอตอบเรียบๆ “เราจะไม่เสี่ยงให้มันมาทำเช่นนี้กับคนของเราได้อีก”

       “เราจะช่วยคุณเท่าที่ทำได้นะ” เขากล่าวออกไปและยิ้มให้เล็กน้อย

       “เราขอบคุณในความกรุณาของคุณมาก แต่นี่เป็นเรื่องภายใน เราจะไม่เอาคุณเข้ามาลำบากด้วย” เธอว่าแล้วก็เดินออกไป กัปตันมองดูเธอชั่วครู่แล้วกลับมาดูรายงานต่อ



       เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เขาอยากเป็นคนสำคัญ นั่นทำให้เขายอมสละสิ่งที่เขาเคยยึดติดมาตลอด ยอมจากบ้านมาไกลแสนไกล โดยอาจไม่ได้กลับอีกเลย นี่อาจเป็นภารกิจเดินทางไปในอวกาศราว 20-30 ปี แต่เขาก็คงจะเสี่ยง เขายอมทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเพื่ออนาคต

       Shang ยิ้มขณะนึกๆถึงวันที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปดังที่คิดไว้แต่เขาก็ไม่ต้องเดินทาง 20-30 ปีแล้ว ด้วยการทะลุอวกาศคู่ขนานมา ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางลงมากๆ แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเขาจะมีโอกาสกลับไปยังโลกหรือไม่ คิดแล้วเขาก็เอนตัวลงพิงโซฟาและหยิบชามาดื่ม แล้วเสียงกริ่งก็ดังขึ้นมา เขากล่าวไปทั้งๆที่ไม่หันไป “เข้ามา”

       Anderson เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเรียบๆพร้อมกับไวน์ขวดหนึ่ง เขานั่งลงตรงข้าม Shang แล้วเอ่ยขึ้น “เราอยู่ใกล้ที่หมายมากแล้วนะ ฉันเอาไวน์มาด้วยหลายขวดเลย เผื่อไว้ฉลองเวลาเราถึงที่หมาย ขวดนี้ปี 2298 จาก California” ต้นเรือยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินไปหยิบแก้วไวน์อย่างดีมา 2 ใบจากตู้ด้านหลัง

       Anderson ค่อยๆเทไวน์ลงไปในถ้วยอย่างระมัดระวัง แล้วทั้ง 2 คนก็ชนแก้วกันก่อนดื่มและคุยกันเรื่อยไป



       ภายในหอบังคับการ ลูกเรือส่วนใหญ่กำลังรอคอยกัปตันและต้นเรือ รวมไปถึง Yenart ด้วย ในไม่ช้าประตูก็เลื่อนเปิดขึ้น ร่างของกัปตันยืนตะหง่านแล้วเดินเข้ามาอย่างสง่างามตามด้วยต้นเรือและ Yenart ต้นเรือเดินมารอตรงที่นั่งของเขา กัปตันกลับเดินมาเกาะที่นั่งไว้แล้วสั่ง Hammer ให้เปิดช่องสัญญาณภายในทั้งหมด ต้นเรือรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่คิดอะไรมากไปกว่านั้น

       “ลูกเรือของยาน Aurora ทั้งหลาย ฟังทางนี้ นี่คือกัปตันของพวกคุณ นับเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่เราพยายามเดินทางไปให้ถึงระบบดาว Arquia อันเป็นที่ตั้งของนักสำรวจนอกโลกกลุ่มแรกที่ได้รู้จักกับพวกเรา อีกไม่นานพวกเราจะได้เดินทางจนถึงที่หมาย เราจะเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่ได้เดินทางมาไกลขนาดนี้ แม้จะไม่ใช่ด้วยความสามารถของเราเองทั้งหมด แต่เราก็ได้รวมกันฝ่าฟันอุปสรรคมาจนถึงที่นี่ได้ เราได้พบเพื่อนใหม่ที่จะสร้างความรุ่งโรจน์ให้กับมนุษยชาติ เราได้พบกับศัตรู แต่เราก็รอดมาได้ถึงขั้นนี้แล้ว หวังว่าพวกเราจะได้มีโอกาสที่จะเดินทางจนถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย พวก Neju จะจัดยานนำเราไปยังพรมแดนของ Arquei จากนั้นการเดินทางของเราคงจะสิ้นสุดลง ผมหวังว่าพวกเราคงจะโชคดีพอที่ได้กลับไปเห็นโลกอีกครั้ง ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าพวกเราจะต้องไปถึงจุดหมายจนได้ ขอให้โชคดี” ว่าแล้วกัปตันก็สั่งปิดช่องสัญญาณไป

