"ค่ะ ข้ากลับห้องเรียนได้รึยังคะ การเรียนจะเริ่มขึ้นแล้ว"
วิลเลี่ยมรีบกล่าวขึ้นมา แต่ไหนแต่ไรวิลเลี่ยมก็ไม่เคยไปเรียนสายเลยสักครั้ง เขาไม่ชอบการไปสาย มันเหมือนกับเป็นคนไร้ความรับผิดชอบอย่างไรอย่างนั้น ถ้าแค่เข้าเรียนให้ทันเวลายังทำไม่ได้ แล้วชีวิตนี้เขาจะรับผิดชอบอะไรได้กันล่ะ?
"เอายาจากสมุนไพรน้ำแข็งนี่ไปทาบริเวณที่ปวด ไม่นานนักเดี๋ยวก็หาย"
หัวหน้าห้องพยาบาลยื่นตลับยาสีฟ้าให้วิลเลี่ยม ก่อนจะไปเขียนชื่อนักเรียนที่เข้าห้องพยาบาลโดยถามชื่อและห้องของอีกฝ่ายไปด้วย
"ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบมาห้องพยาบาลนะขอรับ"
เขาแนะนำ วิลเลี่ยมพยักหน้าก่อนจะลุกเดินไปยังห้องเรียนของตนพร้อมกับตลับยาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนฟรานซิสส์รีบตามเด็กสาวผมสีครีมที่เหาะเหินเดินอากาศได้อย่างสบายๆทั้งๆที่โดนโคมไฟทับอย่างจังแบบงงๆ
เมื่อการเรียนเริ่มขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติเรียบร้อย ที่แปลกไปก็คือซีโนเอลที่ตัวXที่ไหล่ทั้งสองข้างของเขานั้นเป็นสีเขียวอยู่แทบตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเสียสักเท่าไหร่ ระหว่างที่เรียนนั้นวิลเลี่ยมก็หันไปเห็นเจ้าดิเรกที่เกาะหน้าต่างอยู่ มันรีบใช้ขาดันตัวเองขึ้นมาหานายของตนที่ทิ้งตนเอาไว้ ณ สวนน้ำชา
ตอนแรกวิ่งหาตั้งนาน มาเงยหน้ามองเห็นตรงหน้าต่าง...มันขี้เกียจเกินกว่าจะวิ่งขึ้นอาคารจึงให้วิธีปีนเอา
วิลเลี่ยมมองเจ้าแพะที่จ้องมายังเขาอย่างเคืองๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขานั้นลืมมันไว้ที่สวนน้ำชา...
มือสีขาวน้ำนมยื่นไปหาเจ้าแพะเพื่อให้มันปีนมาบนมือเขา ดิเรกสะบัดหน้าหนีจนเครากระพือด้วยความน้อยใจ
วิลเลี่ยมหันไปสนใจเรียนต่อโดยไม่สนใจมันสักนิด ถ้ามันไม่พูดอะไร เขาก็ไม่ได้คิดอะไร....
ระหว่างที่เรียนจู่ๆเก้าอี้เขาก็ถูกดึงไปด้านหลัง แต่ทว่าวิลเลี่ยมก็เกร็งตัวเองในท่านั่งบนอากาศไว้ ทำให้เขาไม่ได้ล้มลงไปกับพื้นแต่อย่างใด
ทุกคนถึงกับอึ้ง มองสรีที่อยู่ในท่านั่งกลางอากาศตาค้าง แม้นแต่อาจารย์ก็ยังอ้าปากเหวอ
บ้าไปแล้ว?!!!
ทุกคนตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกันในใจ วิลเลี่ยมหันไปมองเล็กน้อยก่อนที่จะใช้มือดึงเก้าอี้กลับมาที่เดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะสมัยเด็กเพื่อนสนิทเขาก็ทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ จนวิลเลี่ยมเองก็เกร็งตัวจนชินไปแล้ว ถึงเขาจะไม่รู้ก็เถอะว่าใครดึง แต่ถ้าเจ้าตัวไม่กล้าแสดงตัวตนออกมาเขาก็ไม่ว่าอะไร
ทุกอย่างกลับไปอยู่ในความสงบในเวลาต่อมาพักใหญ่ๆ
เขานั่งจดสรุปการเรียนด้วยความเฉยเมย ในหัวประเมินคำสอนก่อนจะกรองมาเป็นคำสรุปแบบง่ายๆ เขาแทบไม่ต้องทำอะไรในคาบเรียนดว้ยความที่ทำการบ้านไปจนหมดแล้ว แม้นแต่การเรียนเขาก็ยังเรียนล่วงหน้าด้วยซ้ำไป จึงแทบไม่มีอะไรให้เขาสนใจ แต่ถึงกระนั้นสายตาของเขาก็ยังคงจดจ้องไปที่กระดานกับสิ่งที่อาจารย์พูด
ต่อให้เรียนไปแล้วก็ควรฟัง เพระาสิ่งที่อาจารย์กล่าวมาล้วนเป็นความรู้ทั้งนั้น
เมื่อถึงเวลาทานอาหารวิลเลี่ยมก็เดินไปทานอาหารตามปกติ...เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ เขาไปหาที่นั่งแล้วทานอาหาร กลุ่มของเขาก็มานั่งตามเช่นกัน
จนกระทั่งมีถาดอาหารลอยมายังเขา แต่ครานี้วิลเลี่ยมขยับหลบได้ทันแบบไร้ที่ติ หลายคนองไปยังที่มาของถาดอาหารแต่ก็ไม่พบอะไร...
