ตอนที่ 65 : สามสาวสามมุม
หลังจากนั้น วิลเลี่ยมเองก็ได้แต่ทำอะไรเดิมๆ วันปิดเทอมของเขาเองก็ไม่ต่างจากวันปกติในชีวิตประจำวันของเขาสักเท่าไหร่นัก ต่างก็ตรงที่มีหนุ่มมากหน้าหลายตาที่เป็นชนชั้นสูงมาขอพบเขาที่บ้านบ่อยครั้ง ทั้งหมดคือคนที่มาในงานวันเกิดของอลิซ อควาเรียส อันที่จริงหนุ่มพวกนี้นั้นอยู่คนละเมืองกัน แต่เมื่อได้เจอเขา หนุ่มพวกนี้ก็แทบจะมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำไป
ดยุกวินเซ้นต์ก็ไม่มีความสุขในเรื่องนี้ คฤหาสน์เขาต้องทำการเก็บกวาดเศษดอกไม้ดอกหญ้าที่ไอ้พวกหูดำพวกนี้เอาดอกไม้มาให้ลูกสาวเขา! มันน่าตบกบาลแยกนัก! รู้อีแบบนี้ไม่เปิดตัวลูกสาวซะก็ดีหรอก!
วิลเลี่ยมได้แต่มองชายที่มาเกี้ยวพาราสีเขา เขาไม่เคยถูกจีบ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ในบางประโยคที่เข้าใจได้ง่ายว่ามันคือการเกี้ยว เช่นคำชม นั่นเป็นคำแบบเดียวที่เขารู้เวลาที่มีผู้หญิงโดนเกี้ยว ถ้าคำที่มากกว่านั้น หรือความหมายลึกซึ้ง เขาจะไม่สามารถเข้าใจมันได้...ก็เขาไม่เคยมีความรักมาก่อน....เขาไม่เคยเกี้ยวใคร ไม่เคยทำความเข้าใจมันด้วยซ้ำไป...ความรักไม่ใช่สิ่งที่วิลเลี่ยมคิดว่าเขาจะมีได้ หรือมีโอกาสที่จะมี
เขาไม่เคยมีความรัก ไมเคยเลยสักครั้ง อย่างมากก็มิตรภาพ ในขณะที่คนรุ่นเดียวกันส่วนใหญ่ของเขานั้นมีความรักกันไปหมด เขากลับไม่รู้สึกอะไรกับสตรีคนไหน อย่างมากก็ อลิซาเบธ เพื่อนสตรีที่เขาสนิทที่สุด...นางเป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยและผ่อนคลาย และเขาเองก็พอจะแยกแยะได้ว่าความรู้สึกนั้นมันอยู่แค่ระดับมิตรภาพ ไม่ใช่ความรัก เพราะความรู้สึกนี้เขาก็รู้สึกกับเพื่อนคนอื่นๆของเขาเช่นกัน
อีกอย่างหนึ่งที่ไม่เข้าใจ....ทำไมบุรุษเหล่านี้จึงคิดจะพาเขาไปเป็นคู่? บางทีวิลเลี่ยมก็ไม่เคยรู้ว่า ถ้าไม่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนแล้วทำความรู้จักกันจะไปเป็นคนรักได้อย่างไร? แต่นั่นก็หาได้เป็นเรื่องของเขา บางทีความคิดของบุรุษเหล่านี้อาจจะต่างกับเขาก็ได้
คิดได้ไม่นาน จาร์เวียที่ถูกนายของตนไล่ให้มาขับไล— เอ๊ย มาเชิญแขกพวกนี้ออกไปก็เดินมา
“ท่านดยุควินเซ้นต์บอกว่าพวกท่านน่าจะให้เวลาพักผ่อนแด่คุณหนูบ้าง พักนี้นางเอาแต่เรียนทั้งวันไม่ขาด หากพวกท่านแวะมาเยี่ยมเยียนนางทุกวันเช่นนี้นางคงไม่มีเวลาพักผ่อนเป็นแน่”
เขาใช้คำที่ค่อนข้างสุภาพบอกชายเหล่านี้ เมื่อได้ยินดังนั้น เพื่อที่จะมัดใจสาวงาม ชายทั้งหลายจึงกลับไปแต่โดยดีโดยไม่ปริปากบ่นอะไร
