ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Galactic Destination

    ลำดับตอนที่ #11 : Revelation of Fate

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 47


       เมื่อยาน Aurora พร้อมอีกครั้ง พวกเขาก็เตรียมออกเดินทางไปยังที่หมายของเขา ต้นเรือ Bryan Shang นั่งสงบนิ่งอยู่ในหอบังคับการ เขากำลังรอ Yenart และกัปตัน Rick Walls อยู่ ในเวลาไม่นานประตูด้านหลังก็เลื่อนเปิดออก ร่างที่สูงของกัปตันเดินนำเข้ามาตามมาด้วย Yenart ที่สูงพอๆกันกับเขา เธอเดินตรงมานั่งที่นั่งของแขก โดยมากมักจะให้ทูตนั่ง จะว่าไปแล้วเธอก็เหมือนทูตอยู่เหมือนกัน เธอแต่งชุดเสื้อสูทหนังสีน้ำตาลเข็มติดเครื่องหมายอาณาจักร Neju รูปคล้ายๆหัวลูกศรสีทองไว้บนอกทางซ้าย ผมของเธอผูกรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย กัปตันในวันนี้ดูจะร่าเริงมากขึ้น เขาเดินมายืนหน้าเก้าอี้แล้วกล่าวขึ้น

       “Charles ตั้งทิศทางไปยังระบบดาว Arquia เตรียมตัวเดินทางด้วยความเร็ววาร์ประดับ 4 เดินเครื่องตามสัญญาณจากผม” เขาหยุดไปชั่วครู่ “Hammer เปิดช่องสัญญาณกลางด้วย”

       “เรียบร้อยครับ” Hammer รายงานกลับมาทันควัน

       “สวัสดีลูกเรือทุกคน” เขาเกริ่น “ในวันนี้ พวกเราจะออกเดินทางสู่จุดหมายที่เราหวังไว้ว่าเราจะเดินทางไปให้ถึงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราได้ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน เราได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกัน เราได้เพื่อนใหม่มาอยู่กับเรา 2 คน พวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ไกลจากบ้านหลังนี้ ผมคาดว่าการเดินทางของพวกเราจะสิ้นสุดลงในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ขอให้ทุกคนไม่ละทิ้งความมุ่งมั่นและความฝันของพวกคุณ จากวันที่คุณสมัครเข้าร่วมโครงการจนถึงวันนี้ ขอให้ทุกคนโชคดี” เมื่อเขาพูดจบลูกเรือต่างพากันเฮแสดงความยินดี

       “Charles เดินเครื่องได้” เขาสั่งอย่างเรียบๆแล้วนั่งลงเมื่อยานพุ่งเข้าสู่วาร์ปไป



       บันทึกกัปตัน ชีวิตของคนเราดูจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากวันหนึ่งที่การเดินทางอันแสนไกลของผมเริ่มขึ้นที่ระบบดาวไกลออกไป จนมาถึงวันนี้ที่ผมพบว่าที่หมายอยู่ไกลแค่เอื้อม จากฐานข้อมูลของ Neju เรากำลังมุ่งหน้าไปยัง Arquia VI เราได้ทำการประเมินเวลาถึงที่หมายไว้ประมาณ 1 เดือนด้วยความเร็วระดับปกติและถ้าเราไม่ออกนอกเส้นทางไปสำรวจอวกาศ บางทีผมกลับมาคิด ผมไม่นึกเลยว่ามันจะจบไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ชีวิตผมมาถึงจุดหักเหแล้ว โอกาสที่จะกลับไปได้สำเร็จคงมีน้อยเต็มที เราได้พบโอกาสแปลกๆระหว่างการเดินทางซึ่งเราคงไม่มีหนทางที่จะย้อนกลับไปได้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เราจะพอยึดมั่นไว้ได้ในตอนนี้ ก็คงเหลือเพียงแต่ความสัมพันธ์ของลูกเรือทุกคนบนยาน Aurora นี้ เราคือครอบครัวที่จะผูกพันธ์กันเสมอไป