       “ประทับใจมากครับ” Shang เอ่ยขึ้นลอยๆพร้อมยิ้มให้



       เหนือวงโคจรดาว Gorinthos ยาน Aurora ได้เทียบท่ากับสถานีอวกาศเพื่อส่ง Yenart และรับเสบียง

       Jane เดินอยู่ในโถงริมซึ่งมองเห็นวิวบนดาวได้อย่างชัดเจน เคียงข้างเธอคือ Garwik เพื่อนใหม่ของเธอที่รู้จักกันที่นี่ เขาพาเธอไปเข้าร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่งบนสถานี บรรยากาศภายในนั้นประดับตกแต่งด้วยเครื่องเรือนแปลกตา แสงที่สลัวๆและเทียนไขรูปร่างแปลกๆนั้นให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้ดียิ่ง Garwik ได้จองโต๊ะไว้ก่อนแล้ว เขาเลือกโต๊ะหัวมุมซึ่งดูจะมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด

       “เชิญนั่งครับ” เขากล่าวอย่างสุภาพ เขารอให้ Jane นั่งลงก่อนแล้วเขาจึงนั่ง

       “สวัสดีครับ” พนักงานในร้านเข้ามาทักพร้อมยื่นเมนูให้

       “เอา Erofa ที่หนึ่ง แล้วเอาน้ำ Donra แก้วหนึ่งให้ผม” Garwik สั่งแล้วจึงหันไปหา Jane “เอาอะไรครับ”

       “เอ่อ เอา Reninko และก็น้ำเปล่าค่ะ” Jane สั่งช้าๆ เมื่อพนักงานจดไว้เรียบร้อยแล้วก็เดินจากไป

       “คุณจะอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไรครับ” Garwik ถามเรียบๆ มีทำนองเศร้าๆแฝงไว้ลึกๆ

       “คงอยู่จนกว่าการซ่อมแซมจะเสร็จสมบูรณ์ล่ะค่ะ” เธอตอบไป

       “ผมอยากให้เรามีเวลามากกว่านี้จัง”  Garwik พยายามฝืนยิ้มแต่ในแววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง เขาถอนใจเบาๆ แต่ Jane ก็สามารถได้ยิน เธอจับมือเขาแล้วบีบเบาๆ

       “อย่ากังวลไปเลย” เธอกล่าว “ระยะทางนั้นมันไม่ไกลนักหรอก บางทีฉันอาจกลับมาเยี่ยมคุณก็ได้”

       “แต่นั่นดูท่าจะไม่ง่ายนักละครับ ผมรู้ว่าเรากำลังอยู่ในภาวะขัดแย้ง มันคงไม่ง่ายนักที่จะให้ใครเข้ามา” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแบบเดิม “ผมว่าเราอย่าเพิ่งพูดเรื่องแบบนี้กันตอนนี้เลยนะครับ”

       “ตามใจค่ะ” Jane ตอบแล้วเอนตัวลงพิงเก้าอี้

       ในไม่ช้าพนักงานคนเดิมก็เอาอาหารมาเสิร์ฟให้ ทั้งคู่จัดแจงกินกันอย่างเงียบๆจนเสร็จ หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็มาเดินอยู่ในโถงอีกครั้ง Jane เกาะแขน Garwik ไปขณะเดิน เขาหยุดลงตรงหน้าต่างกว้างที่มองเห็นเมืองหลวงบนดาวอย่างชัดเจน ในขณะนั้นดาวอยู่ที่ด้านกลางคืนทำให้สามารถเห็นแสงไฟของเมืองอันกว้างใหญ่อยู่เบื้องล่าง สายตาของ Garwik ดูจะลอยไปไกล แววตาที่ครุ่นคิดของเขาปรากฏขึ้น

       “คุณมากับเราก็ได้นะ” Jane เอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบลง

       “ไปกับคุณรึ” เขาเริ่มไม่แน่ใจ “พวกคุณจะยอมรับผมได้หรือ ผมต่างจากคุณมากนะ”

