ตอนที่ 11 : มูฟออนครั้งที่ 10
มูฟออนครั้งที่ 10
เช้าวันเสาร์ผมตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำของว่างอย่างแซนด์วิชและชาพีชไว้กินตอนติวหนังสือ และไม่ลืมที่จะทำแบบพิเศษแยกไว้ให้พี่คินต่างหาก
หอสมุดของมหาวิทยาลัยผมจะมีโซนสำหรับติวหนังสือโดยเฉพาะหนึ่งชั้น โซนนี้จะเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นห้องขนาดใหญ่รองรับนิสิตได้หลายร้อยคน โดยภายในจะมีคอกกั้นแบ่งสัดส่วนให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น สามารถนำอาหารเข้ามาทานได้และมีร้านค้าไว้คอยบริการ ช่วยอำนวยความสะดวกในยามสอบหรือทำรายงานได้เป็นอย่างดี
เตรียมของเสร็จก็ใกล้จะถึงเวลานัดผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปให้ถึงก่อนเวลานัดหมายไม่งั้นคงดูไม่ดีแน่ๆถ้าให้พี่คินไปรอก่อน
Rrrrrrrr
กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นสะก่อน ปรากฎว่าเป็นพี่คินโทรมาหรือว่าจะไม่ว่างมาติวให้แล้วนะ
"สวัสดีครับพี่คิน"
[น่านออกจากหอหรือยัง]
"ยังครับ พี่คินมีอะไรหรือเปล่าหรือว่าไม่สะดวกมาแล้วครับ"
[พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่สะดวก ถ้าเรายังไม่ออกจากหอก็ไปพร้อมพี่ พี่จอดรออยู่ใต้หอ]
"อะไรนะครับ!"
ผมรีบวิ่งไปที่ระเบียงห้องมองลงไปที่ลานจอดรถก็เจอกับพี่คินยืนพิงรถคุยโทรศัพท์กับผมอยู่
[ลงมาได้แล้ว มองพี่จากระเบียงมันเห็นไม่ชัดนะ]
"ใครจะไปอยากมองกันเล่า รอก่อนนะครับผมจะรีบลงไปเดี๋ยวนี้"
[ไม่ต้องรีบพี่รอได้ ค่อยๆลงมาเดี๋ยวล้ม]
"ได้ครับ งั้นผมวางสายก่อนแล้วเจอกัน"
ผมวางสายเสร็จก็รีบหยิบของออกจากห้องถึงพี่คินจะบอกว่าไม่ต้องรีบ แต่ผมก็รีบอยู่ดีไม่อยากให้พี่เขาคอยนานเพราะไม่รู้ว่าพี่เขาเพิ่งมาหรือมารอนานแล้ว
"สวัสดีครับพี่คิน คอยผมนานหรือเปล่า"
"ไม่นาน พี่มาถึงก็โทรหาเราเลย"
"แล้วทำไมพี่คินถึงมาหาผมล่ะครับ ตรงนี้ไม่ใช่ทางผ่านจากคอนโดไปมอสะหน่อย"
"พี่อยากมารับเรา ขึ้นรถเถอะแดดเริ่มร้อนแล้ว แล้วนั้นหอบอะไรมาเยอะแยะให้พี่ช่วยถือดีกว่า"
"ขอบคุณครับ ถุงนั้นของว่างไว้เผื่อหิวตอนติวผมทำมาเผื่อทุกคนเลย"
พี่คินหยิบของจากมือผมไปทั้งหมดเอาไปวางไว้หลังรถ ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกจากหอผม
"หืม ทำอะไรมากินล่ะเรา"
"แซนด์วิชครับ เป็นแซนด์วิชทูน่ากับปูอัดแล้วก็มีชาพีชเย็นๆ กินคู่กันอร่อยที่สุดเลยครับ แม่ผมชอบทำให้กินบ่อยๆช่วงผมอ่านหนังสือสอบ แล้วก็นี่ครับ"
ผมยื่นกล่องแซนด์วิชสุดพิเศษที่ทำแยกไว้ให้กับพี่คิน
"ในนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่า"
"มีครับ ผมทำแยกไว้ให้พี่ต่างหากเป็นไส้อะโวคาโดกับชีส แล้วก็ไข่ต้มกุ้งมายองเนสครับ"
