เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วทุกคนเริ่มสนิทกันขึ้นต่างหาทางโดดเรียนกันมากขึ้น อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาเว้นเสียแต่วิลเลี่ยมที่นับวันก็ยิ่งเรียนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆอีกอาทิตย์หน้าก็ได้เวลาสอบกลางภาคแล้ว วิลเลี่ยมไม่ต้องการที่จะพลาด วันๆหนึ่งเขาแก้สมการไปเป็นร้อย ไม่ว่าจะโจทย์พลิกแพลงหรือโจทย์ธรรมดาวิลเลี่ยมก็ทดลองทำจนหมดสิ้นเพื่อความแน่ใจว่าตนเองจักไม่พลาด ส่วนวิชาอื่นๆที่ต้องใช้ความจำเช่นประวัติศาสตร์เขาก็ท่องจำ ทำความเข้าใจ ไล่ลำดับ สรุป เกลาคำสรุปให้เข้าใจง่าย นำมาอ่าน ตั้งคำถามหรือทำเป็นแก้ปริศนา ทำซ้ำๆจนกว่าจะจำได้และเข้าใจ
เขาเป็นคนที่จริงจังมากอย่างถึงที่สุด ส่วนตัวแล้ววิลเลี่ยมไม่ใช่พวกผลัดวันประกันพรุ่ง คิดอะไรได้ก็ทำหลังจากการไตร่ตรองแล้ว
ทุกวันเขาก็จะหมกตัวอยู่ในกองภูเขาหนังสือ เว้นแต่วันอาทิตย์ที่จะไปโบสถ์ แต่ถึงไปโบสถ์เขาก็ยังจะหอบหนังสือไปอ่านด้วยเสมอ ไม่ว่าเดธ เจ้าต้นไม้ ดิเรก หรือแองเจลิน่าต่างก็เพลียใจกับความขยันเกินพิกัดของเขา
ทั้งสี่ได้แต่คิดอย่างหนักใจ เรียนเอาโล่รางวัลแห่งมนุษย์ชาติหรอ? แม้แต่ครรภ์แห่งปัญญาอย่างเจ้าต้นไม้ยังไม่หนักเช่นนี้เลยด้วยซ้ำไป
แองเจลิน่าเองก็เห็นคนมาหลายรูปแบบในช่วงชีวิตคนเป็นและคนตาย ส่วนใหญ่นางเห็นแต่เด็กโดนคนในครอบครัวบังคับให้อ่าน ให้เล่าเรียน เรียนเองก็มีบ้างมแต่ใครจะบ้าเรียนขนาดนี้กัน?! นางไม่เคยเห็นมาก่อน
จนสุดท้ายเดธต้องใช้มาตราการเด็ดขาด เมื่อไปถึงโรงเรียนเขาก็เดินไปลากคอสหายมนุษย์ไปหาที่คุย
"วิลลี่ข้าคิดว่าเจ้าสมควรจะหาเวลาพักผ่อนบ้าง"
เทพแห่งความตายกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงจะยังไงก็ควรหาเวลาพักให้ตัวเองบ้าง ใครจะทนเรียนตลอดเวลาไหว?
"ข้านอนพักผ่อนวันละ6ชั่วโมง นั่นเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว"
วิลเลี่ยมตอบกลับไปอย่างเฉยเมย เขานึกว่าเวลาพักผ่อนที่เดธพูดถึงคือเวลานอนหลับ
"ข้าไม่ได้หมายถึงตอนนอน ข้าหมายถึงว่าเจ้าสมควรหยุดอ่านกับแก้สมการตลอดเวลาได้แล้ว เรียนทุกวี่ทุกวันไม่เบื่อบ้างรึไง"
กล่าวพลางกอดอกหรี่ตามองสตรีร่างหนาที่เอียงคอกระพริบตาปริบๆอย่างไม่ค่อยรู้เรื่องกับคำกล่าวเมื่อครู่ วิลเลี่ยมไม่เห็นว่ามันจะหน้าเบื่อตรงไหนเรารู้สึกสนุกกับมัน สนุกเวลาที่ได้ทำความเข้าใจมสนุกที่ได้รับความรู้เพิ่มเติม มันหน้าเบื่อตรงไหน?
"ข้าคิดว่ามันสนุกดีที่ได้รับความรู้ใหม่ๆ"
น้ำเสียงใสถูกเปล่งออกมา ดวงตาสีแอเมทิกส์กระพริบปริบๆ
"แต่เจ้าควรพักบ้าง ขอเถอะวิลเลี่ยม เจ้าควรไปพักได้แล้ว ไม่งั้นข้าจะงดไม่ให้เจ้าเรียนปรุงยา ไม่ให้หนังสือเพิ่ม และไม่ให้เจ้าแซนด์ฝึกดาบให้ด้วยนะ"
เดธขู่อีกฝ่าย
"แต่ว่า..."