       “เรายินดีต้อนรับเพื่อนใหม่อยู่แล้ว” เธอตอบพร้อมตบไหล่เขาเบาๆ

       “ถ้าอย่างนั้น ผมจะไปติดต่อกับป้าผมก่อน ผมไม่เหลือใครในครอบครัวแล้วนอกจากเขา ถ้าเขาไม่ว่าอะไรผมจะไปกับคุณ” เขายิ้ม “ผมเคยคิดอยากไปสำรวจอวกาศมานานแล้วครับ”

       “ดีเลย ถ้างั้นฉันจะไปคุยกับกัปตันก่อน แล้วจะมาบอกคุณอีกที” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

       “เอาล่ะ งั้นเราไปจัดการให้เสร็จกันเลยดีมั้ย” เขาถาม แววตาของเขาเริ่มเปล่งประกายออกมา

       “ดีเลย” เธอกล่าวพร้อมโบกมือ “แล้วเจอกันนะ”



       กัปตันนั่งดื่มชาอยู่กับ Stewart ในห้องทำงานของเขา พวกเขากำลังคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่างๆกัน Stewart เป็นคนที่เขาไว้ใจได้อย่างยิ่ง พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เรียนอยู่แล้ว ในเวลาพักผ่อน กัปตัน Walls จะไม่นำเรื่องงานมาคิดให้ปวดหัว สำหรับเขาเวลาพักผ่อนคือเวลาพักผ่อนจริงๆ แต่แล้วเสียงกริ่งก็ดังขึ้น

       “เข้ามาได้” เขาเรียกไป Jane Ferris โผล่เข้ามาในห้องแต่ชะงักไปเพราะ Stewart

       “เดี๋ยวฉันกลับมาใหม่ดีกว่าค่ะ” เธอกล่าวแต่ยังไม่ทันหันกลับไปกัปตันก็เรียกขึ้น

       “ไม่เป็นไร เข้ามาสิ สนใจเอาชาซักถ้วยมั้ย”

       “ก็ได้ค่ะ” ว่าแล้วเธอก็นั่งลงข้างๆ Stewart และตรงข้ามกับกัปตัน Rick Walls เธอดูเหมือนจะเตรียมตัวมาพูดอะไรซักอย่างหนึ่ง เขาสามารถมองดูคนได้เกือบทะลุปรุโปร่ง

       “มีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย ไม่ต้องกลัว” เขากล่าวไป

       “คือว่า” เธอหยุดไปชั่วขณะ “จะเป็นอะไรหรือไม่คะ ถ้าเกิดว่าจะให้ Neju เดินทางไปกับเราด้วยคนหนึ่ง”

       กัปตันยักคิ้วแสดงความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขากลับตอบสั้นๆว่า “ได้สิ”

       Jane อ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ เธอไม่คิดว่ากัปตันจะอนุญาตได้เร็วขนาดนี้ แต่เธอก็รีบขอบคุณก่อนขอตัวและเดินออกไป เมื่อเธอออกไปถึงประตู กัปตันก็เรียกขึ้น “ผมอยากได้ประวัติของเขาด้วยนะ ผมต้องการมีข้อมูลของลูกเรือทุกคนอย่างละเอียดไม่ว่าเขาจะเป็นเผ่าพันธุ์ไหนก็ตาม”

       Jane พยักหน้าแล้วเดินออกไป

       “ตัดสินใจได้เร็วนะ” Stewart พูดขึ้น

       “การมีคนที่ชำนาญอวกาศแถวนี้คงจะช่วยได้มาก จริงๆผมเกือบขอให้ Yenart มาอยู่กับเราซะแล้วสิ” กัปตันตอบไป “คุณว่าผมควรจะขอให้เธอมากับเรามั้ย”

       “ผมไม่แน่ใจหรอกครับ กัปตัน” เขาตอบไปทันที “การตัดสินใจทั้งหมดเป็นเรื่องของคุณครับ คุณเป็นหัวหน้าของพวกเรา ไม่ว่ายังไง เราคงจะทำตาม”