       Quinn มองดูหน้าจอของเขาไประหว่างอยู่ในหน้าที่ เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติกระพริบขึ้นที่หน้าจอ เขารีบกดปุ่มปรับเซ็นเซอร์ให้ทำการสแกนอย่างละเอียดอยู่ซักพัก มันดูจะเป็นปรากฏการณ์บางอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาจึงเรียกกัปตันซึ่งนั่งสงบนิ่งอยู่ประจำตำแหน่งของเขา “กัปตันครับ ผมตรวจเจออะไรบางอย่างผิดปกติครับ พิกัด 076.24 ระยะทาง 4 ปีแสง”

       “พอจะระบุได้มั้ยว่ามันคืออะไร” กัปตันถามสวนกลับมาอย่างไม่รีรอ

       “มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพบมาก่อนครับกัปตัน” เขาตอบอย่างไม่แน่ใจ “เราจะหารายละเอียดเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ถ้าเราสแกนมันในระยะใกล้ครับ”

       “Charles เปลี่ยนทิศทางไปยัง 076.24 รักษาความเร็ววาร์ปไว้” กัปตันกล่าวอย่างมั่นใจ

       “กำลังทำการเปลี่ยนทิศครับ” Charles รายงานโดยอัตโนมัติ

       ยาน Aurora โผล่ออกมารางๆในอวกาศปกติแล้วจึงเลี้ยวไปทางขวาและหักขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหายเข้าไปในห้วงอวกาศวาร์ปอีกทีหนึ่ง



       ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา พวกเขาโผล่มายังหน้าเนบิวลาสีเขียวที่มีขนาดกว้างมาก สิ่งที่ประหลาดเกี่ยวกับเนบิวลานี้คือ รอบๆของมันมีแถบอนุภาคจำนวนมหาศาลกำลังวิ่งไปมาเหมือนกับเส้นทางจราจรที่ซับซ้อน Yenart เดินเข้ามาในหอบังคับการแล้วนั่งลงข้างๆกัปตันทางฝั่งซ้ายซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับแขกของยาน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นที่นั่งประจำของเธอในหอบังคับการไปเสียแล้ว

       “คุณคิดว่ามันเป็นอะไร” กัปตันถามเธอเรียบๆ

       “ฉันไม่ค่อยศึกษาปรากฏการณ์ทางอวกาศมากนัก ฉันก็คงไม่รู้ว่ามันคืออะไร” เธอตอบมาอย่างไม่อ้อมค้อม

       “Quinn ทำการสแกนไปให้ละเอียด เราจะเอาข้อมูลไปวิเคราะห์ทีหลัง” ว่าแล้วกัปตันก็ลุกขึ้นและหันไปหา Yenart และพูดขึ้นแผ่วๆ “สนใจมาดื่มชากับผมในห้องทำงานหน่อยมั้ย” เมื่อเธอพยักหน้าเขาจึงหันไปหาต้นเรือและพูดด้วยเสียงดังว่า “คุณคุมยานไปนะ ต้นเรือ”

       ประตูห้องทำงานเปิดขึ้นเมื่อกัปตัน Rick Walls และ Yenart เดินเข้ามา เธอทิ้งตัวลงบนโซฟาขณะที่กัปตันมุ่งหน้าไปยังเครื่องผลิตอาหาร เขาสั่งชา 2 แก้วพร้อมกับขนมปังเป็นของว่าง Yenart ไม่เคยรู้จักชามาก่อนจนกระทั่งได้มาเดินทางกับกัปตัน Rick Walls เธอเพิ่งจะรู้สึกว่าเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนิดๆแบบนี้เมื่อดื่มตอนร้อนๆและใส่น้ำตาลไปเล็กน้อยจะให้ความรู้สึกที่กลมกล่อมมาก กัปตันหยิบถาดมาวางไว้ที่โต๊ะเล็กๆตรงโซฟาและนั่งลงข้างๆเธอ เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาและเริ่มสนทนากับเธอไป