วิลเลี่ยมครางเสียงต่ำ เมื่อได้รับสายตาอันสุดแสนจะจริงจังของสหายเทพจึงปิดปากเงียบ
"งั้นข้าจะไปออกกำลังกายบ้างแทนการอ่านหนังสื--"
"ไม่ได้! เจ้าต้องพักผ่อนได้ยินรึไม่ อยากเรียนจนเสียสติเลยรึไง? สมองเจ้าทำงานหนักเกินไปแล้วนะวิล! เจ้าต้องหาเวลาพักผ่อนคบายเครียดอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งวัน!"
เดธตะโกนขึ้นมาแต่ก็ไม่ดังมากนัก ใบหน้าบูดบึ้งขึ้นมาเล็กน้อย
"วันเต็มๆเลยหรือ...แค่หนึ่งชั่วโมงข้าก็เต็มอิ่มแล้วนะ..."
วันๆหนึ่งนอกจากการเรียนวิลเลี่ยมก็แทบไม่ได้ทำอะไร ถ้าได้พักชั่วโมงหนึ่งวิลเลี่ยมก็จะเบื่อเนื่องจากไม่มีอะไรให้ทำ หนึ่งวันเต็มๆเขาจะอยู่ได้อย่างไรโดยที่ไม่ได้ศึกษาหาความรู้?
"หนึ่งวัน วิล เจ้าต้องไปหาทำอะไรที่คนปกติทำกัน! ไปเที่ยว ไปหาเรื่องคุยซุบซิบหรืออย่างอื่นก็ได้ เล่นเกมก็นับ แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้ "
วิลเลี่ยมขมวดคิ้วจนเป็มปม อ่านหนังสือนี่ไม่ถือว่าผ่อนคลายรึไง? เข้าใจยากจริงๆ
"แต่ข้าเที่ยวไม่เป็น...เกมข้าก็แทบไม่เคยได้เล่น เรื่องซุบซิบข้าก็ไม่เคยทำ"
วิลเลี่ยมกล่าวเสียงแผ่ว ทั้งชีวิตเขาเขามักจะทำตามเส้นทางที่พ่อเขาปูให้ ถึงแม้ในวัยเด็กจะมีออกนอกลู่นอกทางไปศึกษาหาความรู้ด้านการรักษาหรือการทำงานอดิเรกเหมือนสตรีบ้าง เพราะในตอนนั้นเขาอยากเป็นหมอ เมื่อโตขึ้นเขาก็แทบจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้นแล้ว เขาจะทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด กินนอนเป็นเวลา ฝึกดาบหาความรู้ตามที่บิดาจัดตารางให้ เขาแทบไม่มีอิสระ เรื่องการเที่ยวโลดแล่นไปทั่วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาต้องอยู่ในระยะสายตาของบิดาตลอด และเขาก็ไม่คัดค้านเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร การไปเที่ยวมันเป็นอะไรที่เสียเวลาชีวิต สู้เอาเวลาเที่ยวไปหาความรู้ไม่ดีกว่าหรือ? แต่ถ้าเที่ยวเพื่อหาความรู้มันก็อีกอย่างหนึ่ง
เรื่องของเกม เขาก็มีเล่นบ้างในสมัยเด็กก่อนที่จะโดนบิดาจับได้แล้วบังคับให้ไปฝึกดาบตามตาราง ซึ่งเขาก็ไม่โต้แย้งอะไรอีกนั่นแหละ บิดามักจะบอกว่าการเล่นเกมมันไร้สาระ เขาควรเตรียมตัวโตได้แล้ว และเขาก็ยังยึดถือคำพูดนั้นมาตลอด
การซุบซิบนี่ไม่ต้องพูดถึง วิลเลี่ยมเป็นคนประเภทที่แทบจะตัดขาดจากสังคมโดยสิ้นเชิง เขาเป็นพวกไม่ค่อยอยู่ร่วมกับคนอื่นก็จริง แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลงรอบตัวเลยเช่นกัน ฟ้าจะถล่มดินจะทลายเขาก็ไม่ค่อยสนใจ เขามีหน้าที่ทำตามกฎระเบียบคำสั่งสอน ตอนอยู่ในค่ายทหารเขาก็หลับหูหลับตาทำตามคำสั่งโดยไม่ได้สนใจคนรอบข้าง ถึงเวลาว่างเขาก็ไปจดบันทึกไม่ก็สวดมนต์ ถ้าไม่มีคนมาเล่าตัวต่อตัวให้เขาฟังเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงรู้ไม่นานเขาก็ลืมเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเขาหรือสหายเขา เขาจะเก็บมาใส่ใจทำไมถ้าคนที่ถูกยกมาในบทสนทนาไม่ได้มีเรื่องเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือเช่นด้านการเงิน หรืออาหาร