แต่วันต่อมาทุกอย่างก็กลับมาเป็นแบบเดิม ชายพวกนี้ยังมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย สร้างความอิจฉาริษยาแก่หญิงชั้นสูงคนอื่นเป็นอย่างมาก
วินเซ้นต์จึงแก้ปัญหาโดยการ แปะป้ายเอาไว้
‘ตารางเยี่ยม อลิซ อควาเรียส ได้แค่วันอาทิตย์ 16.30-16.45 เท่านั้น’
จึงแก้ปัญหาสำหรับคนที่เข้ามาเยี่ยมได้ เพราะคนที่มาไม่ตรงเวลา เขาจะให้คนรับใช้ หิ้ว ออกไปโยนข้างนอก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้รับคำตำหนิจากใครเท่าไหร่นัก เพราะตระกูลอควาเรียสค่อนข้างมีอำนาจ ใครก็เกร็งใจ แต่แค่ไม่ค่อยมีบทบาทจนเด่นมากถึงขนาดที่รู้จักยันลูกด็กเล็กแดงหรอกนะ อควาเรียสมีอำนาจที่เก่าแก่ แต่คนที่รู้จักนั้นจะเป็นคนจากตระกูลชนชั้นสูงเก่าๆเท่านั้น คนพวกนี้ย่อมเกร็งเขาเป็นธรรมดา….ส่วนหนึ่งก็เกร็งกลัวจาร์เวียซึ่งเป็นเซอร์แวนท์ของเขาด้วยนั่นล่ะ
ยกเว้นแต่พวกลูกขุนนางหน้าใหม่หรือขุนนางหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยรู้จักชื่อเสียงเบื้องลึกของตระกูลอควาเรียสว่ายิ่งใหญ่เพียงใด พวกเขาจึงมาหาเรื่องด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสมนัก...แต่เรื่องนี้ไปไม่ถึงหูวินเซ้นต์ เพราะจาร์เวียได้จัดการไปเรียบร้อยแล้ว...
ชีวิตของวิลเลี่ยมจึงกลับมาสู้ความสงบอีกครั้งหนึ่ง....
ในด้านอีกฝั่งหนึ่งของ เด็กสาวนามว่าอาบิเกล ในตอนนี้วัยของนางอาจเรียกได้ว่าเด็กสาวไม่เต็มปากนัก เพราะปีนี้นางเพิ่งจะอายุได้ สิบสามปี แต่ด้วยการยัดเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้นางมาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่สองได้
อาบิเกลค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าตนเองย้ายโรงเรียนไปจักได้อยู่กับชายในฝันของนางแน่ๆ แต่ก็ผิดคาด
เมื่อนางขอรองให้บิดาไปยัดเงินเข้าเรียนกลางเทอมของโรงเรียนที่นางต้องการนั้น ก็พบว่า ที่โรงเรียนนั้น จะมีมาตรฐานของอายุในแต่ละระดับชั้น ต่างจากโรงเรียนอื่น
เพราะระดับมัธยมศึกษาปีที่สองนั้น ต้องมีอายุ สิบห้าปี เท่านั้น
ถ้าเข้าในตอนนี้อาบิเกลต้องอยู่ในระดับประถมปีที่หก ซึ่งตึกของประถมกับมัธยมนั้น ห่างกันลิบจากที่นางสืบมาแล้ว คาบเรียนก็ไม่ตรงกัน อย่างน้อยถ้าได้อยู่มัธยมปีที่หนึ่งนางก็ยังมีโอกาสพบเจอเดฟมากกว่าระดับประถม….
สิ่งที่นางตัดสินใจทำต่อไปก็คือ การใช้เงินค่าขนมของตนเองที่เก็บไว้ส่วนหนึ่ง ยัดผอ. โรงเรียน….
