ตอนที่ 4 : มูฟออนครั้งที่ 3
มูฟออนครั้งที่ 3
วันเฉลยสายเทคมาถึงแล้วครับตอนนี้พวกเราทุกคนนั่งรวมตัวกันอยู่ที่ลานกิจกรรมของคณะรวมถึงพี่ๆทุกชั้นปี ตอนนี้ที่ลานจึงเต็มไปด้วยนิสิตสาขาการตลาดดูอบอุ่นสุดๆไปเลยครับ
"สวัสดีครับน้องๆทุกคน พี่แชมป์คนดีคนเดิม ไม่มีเพิ่มเติมอะไรเลยครับ"
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"และแล้ววันนี้ที่น้องๆรอคอยก็มาถึงแล้วนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาน้องคนไหนเจอพี่เทคแล้วแยกมาทั้งฝั่งขวาของพี่ ส่วนคนที่ยังไม่เจอเชิญที่ฝั่งซ้ายครับผม"
ผมกับแป้งพายแยกตัวไปทางฝั่งขวาส่วนก้าวหน้าต้องไปฝั่งซ้ายตามที่ตกลงไว้กับพี่สกาย
"พี่ขอเริ่มจากฝั่งขวาก่อนเลยให้น้องๆ ชูกระดาษคำใบ้พร้อมบอกว่าใครคือพี่เทคของน้อง ถ้าเจ้าตัวยืนยันว่าถูกต้องน้องก็รอดจากการโดนทำโทษ แต่ถ้าไม่ใช่น้องต้องย้ายตัวเองไปฝั่งตรงข้ามรอรับบทลงโทษได้เลย มาเริ่มที่น้องคนแรกเลยดีกว่า"
การเฉลยพี่เทคดำเนินต่อไปเรื่อยๆมีบางคนที่ทายพี่เทคไว้ผิดก็มีเลยต้องย้ายไปอีกฝั่งเพื่อโดนทำโทษ ผมเองก็เริ่มกลัวๆเหมือนกันถ้าไม่ใช่ขึ้นมาผมเองต้องโดนทำโทษแน่ๆ
"มาถึงน้องน่านฟ้าแล้ว ขอดูคำใบ้หน่อยครับ"
"นี่ครับคำใบ้ของผม พี่เทคของผมก็คือพี่คินครับ"
"ว่าไงครับพี่คินใช่พี่เทคของน้องน่านหรือเปล่า"
ผมหันไปมองหน้าพี่คินที่ตอนนี้กำลังมองหน้าผมอยู่เช่นกัน ประกายตาของพี่คินฉายแววความสนุกปนอยู่แถมยังมีรอยยิ้มมุมปากอีก ผมจะโดนพี่คินแกล้งหรือเปล่าเนี่ย
"ใช่ครับ พี่เป็นพี่เทคของน้องน่าน"
"หากันเจอไปอีกคู่แล้วนะครับ เอ้าไปเดตกัน!"
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เดตเดิตอะไรกันเล่าพี่แชมป์! ผมเสียหายหมดแบบนี้ต้องให้พี่คินมารับผิดชอบผมแล้วนะ
"ไงเรา ยังมั่นใจว่าพี่เป็นพี่เทคเราจนได้ได้นะ"
"แน่นอนครับ ผมมาคิดๆดูแล้วถ้าพี่ไม่ใช่พี่เทคผมจริงๆพี่คงปฏิเสธผมมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว"
"หึหึ ไม่คิดว่าพี่จะแกล้งเราหรือไงให้เราเข้าใจไปแบบนั้นแล้วเฉลยออกมาว่าไม่ใช่พี่"
"ผมมั่นใจว่าพี่ไม่แกล้งผมแน่นอนเพราะพี่คินใจดี"
พรึบ
"มองโลกในแง่ดีจริงๆเลยนะ เสร็จจากตรงนี้มีเลี้ยงสายนะพี่ปีสามกับสี่รอเจออยู่"
ช็อก! บอกได้คำเดียวว่าช็อกเพราะอะไรเหรอก็พี่คินเล่นเอามือมาโยกหัวผมแถมยังส่งยิ้มละมุนมาให้อีก หัวใจจะวายแล้วใครก็ได้ช่วยผมที ~ ~
หลังจากนั้นเราสองคุยก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่เพราะหันมาสนใจกิจกรรมตรงหน้าแทน พอเฉลยฝั่งขวาเสร็จพี่แชมป์ก็หันไปลงโทษฝั่งซ้ายต่อบอกได้คำเดียวว่าเละ! พวกพี่เขาเอาทั้งแป้ง ดินสอพอง ลิปสติกมาละเลงใส่ประหนึ่งว่าเฟรชชี่อย่างพวกเราเป็นผลงานศิลปะ ส่วนพี่เทคที่ถูกน้องจับได้ก็ไม่น้อยหน้าโดนละเลงตามๆกันไปพี่คินก็ด้วย