"เจ้าสมควรหัดทำได้แล้ววิลเลี่ยม เจ้าควรทำบ้าง ควรเที่ยวบ้างควรทำตัวผ่อนคลายบ้าง ทำหน้าดำคล่ำเครียดเช่นนี้ทุกวันข้ากลัวสมองเจ้าจะหยุดทำงานไปแบบฉับพลันนะ"
ได้ฟังที่สหายมนุษย์พูดเดธก็หน่ายใจ โอเคยอมรับว่าวัยเด็กของเทพที่มีอายุขัยมากกว่าล้านปีหรืออาจจะเกินหลักล้านเขาก็ไม่แน่ใจนักเพราะอยู่มานานจนลืมหมดแล้ว ตอนเด็กเขาก็ไม่เคยได้เที่ยวแต่เล่นเกมส์กับซุบซิบนี่บ่อยเลย เขาเข้ารับว่าที่ตำแหน่งเทพด้วยอายุยังไม่ถึงสิบห้าด้วยซ้ำถ้าสมองแก่ๆของเขายังบันทึกไว้ได้ พอมาเป็นว่าที่ตำแหน่งเทพก็ต้องฝึกๆๆๆ วันๆไม่ต้องทำอะไรอ่านแต่ตำราฝึกแต่ต่อสู้ แต่เขาก็มีแวบไปเล่นบ้าง แหมใครจะเครียดตลอดเวลาล่ะ หนีเที่ยวเองก็มีนะ เรื่องธรรมชาติของบุรุษ
แต่ไอ้วิลเลี่ยมมันโตมาแบบไหนกันวะถึงไม่เคยทำเรื่องพวกนั้นเลย อย่างกับสตรีในห้องหอไม่มีผิด!
"ข้าจะลองดู...มันไม่ผิดกฎบัญญัติข้อไหนใช่ไหม?"
เจ้าตัวเอ่ยดักออกมาเขาไม่ต้องการทำผิดกฎหรือประพฤติตัวไม่เหมาะสมหรอกนะ
เดธถึงกับถอนหายใจดังเฮือกทั้งยังเบะปากมองบน ไอ้เจ้านี่ยังจะกลัวผิดระเบียบอีก มันต้องเป็นพวกกฎระเบียบลิซึ่มแน่ๆ!
"เที่ยวมันไม่ผิดหรอก! แต่ต้องชวนเพื่อนไปด้วยนะเผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกันได้!"
"อื้อ...ขอข้าไปสอบถามและขออนุญาตบิดาข้าก่อนนะ"
เขากล่าวก่อนจะผละออกไปเพื่อเข้าเรียน เดธถอนหายใจแล้วพ่อแกมันจะยอมให้ไปง่ายไหมวะวิล?!ตอนนี้แกอยู่ในร่างสตรีนะเว้ย!พ่อต้องห่วงลูกสาวเป็นธรรมดา!!!
เลิกเรียนเสร็จเขาก็กลับไปที่บ้านวิลเลี่ยมไปอาบน้ำแต่งตัวทำอะไรให้เรียบร้อยก่อน สักพักก็ไปเคาะประตูห้องของดยุกวินเซ้นต์
"จาร์เวีย!! ข้าไม่ต้องใช้คุ๊กกี้นมอุ่นกับนิทานของเด็กเพื่อจะนอนหรอกนะ!! นี่เพิ่งค่ำเองเจ้าจะรีบให้ข้านอนทำไม!"
เสียงของดยุกวัยกลางคนดังออกมาจากห้อง
"จะให้บอกไหมขอรับ ว่าท่านชอบกินนมอุ่นพอดี พร้อมกับคุกกี้ พอนอนบนเตียงต้องลูบผมท่านแล้วก็อ่านนิทานเรื่องโปรดของท่านไปด้วย เรื่องอะไรนะ? เจ้าชายอิกัวน่าที่ต้องจุมพิตกับสตรีเพื่อที่จะคืนร่าง ท่านจะทำตาโตทั้งยังส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นตลอดเวลาที่กระผมจะอ่านถึงฉากที่เจ้าชายอิกัวน่าคืนร่า--"
ไม่ทันพูดจบพ่อบ้านประจำตระกูลก็ถูกนายของตนปาเอกสารใส่หน้าด้วยความเขิน
ก๊อกๆ
"ท่านพ่อคะ ลูกมีเรื่องจะคุยด้วย"
วินเซ้นต์กระแอมไอสองสามที เขาเดินไปเปิดประตูเพื่อคุยกับบุตรสาว
"อะไรหรือลูกรัก?"