แน่นอนว่าเงินที่นางยัดไปนั้นเป็นเงินที่มีจำนวนมากทีเดียว เด็กสาวจึงสามารถเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษา ปีที่หนึ่งไปได้อย่างง่ายดาย
เหตุการณ์ที่ตามมาคือเพื่อนๆของอาบิเกลนั้นมีท่าทีมึนงงเป็นอย่างมาก
“เจ้าทำไปเพื่ออะไรแอ๊บบี้? เจ้ายัดเงินมากขนาดนั้นเพื่อึ้นมัธยมที่ห่างกันแค่ปีเดียวเนี่ยนะ!”
เมย์ เอ่ยขึ้นมา นางเป็นเด็กสาวมีใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดู ผิวสีน้ำนม ดวงตาสีโอรสกลมโตน่ามอง ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน ใบหน้ากลมมน
แต่ทั้งหมดนั่นก็ถูกลบออกไปทั้งหมดด้วยเครื่องประทินโฉมของนาง เพราะจากดวงตากลมโตน่ามองกลับถูกกรีดจนดูน่ากลัว คิ้วบางๆถูกเขียนด้วยดินสอสีน้ำตาลจนทำให้คิ้วนางนั้นมีขนาดเท่ากันนิ้วโป้งเท้า ส่วนใบหน้าถูกทาด้วยแป้งสีขาวไปทั่ว แก้มถูกปัดด้วยสีชมพูเข้ม
ทำให้เด็กสาวน่ารักน่าชังคนหนึ่งมีใบหน้าไม่ต่างจากสตรีวัยสี่สิบปีที่ต้องแต่งหน้าปิดบังรอยย่น
“เจ้าก็รู้ว่าข้าน่ะหลงรักเจ้าชายเดฟจากอานาจักรทมิฬไร้พ่าย แต่เขาอยู่มัธยมปีที่2น่ะสิ! –แอบไปสืบมาก ประถมน่ะอยู่ไกลจากมัธยมตั้งเยอะ! ถ้าข้าไม่ยัดเงินข้าจะมีโอกาสได้ไปเจอเขาบ่อยๆได้อย่างไร”
อาบิเกลกล่าวด้วยแววตาเพ้อฝันเมื่อนึกถึงบุรุษผมสีม่วงเข้มผู้ชิงหัวใจนางไป
“ท่าจะเป็นเอามากนะเจ้าเนี่ย”
เสียงนุ่มติดห้าวเล็กน้อยดังออกมาจากปากของเด็กสาวผมสีทอง นางมีใบหน้ากลมมนเหมือนเมย์แต่เรียวกว่าเล็กน้อย ดวงตาคู่คมสีทับทิม เด็กสาวมัดผมทรงหางม้า แต่ถูกดึงออกเล็กน้อยจนมันโป่ง ดั่งเช่นเมย์ที่ใบหน้าของนางนั้นประทินโฉมจนมีสารรูปดูไม่ได้
“อะไรกันเล่า ก็เขาน่ะคือชายในฝันของข้าเลยนะฟอลเลนเทีย!”
“งั้นพวกเราก็คงต้องยัดเงินเพื่อที่จะได้ไปอยู่กับเจ้าด้วยสินะแอ๊บบี้”
เด็กสาวผมบลอนด์เป็นลอนเอ่ยถาม แต่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ…
ไม่กี่วันเมย์และฟอลเลนเทียเองก็เดินทางไปสมัครเรียนทั้งยังยัดเงินเหมือนกับที่สหายของพวกนางทำอีกด้วย
หลังจากที่สมัครเสร็จ เมย์ อาบิเกล ฟอลเลนเทีย เองก็ไปหาอะไรกินแถวๆย่านตลาด แต่แน่นอนว่าต้องเป็นร้านดังดูดีมีระดับเท่านั้น ระหว่างที่นั่งจิบน้ำชาไปกินขนมไป สายตาของฟอลเลนเทียก็เหลือบไปเห็นซีโนเอล
ในวันนี้เจ้าตัวนั้นไม่ได้ใส่หน้ากากสีขาวมุก แต่เป็นผ้าสีขาวบางๆที่ถ้าไม่สังเกตจริงๆก็คงยากที่จะมองเห็นหน้าเขา..