"เอาล่ะครับกิจกรรมเฉลยพี่เทคก็จบไปแล้วนะครับ จากนี้ก็ขอให้น้องๆใช้เวลาหนึ่งปีต่อจากนี้เก็บเกี่ยวสิ่งของต่างๆจากพี่เทคให้เต็มที่นะครับ เพราะพอขึ้นปีสองแล้วเราจะถูกลอยแพนั้นเอง"
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ตอนนี้แยกย้ายกันได้ครับ เจอกันอีกทีวันจันทร์เราจะมาคุยกันเรื่องงานเฟรชชี่เกมกัน"
ทุกคนทยอยกันแยกย้ายไปกับพี่เทคของตัวเองใครที่ไม่เลอะก็ออกไปกับพี่เทคได้เลย ส่วนใครเลอะเทอะก็นัดหมายร้านที่จะเจอกับพี่เทคอีกที เหมือนกับผมตอนนี้ที่ต้องนัดเจอกับพี่คินทีหลัง
"พี่ขอไปอาบน้ำก่อนล่ะกันเละแบบนี้เข้าร้านไม่ได้แน่นอน ไว้เสร็จแล้วพี่แวะไปรับที่หอนะ ว่าแต่เราอยู่หอไหน"
"ผมอยู่หอ B ตรงหลังมอครับ ว่าแต่พวกพี่นัดกันที่ร้านไหนครับ"
"พี่นัดกันที่ 'ชอบเหล้า' ตอนหกโมง ร้านอยู่หน้ามอรู้จักหรือเปล่า"
"รู้จักครับ ถ้าอย่างนั้นผมไปเองดีกว่าพี่จะได้ไม่ต้องวนมารับผม"
"เอางั้นก็ได้แต่ขากลับต้องให้พี่ไปส่งนะมันดึกแล้วอันตราย เอาเบอร์เรามาถึงแล้วก็โทรหาพี่"
พี่คินยื่นโทรศัพท์ของพี่เขาให้ผมเมมเบอร์ให้ ถึงจะขอในฐานะพี่เทคก็เถอะแต่มันก็ทำให้ผมอดจะเขินไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกว่าหน้าตัวเองต้องแดงแน่ๆ
"พี่ยิงเข้าไปแล้วนะเมมเบอร์พี่เอาไว้ด้วย ว่าแต่ไม่สบายหรือเปล่าทำไมหน้าแดงๆ"
"ปะ เปล่าครับ อากาศมันร้อนน่ะพี่"
"โอเคๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วไว้เจอกันที่ร้านนะ"
พรึบ พรึบ
"คะ ครับไว้เจอกัน"
ฮือออ วันนี้ผมต้องใช้แต้มบุญหมดแล้วแน่ๆ เลยทั้งได้พี่คินเป็นพี่เทค พี่คินโยกหัว พี่คินขอเบอร์ พี่คินลูบผม แถมพี่คินจะไปส่งผมที่หออีก พรุ่งนี้ผมต้องรีบตื่นแต่เข้าไปสะสมแต้มบุญเพิ่มสะแล้ว
~♥~~♥~~♥~~♥~~♥~
'ชอบเหล้า' ร้านอาหารกึ่งบาร์ที่มีชื่อเสียงในย่านมหาวิทยาลัยของผม ตัวร้านตกแต่งสไตล์ลอฟท์แบ่งออกเป็นสองโซนคือโซนอินดอร์ที่ทำเป็นบาร์สองชั้น โดยที่ชั้นแรกจะเป็นบาร์ปกติทั่วไปใช้วิธีการเปิดเพลงคลอเบาๆสร้างบรรยากาศในการดื่ม
ส่วนชั้นสองจะเป็นห้องวีไอพีไว้ใช้สำหรับจัดปาร์ตี้หรือคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ คนที่จะเข้าโซนบาร์ได้ต้องได้รับการตรวจบัตรก่อนเท่านั้น
อีกโซนคือโซนเอาท์ดอร์ที่ทำเป็นร้านอาหารที่มีดนตรีสดมาเล่นทุกวันซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นวงของนิสิตจากมหาวิทยาลัยผมทั้งนั้น โซนนี้เหมาะกับมาเลี้ยงสังสรรค์ให้เฟรชชี่อย่างพวกผมเพราะไม่มีการตรวจบัตร
วันนี้พวกพี่สายผมมาเลี้ยงกันที่โซนเอาท์ดอร์เนื่องจากอายุผมยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าโซนบาร์ ผมโทรถามพี่คินเรียบร้อยแล้ว