ชายวัยกลางคนกล่าวเสียงหวานส่วนจาร์เวียจับเอกสารที่ติดบนใบหน้าของตนไปจัดให้เรียบร้อย
"ลูกขออนุญาตไปเที่ยวผ่อนคลายตามที่สหายแนะนำค่ะ"
เขากล่าวออกมาตามความจริงทุกประการ ไปเที่ยวโดยที่สหายเป็นคนแนะนำให้ไป แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่งคือไม่ได้อยากไปแต่สหายบอกให้ไปเที่ยว ทว่าวิลเลี่ยมไม่ได้มองในแง่นี้เช่นนั้นดยุกวินเซ้นต์จึงได้จับไหล่อันมีกล้ามเนื้อกำยำของบุตรสาว
"ถ้าลูกไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไปเข้าใจไหมพ่อไม่อนุญาต!"
วิลเลี่ยมพยักหน้านิ่งๆเมื่อได้รับคำตอบก่อนจะเดินหันหลังกลับไปเพื่อเดินเข้าห้องตนเอง ไปอ่านหนังสือดีกว่า...ถ้าบิดาไม่อนุญาตเขาก็ไม่ขัดขืน
"นายท่าน ข้าคิดว่าท่านควรปล่อยบุตรสาวท่านบ้างนะ นางใกล้ถึงวัยแตกสาวแล้ว"
จาร์เวียกล่าวหลังจากที่วินเซ้นต์ปิดประตูห้องแล้ว
"อย่ามานะจาร์จาร์! วัยนี้เป็นวัยที่อันตรายที่สุดข้าจะไม่ปล่อยบุตรสาวข้าให้เตร็ดเตร่ไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนหรอกนะ!"
"แล้วตอนที่ท่านชวนข้าหนีออกจากบ้านไปตอนอายุสิบหกล่ะขอรับนายท่าน "
พ่อบ้านข้างกายกล่าวพลางยิ้มอ่อน
"ข้าไม่อยากให้บุตรสาวเดินทางเดียวกับข้าต่างหาก! เจ้าไม่มีงานให้ทำรึไงไปทำสิ!"
พูดไปก็คว้าเอกสารที่จาร์เวียเพิ่งจัดเสร็จเมื่อครู่ปาใส่หน้าอีกฝ่ายไม่หยุดจนทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเอกสาร
"รื้อแล้วเก็บด้วยนะขอรับกระผมไม่เก็บให้แล้ว"
กล่าวเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที
เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นวิลเลี่ยมก็ไปบอกกับเดธส่าบิดาของตนเองไม่อนุญาต
"เห้อ...งั้นถ้าใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อนแบบค้างคืนที่บ้านเพื่อนหรือให้เพื่อนมาค้างที่บ้านตัวเองอะไรแบบนั้น ดีไหม?"
เดธเสนอความคิดขึ้นมา วิลเลี่ยมครุ่นคิด....เขาคงต้องไปขออนุญาตบิดาของร่างนี้ก่อนแล้วค่อยไปหาชวนสหายทั้งหลายมาอีกทีหนึ่ง
กลับบ้านไปวิลเลี่ยมจึงไปขออนุญาตดยุกวินเซ้นต์ที่กำลังใช้หมอนนุ่มๆฟาดหน้าพ่อบ้านประจำตัวของตนเองที่ดันมาพูดล้อเลียนเรื่องสมัยเด็กๆของทั้งสอง
"ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกขอให้เพื่อนมาค้างคืนที่คฤหาสน์ของเราได้ไหมคะ ลูกจะหาเวลาผ่อนคลาย"
น้ำเสียงอันเฉยเมยเดาอารมณ์ไม่ได้ถูกเปร่งออกมาจากริมฝีปากสีเชอร์รี่ วินเซ้นต์หันไปคุยปรึกษากับจาร์เวียสักพักหนึ่ง
ผลที่ได้ออกมาคืออนุญาต เพราะว่าถ้าอยู่ในเขตของวินเซ้นต์เขายังสามารถตรวจตราดูความปลอดภัยของบุตรสาวได้ แน่นอนว่าเข้าจะให้เมดแอบดักฟังผ่านประตูห้องให้หมดทุกคนเลย
วิลเลี่ยมพยักหน้า สรุปว่าอนุญาตสินะ...จะว่าไปมีเพื่อนสนิทกี่คนบ้างในร่างนี้...วิลเลี่ยมรู้สึกว่าตนเองไม่ค่อยจะสนิทกับใครเลย เขาไม่รู้ว่าตนสนิทกับใครบ้างเพราะปกติเขามักจะปลีกตัวไปอ่านหนังสืออยู่บ่อยครั้งไม่ค่อยได้เกาะติดกับคนอื่นๆเสียเท่าไหร่..
งั้นคนไหนที่อยู่กับเขาบ่อยที่สุดล่ะ?
