ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Eastern Sea
  เรือบัญชาการ Stalingrad ห่างจากชายฝั่ง Vladivostok 150 ไมล์ทะเล
  เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมน้ำที่สาดกระจาย ในตอนนี้กองเรือทั้งกองกำลังเข้าประชิดกองเรือรบของอเมริกาเพื่อทำการระดมยิงเต็มกำลัง แต่ดูเหมือนว่าปืนใหญ่ที่ยิงมาจะทำลายเรือรบเบาไปไม่น้อยเลย กัปตัน Vassili Grandov เกาะราวขอบผนังหอบังคับการไว้และมองออกไป ด้วยระบบป้องกันเรือรบชนิดใหม่ทำให้กองเรือนี้รอดพ้นจากการถูกขีปนาวุธโจมตีได้ ด้วยระบบรบกวนเรดาร์และดาวเทียม ทำให้ขีปนาวุธไม่สามารถล็อคเป้าได้ แต่ถึงกระนั้น ปืนใหญ่เรือก็ยังคงยิงมาได้
  \"เราจะเข้าระยะยิงใน 3 นาทีครับ\" ลูกเรือคนหนึ่งรายงาน
  \"ดีมาก เมื่อทุกคนเข้าที่ เราจะยิงพร้อมกันอย่างน้อย 30 ชุด ก่อนถอยออกมาและปล่อยให้เรือดำน้ำจัดการ\" Grandov กล่าว
  เวลา 3 นาทีดูจะนานมากถ้าอยู่ในบริเวณที่กำลังถูกระดมยิง เสียงระเบิดยังคงดังมาเกือบตลอดเวลา น้ำสาดกระจายขึ้นอยู่เรื่อยๆ แต่แล้วทันใดนั้นเรือก็ถูกยิงที่กราบซ้าย ควันไฟลอยขึ้นช้าๆ แต่ดูเหมือนว่าที่เสียหายจริงๆคงมีเพียงชั้นนอกเท่านั้น เรือยังคงแล่นต่อไปด้วยความเร็วเต็มที่ และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง
  \"เข้าที่แล้วครับ\" ลูกเรือคนหนึ่งกล่าว
  \"ปืนทุกกระบอก ยิงได้\" กัปตันสั่งอย่างเฉียบขาด ตามด้วยเสียงปืนใหญ่หน้าเรือที่เริ่มกระหน่ำยิง เสียงปืนสลับกับเสียงระเบิดดังจนหูแทบแตก และยังคงดังมาอย่างไม่หยุด ควันลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
  \"เรายิงจนครบ 30 ชุดแล้วครับ\" ลูกเรือหันมาบอกกับ Grandov
  \"เอาล่ะ ถอยกลับแล้วให้เรือดำน้ำขึ้นหน้า\" เขาสั่งพร้อมชี้นิ้ว
  เรือบรรทุกเครื่องบิน Enterprise
  เครื่องบิน JSF เริ่มติดเครื่องและแล่นออกจากลานบิน เครื่องบินเหล่านี้ติดตั้งด้วยอาวุธต่อต้านเรือรบต่างๆนานา ดูจากสถานการณ์แล้วอเมริกาอาจจะได้เปรียบก็เป็นได้ แต่จุดสำคัญที่ทำให้กองเรือดำเนินการได้ล่าช้าเนื่องมาจากระบบป้องกันขีปนาวุธชนิดใหม่ของโซเวียต ถ้าขาดกองกำลังทางอากาศแล้วกองทัพอเมริกาคงเหมือนไร้เขี้ยวเล็บเลย นี่คงจะเป็นหนทางสุดท้ายสำหรับพวกเขา
  “เราเสียเรือฟริเกตไป 3 ลำครับ” นายทหารคนหนึ่งรายงานกับนายพล “พวกมันได้ส่งเรือดำน้ำเข้ามาหลังจากการระดมยิงด้วยปืนใหญ่ครับ”
  “เราต้องเคลื่อนกำลังพลให้เร็วที่สุด จู่โจมกองเรือของมันด้วยเครื่อง JSF และส่งเฮลิคอปเตอร์ล่าเรือดำน้ำออกไป” กำหนดการของเราล่าช้ามามากแล้ว
  “ครับท่าน” นายทหารคนนั้นเอ่ยตอบแล้วรีบเดินจากไป
  เรือรบ Alaska
  จรวดลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาใส่กราบขวาเรือ แรงระเบิดส่งทหารที่วิ่งอยู่ในบริเวณนั้นให้ลอยไป กัปตันเรือที่ยืนอยู่ในหอบังคับการที่เสียหายมองลงไปเบื้องล่างอย่างหดหู่ใจ ต้นเรือ Robert Linsen รีบวิ่งเข้ามาและรายงานสถานการณ์ แต่แล้วตอร์ปิโดก็กระทบหัวเรือแล้วได้ฉีกหัวเรือออกทันที ควันไฟลอยฟุ้ง น้ำมันรั่วออกมาจากส่วนล่าง ไฟเริ่มลุกติดไปตามน้ำมันเหล่านั้น จรวดอีกลูกโผล่ขึ้นจากน้ำและตรงเข้ามาที่หอบังคับการ ดูเหมือนว่าโซเวียตได้สร้างจรวดโจมตีเรือที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้แล้ว เมื่อจรวดพุ่งเข้ามา กัปตันหมอบลงอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันเวลา แรงระเบิดฉีกผนังออกเป็นชิ้นและหนึ่งในเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นพุ่งเข้าเสียบที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอของกัปตัน ต้นเรือลุกขึ้นมาและวิ่งเข้าไปหากัปตันที่กำลังจะตาย
  “เสนารักษ์” ต้นเรือตะโกนเรียก ขณะพยายามหาทางห้ามเลือด “เสนารักษ์”
  ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมชุดปฐมพยาบาล เขาตรวจดูอาการกัปตัน แต่ปรากฏว่ากัปตันจากไปแล้ว เขาส่ายหน้าให้กับต้นเรือแล้วไปดูคนเจ็บคนอื่นๆ ต้นเรือลุกขึ้นและกราดสายตามองไปรอบๆ เรือกำลังจมช้าๆ แต่ส่วนหัวจมไปไม่น้อยแล้ว เขามองดูอย่างอนาถใจแล้วจึงคว้าไมโครโฟนขึ้นมา
  “สละเรือ” เขาพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอ “สละเรือ ขอย้ำ สละเรือ”
  เรือ Stalingrad
  “กัปตันครับ พวกมันส่งเครื่องบินออกมา” ลูกเรือรายงานขึ้น
  “ดีล่ะ เตรียมขีปนาวุธ” Grandov สั่งด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียม “เราจะไม่ปล่อยให้มันขยี้เราหรอก”
  เบื้องล่าง แท่นยิงขีปนาวุธค่อยๆเปิดออกและหันขึ้นเฉียงเป็นมุมราว 40 องศา Grandov มองออกไปภายนอกแล้วยิ้มนิดๆ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ส่วนท้ายของเรือเกิดระเบิดขึ้นอย่างกระทันหัน เรือสั่นอย่างแรงครั้งหนึ่งแล้วค่อยๆเอียง ควันไฟเริ่มคุกกรุ่นและพวยพุ่งออกมา เรือเริ่มจมลงสู่ก้นมหาสมุทร
  “นี่มันอะไรกัน” Grandov พูดขึ้นอย่างแปลกใจ “เป็นไปไม่ได้”
  ขณะนั้นเองนายทหารคนหนึ่งก็วิ่งไปที่ไมโครโฟนและพูดขึ้น “สละ ” แต่ไม่ทันจบ Grandov ก็ยิงเข้าที่ขาล้มลงแล้วพูดขึ้นราวกับคนกำลังบ้าคลั่ง “ถ้าฉันยังไม่ได้สั่ง ห้ามใครสละเรือ”
  ห่างออกมา มีเรือเล็กยางลำหนึ่งกำลังจอดรออะไรบางอย่างขณะที่สังเกตการระเบิดของเรือบัญชาการไปเรื่อยๆ แล้วก็มีโลมาตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาที่ผิวน้ำ มันส่งเสียงคล้ายกับจะร้องเรียกแล้วก็ว่ายเข้ามาที่เรือ ทหารคนหนึ่งเอามือลูบหัวมันเบาๆ แล้วหันไปหาทหารอีกคนหนึ่ง “กลับกันเถอะ Pico ทำงานของมันเรียบร้อยละ”
  ในไม่ช้าภาพที่ปรากฏก็คือฝูง JSF โฉบเข้าหากองเรือโซเวียตและเริ่มทำการทิ้งระเบิด จมเรือไปทีละลำ ทหารคนที่ลูบหัวโลมาก็ยิ้มนิดๆขณะที่เรือเล็กเริ่มจะแล่นออกไป โลมาตัวเดิมก็ว่ายตามเรือไปอย่างรวดเร็ว
  เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมน้ำที่สาดกระจาย ในตอนนี้กองเรือทั้งกองกำลังเข้าประชิดกองเรือรบของอเมริกาเพื่อทำการระดมยิงเต็มกำลัง แต่ดูเหมือนว่าปืนใหญ่ที่ยิงมาจะทำลายเรือรบเบาไปไม่น้อยเลย กัปตัน Vassili Grandov เกาะราวขอบผนังหอบังคับการไว้และมองออกไป ด้วยระบบป้องกันเรือรบชนิดใหม่ทำให้กองเรือนี้รอดพ้นจากการถูกขีปนาวุธโจมตีได้ ด้วยระบบรบกวนเรดาร์และดาวเทียม ทำให้ขีปนาวุธไม่สามารถล็อคเป้าได้ แต่ถึงกระนั้น ปืนใหญ่เรือก็ยังคงยิงมาได้
  \"เราจะเข้าระยะยิงใน 3 นาทีครับ\" ลูกเรือคนหนึ่งรายงาน
  \"ดีมาก เมื่อทุกคนเข้าที่ เราจะยิงพร้อมกันอย่างน้อย 30 ชุด ก่อนถอยออกมาและปล่อยให้เรือดำน้ำจัดการ\" Grandov กล่าว
  เวลา 3 นาทีดูจะนานมากถ้าอยู่ในบริเวณที่กำลังถูกระดมยิง เสียงระเบิดยังคงดังมาเกือบตลอดเวลา น้ำสาดกระจายขึ้นอยู่เรื่อยๆ แต่แล้วทันใดนั้นเรือก็ถูกยิงที่กราบซ้าย ควันไฟลอยขึ้นช้าๆ แต่ดูเหมือนว่าที่เสียหายจริงๆคงมีเพียงชั้นนอกเท่านั้น เรือยังคงแล่นต่อไปด้วยความเร็วเต็มที่ และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง
  \"เข้าที่แล้วครับ\" ลูกเรือคนหนึ่งกล่าว
  \"ปืนทุกกระบอก ยิงได้\" กัปตันสั่งอย่างเฉียบขาด ตามด้วยเสียงปืนใหญ่หน้าเรือที่เริ่มกระหน่ำยิง เสียงปืนสลับกับเสียงระเบิดดังจนหูแทบแตก และยังคงดังมาอย่างไม่หยุด ควันลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
  \"เรายิงจนครบ 30 ชุดแล้วครับ\" ลูกเรือหันมาบอกกับ Grandov
  \"เอาล่ะ ถอยกลับแล้วให้เรือดำน้ำขึ้นหน้า\" เขาสั่งพร้อมชี้นิ้ว
  เรือบรรทุกเครื่องบิน Enterprise
  เครื่องบิน JSF เริ่มติดเครื่องและแล่นออกจากลานบิน เครื่องบินเหล่านี้ติดตั้งด้วยอาวุธต่อต้านเรือรบต่างๆนานา ดูจากสถานการณ์แล้วอเมริกาอาจจะได้เปรียบก็เป็นได้ แต่จุดสำคัญที่ทำให้กองเรือดำเนินการได้ล่าช้าเนื่องมาจากระบบป้องกันขีปนาวุธชนิดใหม่ของโซเวียต ถ้าขาดกองกำลังทางอากาศแล้วกองทัพอเมริกาคงเหมือนไร้เขี้ยวเล็บเลย นี่คงจะเป็นหนทางสุดท้ายสำหรับพวกเขา
  “เราเสียเรือฟริเกตไป 3 ลำครับ” นายทหารคนหนึ่งรายงานกับนายพล “พวกมันได้ส่งเรือดำน้ำเข้ามาหลังจากการระดมยิงด้วยปืนใหญ่ครับ”
  “เราต้องเคลื่อนกำลังพลให้เร็วที่สุด จู่โจมกองเรือของมันด้วยเครื่อง JSF และส่งเฮลิคอปเตอร์ล่าเรือดำน้ำออกไป” กำหนดการของเราล่าช้ามามากแล้ว
  “ครับท่าน” นายทหารคนนั้นเอ่ยตอบแล้วรีบเดินจากไป
  เรือรบ Alaska
  จรวดลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาใส่กราบขวาเรือ แรงระเบิดส่งทหารที่วิ่งอยู่ในบริเวณนั้นให้ลอยไป กัปตันเรือที่ยืนอยู่ในหอบังคับการที่เสียหายมองลงไปเบื้องล่างอย่างหดหู่ใจ ต้นเรือ Robert Linsen รีบวิ่งเข้ามาและรายงานสถานการณ์ แต่แล้วตอร์ปิโดก็กระทบหัวเรือแล้วได้ฉีกหัวเรือออกทันที ควันไฟลอยฟุ้ง น้ำมันรั่วออกมาจากส่วนล่าง ไฟเริ่มลุกติดไปตามน้ำมันเหล่านั้น จรวดอีกลูกโผล่ขึ้นจากน้ำและตรงเข้ามาที่หอบังคับการ ดูเหมือนว่าโซเวียตได้สร้างจรวดโจมตีเรือที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้แล้ว เมื่อจรวดพุ่งเข้ามา กัปตันหมอบลงอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันเวลา แรงระเบิดฉีกผนังออกเป็นชิ้นและหนึ่งในเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นพุ่งเข้าเสียบที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอของกัปตัน ต้นเรือลุกขึ้นมาและวิ่งเข้าไปหากัปตันที่กำลังจะตาย
  “เสนารักษ์” ต้นเรือตะโกนเรียก ขณะพยายามหาทางห้ามเลือด “เสนารักษ์”
  ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมชุดปฐมพยาบาล เขาตรวจดูอาการกัปตัน แต่ปรากฏว่ากัปตันจากไปแล้ว เขาส่ายหน้าให้กับต้นเรือแล้วไปดูคนเจ็บคนอื่นๆ ต้นเรือลุกขึ้นและกราดสายตามองไปรอบๆ เรือกำลังจมช้าๆ แต่ส่วนหัวจมไปไม่น้อยแล้ว เขามองดูอย่างอนาถใจแล้วจึงคว้าไมโครโฟนขึ้นมา
  “สละเรือ” เขาพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอ “สละเรือ ขอย้ำ สละเรือ”
  เรือ Stalingrad
  “กัปตันครับ พวกมันส่งเครื่องบินออกมา” ลูกเรือรายงานขึ้น
  “ดีล่ะ เตรียมขีปนาวุธ” Grandov สั่งด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียม “เราจะไม่ปล่อยให้มันขยี้เราหรอก”
  เบื้องล่าง แท่นยิงขีปนาวุธค่อยๆเปิดออกและหันขึ้นเฉียงเป็นมุมราว 40 องศา Grandov มองออกไปภายนอกแล้วยิ้มนิดๆ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ส่วนท้ายของเรือเกิดระเบิดขึ้นอย่างกระทันหัน เรือสั่นอย่างแรงครั้งหนึ่งแล้วค่อยๆเอียง ควันไฟเริ่มคุกกรุ่นและพวยพุ่งออกมา เรือเริ่มจมลงสู่ก้นมหาสมุทร
  “นี่มันอะไรกัน” Grandov พูดขึ้นอย่างแปลกใจ “เป็นไปไม่ได้”
  ขณะนั้นเองนายทหารคนหนึ่งก็วิ่งไปที่ไมโครโฟนและพูดขึ้น “สละ ” แต่ไม่ทันจบ Grandov ก็ยิงเข้าที่ขาล้มลงแล้วพูดขึ้นราวกับคนกำลังบ้าคลั่ง “ถ้าฉันยังไม่ได้สั่ง ห้ามใครสละเรือ”
  ห่างออกมา มีเรือเล็กยางลำหนึ่งกำลังจอดรออะไรบางอย่างขณะที่สังเกตการระเบิดของเรือบัญชาการไปเรื่อยๆ แล้วก็มีโลมาตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาที่ผิวน้ำ มันส่งเสียงคล้ายกับจะร้องเรียกแล้วก็ว่ายเข้ามาที่เรือ ทหารคนหนึ่งเอามือลูบหัวมันเบาๆ แล้วหันไปหาทหารอีกคนหนึ่ง “กลับกันเถอะ Pico ทำงานของมันเรียบร้อยละ”
  ในไม่ช้าภาพที่ปรากฏก็คือฝูง JSF โฉบเข้าหากองเรือโซเวียตและเริ่มทำการทิ้งระเบิด จมเรือไปทีละลำ ทหารคนที่ลูบหัวโลมาก็ยิ้มนิดๆขณะที่เรือเล็กเริ่มจะแล่นออกไป โลมาตัวเดิมก็ว่ายตามเรือไปอย่างรวดเร็ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น