พูดแล้วก็เขินกว่าจะทำใจโทรหาพี่คินได้ยืนบิดไปมาจนตัวจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงเท่านั้นแหละแทบทำโทรศัพท์ร่วงลงพื้น เสียงพี่คินนุ่มมากเหมือนจะนุ่มกว่าตอนคุยกันแบบปกติอีก ทุ้มนุ่มอบอุ่นถ้าได้ฟังเสียงแบบนี้บอกฝันดีก่อนนอนรับรองว่าหลับสบายทั้งคืน
"น่าน รอนานไหม"
ผมหันไปตามเสียงเรียกเจอกับพี่คินที่เดินออกมารับผม ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าพี่คิน 'หล่อมาก!' ดูดีจนผมตาพร่าไปหมด พี่คินใส่แค่เสื้อยืดสีดำลายกราฟฟิก กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบ เซ็ตผมเปิดหน้าผาก เป็นชุดธรรมดาๆที่พออยู่บนตัวพี่คินแล้วกลับดูดีมากหรืออาจเป็นเพราะได้พี่คินเป็นไม้แขวนก็ได้ทุกอย่างเลยออกมาดูดีแบบนี้
"ไม่นานครับ ผมโทรหาพี่ตอนมาถึงพอดี"
"งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะพี่ๆคนอื่นมากันแล้ว"
ผมเดินตามพี่คินเข้าไปด้านในบรรยากาศภายในร้านตอนนี้คึกคักมากมองไปทางไหนก็เจอเพื่อนพี่ร่วมสาขาที่มาเลี้ยงสายเทคกันเต็มไปหมด นอกจากนิสิตมหาวิทยาลัยผมแล้วยังมีนิสิตจากมหาวิทยาลัยอื่นๆและพนักงานออฟฟิศอีกด้วย
"น้องมาแล้ว ~ ~ ~"
พี่คินพาผมมาถึงโต๊ะแล้วครับ ที่โต๊ะมีทั้งหมดสองคน อยากจะถามว่าสายนี้คัดหน้าตาเข้ามาหรือเปล่าทำไมดูดีกันแบบนี้ พี่ผู้หญิงที่ส่งเสียงทักผมถึงจะเป็นสาวแว่นแต่ก็เป็นสาวแว่นที่น่ารัก พี่เขาตัวเล็กมากเล็กกว่าผมที่สูงแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรอีก ไว้ผมหน้าม้ายาวประบ่าดัดลอน เครื่องหน้าเรียกได้ว่าจิ้มลิ้มใครเห็นก็อดที่จะจ้องมองไม่ได้
ส่วนพี่อีกคนที่นั่งอยู่เป็นผู้ชายครับรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับพี่คิน ส่วนสูงก็ไล่เลี่ยกัน ต่างกันแค่ทรงผมที่พี่เขาไม่ได้เซตมาทำให้ใบหน้าดูเด็กกับผมสีควันบุหรี่ บอกเลยว่าถ้าหน้าตาไม่ดีจริงทำสีนี้ไม่รอดแน่ๆ
"เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักนะนี่พี่ขนมปีสามกับพี่ติณณ์ปีสี่"
"สวัสดีครับพี่ๆผมน่านฟ้านะครับ"
"ดีครับน้องน่าน"
"ดีจ้าน้องน่าน ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกทำไมถึงได้น่าเอ็นดูขนาดนี้ลูกกกกก"
"ใจเย็นๆเจ๊ น้องกลัวหมดแล้ว"
"อย่ากลัวเจ๊เลยนะน้องน่าน นาน ๆเจ๊จะเจอคนที่ตรงสเปกแบบนี้ ในสายเราก็มีแต่ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น"
"เอ๊ะ? ตรงสเปกเหรอครับ"
ผมถามพี่ขนมด้วยความสงสัยว่าผมนี่นะตรงสเปกพี่เขา แต่ไม่ได้นะพี่ขนมเพราะผมชอบพี่คินคงชอบพี่ไม่ได้แล้ว
"ใช่จ้า แต่ไม่ได้หมายถึงสเปกแบบแฟนนะ คือพี่ชอบอะไรที่มันน่ารักๆอะแล้วเราก็ดันตัวเล็กน่ารักอีก ตรงสเปกพี่สุดๆ"
"อ๋อ ครับ"