ครุ่นคิดอยู่นานพอตัววิลเลี่ยมก็นึกออก
ซีโนเอล ฟรานซิสส์ คาเอล กับมาเรียแอนหรือที่ตอนนี้ทุกคนเรียกนางว่าอารี
ไม่นานวิลเลี่ยมก็สวดมนต์เสร็จก็ล้มตัวลงนอน...วันนี้นอนเร็วตั้งสองชั่วโมง...คงต้องตื่นเช้าหน่อยแล้วสิ
หลังจากที่เขานอน ครรภ์แห่งปัญญาก็สุมหัวนั่งคุยกับแองเจลิน่า ส่วนเจ้าดิเรกนั้นสลบไปตั้งแต่ถึงคฤหาสน์แล้ว
"กีกี่ อุกิกี้งงกี้"
เจ้าต้นไม้ส่งเสียงออกมาเบาๆ ผีสาวหันขวับไปมองสหายต้นไม้ของตนเอง
"อะไรนะให้ช่วยคิดชื่อให้หน่อยสองชื่องั้นหรือ? เอาไปทำอะไรล่ะเจ้าบอกข้าก่อนสิ"
นางกล่างอย่างมึนงง
"อุกะกะกิ กรุ้กี้กี๊"
"อะไรนะเจ้ากำลังจะกำเนิดสิ่งมีชีวิตงั้นหรือ งั้นเจ้าก็เป็นต้นไม้สมบูรณ์เพศสิเนี่ยถึงได้ผสมกับตัวเองได้ เจ้าจะมีแฝดรึ?"
มันส่ายดอกสีชมพูของมัน
"อุกุ้ววี่"
"คนเดียว? แต่อีกชื่อนึงคือของเจ้ากระนั้นหรือ?"
มันพยักหน้า...ผีสาวนั่งครุ่นคิดสักพัก
"งั้นเจ้าน่าจะชื่อลีน่า ส่วนชื่อสิ่งที่เจ้าจะให้กำเนิดคือวัลคีรี่ดีรึไม่?"
นางพูดขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ เจ้าต้นไม้เอียงคอพลางส่งเสียงงึมงำสักพัก ดอกสีชมพูของมันมีสีเขียวแทรกขึ้นมาเล็กน้อย
"อื้อ"
แองเจลิน่ายิ้มเมื่อได้รับเสียงอื้อ นางขยับตัวไปหยิกลำต้นของมัน
"กี้!"
เจ้าต้นไม้ มันใช้ดอกสีชมพูชนแองเจลิน่า ทำให้ร่างของผีสาวไปโดนกำแพง เกิดเสียงดังขึ้นภายในห้องเล็กน้อย
"อืม..."
เด็กสาวร่างหนาลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงดวงตาสีแอเมทิกส์หรี่มองหนึ่งต้นไม้หนึ่งผี
"บอกแล้วใช่รึไม่ว่า อย่า ส่ง เสียง ดัง รบ กวน คน อื่น....ลุกนั่งสองร้อยครั้งปฏิบัติ!!"
สิ้นเสียงเจ้าต้นไม้กับผีสาวก็ลุกนั่งทันที เจ้าต้นไม้ขยับลำต้นของตนเองให้งอไปด้านหลังเหมือนกับลุกนั่ง ส่วนแองเจลิน่าที่มีขาแค่ลางๆก็ต้องทำ..
ขนาดนางเป็นวิญญาณยังเหนื่อยได้เลย!! พับผ่าสิ!! ไม่ยุติธรรม!!
เมื่อลุกนั่งครบเจ้าต้นไม้ก็ล้มตัวนอนบนพื้นเพราะความเหนื่อยล้าที่ลำต้น ส่วนผีสาวสลายไปอยู่ในสัญลักษณ์เรียบร้อย
วิลเลี่ยมล้มตัวลงนอนต่อ
วันรุ่งขึ้นเขาก็ลองไปสอบถามทั้งสี่คนดู ซีโนเอลดูมีท่าทีเกร็งๆเล็กน้อยทำให้สี่คนที่เหลือหันมามองเขาอย่างสงสัย
"มีอะไรรึเปล่าซีโน่?"
"ค-คือ..ผ-ผมขอเอาโดโรธีไปด้วยได้ไหมครับ?"
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ฟรานซิสส์กอดคอเทวาหนุ่มทันที
"แหมพัฒนาขึ้นนะเราน่ะ ไปจีบสาวที่ไหนมาล่ะ?"