"ขอบคุณมากนะ แบบนี้พี่จะได้มีแรงติวพวกเราไปทั้งวัน ว่าแต่เรากินมื้อเช้ามายังไปหาอะไรกินก่อนไหม"
"ยังเลยครับ ว่าแต่พี่คินกินมาหรือยังถ้ากินมาแล้วไปหอสมุดเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมกินแซนด์วิชเอาก็ได้"
"พี่ก็ยังไม่ได้กิน งั้นเราไปกินโจ๊กกันมีร้านนึงก่อนถึงมออร่อยมาก"
"ได้เลยครับ"
จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปที่ร้านโจ๊กทันที ขนาดช่วงสายแล้วแต่ร้านนี้คนก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย โชคดีที่ร้านมีขนาดใหญ่หลายที่นั่งเลยทำให้มีที่ว่างพอสำหรับเราสองคน
"น่านเอาอะไรพี่สั่งให้"
"เอารวมมิตรครับแต่ไม่ใส่ขิงนะครับ"
"โอเค ป้าครับ!เอาโจ๊กรวมมิตรสองชามไม่ใส่ขิงหนึ่งครับ"
"ได้ลูก รอก่อนนะ"
"ร้านนี้ท่าจะอร่อยน่าดูนะครับ ลูกค้าแน่นมาก"
"อร่อยจริงๆ พี่รับรองว่าเราต้องชอบ ว่าแต่เราไม่กินขิงเหรอพี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเรามีของที่ไม่ชอบด้วย"
"ก็ไม่เชิงหรอกครับผมทานพวกไก่ผัดขิงได้ แต่ขิงที่มากับโจ๊กผมไม่ค่อยชอบครับ มันแบบโจ๊กรสชาติอ่อนๆไม่ควรจะมีขิงรสเผ็ดอยู่ในชาม"
"แปลกคนจริงๆนะเรา จะไม่ชอบกินก็ไม่ชอบให้สุด มีกินได้เป็นบ้างเมนูด้วย"
"แบบนี้แหละครับไม่เหมือนใครดี"
"จริง ไม่เหมือนใครเลย"
"โจ๊กร้อนๆได้แล้วหนุ่มๆ ทานให้อร่อยนะ"
"ขอบคุณครับ/ขอบคุณครับ"
จากนั้นเราสองคนก็ทานโจ๊กกันไปคุยกันไป จนกินเสร็จจ่ายเงินเตรียมไปหอสมุด ตอนจ่ายเงินพี่คินแย่งจ่ายทั้งหมดขนาดผมบอกว่าจะเลี้ยงตอบแทนที่มาช่วยติวให้ก็ไม่ยอม บอกว่าเป็นพี่ต้องเลี้ยงน้อง แต่ถ้าอยากเลี้ยงขอบคุณจริงๆ ไว้สอบเสร็จค่อยว่ากัน
เรามาถึงมหาวิทยาลัยก็เกือบสิบโมงแล้ว ตอนนี้มาหาที่นั่งในโซนติวโชคดีที่แป้งพายมาถึงก่อนเลยมีที่นั่ง เพราะใกล้สอบแล้วแต่ละคนมาหาที่ติวกัน วันนี้โซนติวเลยคึกคักเป็นพิเศษแม้จะเป็นวันเสาร์ช่วงเช้า(ของใครหลายคน)ก็ตาม
"สวัสดีค่ะพี่คิน หวัดดีน่านเอาอะไรมาเยอะแยะเลยอะ"
"เสบียงอะ ว่าแต่ก้าวยังไม่มาเหรอ"
"มาแล้วๆ ไปหาของกินอะ ว่าแต่แกกับพี่คินกินข้าวมายัง"
"กินแล้วๆ งั้นแป้งกับก้าวกินก่อนก็ได้แล้วค่อยติว ได้ใช่ไหมครับพี่คิน"
"ได้สิ เห็นพี่ใจร้ายห้ามเพื่อนเรากินข้าวหรือไง หืม"
"โห ผมยุ่งหมดแล้วผมก็ไม่ได้บอกว่าพี่ใจร้ายสะหน่อย"
แค่หันไปถามแค่นี้ถึงกับโดนยีหัว ทำไมชอบเล่นหัวจัง อยากจะถามเลยว่าเอากลับไปเล่นที่บ้านไหมครับ
~♥~~♥~~♥~~♥~~♥~
หลังจากก้าวหน้าและแป้งพายกินข้าวเสร็จการติวก็เริ่มขึ้น พี่คินให้พวกผมอ่านกันมาก่อนแล้วมีตรงไหนสงสัยให้จดคำถามมาพอพี่เขาติวเสร็จถ้ายังสงสัยอยู่ให้ถามได้เลย วันนี้เราจะติววิชาคณะก่อน ส่วนพรุ่งนี้จะติวเป็นวิชาของมหาวิทยาลัย