"พี่ว่าสั่งอาหารกันดีกว่าน้องน่าจะหิวแล้ว สั่งได้เต็มที่นะมื้อนี้พี่จ่ายเอง"
พี่ติณณ์เอ่ยขัดบทสนทนาก่อนที่เราจะคุยกันเพลินไปกว่านี้จนลืมสั่งอาหาร
"พวกพี่สั่งกันเถอะครับ ผมทานอะไรก็ได้"
"เราไม่มีแพ้อะไรใช่ไหม"
ถ้าผมตอบว่าแพ้พี่จะได้หรือเปล่าครับพี่คิน
"ไม่มีครับผมทานได้หมด"
"ดีเลยงั้นเดี๋ยวเจ๊สั่งให้ทุกคนเอง"
สั่งอาหารเสร็จพวกเราก็คุยกันต่อมีการแลกช่องทางการติดต่อกันไว้เรียบร้อย เจ๊ขนม...พี่เขาให้ผมเรียกแบบนี้ครับบอกให้ความรู้สึกว่าตัวเองดูน่าเกรงขาม เจ๊เพิ่มผมเข้ากลุ่มแชทไลน์เรียบร้อยมีสองกลุ่มครับคือกลุ่มรวมทั้งสายให้ผมได้เข้าไปแนะนำตัวกับกลุ่มเฉพาะพวกเราสี่คน
พี่เขาให้เหตุผลว่ากลุ่มเล็กจะได้คุยกันเรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม เรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยจะได้ไม่รบกวนพี่ๆที่จบกันไปแล้ว เว้นแต่เรื่องไหนที่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกพี่ๆที่จบไปแล้วค่อยไปถามจากอีกกลุ่ม
~♥~~♥~~♥~~♥~~♥~
รอได้ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟพวกเรากินไปคุยไปแบบเพลินๆ ทำให้ผมได้รู้เพิ่มว่าพี่คินกับพี่ติณณ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มิน่าทำไมหน้าตาถึงได้คล้ายกันแบบนี้ พวกพี่ๆแต่ละคนก็เอาวีรกรรมแสบๆมาเผากันให้ผมฟัง ผมกินข้าวแทบไม่ได้เลยครับได้แต่หัวเราะอย่างเดียว กินข้าวอิ่มก็ต่อด้วยของหวานเป็นบิงซูแต่มีแค่ผมกับพี่ขนมเท่านั้นที่กิน
"คุยมาตั้งนานลืมถามเลยว่าบ้านเราอยู่ที่ไหนเหรอน่าน"
เป็นพี่ติณณ์ที่ถามผม
"บ้านผมอยู่เชียงใหม่ครับ"
"แบบนี้ดีเลย! ไว้ปิดเทอมเราไปเที่ยวบ้านน่านกันไปกันให้หมดเลย"
"ไม่ถามน้องก่อนเจ๊ว่าบ้านน้องสะดวกหรือเปล่า"
"ถ้าไม่สะดวกก็ไปพักโรงแรมเครือเจริญศิริกุลไง มีทายาทอยู่ในสายเราต้องสองคนเนอะพี่ติณณ์"
"พักบ้านผมได้ครับ ที่บ้านผมทำรีสอร์ตแต่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนะครับ"
"ดีเหมือนกันนะจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไปเชียงใหม่ทีไรพักแต่โรงแรมตัวเอง ว่าไงสนใจไหมคิน"
"น่าสนดีนะ ไว้ปิดเทอมพี่คงต้องรบกวนเราแล้วล่ะ"
"ไม่รบกวนเลยครับ"
ปิดเทอมนี้ผมมีโปรแกรมพาว่าที่ลูกเขยไปไหว้พ่อกับแม่แล้วครับ เขินจัง ~ ~
คุยกันไปเพลินๆก็ห้ามทุ่มกว่าแล้ว พี่ติณณ์เลยเรียกเช็คบิลเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับ
"กลับยังไงเรา"
"ผมไปส่งเองพี่"
"ดีๆไปส่งน้องเถอะดึกแล้วอันตราย แต่รอก่อนนะขอไปเอาของให้น้องก่อน"