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะโดโรธีนั้นดันกระชากหน้ากากเขาไปเล่น แล้วก็ทำแตก ทั้งหน้ากากนั่นยังมีเพียงอันเดียวด้วยเลยจบด้วยการที่เขานั้นต้องใช้ผ้าขาวบางนี่ปิดหน้าไปก่อน…
ฟอลเลนเทียเหม่อมองหน้าของซีโนเอล ดวงตาเพ่งมองใบหน้าใต้ผ้านั่นว่าเป็นอย่างไร แต่ไหนแต่ไรนางก็เป็นพวกประเภทชอบสอดรู้สอดเห็นอยู่แล้ว เห็นอะไรแปลกไปหน่อยเป็นต้องสืบเสียทุกครา
ตาคมของนางเบิกกว้างเมื่อเห็นดวงตาสีอความารีนสบมายังนาง
‘ม-ไม่น่าออกมาซื้อน้ำปลาให้พระมารดาในตอนที่ไม่ได้สวมหน้ากากเลย…ต-ต้องมีคนเป็นลมเพราเห็นใบหน้าอันอัปลักษณ์ของซีโน่อีกแน่ๆ’
เจ้าชายแห่งเทวาคิดอย่างตื่นตระหนก เขารีบถลนวิ่งไปทางอื่น มือทั้งสองข้างคอยเอาปกปิดใบหน้าของตนไว้
ฟอลเลนเทียมองตามเด็กหนุ่มใบชุดสีขาวไป…
ดวงตาคู่นั้นช่างตราตรึงในใจเหลือเกิน ใบหน้าที่ถูกแต่งเติมด้วยแป้งสีขาวแดงขึ้นมา ไม่มีใครทราบว่าสีแดงที่เกิดจากเลือดสูบฉีดนั้นสามารถทะลุแป้งหนาเป็นคืบของนางได้อย่างไร
แต่สิ่งที่ฟอลเลนเทียคิดได้คือ….ดวงตาคู่นั้นสามารถทำให้นางเขินจนต้องเบือนหน้าหนีเล็กน้อยได้เลย
และดูเหมือนบุรุษผู้มีตาสีอความารีนเองก็ใจตรงกับนาง…
ตึกตัก…ตึกตัก…ตึกตัก…ตึกตัก
หัวใจของนางเต้นระรัว
หรือนี่คือ Love at first sight?
เมื่อสหายทั้งสองเห้นนางเหม่อจึงดึงแก้มนางเรียกสติ….
ฟอลเลนเทียก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยความเขินอาย
จากนั้นต่อมา ทั้งฟอลเลนเทีย กับ อาบิเกลต่างตามหาข้อมูลของชายที่ตราตรึงในใจของพวกนาง อาบิเกลแทบจะไม่ได้อะไรเลย…ไม่มีใครรู้ว่าเดฟ หรือเดธนั้นพักอยู่ที่ใด เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนในบางทีเจ้าตัวก็หายไปแบบลึกลับ ส่วนเวลาปรากฏตัวของอีกฝ่ายก็ไม่แน่นอน เพราะได้ข่าวมาอีกว่าเจ้าตัวมักจะโดดเรียนอยู่บ่อยๆ ถึงกระนั้นคะแนนก็ไม่ตกเลย
สมกับเป็นชายที่คู่ควรกับนางจริงๆ!
อาบิเกลคิดในใจอย่างชื่นชม
ทางฟอลเลนเทียที่แอบงุบงิบเรื่องรักแรกพบของนางไว้ก็แอบตามหาเบาะแสของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ นางเล่าลักษณะของชายคนนั้นให้หนึ่งในนักเรียนโรงเรียนนี้ฟัง
ได้ความมาว่านั่นคือเจ้าชายแห่งเหล่าเทวา ซึ่งมีใบหน้าเป็นปริศนา เขามักจะสวมหน้ากากไว้เสมอเพื่อปกปิดใบหน้าของตนเอง
หัวใจของเด็กสาวยิ่งเต้นระรัวไปอีกยิ่งได้ยินคำเช่นนั้น หมายความว่าที่นางมีโอกาสได้เห็นใบหน้าของเขา แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่นางก็เป็นคนพิเศษสินะ!
