คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท+Talk
ปฐมบท
ถ้ามันเป็นแค่ความฝัน
ก็ขอให้มันจบลงแค่นี้เถอะ ตื่นซักที...
ผมมองรอบตัว แต่ทว่ากลับอยู่ท่ามกลางความมืด ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกทางร่างกาย แต่น่าแปลก ผมมองเห็นร่างกายตัวเองเมื่อยามยกฝ่ามือขึ้นมาสำรวจ ไม่ต้องใช้ตรรกะอะไรก็คงรู้ว่าอยู่ในที่มืดไร้แสงสว่างแบบนี้ ย่อมไม่เห็นสิ่งใดอยู่แล้ว
จิตใจเริ่มตื่นวิตกขึ้นมา ความกลัวเข้าครอบงำ พลันสมองก็จินตนาการภาพสิ่งไม่มีชีวิต ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึงผี คนเรากลัวความมืด...
ความมืดสมารถสั่งการภาพฝันร้ายต่างๆนานาให้ผุดขึ้นมากมาย แต่ผมก็เอะใจอีกครั้ง อย่างที่บอกว่าผมไม่รู้สึกทางร่างกายใดๆ เหมือนล่องลอยในมวลอากาศ นี่ผม.. ตายแล้วหรอ? สถานที่นี้คือนรกใช่ไหม มันดูแตกต่างจากความคิดของผมไปมาก หรือแม้แต่หนังสือเรื่องไหนที่อ้างอิงบรรยายถึงดินแดนนรก
ผมค่อยๆประมวลภาพความทรงจำ นึกย้อนไปช่วงก่อนเกิด”อุบัติเหตุ”
ผมชื่อเตนล์ อายุแค่17 เป็นเพียงนักเรียนชั้นม.5 ครอบครัวมีคุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ และยัยตัวแสบน้องสาวผม
ช่วงเย็นหลังเลิกเรียน เป็นเพราะช่วงนี้เป็นเดือนของกีฬาสี ชั้นม.5ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเยอะสุด ส่วนใหญ่ก็ต้องอยู่ถึงมืดๆเพื่อเตรียมการต่างๆ ผมก็เป็นหนึ่งนั้นเช่นกัน มีเพื่อนเป็นถึงประธานสี เพื่อนที่แสนดีอย่างผมก็ต้องช่วยสิ
“บี” อยู่ฝ่ายคุมอุปกรณ์พาเหรด เธอวารให้ผมไปซื้อเทปกาวที่ร้านขายของชำฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ขาไป ผมข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย ป้าแช่มเจ้าของร้านก็ชวนคุย ถามเรื่องกีฬาสีอย่างสนิทสนม แต่...
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นตอนขากลับต่างหาก
ผมจำได้ว่ามองซ้ายมองขวาอย่างดี เมื่อแน่ใจว่าไม่มีรถขับมาในระยะใกล้ๆจึงเดินข้ามไป แต่เหมือนพระเจ้าจะเคืองอะไรผมหรือเปล่า ผมเดินข้ามทางม้าลายอยู่ดีๆ ยังไม่ถึงกลางถนน พลันด้านขวาผมก็ปรากฏรถสปอร์ตขับตรงมาทางผมด้วยความเร็วสูง!
เสียงป้าแช่มดังขึ้นเรียกสติที่มัวแต่ตกใจ แต่ไม่ทันการ ผมที่หันถอยหลังจะวิ่งกลับฝั่ง แต่ขาพันกันจนหกล้ม!
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด
ตึงงง!!!
!@#$%^&*!@#$%^&*
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นรอบตัว ดวงตาผมพล่าเบลอ มองป้าแช่มที่วิ่งมาเรียกผมให้ได้สติ เสียงเด็กนักเรียนละแวกนั้นดังระงม
ผมไม่อยากตาย...
พยายามประคองสติไม่ให้หลับ แต่ผมคงฝืนชะตากรรมไม่ไหว
บี ขอโทษที่ซื้อเทปกาวไปให้ไม่ถึงมือนะ ทั้งๆที่รับปากอย่างดี
พ่อครับแม่ครับ คุณย่า ยัยตัวแสบ... รักนะครับ
สิ้นความคิดที่ไม่ทันได้เอ่ย สติผมดับวูบไม่รับรู้อะไร เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงวอร์ของรถพยาบาลเท่านั้นเอง
พอเริ่มจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาก ใช้ชีวิตมาแค่17ปี ก็จะจบลงตรงนี้หรอ แล้วฝันของผมล่ะ? ผมอยากเป็นสถาปนิก แต่มันไม่มีอีกแล้ว ทั้งคนที่ผมรัก ครอบครัว เพื่อน
โชคชะตาผมจะเล่นสนุกไปแล้ว อยากร้องก็ร้องไม่ออก มันจุกๆ จนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
ถ้ามันเป็นแค่ความฝัน
ก็ขอให้มันจบลงแค่นี้เถอะ ตื่นซักที...