พี่ขนมกับพี่ติณณ์แยกไปเอาของมาให้ผมครับ ของพี่ขนมเป็นพวกขนมสมชื่อพี่เขาเลยครับให้มาถุงใหญ่มากกินทั้งเทอมจะหมดไหมเนี่ย ส่วนของพี่ติณณ์เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาเกี่ยวกับการตลาดครับพี่เขาบอกว่ามันเป็นหนังสือที่เนื้อหาดีมาก เอามาเป็นข้อมูลเสริมตอนทำรายงานได้ดี ผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้มาอยู่สายนี้เลยครับพี่ทุกคนน่ารักแล้วก็ใจดีกับผมจริงๆ
"เอาล่ะแยกย้ายกันเถอะดึกแล้วจะได้พักผ่อนกัน"
"สวัสดีครับพี่ติณณ์ เจ๊ขนม"
"บายจ้าน้องน่าน ขับรถไปส่งน้องดีๆนะคิน"
"ครับเจ๊ เจ๊กับพี่ก็กลับดีๆนะผมไปล่ะ"
ตอนนี้ผมอยู่บนรถพี่คินแล้วครับไม่คิดไม่ฝันว่าวันที่ได้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่คินจะมาถึงไวขนาดนี้ ระหว่างทางไปหอเราสองคนก็มีคุยกันบ้างส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเรียนมากกว่า พี่คินให้คำแนะนำดีมากเลยครับ สมแล้วที่เขาว่ากันไว้ว่าพี่คินนี่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งแน่นอน
"ถึงแล้วครับน่าน"
เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงหอผมแล้ว อยากจะให้มีรถติดหรือระยะทางให้ไกลกว่านี้อีกหน่อยผมจะได้อยู่กับพี่คินนานๆ
"ขอบคุณมากนะครับที่มาส่งผม"
"ด้วยความยินดีครับ อย่าลืมของหลังรถนะ"
ผมหันไปหยิบของจากเบาะหลังเพื่อเตรียมตัวลงจากรถ พี่คินก็เอี้ยวตัวมาช่วยผมหยิบของแต่จังหวะที่หันกลับมาใบหน้าของเราสองคนห่างกันแค่คืบ รับรู้ได้ถึงลมหายใจของพี่คินที่เป่ารดหน้าของผมอยู่ หัวใจผมจะวายแล้วครับ!
"รีบขึ้นห้องเถอะดึกแล้ว ฝันดีนะน่าน"
"คะ ครับ ฝันดีนะครับพี่คิน"
จินตนาการว่ามีพี่คินมาบอกฝันดีก่อนนอนจะเป็นยังไง ตอนนี้รู้แล้วว่ามันดีมากๆ เพียงแต่คืนนี้ผมคงไม่ได้ฝันดีอย่างที่พี่คินว่า เพราะผมคงตาค้างจากเหตุการณ์ในรถอย่างแน่นอน!
.................TBC.................
#moveon_เป็นวงกลม
Caramel Macchiato's talk
ในที่สุดก็ได้พี่คินเป็นพี่เทคสมใจอยากแล้วนะน้องน่านฟ้าของเรา แถมยังโมเม้นต์ดีๆส่งท้ายไปอีกน่าอิจฉานะเนี่ยย มาตามลุ้นกันต่อในตอนหน้านะคะว่าพอได้เป็นน้องเทคของคนพี่แล้วน้องน้อยของเราจะใช้โอกาสนี้จีบคนพี่ยังไง
ติดตามข่าวสารการอัพเดทและพูดคุยติ-ชมนิยาย ได้ที่ทวิตเตอร์ @CaramelWritter เเละ #moveon_เป็นวงกลม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

88 ความคิดเห็น
-
#41 ENJOY_EVERYDAY (จากตอนที่ 4)วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 / 14:56สายรหัสนี้เค้าเน้นหน้าตาและฐานะกันใช่มั้ยคะเนี่ย#411
-
#41-1 Caramel-Macchiato(จากตอนที่ 4)5 พฤษภาคม 2563 / 21:55อยากอยู่สายนี้ด้วยเลย#41-1
-
-
#5 นั่งดมกาวบนดาวพลูโต (จากตอนที่ 4)วันที่ 16 มกราคม 2563 / 14:38ได้คุยกับคนที่แอบชอบด้วยอะ อิจฉาอะ#51
-
#5-1 Caramel-Macchiato(จากตอนที่ 4)16 มกราคม 2563 / 17:51น่าอิจฉาจริงๆด้วยเนอะ#5-1
-