       Stewart กำลังตั้งหน้าตั้งตาออกกำลังอยู่ในห้องฝึกซ้อมของหน่วยรักษาความปลอดภัย เขาได้เอานวมสำหรับชกมวยมาติดตั้งไว้และมาชกมวยเป็นประจำทุกวัน แล้วเสียงประตูเลื่อนเปิดขึ้นด้านหลัง เขาหันกลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อพบเรือโทหนุ่มในชุดฝึกซ้อมเขาจึงหันกลับมาซ้อมต่อและพยายามไม่ให้เสียจังหวะ เรือโทคนนั้นเดินเข้ามาหยุดข้างๆเขาและเอ่ยขึ้น “หัวหน้าครับ สนใจมาชกมวยกับผมซักยกมั้ยครับ”

       Stewart หยุดและหันมายักคิ้วให้ “นายชื่ออะไรนะ” เขาถามขึ้น

       “Neil ครับ Neil Robinson” เขาตอบไปเรียบๆ

       “เอาล่ะ สนใจพนันอะไรกันมั้ย” Stewart เริ่มขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก

       “เอางี้ละกันครับ ถ้าหัวหน้าชนะผมจะเลี้ยงอาหารหัวหน้า แต่ถ้าแพ้ก็กลับกัน” Neil กล่าวมาหลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ เนื่องจากอัตราการปันอาหารบนยานนั้นมีจำกัดสำหรับลูกเรือแต่ละคน ดังนั้นคนแพ้อาจจะอดบางมื้อไป

       “ดีๆ” Stewart ยิ้มอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นเราเริ่มกันเลยดีกว่า”

       ทันทีที่เขากล่าวเสร็จ ทั้งคู่ก็ไปหยิบเครื่องป้องกันมาใส่แล้วขึ้นไปยืนเตรียมตัวไว้ เสียงกริ่งจากคอมพิวเตอร์ดังขึ้นไม่นานหลังจากทั้งคู่พร้อม การต่อสู่ก็เริ่มขึ้น Stewart เดินวนไปรอบๆตั้งท่ารับไว้เพื่อคอยดูจังหวะของคู่ต่อสู้ Neil เริ่มขึ้นก่อน เขาพุ่งหมัดซ้ายเข้ามา Stewart รับไว้ได้ทันควัน เขาถอยหลังเล็กน้อยก่อนสวนกลับด้วยหมัดขวาแต่ก็พลาดไปเล็กน้อย ทั้งคู่ลองเชิงกันอยู่ซักพักหนึ่ง Stewart เริ่มสังเกตว่าคู่ต่อสู้ของเขาถนัดซ้าย

       การดวลดำเนินไปซักพักหนึ่งทั้งคู่สวนหมัดกันไปมาพักใหญ่ Stewart ยังหาจุดบกพร่องของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ แต่เขาก็ไม่หยุดหา ทันใดนั้นเอง Neil ก็เหวี่ยงหมัดขวาเข้ามาทางซ้ายของเขา ซึ่งเขาหลบได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับสวนหมัดขวา Neil ใช้มือขวาปัดหมัดนั้นออกไปแล้วต่อยเข้าที่ท้องของ Stewart อย่างแรง เขาเซไปและต้องไปเกาะผนัง Stewart ยกมือขึ้นให้สัญญาณยอมแพ้ เขาเองที่ผิดพลาด Neil ปัดเขาไปทางซ้ายของเขาซึ่งเปิดด้านขวาโล่งเต็มที่ Neil ใช้จังหวะนั้นให้เป็นประโยชน์ได้อย่างดี Stewart ไม่เคยแข่งกับคนถนัดซ้ายมาก่อน โดยปกติเขาสามารถชนะคู่แข่งเกือบทุกคนได้ แต่เขาไม่เคยนึกถึงคนที่ถนัดซ้ายมาก่อนเลย เขาจำเป็นต้องหาเทคนิคที่ต่างกันแต่เขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น จึงทำให้เขาแพ้ในที่สุด Neil เดินเข้ามาช่วยประคองพร้อมจับมือ