ติวไปได้สักพักผมก็อดทึ่งในความสามารถของพี่คินไม่ได้นอกจากจดสรุปดีแล้วยังอธิบายดีอีก ไม่ใช่ว่าอาจารย์สอนไม่ดีนะครับ แต่เหมือนพี่เขารู้ว่าจะอธิบายยังไงพวกเราถึงจะเข้าใจ มีการยกสิ่งรอบข้างที่เราคุ้นเคยดีมาเป็นตัวอย่างประกอบทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น พี่คินนี่ถ้าไม่ไปบริหารกิจการของครอบครัวผมว่าต้องไปเป็นอาจารย์แน่ๆเลยครับสอนเก่งแบบนี้
การติวของเราดำเนินมาจนถึงตอนเย็นระหว่างติวก็มีพักบ้าง กินบ้าง เล่นเกมบ้าง พี่คินบอกว่าถ้าติวอย่างเดียวสมองจะล้าเกินไปทำให้รับข้อมูลใหม่ๆไม่ไหว ต้องมีการผ่อนคลายบ้างสมองจะได้เปิดรับสิ่งใหม่ๆได้มากขึ้น
"วันนี้พอแค่นี้นะ ใครมีอะไรสงสัยจะถามพี่ก็ถามได้เลย"
"ตอนแรกมีนะพี่จดมาเยอะมาก แต่พอฟังพี่อธิบายคือไม่ต้องถามแล้ว"
"จริงค่ะพี่คิน คำถามที่จะถามพี่คือถูกเฉลยออกมาตอนติวหมดแล้วค่ะ ทำไมเก่งแบบนี้ค่ะ แบ่งสมองมาให้หนูบ้างสิ"
"หึหึ พี่ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นอาศัยตั้งใจเรียนและทำความเข้าใจกับมันก็พอ"
"ก็เก่งอยู่ดีอะพี่ ผมว่าผมตั้งใจเรียนแล้วนะยังไม่ได้ครึ่งพี่เลย น่าอิจฉาจริงๆ"
"ถ้าอยากเก่งจริงๆก็หมั่นทบทวนบ่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เอง แยกย้ายกันกลับเลยไหมจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ยังมีติวอีกวันนะ"
"จริงด้วย กลับกันเถอะพี่คินจะได้ไปพักบ้าง ไม่รู้ได้อ่านหนังสือของตัวเองหรือยัง"
"พี่อ่านไปแล้ว เหลือทบทวนอีกนิดหน่อย"
"นี่ไงคะ! ปกติตอนนี้คือช่วงเริ่มอ่านนะคะไม่ใช่อ่านทบทวน พี่จะเทพเกินไปแล้ว"
"พอๆ เลิกยอพี่ได้แล้วเดี๋ยวได้ลอยกันพอดี งั้นแยกย้ายตรงนี้นะ ไปน่านพี่ไปส่ง"
"ผมกลับเองได้ครับ"
"พี่พาเรามาพี่ก็ต้องพาไปส่ง ไปก่อนนะทุกคน"
"สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ"
พี่คินจูงแขน...ไม่สิต้องเรียกว่าลากแขนผมออกมาจากหอสมุดมาที่รถก่อนจะขับออกจากมหาวิทยาลัย ผมยังไม่ทันได้ลาสองคนนั้นเลย กลัวผมไม่ยอมกลับด้วยหรือไงถึงได้รีบขนาดนี้
~♥~~♥~~♥~~♥~~♥~
วันอาทิตย์เรายังคงมาติวกันเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือร่างอันไร้วิญญาณหลังติวเสร็จ เป็นสองวันที่โหดเอาเรื่องสำหรับมือใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย หนักกว่าตอนอ่านหนังสือสอบเข้าสะอีก
"วันนี้พอแค่นี้ มีคำถามไหม"
"ไม่มีครับ/ไม่มีครับ/ไม่มีค่ะ"
"แล้วจะกลับกันเลยไหม หรือจะไปหาอะไรกินก่อน"
"กลับเลยค่ะ ไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแล้ว ร่างกายต้องการการพักผ่อน"
"ผมก็กลับเลยพี่ อยากทิ้งตัวนอนโง่ๆบนเตียง"
"แล้วเราล่ะน่าน"
"ผมว่าจะหาอะไรกินก่อนครับ "