#ต้องตาวต
คร่ำครวญกับตัวเองได้ซักพักก็มีแสงจ้าทางด้านหลัง นี่ยมทูตจะมารับผมแล้วหรอ กลัวจัง... ผมหันกลับมองแต่ก็ต้องหยีตา เป็นเพราะอยู่ในที่มืดเห็นแต่สีดำมานานเมื่อเจอแสงสว่างย่อมรู้สึกแสบตา เคืองตานิดๆด้วย
“สวัสดีเจ้าหนู”
เอ่อ ยมทูตมีการเอ่ยทักกันแบบนี้ด้วยหรอ คนตรงหน้าเหมือนชายแก่อายุซัก80ปี มีหนวดเครายาวเหมือนศาตราจารย์ดับเบิลดอร์ของโรงเรียนฮอกวอต เวอร์ชั่นเคราตรงเรียบไม่หยิกฝอย สวมใส่ชุดสีขาวเหมือนพวกนักปฏิบัติธรรม ในมือถือหนังสือสีแดงหนึ่งเล่ม
นั่นคงเป็นบัญชีคนตาย ว่าแต่ พวกยมทูตเนี่ยเขาเปลี่ยนแนวกันหรอ? ไม่ใช่ว่าแบบตัวดำๆ มีเขาที่หัว นุ่งโจงกระเบน ที่ตัวใส่สายสังวาลย์หรอกหรือ นรกเนี่ย.. คงมีแฟชั่นเหมือนกันสินะ
“สะ สวัสดีครับ คุณคือยมทูตหรอ จะมารับผมแล้วใช่ไหม”
ผมถามเสียงสั่น สายตาหลุบลงมองปลายเท้าตัวเอง
“ฮะๆ เจ้าอย่าทำให้ข้าขำสิ วันนี้ข้าต้องทำตัวเป็นทางการสักหน่อย คำสั่งจากเบื้องบนน่ะ”
ผมไม่รู้ว่าท่านยมทูตตนนี้พูดถึงเรื่องอะไร คำว่าคำสั่งจากเบื่องบนคงเป็นของท่านจ้าวนรกนั่นแหละ
“เอาล่ะ ข้าไม่อยากอธิบายอะไรมาก ขอรวบสั้นๆแล้วกัน”
ผมรอฝังอย่างลุ้นๆ จะโดนไปนรกขุมไหนนะ ผมก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีมากมายอะไร
“เดิมทีเจ้าไม่ได้ถูกกำหนดให้มาเกิดในโลกใหม่แห่งนั้น ที่ๆเจ้าเกิดนั่นแหละ แต่เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นที่เตาหล่อชะตามนุษย์ ทำให้ชะตาของเจ้าผิดเพี้ยนไป ตัวข้านั้นเป็นหนึ่งในผู้ดูแลโชคชะตาและพรมลิขิต ได้รับมอบหมายให้มาตามดวงจิตของเจ้ากลับสู่โลกเดิม เพื่อป้องกันชะตาชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องผิดเพี้ยนตามไปด้วย”
เห้อ โชคดีที่อยู่นรกขุมที่... เดี๋ยวๆ อะไรนะ!!! ผมว่าหูผมคงฝาดไป อะไรคือโลกใหม่โลกเดิม ไม่ตลกนะครับ!
“คุณกำลังเล่นตลงอะไรอยู่แน่ ไม่ค่อยขำเท่าไหร่นะ”
“ฮะๆ ข้าก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเจ้าคงไม่ยอมเชื่อ เอาเถอะ ข้าไม่ได้เล่นตลกอะไร มันคือเรื่องจริง เจ้ารีบๆเข้าใจซักที เวลาโลกเดิมกับโลกใหม่ไม่เท่ากัน เมื่อเจ้าได้กลับสู่ภูมิภพที่เจ้าจากมา ยามนั้นเจ้าเพิ่งจะอายุเพียง6ปีเท่านั่น”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! แล้วครอบครัวของผมล่ะ ความผูกพันที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว มันใช่ของจริงไหม?