       “หัวหน้า เขาว่ากันว่าหัวหน้าเก่งที่สุดบนยานนะ ผมยินดีที่ได้แข่งกับหัวหน้านะ” เขากล่าวเรียบๆอย่างไม่ทะนงตน Stewart ประทับใจในส่วนนั้นของลูกเรือคนนี้

       “ฉันว่านายเก่งกว่าฉันมากเลย ฉันไม่ต้องการให้ใครยอหรอก เมื่อกี้ฉันยังแพ้นายเลยนะ ฉันไม่โกรธนายหรอก นายทำให้ฉันเห็นว่ายังมีคนที่มีฝีมือเหนือกว่าอยู่เสมอ เป็นการเตือนไม่ให้ฉันประมาท” Stewart กล่าวพร้อมกับปาดเหงื่อ “เอาล่ะ ฉันจะเลี้ยงมื้อเย็นวันนี้ก็แล้วกัน”

       “ไม่เป็นไรหรอกครับ หัวหน้า” Neil ตอบมา “ผมแข่งเอาความสนุกน่ะ”

       “ไม่ได้” Stewart พูดด้วยเสียงแข็ง ทำเอา Neil ชะงักไปชั่วขณะ “ฉันเป็นคนยุให้พนันเอง ฉันจะทำตามสัญญา”

       “ตามใจก็แล้วกันครับ” ว่าแล้ว Neil ก็ยืดอกขึ้น “จะไปห้องพยาบาลมั้ยครับ”

       “ไม่เป็นไร แค่นี้เล็กน้อย” Stewart กล่าวแล้วยืนขึ้นตัวตรง “ขอบใจอีกที ฉันไปก่อนล่ะ” ว่าแล้วเขาก็จากไป



       Quinn อ่านผลจากการสแกนเนบิวลาอยู่พักใหญ่ เขาพบว่าเส้นทางที่อนุภาควิ่งไปมานั้นเป็นเหมือนกับแหล่งพลังงานในตัว เขาเริ่มคิดอย่างสงสับ “เนบิวลาจะมีแหล่งพลังงานไว้เพื่ออะไร” เขายังคงเก็บความสงสัยไว้ก่อนแล้วพยายามสแกนต่อไปอย่างมุมานะ แต่ดูเหมือนว่าอนุภาคต่างๆจะป้องกันเซ็นเซอร์เป็นอย่างดี

       “กัปตันครับ” Quinn เอ่ยขึ้นพร้อมหันกลับไปหากัปตัน “ผมขออนุญาตนำยานเล็กเข้าไปสำรวจในเนบิวลาครับ”

       “คุณมีเหตุผลอะไรหรือ” กัปตันสวนกลับสั้นๆ

       “ผมสงสัยว่าเนบิวลาจะมีแหล่งพลังงานในตัวไปทำไมครับ” เขาตอบกลับอย่างฉับไว

       กัปตันดูผลการสแกนจากหน้าจอข้างๆที่นั่งของเขาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “จริงอย่างที่คุณว่านะ คุณ Quinn ผมจะให้คุณเอายานเล็กไปสำรวจดู แต่ผมจะให้ Anderson ไปด้วย” ว่าแล้วเขาก็กดเปิดช่องสัญญาณภายในแล้วเรียกขึ้น “คุณ Anderson ผมจะให้คุณไปสำรวจเนบิวลา ขอให้คุณรายงานตัวที่ท่าจอดยานด้วย”