       “ถ้าผมถามในฐานะเพื่อนล่ะ” กัปตันเอ่ยปาก

       “ผมก็คงคิดว่าคุณชอบ Yenart เข้าล่ะสิครับ” เขาตอบแล้วอมยิ้ม

       “เอาเข้าไป” กัปตันอุทานแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา “ผมจะลองดูละกัน”

       คำพูดนั้นทำให้ Stewart อึ้งไปเลย “ผมนึกว่าคุณพูดเล่นซะอีก”

       “เปล่าเลย เพื่อนเก่า” กัปตันกล่าวแล้วยิ้มนิดๆ



       Garwik ยิ้มขึ้นเมื่อเห็น Jane อยู่ลิบๆบนโถงริม เขารีบก้าวเข้าไปหาเธอ ซึ่งเธอก็ยิ้มเช่นเดียวกัน เขาเดินเข้าไปกอดเธอพร้อมพูดว่า “ผมไปได้” ซ้ำๆ เธอก็ยิ้มแล้วเล่าเรื่องที่เธอเข้าไปหากัปตันให้ฟัง เขายิ้มกว้างด้วยความดีใจ แล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกันตามโถงนั้น

       “ฉันคิดว่านายคงไปทำงานกับแผนกช่างของเราได้นะ” เธอเริ่มขึ้น

       “ผมก็คิดยังงั้นเหมือนกัน” เขาตอบกลับแล้วเลี้ยวเข้าไปยังทางเดินกลางเพื่อขึ้นลิฟต์ไปห้องของเขาบนสถานี

       ไม่นานต่อมาพวกเขาทั้งคู่ก็ขึ้นมาบนทางเดินที่ไม่ค่อยมีคน ส่วนใหญ่นั้นเป็นห้องพักมากมายเรียงรายกัน Garwik เดินจนแล้วปรากฏว่า Jefferson กำลังยืนกอดอกพิงประตูอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง Garwik หยุดไปแล้วถามขึ้นด้วยเสียงดังว่า “คุณมาทำอะไรหน้าห้องของผม”

       “ผมมาดูหน้าคุณชัดๆและมาเจอ Jane” Jefferson ตอบเรียบๆ Jane เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ

       “ทำไมคุณต้องตามฉันมา” เธอกล่าวด้วยเสียงฉุนเฉียว

       “ใจเย็นๆก่อน ผมไม่ได้ตามคุณมา ผมมีเหตุผลอยู่” เขากล่าว

       “เหตุผลคุณช่างน่าฟังมากเหลือเกิน” เธอประชด

       “คุณยังไม่ทันฟังเลย” เขากล่าวแล้วไม่รอให้เธอเถียง “ข้อ 1 ผมมาดูว่าคุณทั้งคู่เข้ากันได้ดีแค่ไหน ข้อ 2 ผมจะมาแสดงความยินดี และข้อ 3 ผมจะมาช่วยเขาจัดแจงเรื่องข้อมูลและตำแหน่งในแผนก”

       เธอเกือบลืมไปว่าเขาเป็นหัวหน้าแผนกช่างและซ่อมบำรุงบนยาน แต่เธอก็กล่าวขึ้นในที่สุด “แล้วคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แอบฟังมาจากใครล่ะทีนี้”

       “เขารู้กันทั้งยานน่ะแหละ” Jefferson กล่าว “ทำไมชอบมองผมในแง่ร้ายเหลือเกิน”

       “อย่าเถียงกันเลยดีกว่า” Garwik กล่าว “เข้ามาในห้องผมกันก่อนเถอะครับ”

       ว่าแล้วเขาก็เปิดประตูห้องพร้อมผายมือไปข้างในเป็นการเชื้อเชิญ ทั้งหมดเดินเข้าไปในห้องซึ่งจัดอย่างเป็นระเบียบ ดูไปแล้วไม่ค่อยมีของสะสมส่วนตัวมากนักยกเว้นดาบแบบเดียวกับที่ Yenart ใช้อันหนึ่งแขวนไว้บนกำแพงฝั่งหน้าต่าง Jane มองดูมันอย่างสนใจ Jefferson นั่งลงบนโซฟาเงียบๆ

       “ดาบนั่นเป็นของพ่อผม” Garwik อธิบาย “เขาได้มันมาจากปู่ของผมอีกทีหนึ่ง จะว่าไปก็เป็นของประจำตระกูลน่ะครับ พ่อผมเสียไปแล้ว 2 ปีก่อนโดยพวก Shea ที่ขึ้นยานได้”