ยิ่งคิดเลือดยิ่งสูบฉีด
และแล้วก็มาถึงวันเปิดเทอม สามสาวผู้อ่อนเยาว์ที่สุดในหมู่มัธยมเดินเข้าไปในโรงเรียนด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง
นักเรียนมัธยมคนอื่นๆมองชะนีน้อยทั้งสามที่ชูคอราวกับหงส์ก็ไม่ปานอย่างมึนงงเล็กน้อย
เดี๋ยวนี้ผอ.เปิดรับประถมเข้ามาเรียนมัธยมด้วยหรือ?
ใครๆต่างก็มองเห็นได้ชัดว่าพวกนางนั้นไม่ใช่มัธยมอย่างแน่นอน
เพราะที่โลกนี้จะต่างกับโลกของวิลเลี่ยมตรงที่ว่า เมื่อใดที่มนุษย์อายุครบสิบสี่ปีบริบูรณ์ จะมีร่างกายที่โตขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเล็กน้อย ตรงที่ส่วนสูง บางคนก็หน้าอก
ดังนั้นถ้าคนที่อายุยังไม่ครบสิบสี่ปีแล้วละก็สามารถดูออกได้อย่างชัดเจน เพราะขนาดร่างกายยังสูงไม่เท่า หรือแม้กระทั่งขนาดหน้าอก
แน่นอนว่าวิลเลี่ยมไม่ได้สังเกตในส่วนนี้เลย เพราะตอนที่มาอยู่ในร่างของอลิซนางก็อายุสิบสี่ปีกว่าๆแล้ว
“ข้ารู้สึกแปลกๆว่ะ”
เดธพูดขึ้นมาเมื่อตาข้างขวาของเขากระตุก วิลเลี่ยมหรี่ตามองอีกฝ่าย
“ห้ามใช้คำหยาบ”
“แค่คำว่า ว่ะ เอง โด่วววว”
เทพแห่งความตายในร่างมนุษย์ทำแก้มป่อง วิลเลี่ยมเอื้อมมือไปหยิกแขนเดธเบาๆ…
แต่แรงที่คนถูกหยิกรู้สึกนั้นมันไม่เบาเลย…
“โอ๊ย!!! เจ็บนะ!! มือหนักชิบหา---”
ไม่ทันจะพูดจบก็โดนหยิกอีกรอบ ทำให้เขาต้องหุบปากฉับในทันที
อยู่กับคนเจ้าระเบียบมันทรมาณแบบนี้นี่เอง!!!
อาบิเกลเมื่อเห็นชายในฝันของนาง เด็กสาวก็ดีใจจนตัวสั่น สายตาสีม่วงเข้มเหลือบไปเห็นสตรีที่นั่งอยู่ด้านข้างของเดธ สายตาของนางเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวในทันที
“นังโสเภณีนั่น..”
เด็กสาวพูดเสียงลอดไรฟัน ฟอลเลนเทียและเมย์ที่เพิ่งเดิมตามอาบิเกลมาก็หยุดกึกทันที…
“เกิดอะไรขึ้นหรอแอ๊บบี้”
“มีคนมาอ่อยว่าที่สามีข้าน่ะสิ”
น้ำเสียงของนางเริ่มกดต่ำลงเรื่อยๆ ฟอลเลนเทียกับเมย์มองไปยังกลุ่มของวิลเลี่ยมในทันที
ฟอลเลนเทียร์เบิกตากว้างเมื่อเห็นซีโนเอล แม้นในตอนนี้เขาจะใส่หน้ากากแล้ว แต่สีผมและเครื่องแบบยังคงตราตรึงอยู่ในใจของนางไม่มีวันจางหาย…
นั่นคือเขาจริงๆ! เจ้าชายแห่งเทวา!!!