       “รับทราบครับ กัปตัน” เสียงของ Anderson ตอบกลับมาอย่างกระฉับกระเฉง

       “คุณ Quinn ไปได้เลย” กัปตันพยักหน้าให้กับ Quinn



       ณ ท่าจอดยาน Anderson เดินเข้ามาและพบว่า Quinn กำลังเตรียมยานเล็กอยู่ เมื่อ Anderson เดินเข้ามาในยาน Quinn ก็ทักขึ้น Anderson เดินเข้ามาหน้าแผงควบคุมแล้วเริ่มถามก่อน “คุณจะไปกับผมรึ”

       “ครับ หัวหน้า” Quinn ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เซ็นเซอร์นั้นมาจากฝ่ายวิทยาศาสตร์

       “อืม” Anderson รับสั้นๆแล้วนั่งลงบนที่นั่งข้างๆ Quinn

       ในไม่ช้า Quinn ก็ให้สัญญาณกับหอบังคับการและสั่งเปิดท่าจอด จากนั้นเขาก็ปลดแท่นเทียบยานขณะที่ประตูท่าค่อยๆเลื่อนอย่างช้าๆ เมื่อประตูเปิดเต็มที่แล้ว ยานเล็กก็พุ่งออกไปด้วยกำลังขับจากจรวดขับดัน พอยานพ้นจากท่าจอดจรวดขับดันถูกปิดไป แทนที่ด้วยเครื่องขับดันหลักที่ให้กำลังมากกว่า ยานพุ่งเข้าหาเนบิวลาอย่างรวดเร็ว ประกายของสายอนุภาคที่วิ่งไปมาและบางส่วนระเบิดออกเป็นพลังงานปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

       “ผมว่าเราควรหลบสายอนุภาคพวกนั้นนะ” Anderson กล่าวกับ Quinn ที่กำลังป้อนเส้นทางเข้าไปในเครื่อง

       “ผมก็คิดแบบเดียวกันล่ะครับ” เขาตอบพร้อมกดปุ่มปรับข้อมูล “ผมกำลังปรับเส้นทางให้หลบสายอนุภาคให้มากที่สุดครับ เซ็นเซอร์จับรูปแบบของสายพวกนี้ได้คร่าวๆ ผมจะใช้มันให้เป็นประโยชน์”

       “ดีมาก” Anderson รู้สึกชื่นชมกับความฉับไวในการคิดของ Quinn

       ยานเล็กเคลื่อนผ่านก๊าซชั้นนอกของเนบิวลาอย่างราบรื่น ระบบเซ็นเซอร์ถูกจำกัดลง Quinn ปรับระบบให้สแกนในกวาดไปตามสายอนุภาค เสียงเครื่องควบคุมดังมาเป็นเสียงพื้นหลังอย่างเป็นจังหวะ Quinn คอยตรวจดูระบบเป็นระยะขณะยานเคลื่อนที่ลึกเข้าไป

       “ได้อะไรเพิ่มเติมมั้ย” Anderson ถามหลังจาก 10 นาทีผ่านไป

       “ยังไม่มีอะไรครับ ผมกำลังตามสายอนุภาคอยู่ครับ” Quinn ตอบเรียบๆ

       ยานยังคงเคลื่อนช้าๆลึกเข้าไปเรื่อยๆและแล้ว Anderson ก็ต้องตกใจกับการกระเทือนอย่างกะทันหัน Quinn รีบอ่านค่าเซ็นเซอร์แล้วรายงาน “เราชนกับแนวสนามพลังครับ” เขาดูผลการสแกนต่อไป “ดูเหมือนว่าจะมีวัตถุบางอย่างอยู่ใกล้ๆนี่ครับ เหมือนเป็นตัวจ่ายพลังงานเลย” เขาหยุดไปชั่วครู่ ท่าทางแปลกใจ

       “อะไรรึ” Anderson ถามขึ้นพร้อมยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

       “คือว่า…ผมเจอดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง เป็นดาวแบบโลกนี่ละครับ”