"งั้นไปพร้อมพี่ ไปเลยไหม"
"ไปเลยก็ได้ครับ ไปก่อนนะเจอกันพรุ่งนี้"
"เจอกันๆ"
พวกเราต่างคนต่างเก็บของแยกย้ายกันกลับ ผมกับพี่คินก็แยกออกมาที่รถเพื่อที่จะไปหาอะไรกิน
"เราอยากกินอะไร"
"ผมอยากกินยำ แล้วพี่อยากกินอะไรครับ"
"จริงๆพี่กินอะไรก็ได้นะไม่ได้คิดเอาไว้ งั้นไปกินยำก็ได้ มีเจ้าเด็ดไหม"
"มีครับ อยู่หน้าซอยหอผมเลยรับรองเด็ด"
"โอเค ถ้าไม่เด็ดจริงโดนนะ"
"กลัวไม่โดนมากกว่าครับ"
กว่าเราสองคนจะมาถึงร้านยำก็เกือบค่ำแล้ว ร้านนี้ผมรับรองเลยว่าอร่อยเด็ดที่สุดในย่านนี้ และด้วยความอร่อยเด็ดนี่แหละทำให้ตอนนี้ทั้งร้านเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ไม่มีที่นั่งเลยครับ
"เอาไงดีเรา ไม่มีโต๊ะเลยจะรอหรือว่าซื้อกลับไปกินที่หอ"
"เอากลับไปกินที่หอก็ได้ครับ ขืนรอโต๊ะไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กิน"
"จะกินอะไรก็จดมา เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้"
กว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้อาหาร พอได้เรียบร้อยก็กลับหอผมทันทีตอนแรกยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่การยืนรอแล้วได้กลิ่นยำหอมๆมันช่างยั่วน้ำลายกับน้ำย่อยในกระเพาะเป็นอย่างดี มาถึงห้องผมเลยให้พี่คินช่วยกางโต๊ะญี่ปุ่นให้ ส่วนผมแยกมาเทยำใส่จาน
"อร่อยเด็ดอย่างที่คุยไว้จริงๆ คราวหลังพี่คงได้มากินอีกบ่อยๆ"
"ผมบอกแล้วว่าอร่อยจริงๆ ถ้าพี่มาอีกต้องมาช่วงเปิดร้านใหม่ๆนะครับ ช่วงหัวค่ำที่ร้านจะคนเยอะมาก"
"ถ้าไม่มีโต๊ะนั่งพี่ซื้อมากินที่ห้องเราได้ไหม"
"กลับไปกินที่คอนโดพี่สิครับ"
"พี่ก็ลืมไปเราคงไม่สะดวกให้พี่มาห้องสินะ"
อะไรคือการทำหน้าหงอยๆกับน้ำเสียงตัดพ้อแบบนี้ล่ะครับ เล่นเอาผมรู้สึกผิดเลยที่ไม่ยอมให้พี่คินมาที่ห้องอีก
"ปะ เปล่านะครับ ผมกลัวพี่จะไม่สะดวกมากกว่าห้องผมมันแคบ"
"พี่ไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดนั้น ที่ไหนพี่ก็อยู่ได้มันขึ้นกับว่าพี่ได้อยู่กับใครมากกว่า เอาเป็นว่าเรายอมให้พี่มาห้องได้แล้วนะ ไว้พี่จะมากินยำที่ห้องเราบ่อยๆเลย"
"ก็ได้ครับ แต่ต้องบอกผมล่วงหน้านะผมจะได้เก็บห้องไว้บ้าง"
"ได้เลย"
จากนั้นเราสองคนก็กินยำกันจนเสร็จ พี่คินก็ขอตัวกลับไปเพราะเห็นว่าเริ่มดึกแล้วอยากให้ผมพักผ่อนเยอะๆ เพื่อเตรียมเข้าสู่การเรียนในวันพรุ่งนี้หลังจากที่สองวันนี้ติวเข้มกันอย่างหนักหน่วง
คล้อยหลังพี่คินกลับไปผมก็ยังเอาชีทสรุปมานั่งอ่านอยู่ดี อ่านไปอ่านมาก็เจอจุดที่ไม่เข้าใจไลน์ไปถามสองคนนั้นได้คำตอบมานะครับแต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ผมคงต้องไลน์ไปถามพี่คินแทนแล้วล่ะแอบเกรงใจนะครับ แต่มันก็คาใจอยู่ดี
K.