“ข้าไม่อยากพูดทำร้ายจิตใจเจ้าหรอกนะ แต่ข้าต้องบอกตามตรง ตอนนี้ที่โลกใหม่เจ้าถูกลบตัวตนออกแล้ว ความทรงจำใครก็แล้วแต่ที่มีเจ้าอยู่ก็จะถูกลบไปหมด”
ผม.... พูดไม่ออก ครอบครัวที่ผมรักทุกคนจะลืมผมหรอ... หรือแท้จริงแล้ว ตัวตนบนโลกใบนี้ทีผมเกิดมามันไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรก
“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร เพื่อเป็นการขอโทษจากทางเทพเซียน ข้าจะไม่ลบความทรงเจ้าแต่ขอให้เจ้ารักษากฎของทั้งสองโลก ว่าเจ้าจะไม่แพร่งพรายเรื่องของโลกใหม่ให้ใครรับรู้เด็ดขาด มิเช่นนั้นข้าคงต้องลบความทรงจำทั้งหมด”
ทะ เทพเซียน? นี่มันอะไรกันโลกเดิมเป็นยุกต์สมัยไหน วัฒนธรรมอะไร จีนหรอ? เหมือนในนิยายออนไลน์ตามเว็บไหม? ผมเครียด แต่สิ่งที่เครียดกว่าคือเรื่องที่คนตรงหน้าบอกผมเมื่อครู่
เห้อ แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะ เหลือทางเลือกทางเดียวตัดสินใจอะไรไม่ได้หรอก ได้แต่ยอมรับสภาพ
ผมหวนคิดถึงหน้าพ่อกับแม่ คุณย่า ยัยน้องสาวตัวแสบ ผมจะจำให้ขึ้นใจ แม้ตัวผมเองจะไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วพวกเขานั้น”มีตัวตนหรือเป็นเรื่องจริง”ไหม แต่ผมคิดว่าทุกสิ่งล้วนเป็นความทรงจำที่ดี จำไว้ให้หวนระลึกถึง ว่าครั้งนึงเราเคยมีเรื่องราวมาแบบไหน เคยได้ทำอะไร รู้จักใครบ้าง คนที่เรารัก และคนที่รักเรา ทุกคน ผมจะไม่ลืม สัญญา
“ผมตกลงครับ เรื่องที่ผ่านมา... ให้มันอยู่แค่ในทรงจำผมก็เพียงพอแล้ว” ผมตอบพลางยิ้มบางๆกับผู้อาวุโสตรงหน้า
“ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าจะส่งตัวเจ้าไปจังที่ๆเจ้าจากมาแต่โลกเดิม และข้ารู้สึกเอ็นดูเจ้าเหมือนลูกหลานคนนึง ข้าจะให้พรเจ้า หลับตาเสียสิ”
ผมแอบสนใจเรื่องพรนั่นนิดหน่อย แต่ก็ยอมหลับตาโดยดี
ผมรู้สึกเหมือนมีลมอุ่นโอบอ้อมรอบกาย สมองเริ่มไม่รับรู้อะไรเหมือนยามเข้านอน และแล้ว สติผมก็หมดลง
“พรของเจ้านั้นคือ หนึ่ง เจ้าจะเป็นที่รักของคนมากมาย สอง สุขภาพดีร่างกายแข็งแรง สามนั้นเป็นพรโดยตรงจากข้า ไม่สิ ข้าเรียกมันว่าของขวัญแล้วกัน จะเป็นอะไรนั้น ... ให้พรมลิขิตด้ายแดงชักนำเจ้าเองเถิด”
#ต้องตาวต
Talk: สวัสดีค่าาา สวัสดีๆ ยินดีต้อนรับเข้าสู่เรือลำน้อยๆ(น้อยจริงๆ)ของวินเตนล์ ก่อนอื่นเลย อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไมแต่งวินเตนล์ โมเม้นคู่นี้มีหรอ? ตอบค่ะ "มี" แต่น้อยของน้อยมาก เกิดจากความขี้สังเกตและขี้ชิปส่วนตัวด้วย ฮ่าาๆ
ออกตัวว่า AllTen ค่ะ นอกจากยูเตนล์แล้ว ก็เอ็นดูวินเตนล์เป็นพิเศษ ลองคิดดูนะคะ หน้ากล้องโมเม้นน๊อยยน้อย แล้วหลังกล้องล่ะ... ยูเตนล์อะไม่เท่าไหร่ แต่วินเตนล์นี่สิ พวกน้องจะคุยกันยังไงนะ ขนาดวินวินคุยกับพี่แต้วยังคุยคนล่ะเรื่อง แล้วถ้ามาคุยกับยัยหนูเตนล์... พัง! 5555555 มันน่ารักค่ะ แล้วตอนv live คิดว่าทั้งสองคนสนิทกันพอสมควร มีการบีบไหล่ให้กำลังใจกันไปอีก แอบมอง อมยิ้ม ฮึ่ยยย อาการกำเริบค่ะ คันมือยิกๆ แต่งฟิคมันเล้ยย!!
มาพูดถึงฟิคนะคะ บางท่านอาจจะมองความเป็นจริงที่ว่า เตนล์ตัวหนาและไม่เหลือเค้าร่างบาง----แค่กกๆ อีกแล้ว แต่กลับกันวินวินนั้นลูกจิ๊บเจี๊ยบเหลือเกิน มันดูจะสลับบทกันใช่มั้ย? ขอให้รีดเดอร์ทุกคน จงมโนถึงน้องเตนล์ช่วงรุกกี้นะคะ ตอนนั้นยังตัวน้อยๆ ส่วนวินวิน ขอให้รีดเดอร์จินตนาการให้น้องตัวหนากว่าที่เป็นอยู่ ... ดูวุ่นวายเนอะ ฮ่าาๆ เอาเป็นว่า ไรท์จะเขียนลักษณะแต่ละคนออกมาให้ชัดเจน ขอความกรุณารีดเดอร์ช่วยร่วมมือกันจินตนาการตามไรท์ด้วยเถิด เพื่อความสมจริง(?)และฟินส่วนตัว ฮ่าาาาา
**************************
ต่งซือเฉิง - วินวิน
หลี่เฟิงซู - เตนล์
ไม่สับสนน้าาาา เพื่อความราบรื่นในการแต่งของไรท์
ความคิดเห็น