       Anderson ก็แปลกใจเช่นเดียวกันกับผลสแกนที่เจอ เขามองออกไปแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากก๊าซสีเขียวที่อัดกันอย่างหนาแน่น แล้วทันใดนั้นเองยานก็กระตุกทีหนึ่ง Quinn พูดขึ้นทันใด “เครื่องขับดันไม่ทำงานแล้วครับ”

       “เรากำลังถูกดูดเข้าไปในสนามโน้มถ่วงครับ” Quinn พูดขึ้นอีกครั้ง

       Anderson ขยับมือไปตามแผงควบคุมแล้วเช็คดูจรวดขับดันด้านหน้า เขาพบว่ามันไม่ทำงานเช่นกัน เขารีบถ่ายพลังงานไปยังจรวดขับดันแล้วจุดมันขึ้น มันไม่ติด ยานค่อยๆลดระดับลงไปในชั้นบรรยากาศของดาว เขากดปุ่มอีกครั้ง มันยังคงไม่ติด ยานค่อยๆเร่งลงไปตามแรงโน้มถ่วง ด้วยความเร็วขนาดนี้เขาคงจะลงไปกระแทกและระเบิดเป็นจุลแน่ๆ เขาถ่ายพลังงานเพิ่มเข้าไปโดยดึงจากทุกระบบรวมถึงระบบยังชีพด้วย ทันใดนั้นเอง จรวดก็ติดขึ้น ยานยังคงร่วงอยู่แต่ลดความเร่งลงพอสมควร พื้นดินเริ่มปรากฏขึ้นข้างหน้า

       “คุณเอายานลงจอดไหวมั้ย” เขาถาม Quinn อย่างรีบร้อน

       “พอได้ครับ” Quinn ตะโกนตอบเพราะเสียงรบกวนดังมาก

       ยานเล็กพุ่งลงไปราวกับอุกกาบาต Quinn จุดจรวดอีกชุดและเริ่มเชิดหัวขึ้น แต่แรงเฉื่อยยังคงไม่หมดไป ยานพุ่งลงไปเรื่อยๆ ทิวไม้ปรากฏขึ้นต่อหน้า Quinn พยายามดึงยานเอาไว้ ซึ่งคงจะช่วยอะไรได้ไม่มากแล้วในตอนนี้นอกจากลดความรุนแรงจากการกระแทกลง ทันใดนั้นเองยานก็กระแทกกับพื้นทรายซึ่งเลยทิวไม้ไปเล็กน้อย แม่น้ำปรากฏอยู่ด้านหน้า ยานพุ่งจมทรายไป แรงกระแทกทำให้ลูกเรือทั้งคู่สลบไป



       แสงส่องกราดเข้ามาปะทะสายตาที่เริ่มยังคงมัวของ Anderson เขาลืมตาขึ้นและพบว่ามือทั้งสองข้างถูกล็อคเอาไว้ เขาเริ่มหันไปมองรอบๆและพบกับ Quinn นอนอยู่ใกล้ๆแต่ยังไม่รู้สึกตัว เขาพยายามขยับตัวลุกขึ้นขณะที่ขาข้างหนึ่งไปชนเศษชิ้นส่วนเลื่อนไปและส่งเสียงดัง เขาหยุดนิ่งชั่วครู่ แล้วร่างๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา  ร่างนั้นดูจะสูงราวๆ 2 เมตรได้ ผิวที่มีสีเทาแก่และตาที่มีสีม่วง ผิวนั้นดูจะมีเกล็ดอยู่ประปราย ผมสีแดงเข้มเส้นละเอียดถูกเล็มให้พอดีระดับหัวไหล่ ร่างนั้นก้มลงมาต่อหน้าของ Anderson อย่างช้าๆ เสียงครางของ Quinn ดังขึ้นแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มได้สติ

       “คุณมาทำอะไรบนดาวของเรา” เสียงที่แหลมเล็กดังขึ้นจากร่างนั้น ชิปแปลภาษาทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