       “เสียใจด้วยนะ” เธอกล่าวแผ่วๆ

       “ไม่เป็นไรครับ ยังไงสำหรับนักรบอย่างพ่อ ความตายเป็นเหมือนการไปพบสิ่งใหม่ๆ ได้สำรวจสิ่งต่างๆในอีกมุมมองหนึ่ง พวกเราเชื่อในชีวิตหลังความตายกันน่ะครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินหายไปในห้องนอน



       Yenart กำลังเขียนรายงานในห้องของเธอบนดาว Gorinthos เธอใช้เวลานานกว่าปกติในการเขียน ดูเธอจะครุ่นคิดไปตลอดเวลา แล้วทันใดนั้นเสียงกริ่งก็ดังขึ้น เธอกล่าวสั้นๆ “เข้ามา” ขณะที่มือข้างหนึ่งเอื้อมไปจับด้ามดาบของเธอเอาไว้ เธอติดนิสัยแบบนี้ตั้งแต่ทำงานอยู่ในหน่วยข่าวกร่อง ร่างชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น เธอประหลาดใจมากที่เห็นเขาที่นี่ เขาก็คือ Rick Walls นั่นเอง

       “คุณมาที่นี่ทำไมรึ” เธอพยายามเก็บความประหลาดใจออกไปจากน้ำเสียง

       “ผมจะมายื่นข้อเสนอให้คุณ” เขากล่าวแล้วนั่งลงบนโซฟา

       “ข้อเสนออะไรหรือ” เธอถามกลับไปอย่างไม่รีรอ

       “ผมจะชวนคุณให้เดินทางไปกับเรา บนยาน Aurora น่ะ” เขาเสนอด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นเดิม

       Yenart หัวเราะออกมาแผ่วๆแล้วถามขึ้น “ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันไปด้วยล่ะ”

       “เอาไว้ถ้าคุณไปกับผม ผมจะเล่าให้ฟัง” เขายิ้มขึ้นนิดๆ

       “ฉันมีงานต้องทำนะ คงไม่ว่างขนาดนั้น” เธอกล่าวแล้วหันกลับไปที่หน้าจอ

       “ตามใจ” แล้วกัปตันก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู

       แต่ยังไม่ทันที่เขาจะออกไป Yenart ก็เรียกขึ้น “เดี๋ยว” เขาหันกลับมาช้าๆ เขาดูจะรู้ว่าเธอจะต้องทำแบบนี้แน่ๆอยู่แล้ว เขายักไหล่แสดงทีท่าถามว่าทำไม เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาเขา “ขอเวลาซักหน่อยในการจัดการเรื่องทั้งหมด คงไม่น่าเกินสัปดาห์หนึ่ง”

       “ได้เลย ผมไม่รีบอยู่แล้ว” เขากล่าวแบบอมยิ้มเล็กน้อย “งั้นผมไปก่อนนะ”

       “ใจเย็นสิ อย่าเพิ่งรีบ” เธอรั้งเขาเอาไว้ “คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าหาฉันเจอได้ยังไง แล้วคุณจะไม่ให้ฉันต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมถึงบ้านเลยรึ”

       “อ่อ นึกว่าคุณจะไม่ถามซะแล้วสิ” กัปตันเสยผมนิดหน่อยขณะเริ่ม “ผมถามทางเอา”

       “พูดเป็นเล่นน่า” เธอแย้ง “ที่อยู่ฉันไม่เปิดเผยในฐานข้อมูลหรอกน่า”

       “ผมติดต่อกับหน่วยงานของคุณโดยตรง” เขาสารภาพแกมยิ้ม

       “แล้วพวกเขาให้ข้อมูลกับคุณอย่างนั้นรึ” เธอกล่าวอย่างแปลกใจ เพราะหน่วยข่าวจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ทำงานคนใดก็ตามกับคนนอก

       “ผมอำพวกเขานิดหน่อย” เขาพูดขึ้นพร้อมยักคิ้ว

       “เอาล่ะ ฉันจะจัดการเรื่องให้เร็วที่สุด แล้วจะจัดการเรื่องที่คุณไปอำพวกเขาให้ด้วย” เธอตอบแล้วกลับไปที่โต๊ะ