เมย์มองเหม่อไปยังฟรานซิสส์ที่กำลังนวดไหล่ให้วิลเลี่ยมอยู่…
มีเพียงเพื่อนๆของนางที่รู้เท่านั้น…เมย์เป็นคนนิยมเพศเดียวกัน…
อีกทั้งฟรานซิสส์ยังตรงสเป็คของนางไปซะหมด
สูง ขาว ผมสีบลอนด์ยาว ดูแข็งแกร่ง มีความเป็นผู้นำ ร่าเริง เป็นมิตร
ทั้งสามสาวต่างก็ตกอยู่ในห้วงของความรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
อาบิเกลเอามือสางผมของตนเองให้ดีๆ มือพับกระโปรงของตนเองขึ้นจนเลยหัวเข่า แต่นางกลับพับแต่ละข้างไม่เท่ากัน
เด็กสาวผมม่วงเดินเข้าไปทักทายเดธ
“สวัสดีค่ะ จำฉันได้ไหมคะ อาบิเกล สวอร์น”
นางขยิบตาให้เดธ เด็กหนุ่มย่นจมูกของตนเองในทันที
นึกว่าหนีพ้นแล้ว ยังจะมาเจอกันอีกหรอ เวรกรรมอะไรของตรูวะเนี่ย!!
คงเพราะว่าเขาเป็นพวกเกลียดแล้วฝังใจ ถ้าเจอคนที่ไม่ถูกใจแล้วจะไม่อยากเห็นหน้าอีกเลย มันจึงทำให้เดธรู้สึกอยากจะหายตัวหนีกลับเกาะลอยฟ้าไปเสียซะตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าจะทำให้ทั้งโรงเรียนแตกตื่นแล้วเขาก็จะโดนพี่ชายตัวเองลงโทษเขาทำไปแล้ว!
“จำได้”
ตอบไปสั้นๆด้วยเสียงแข็งกระด้าง วิลเลี่ยมหันขวับไปมองอีกฝ่ายทันที….แค่เดธมองหน้าอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าที่หันมามองแบบนั้นก็เพราะทำตัวไม่มีมารยาทกับสตรี มันไม่เหมาะสม
ชิบหาย อิแบบนี้ต้องสั่งคัดตรูอีกแน่
“อะแฮ่ม ข้าจำได้”
กระแอมไอทีหนึ่งก่อนจะตอบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูสุภาพ หัวใจของอาบิเกลพองโตทันที
“อ-เอ่อ ข-เขินจังเลย ถ้าไม่รังเกียจ รุ่นพี่เดฟช่วยพาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหมคะ พอดีไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ทางไหนน่ะค่ะ”
นางบิดไปมาอย่างขวยเขิน
นี่คือเขินแล้วใช่ไหม?!!! ถ้าจะขนาดนี้เอาค้อนมาทุบหัวตรูลากเข้าห้องไปเลยเหอะ!!!