       “เรามาสำรวจสายอนุภาครอบๆเนบิวลา” เขาตอบไปและพยายามให้ข้อมูลน้อยที่สุด

       “สำรวจงั้นหรือ” ร่างนั้นยิ้มนิดๆ “เอาล่ะ ผมจะปล่อยคุณ ผมไม่รับรู้ความรู้สึกโกหกจากคุณ”

       “พวกมีพลังจิตหรือนี่” Anderson นึก แล้วร่างนั้นก็พยักหน้า

       ล็อคถูกปลดออกจากมือของทั้งสองคน แล้วร่างนั้นก็กล่าวขึ้นเรียบๆ “ฉันชื่อ O’pan เราคือ Wilari ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของพวกเรามากว่า 300 ปี เราคงจะบอกอะไรคุณได้มากกว่านี้ถ้าคุณไปกับเรา”



       กัปตัน Rick Walls นั่งนิ่งรอดูผลการสแกนอยู่อย่างเงียบๆ ลูกเรือหญิงผมทองนั่งอยู่แทนที่ Quinn ตอนนี้ Anderson กับ Quinn เอายานเล็กออกไปราวๆ 5 ชั่วโมงแล้ว ภารกิจที่พวกเขาให้ไปทำไม่น่าจะนานขนาดนี้ และถ้าจำเป็นพวกเขาควรจะบอกกล่าวกันมาก่อน เขานั่งเคาะนิ้วไปเรื่อยๆ แล้ว Shang ก็ก้าวเข้ามาในห้อง

       “ได้อะไรใหม่มั้ย ต้นเรือ” กัปตันถามขึ้นเบาๆ

       “ไม่มีเลยครับ ถ้าเราจะหาพวกเขาผมแนะให้เอายานเข้าไปในเนบิวลานะครับ” เขาแนะ

       “ไม่ดีล่ะ ถ้าพวกเขาไปเจออะไรบางอย่างที่ทำให้ยานตก เอายานเข้าไปอีกลำคงไม่มีแน่ๆ” กัปตันตอบไป

       “ถ้างั้นเราคงทำได้แค่รอล่ะครับ” Shang กล่าวแล้วนั่งลงข้างกัปตัน

       กัปตันหันไปหาลูกเรือที่คุมเซ็นเซอร์อยู่แล้วสั่งขึ้น “เซ็นเซอร์ ผมอยากให้คุณเพิ่มกำลังการกวาดเป็น 2 เท่า”

       “รับทราบค่ะ” เธอตอบอย่างรวดเร็วแล้วเริ่มปรับค่าต่างๆ

       เวลาผ่านไปช้าๆ กัปตันยังคงนั่งอยู่นิ่งๆเช่นเดิม ต้นเรือก็หยิบรายงานการสแกนมาดูคร่าวๆ ประมาณ 15 นาทีต่อมา ลูกเรือหญิงคนนั้นก็เรียกขึ้น “กัปตันคะ มียานกำลังออกมาจากเนบิวลาค่ะ”

       “ขึ้นจอเร็วเข้า” เขาสั่งอย่างไม่รีรอ

       ยานรูปร่างคล้ายจานครึ่งวงกลมโผล่ออกมาจากกลุ่มก๊าซ แสงไฟภายนอกวูบวาบไปตลอดทั่วทั้งตัวยาน ยานลำนั้นเคลื่อนมาหยุดลงหน้ายาน Aurora แล้ว Hammer ก็รายงานขึ้นจากสถานีสื่อสารว่าพวกเขากำลังเรียกยาน Aurora กัปตันลุกยืนขึ้นพร้อมแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาหันไปหาสถานีเซ็นเซอร์แล้วถามสถานะของยานลำนั้น