       “ถ้าอย่างนั้น ผมไปล่ะ” ว่าแล้วกัปตันก็เดินออกไปโดยเธอโบกมือให้ด้านหลัง

       Yenart อมยิ้มไว้เมื่อเขาจากไป เธอดูจะหมดกังวลไปเลย เธอรีบเขียนรายงานต่ออย่างไม่รีรอจนเสร็จ ขณะเดียวกันเมื่อกัปตันคุยกับเธอแล้ว เขาก็เดินออกมาหา Stewart ที่รอเขาอยู่หน้าห้องอย่างเงียบๆ ทั้งคู่ก็เดินออกมาแล้วขึ้นยานเล็กที่ Charles ช่วยขับมาส่งและจอดรอเอาไว้หน้าตึก

       “นี่ยังโชคดีนะที่เธอยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างๆ ไม่งั้นล่ะก็…” กัปตันหันไปหา Stewart แล้วพูดขึ้น “…พวกเขาคงหาเรื่องเราแน่ๆเลย” ว่าแล้วเขาก็หัวเราะเบาๆ



       Garwik เข็นรถเลื่อนที่เต็มไปด้วยของไปกับ Jane สัมภาระของเขาจะว่าไปแล้วก็ไม่เยอะนัก แต่ก็ถือต้องใช้รถเลื่อนทั้งคันในการขน Jane กำลังดูข้อมูลตำแหน่งที่เขาจะได้รับบนยาน Aurora ดูเหมือนว่าเขาจะได้เป็นเจ้าหน้าที่แผนกซ่อมบำรุงที่ 3 ดูแล้วตำแหน่งไม่สูงเลยแต่ก็นับว่าเหมาะสมสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ทันทีที่เขาเข้ามาในตัวยาน Kimino ยืนรอต้อนรับอยู่แล้ว เขาทักทาย Garwik อย่างสุภาพแล้วจับมือกัน Garwik ดูจะงงกับวัฒนธรรมของมนุษย์เล็กน้อยแต่เขาก็ทำตามอย่างว่าง่าย

       “หัวหน้าให้ผมมาต้อนรับเพื่อนใหม่ของเราน่ะ” Kimino หันไปบอก Jane

       “อาฮะ” เธอรับทราบสั้นๆแล้วพยักหน้า

       “ผมจะพาคุณไปยังห้องของคุณนะครับ Garwik” ลูกเรือชาวญี่ปุ่นกล่าวแล้วเริ่มออกเดินไป ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงห้องทางฝั่งกราบซ้ายของยาน ซึ่ง Jane ก็ช่วย Garwik จัดของไป



       Yenart เดินมาตามทางเดินจนถึงทางเข้ายาน Aurora ลูกเรือฝ่ายรักษาความปลอดภัย 2 คนยืนรออยู่แล้ว แล้วหญิงคนหนึ่งที่มียศสูงกว่าก็กล่าวขึ้น “กัปตันเชิญคุณไปพบค่ะ สัมภาระของคุณ เราจะนำไปเก็บไว้ให้เอง” เมื่อเธอพูดจบก็ให้ลูกเรืออีกคนถือของไป Yenart มีกระเป๋าเพียง 2 ใบเท่านั้น หน้าที่การงานทำให้เธอมีของส่วนตัวไม่มากนัก แล้วลูกเรือคนเดิมก็พยักหน้าแล้วนำทางไป

       เมื่อประตูห้องทำงานกัปตันเปิดออก กัปตันกำลังรอเธออยู่ด้วยท่าทางที่สุขุมตามแบบฉบับที่เขาแสดงออกมาเป็นปกติ เธอก้าวเข้าไป เขาก็ผายมือไปยังโซฟาพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งคุยร่วมกับเธอ วันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีไม่น้อยเลย เขาได้เล่ากำหนดการให้ฟังคร่าวๆเกี่ยวกับการเดินทางกล่าวถึงตำแหน่งงานของเธอบนยาน เขาจัดเธอไปอยู่กับหน่วยรักษาความปลอดภัย ดูจากรายงานฝีมือเธอบนดาว Palises IV เขายังได้กล่าวยินดีกับลูกเรือใหม่ทั้ง 2 คนก่อนที่ยาน Aurora จะออกเดินทางอีกครั้ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×