พี่คินครับ นอนหรือยังผมมีเรื่องสงสัยอยากถามครับ : NanFha
K. : พี่ยังไม่นอนถามได้ๆ
ส่งรูปภาพ: NanFha
ผมไม่เข้าใจตรงนี้ครับ พี่คินพอจะอธิบายให้ผมได้ไหม: NanFha
K. : พี่จำได้ว่าบอกให้เราไปพักผ่อนนะ ทำไมยังดื้อมาอ่านอีก หืม
ขอโทษครับ ผมแค่จะทบทวนก่อนนอนเฉยๆ แต่ดันมาเจอจุดที่ไม่เข้าใจแทน : NanFha
K. : เอาเป็นพรุ่งนี้ตอนเย็นนัดเจอกันไหม พี่จะได้อธิบายแล้วก็เอาชีทเรื่องนี้ไปให้เพิ่มพี่มีทำสรุปเอาไว้อีกชุด
ก็ได้ครับ พี่คินสะดวกที่ไหนแล้วก็กี่โมงครับ : NanFha
K. : พี่เลิกเรียนตอนบ่ายสอง เจอกันที่ร้าน Jurassic Café เรารู้จักหรือเปล่า
เคยได้ยินชื่อครับ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนเอาเป็นผมนั่งรอพี่ใต้คณะแล้วขอไปพร้อมพี่นะครับ: NanFha
K. : เอาตามนั้นก็ได้ แล้วก็ไปนอนสะเด็กดื้อ
ไปแล้วก็ได้ครับ ฝันดีนะครับพี่คิน : NanFha
K. : ฝันดี เด็กดื้อ
หวังว่าพี่คงจะฝันดีแบบที่ผมจะฝันดีและฝันถึงพี่บ้าง
ราตรีสวัสดิ์นะครับ "คุณภูเขา" ของ "น่านฟ้า"
………………….TBC……………….
#moveon_เป็นวงกลม
Caramel Macchiato's talk
ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่าอยากมีพี่คินเป็นของตัวเองจังเลยย คนอะไรเพอร์เฟคไปสะทุกอย่างขนาดนี้ เเต่เเหมมีการอ้อนขอมาห้องน้องบ่อยๆเเบบนี้ คิดอะไรกับน้องหรือเปล่าคะพี่คิน
ติดตามข่าวสารการอัพเดทและพูดคุยติ-ชมนิยายได้ที่ทวิตเตอร์ @CaramelWritter เเละ #moveon_เป็นวงกลม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

88 ความคิดเห็น
-
#77 เจ้ากระต่ายจมูกหมู (จากตอนที่ 11)วันที่ 20 สิงหาคม 2563 / 10:12มีคนล่อลวงลูกเราคุณตำหนวดคะ#771
-
#77-1 Caramel-Macchiato(จากตอนที่ 11)20 สิงหาคม 2563 / 14:20เเบบนี้ต้องเเจ้งความ!#77-1
-
-
#48 ENJOY_EVERYDAY (จากตอนที่ 11)วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 / 19:59พี่จะขอมาห้องน้องบ่อย ๆ เนี่ย คิดอะไรอยู่รึป่าว#481
-
#48-1 Caramel-Macchiato(จากตอนที่ 11)5 พฤษภาคม 2563 / 21:59นั้นสิ คิดอะไรน้าาาา#48-1
-