       “พวกเขาไม่ได้ยกเกราะหรือเตรียมอาวุธเลยคะ” นั่นคือสิ่งที่เธอตอบมา

       “เปิดช่องสัญญาณได้” เขากล่าวกับ Hammer เรียบๆ

       เสียงช่องสัญญาณเปิดดังขึ้น ภาพของยานที่ลอยลำหน้าเนบิวลาเปลี่ยนไปเป็นหน้าของพวกต่างดาวผิวสีเทาและตาสีม่วง ด้านหลังร่างๆนั้นมีเงารางๆของมนุษย์ยืนอยู่ Shang เข้ามากระซิบเบาๆกับกัปตันว่านั่นคือ Anderson กัปตันยังคงวางตัวนิ่งๆจนพวกต่างดาวคนนั้นเริ่มพูดขึ้น

       “พวกเราคือ Wilari ไม่ว่าพวกคุณเป็นใครก็ตาม เราได้พาคนของคุณ 2 คนมาส่ง ยานของพวกเขาชนกับแนวป้องกันของพวกเราเข้าและตกลงบนดาว” Wilari คนนั้นกล่าวด้วยเสียงที่ค่อนข้างแหลม “เรารู้สึกได้ถึงความเป็นมิตรของพวกคุณ ดังนั้นเราจะปล่อยพวกคุณไป”

       ทันใดนั้นเองแสงสีเหลืองก็วาบขึ้นพร้อมเสียงซ่าเล็กน้อย Anderson และ Quinn โผล่มาในไม่กี่วินาทีต่อมา ทั้งคู่ยังคงงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วต่อจากนั้นลูกเรือที่สถานีซ่อมบำรุงก็อุทานขึ้นด้วยความตกใจ ข้อมูลบนจอกำลังวิ่งด้วยอย่างรวดเร็วราวกับว่าคอมพิวเตอร์กำลังรับข้อมูลมหาศาลเข้ามา ประมาณนาทีหนึ่งต่อมา มันก็หยุด ทันทีที่มันหยุด ยานของ Wilari ก็ถอยกลับเข้าไปในเนบิวลาตามเดิม

       “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย” กัปตันพูดขึ้นขณะที่คนอื่นกำลังแปลกใจกับเหตุการณ์

       “กัปตันครับ” ลูกเรือที่สถานีซ่อมบำรุงเอ่ยขึ้น “เราได้แผนที่ดวงดาวในระยะ 600 ปีแสงมาเพิ่มเติมครับ พวกเขาถ่ายข้อมูลมาให้เราครับ กัปตัน”

       กัปตันมองดูลูกเรือคนนั้นซักครู่แล้วสั่งให้เอาข้อมูลส่งมาให้ที่แผงควบคุมของกัปตัน เขารีบเปิดดูข้อมูลอย่างผ่านๆ เขาพบว่าข้อมูลที่ได้มามีความละเอียดค่อนข้างมากเลย ตั้งแต่ข้อมูลสรวจพื้นฐานของดาวเคราะห์ในระบบต่างๆ ไปจนถึงข้อมูลปรากฏการณ์แปลกๆในอวกาศจำนวนมากมาย พวกเขายังมีข้อมูลของ Arquei อีกต่างหาก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความเป็นมิตรอย่างมากเลยทีเดียว

       “คุณ Quinn คุณเข้าประจำที่ของคุณซะ” Shang กล่าวแล้วหันไปหา Anderson “คุณด้วย”

       “เตรียมเดินทางไปตามทิศทางเดิม ความเร็ววาร์ประดับสูงสุด” กัปตันสั่งเรียบๆ โดยรู้ว่าโชคชะตาของพวกเขานั้นได้เปลี่ยนไปมากมายแล้วจากการพบเจอครั้งนี้

       “ตั้งทิศทางแล้วครับ” Charles ขานรับด้วยน้ำเสียงดีใจเล็กน้อย

       “ไปได้” ว่าแล้วยาน Aurora ก็พุ่งหายไปในห้วงอวกาศวาร์ปต่อไป





    NOTE: ขอโทษนะครับที่ไม่ได้เขียนนานไปหน่อย ช่วงนี้ยุ่งมากน่ะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×