นางกล่าวใบหน้าของนางปรากฎรอยยิ้มที่แลดูมีเลศนัยขึ้นมา
"ม-ไม่ใช่ ร-เราเป็นแค่เพื่อน"
ตัวXของเขาเริ่มเป็นสีชมพูอ่อน
"ได้สิคะ "
วิลเลี่ยมอนุญาต เขาเคยเจอนางมาก่อนพบว่าเด็กสาวร่างอวบเป็นคนที่มีนิสัยใช้ได้อยู่พอตัว นางคงไม่สร้างปัญหาเท่าใดนัก
"ข-ขอบคุณ"
เจ้าชายเทวาผมเงินกล่าวเสียงแผ่ว
"แล้วไปวันไหนดีล่ะเจ้าคะท่านอลิซ"
มือขวาของผู้นำห้องAกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"วันศุกร์ค่ะ"
ถ้าให้สหายของเขาไปวันศุกร์ เขาก็มีเวลาว่างพอวันเสาร์ก็กลับ ดังนั้นวันอาทิตย์เขาก็ยังสามารถเจียดเวลาไปโบสถ์ได้อีก
"รับทราบค่ะ เอ้าทุกคน แยก!"
ฟรานซิสส์ตะโกนทำให้ทุกคนแยกกันไปนั่งประจำที่เพื่อเรียน ส่วนเทวาหนุ่มนั่งมือสั่นด้วยความตื่นเต้นเบาๆ
เวลาดำเนินไปจนกระทั่งถึงวันศุกร์หลังจากที่เลิกเรียนทุกคนเองก็ใส่สัมภาระมาเพื่อที่จะไปเที่ยวบ้านของวิลเลี่ยม โดโรธีใส่ชุดคลุมสีเหลืองอ่อนมีหูหับหางแมวกางเกงเองก็เป็นเนื้อเดียวกับชุดคลุม วิลเลี่ยมไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะเขาไม่เคยเห็นชุดแบบนี้มาก่อน แต่ถ้าอธิบายคร่าวๆคือเสื้อกับกางเกงเป็นชุดเดียวกันแล้วก็มีหมวกหูแมวด้วย
ส่วนฟรานซิสส์ใน่ชุดเดรสหางนกยูงสีแสบตาลากพื้นมาตั้งแต่ห้องเปลี่ยนเสื้อในโรงเรียน ซีโนเองใส่ชุดสีดำที่คลุงยาวไปถึงคอก่อนที่จะใส่ชุดคลุมสีขาวขอบทองทับอีกที
คาเอลใส่ชุดเหมือนกับเสื้อนักเรียนแต่เป็นสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดกางเกงสีดำขายาว ส่วนอารีใส่ชุดกระโปรงสีขาวใส่หมวกทับปิดใบหน้าอีกทีหนึ่ง
เมื่อรถม้ามาถึงทุกคนก็ยัดสัมภาระวางไว้ แล้วเข้าไปนั่ง ข้างในค่อยข้างจะแออัดหน่อยส่วนหนึ่งมาจากขนาดตัวของคาเอลกับซีโนเอล อีกส่วนมาจากความอลังการของชุดฟรานซิสส์ที่หางนกยูงของนางมันกินที่ของคนอื่นไปจนหมด
ดยุกวินเซ้นต์กับเมดทำอาหารต้อนรับสหายของวิลเลี่ยม ฟรานซิสส์กินอย่างเรียบร้อยดูมีสกุล ซีโนเอลไม่ได้แตะอาหารแต่เมื่อทุกคนละสายตาออกจากเขาไปสักสองนาทีเมื่อมองกลับมาจานอาหารตรงหน้าของเด็กหนุ่มผมเงินก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย...
โดโรธียัดพวกอาหารจนแก้มป่องเป็นแฮมสเตอร์ คาเอลก็คอยป้อนให้อารี อารีก็คอยป้อนให้คาเอล
วิลเลี่ยมสวดมนต์เสร็จเขาก็นั่งเคี้ยวพวกอาหารประเภทผักจนครบสามสิบรอบค่อยกลืนก่อนจะเคี้ยวอีกคำสามสิบรอบใหม่
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วทุกคนก็ช่วยกันล้างจานถึงแม้ว่าพวกเมดจะบอกไม่จำเป็นแต่ในฐานะแขกและเจ้าบ้านก็ต้องทำเพื่อเป็นมารยาทเพราะปริมาณอาหารที่พวกเขากินนั้นมันไม่น้อยเลย
ทุกคนมานั่งสุมหัวกันในห้องวิลเลี่ยมหลังจากที่เสร็จหมดแล้ว เจ้าต้นไม้กับผีสาวก็ออกไปโลดแล่นในยามดึกเพราะนายของทั้งสองได้บอกแล้วว่าสองวันนี้จะไปไหนก็ได้เพราะสหายของวิลเลี่ยมมาบ้าน
ดิเรกก็นอนเคี้ยวของกินอยู่นอกคฤหาสน์
วิลเลี่ยมนั่งเหม่อในห้อง แต่ในใจเขากำลังคิดแก้สมการอยู่ เขาไม่ได้สนใจว่าคนอื่นๆนั้นกำลังชักชวนกันเล่นเกมส์เกี่ยวกับพวกอาถรรพ์กันอยู่ ซีโนเอลเองก็เงียบๆไม่ได้สนใจรอบข้างเพราะเขากำลังถักเปียให้โดโรธี
"เคยได้ยินเกี่ยวกับแองดริวผู้สาปแช่งอิสตรีทั้งหลายไหม?"