เดธตะโกนในใจ
“นี่หล่อนไม่เห็นจริงๆหรอ? ป้ายก็แปะไว้อ่ะ หันหลังไปก็เจอเลย”
ฟรานซิสส์เอ่ยขึ้นมา นางเปลี่ยนจากนวดหลังวิลเลี่ยมมานั่งเอาเท้าขึ้นมาพาดบนโต๊ะ
ถ้ากระโปรงสั้นกว่านี้หน่อยนี่นางคงได้มุ่งสู่ถนนใหญ่ไปแล้ว…
เมย์สะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นท่าทีอันดูเท่และมาดแมนของฟรานซิสส์ ดวงตาของนางแทบจะเปลี่ยนเป็นรูปหัวใจ วิลเลี่ยมหันไปมองฟรานซิสส์ ปากอ้าเตรียมจะบ่นพรรณนาเรื่องความเป็นกุลสตรี
ฟรานซิสส์เกือบจะเอาขาลงแทบไม่ทัน
“ข-ขอบคุณค่ะ”
อาบิเกลกล่าวอย่างตะกุกตะกักเมื่อหน้าของนางแตกยับแทบไม่เหลือชิ้นดี
“ส-สวัสดีค่ะ ข-ข้าชื่อ เมย์ บานาน่าสปริงค์ เพื่อนของอาบิเกล ยินดีที่ได้รู้จักรุ่นพี่นะคะ”
จู่ๆเมย์ก็แนะนำตัวมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทุกคนในกลุ่มพยักหน้าก่อนจะแนะนำตัวเอง
“อลิซ อควาเรียสค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะมิสบานาน่าสปริงค์”
“เดี๊ยน อ-แฮ่ม ข้าขื่อคาเอล วอร์เตอร์เบลด ยินดีที่ได้จัก”
เขาพูดย่อสั้นๆเพราะขี้เกียจพูดเยอะ
“ข้าฟรานซิสส์ ฟาร์มเมอร์”
“มาเรียแอน เดอะ โมสส์บิ้วตี้ฟูล ค่ะ”
“โดโรธี ฟรองซ์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน๊า”
“เดฟ เดอ ดาร์คเนส”
มาถึงคนสุดท้ายคือซีโนเอล เขายังไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไหร่ เพราะเมื่อเห็นฟอลเลนแล้วทำให้เขาสะดุ้ง ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ..เขายังกลัวนางอยู่ ในตอนที่เขาไม่ได้ใส่หน้ากากเขาเงยหน้าสบตานางพอดี มันทำให้เขารู้สึกผิดจนไม่กล้าแนะนำตัว…
รู้สึกผิดที่ทำให้เด็กตัวแค่นี้ได้เห็นใบหน้าอันแสนอัปลักษณ์ของเขา…
“นี่ซีโนเอล มิแลง เดอ วาเนชก้า”
ฟรานซิสส์แนะนำตัวแทนเจ้าชายแทวาผู้ใบ้กินไปเรียบร้อย
เมย์รู้สึกตกหลุมรักฟรานซิสส์ขึ้นไปเมื่อเห็นความมาดแมนของนาง
ฟอลเลนเทียร์รู้สึกเขิน เมื่อคิดว่าซีโนเอลนั้นมีความคิดเดียวกับนางเช่นกัน
คิดถูกจริงๆที่ย้ายโรงเรียน….
ทั้งสองคิด
-----------------------
คิดถึงรีดจังเลย! ช่วงนี้ไรท์ไม่ค่อยมีเวลา เพราะตอนนี้ไรท์มีงานทำแล้ว ฮาาาา กลับห้าทุ่มแทบทุกวัน ไหนจะเรื่องเรียนอีก...//ตานี่ดำหมดแล้ว แต่ไรท์ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้นะ! เมาส์ปากกาเองก็รวนเลยวาดรูปในกระดาษมาฝากด้วยล่ะ!
ที่ฟอลเลนเทียสีจางเพราะไรท์ทำ2Bหายเลยต้องใช้ดินสิอกดนะงับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อะบิเกล หากหนูบอกว่าเขาคู่ควรกับกับหนูให้ไปล้างตาและตัดแว่นสัก400นะลูก ดูตัวเองให้ดีก่อนนะคะ
อีกสองคนก็เช่นเดียวกันนะลูก และก็ไปฝึกทักษะการมองดูฟังคิดวิเคราะห์แยกแยะสิ่งรอบตัวบ้างนะ อย่าให้ต้องพูดคำหยาบเลยนะคะ^^
รู้สึกสงสารพ่อแม่ของเด็ก 3 คนนี้ ประถมยังแ....ดขนาดนี้แล้ว นี่คืออนาคตของชาติ อนาถใจแท้
เราชอบยูริ เพราะงั้นเราชอบเมย์ เมย์ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นแล้วเข้าลัทธิของวิลเลี่ยมซะนะ ชีวิตจะได้ดีขึ้น และด้วยผลบุญนั้นอาจจะช่วยให้สมหวังในความรัก(ซึ่งยากมากกกกกกกกกก) หรือไม่แน่อาจมีคนมาดามใจ