ฟรานซิสส์เปิดประเด็นขึ้นมา
"ต๊ายหล่อน อุ๊บ อะแฮ่ม ตายจริงอย่าบอกนะว่าเจ้าจะเล่นเกมส์อาถรรพ์ที่จะนำพวกเราไปสู้โลกของแองดริวน่ะ"
คาเอลรีบเปลี่ยนเสียงให้สมชายชาตรีเมื่อเผลอทำเสียงแหลมเหมือนสมัยเป็นสาวประเภทสอง
"ช่าย แล้วโดโรธีจะเล่นกับพวกเราไหม?"
ฟรานซิสส์เอ่ยชวนสหายคนใหม่ เด็กสาวร่างอวบครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ เทวาหนุ่มส่งเสียงครางต่ำเมื่อผมที่ตนกำลังถักเปียนั้นอยู่ดีๆก็สะบัดไปมา
"ข้าเตรียมอุปกรณ์มาเรียบร้อยแล้ว"
ฟรานซิสส์คว้าของที่ใช้เล่นออกมาจากหางนกยูงของนาง
"ไม่เคยรู้เลยนะคะว่ามนุษย์เองก็มีเรื่องอาถรรพ์ด้วย"
อารีกล่าวอย่างแปลกใจหน่อย ฟรานซิสส์วาดวงเวทย์ เอาเทียนสีชมพูแป๋นแหล๋นมาปัก ก่อนจะเต้นท่าสอยดาวกลางวงเวทย์
"เดี๋ยวๆมันใช่แน่หรอวะ"
คาเอลกล่าวเมื่อเห็นฟรานซิสส์เต้นท่าสอยดาวด้วยใบหน้าราวกับคนกำลังมึนเมาอะไรสักอย่าง
"ใช่สิ เอ้าเดี๋ยวรองเพลงแป๊ป รีรีข้าวสาร--"
อารี โดโรธี คาเอลมองฟรานซิสส์ที่เต้นท่าสอยดาวอย่างเมามันส์จนกระโปรงเปิด เทียนสีชมพูมีไฟสีแดงเลือดลุกพรึบขึ้นมา หมอกเริ่มเข้ามาในห้อง ทุกสิ่งอย่างรอบตัวทุกคนสลายหายไปกลายเป็นอาคารร้างแห่งหนึ่ง
"ต๊าย!!หล่อน!! มันใช้ได้จริงด้วย "
คาเอลหลุดมาดหนุ่มทันที อารีขยับมาโอบคาเอลที่ตัวสั่นน้อยๆราวกับจะปกป้องเด็กหนุ่ม
ฟรานซิสส์หยิบตะเกียงเปล่าสามสี่อันขึ้นมา มือตวัดไม้กายสิทธิ์ร่ายเวทย์ให้ตะเกียงไฟลุกก่อนจะพาคนอื่นๆเดินไปสำรวจสถานที่แห่งนี้ ซีโนเอลดึงผมของเด็กสาวร่างอวบไว้เพื่อที่ตนจะถักเปียให้เสร็จทำให้นางต้องนั่งรอไปสักพักจนกว่าจะถักเสร็จ
พวกฟรานซิสส์เดินนำไปไกลโขแล้ว
"ว้าคนอื่นเขาไปไกลแล้วอ่ะซีโน่"
นางกล่าวออกมา เทวาหนุ่มที่เพิ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงหันไปมารอบๆ
"มาๆตามข้ามาเดี๋ยวข้าจะนำทางเจ้าไปหาคนอื่นๆเอง!!!"
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปเรื่อยๆเพื่อตามหากลุ่มฟรานซิสส์...
แต่ทุกคนดันลืมวิลเลี่ยมเอาไว้
เขาดำดิ่งเข้าไปในจิตใจลึกซะจนไม่ได้สนใจอะไรเลย
กรี๊ดดดดดด!!!!
มีเสียงร้องของสตรีดังขึ้นมาทำให้เจ้าตัวสะดุ้งเฮือก เขาตวัดสายตามองไปรอบๆก่อนจะลุกขึ้นยืน
"ที่นี่มันที่ไหนกัน...?"
ปากพึมพำ..แต่เขาไม่มีเวลาคิกมากนัก วิลเลี่ยมสาวเท้าวิ่งไปทางที่เกิดเสียงกรีดร้องทันที วิ่งไปใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควรก็ไปเจอสถานที่เหมือนกับคุก
เขาได้ยินเสียง เหมือนกับบางอย่างกระแทกของแข็ง
"ฟรานซิสส์--"
วิลเลี่ยมที่วิ่งไปเจอฟรานซิสส์ถูกชายหนุ่มที่ผิวหนังเหมือนกับตุ๊กตากระเบื้องเคลืบอันแตกไปทั่วบีบคออยู่ ชายคนนั้นหันมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง ใบหน้าของชายคนนี้แตกเล็กน้อยดวงตาเป็นสีดำราวกับไม่มีลูกตา ของเหลวสีดำเมือกไหลออกมาจากดวงตาเขา
"สตรี!! ข้าเกลียดสตรี!!"
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เศร้า โกรธเกรี้ยวผสมปนเปกันดังขึ้นมา ชายหนุ่มพุ่งมาบีบคอวิลเลี่ยม
เพี๊ย!!! ตู้มม!!!!!!
เขาใช้หลังมือตบไปยังไปหน้าเหมือนกระเบื้องเคลือบของชายหนุ่มด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่แรงที่ตบไปนั้นมันทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายกระเด็นไปติดกำแพงอย่างแรง
"แค๊กๆ"
ฟรานซิสส์สำลักอยู่สักพักหนึ่งคาเอล อารี. กับฟรานซิสส์พุ่งมากอดวิลเลี่ยม
"ไร้มารยาท...การกระทำแบบนั้นัมนไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะคะ มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันก่อนสิ"
น้ำเสียงนิ่งเรียบอันเป็นปกติของวิลเลี่ยมดังขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าสิ่งตรงหน้าคือวิญญาณปีศาจร้ายหาใช่คนเป็น...
สักพักหนึ่งเขาก็กระชากลากถูชายหนุ่มมานั่งจับเข่าคุยกันเป็นหมู่คณะ ฟรานซิสส์ อารี คาเอล นั่งกระพริบตาปริบๆมองพฤติกรรมของเด็กสาวผมสีครีมด้วยใบหน้าเอ๋อ
"เอาล่ะบอกข้ามาเจ้าทำแบบนั้นทำไม"
เขากล่าวด้วยเสียงที่เข้มกว่าปกติดวงตาหรี่มองวิญญาณร้ายที่นั่งกอดเข่าอยู่
"ข-ข้าแค้นสตรีทุกคน พ-เพราะว่า..."
"เพราะว่า?"
วิลเลี่ยมกล่าวย้ำ แองดริวสะอื้นก่อนจะโผเข้ากอดวิลเลี่ยม
"ในตอนก่อนข้าจะเกิด แม่ข้าทำพ่อข้าท้องแล้วแม่ข้าก็ทิ้งพ่อไปชายแดนแล้วก็ตาย!! ทิ้งให้พ่อข้าต้องเลี้ยงข้าคนเดียว ฮึก!"
วิลเลี่ยมลูบหลังปลอบอีกฝ่าย
"แม่ของเจ้าเสียสละไปทำหน้าที่ของตนเพื่อให้เจ้ายังมีชีวิตต่อไปได้ ข้าว่านางคงไม่ตั้งใจจะทิ้งเจ้ากับพ่อหรอกนะคะ"
วิลเลี่ยมกล่าวปลอบอีกฝ่าย..เขายังเบลอๆอยู่นิดหน่อย
มันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
มันไม่ถูกต้อง เขารู้สึกแบบนั้น
แต่สมองเบลอๆของเขาคิดไม่ออกว่าอะไรที่ผิดปกติไป...
อะไรกันนะ?
-------
มาแล้ววว ตอนนี้ยาวพิเศษเลยนะครับ เพราะไรท์เพิ่งทะเลาะกับแม่มาคอมโดนยึดไรท์เลยต้องหอบไอแพดมาเขียนที่รร.แฮะๆ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
แม่ทำพ่อท้อง????what????
เดี๋ยวนะ..?
เดี๋ยวๆๆ แม่ทำพ่อท้อง....ทำได้ไง...พ่องมึ_มีมดลูกเรอะ
ใช่ค่ะวิลเลี่ยม มันไม่ถูกต้องจริงๆ แม่ทำพ่อท้องงงงงงงงงงงง
.....!!!!!พ่อท้อง!!!!!!!
รอกันต่อไปค่ะ วิลเลี่ยมนี่มีอะไรให้แปลกใจอยู่เรื่อยๆเลยนะคะ ตอนแรกคิดว่านางจะนั่งเทศผีสังชั่วโมงสองชั่วโมงซะอีก
มันสลับสถานะไง ปกติต้องพ่อทำให้แม่ท้องไหมอะ