ร-หรือว่ามันจะเป็นพลังงานบางอย่าง?!
หลายคนเริ่มตัวสั่นเมื่อนึกถึงพวกภูติผีวิญญาณร้ายทั้งหลาย วิลเลี่ยมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา จู่ๆอารมณ์เขาก็ควบคุมแทบไม่ได้ขึ้นมากระทันหัน ทั้งที่ปกติเขาจะใจเย็นสุขุม....
หรือว่า?
วิลเลี่ยมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อตรวจสอบทันที...และมันก็เป็นดั่งที่คาดไว้...
นี่คือช่วงระดูของเขาพอดี...
ฟรานซิสส์ที่รู้สึกถึงความผิดปกติก็รีบวิ่งตามไปหาวิลเลี่ยมที่ห้องน้ำ นางถามว่าเกิดอะไรขึ้น วิลเลี่ยมก็ตอบกลับไปเสียงแผ่ว เด็กสาวผมบลอนด์จึงรีบวิ่งไปหยิบสิ่งที่ใช้ในช่วงระดูของสตรีมาให้ วิลเลี่ยมอาบน้ำทำอะไรต่อมิอะไรเรียบร้อยในห้องน้ำ ทั้งฟรานซิสส์ยังจัดการของใช้ทั้งหมดให้เขาเรียบร้อย หลังจากเสร็จกินเขาก็เดินไปทานข้าวพร้อมกับขึ้นเรียนด้วยความหงุดหงิด...
ส่วนเจ้าดิเรกนั้นกระโดดลงจากไหล่ของวิลเลี่ยมตั้แต่เห็นนายของมันจะวิ่งเข้าห้องน้ำแล้ว เมือ่เห็นนายของตนเดินไปมันจึงเดินตาม
เหล่าเทพทั้งสามที่สุมหัวกันแกล้งวิลเลี่ยมเองก็ปิดตาปิดหูอยู่ด้านนอกที่ๆไม่มีคนเห็นถึงจะอยากแกล้งยังไง ก็ควรมีพื้นที่ส่วนตัวให้อีกฝ่ายบ้าง จะให้ตามไปแกล้งในห้องน้ำก็คงไม่ไหว...
จากนั้นทั้งสามก็เริ่มหาทางแกล้งเพื่อให้เป้าหมายของพวกเขานั้นศีลแตกตามชื่อภารกิจ....
จู่ๆทั้งห้องก็เงียบครึ้มเพราะบรรยากาศที่แสนเย็นยะเยือก มันถูกเปล่งออกมาจากร่างกายของเด็กสาวผู้เป็นใหญ่? ที่สุดในห้องนี้ วิลเลี่ยมทำหน้านิ่ง แต่ดวงตาสีแอเมทิกส์คู่งามมีแต่ความเย็นชาที่มีประกายแห่งความโกรธาแฝงไว้ข้างในอยู่ลึกๆ...
ทำไมถึงมีอะไรหลายอย่างพุ่งมาทางเขา? วิลเลี่ยมเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่บททดสอบจากพระบิดาเสียแล้ว การทดสอแบบนี้ไม่เคยมีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ แต่ในใจข้างในเขาก็ยังคงคิดว่าไม่ควรจะคิดสงสัยในตัวของพระบิดา
ผ่านไปจนกระทั่งถึงตอนเลิกเรียน ไอสังหารอ่อนๆก็เริ่มแผ่ออกมาจากร่างกายของวิลเลี่ยม ใบหน้าของเขาถมึงทึงเป็นที่สุก ไม่ว่าใครก็ต้องหันหน้าหลบสายตาที่แสนหน้ากลัวของเขา
ในใจของเขากำลังท่องบทสวดมนต์เืพ่อสงบสติอารมณ์ของตนเองเป็นร้อยๆครั้ง แน่มันก็ยากที่จะทำใจให้สงบได้ อะไรๆมันก็ทำให้เขาหงุดหงิดไปหมด แม้นกระทั่งเสียงแมลงกระพือปีกวิลเลี่ยมก็ยังอดที่จะรำคาญไม่ได้ทั้งๆที่ปกติไม่ได้เป็นแบบนี้
แต่เทพทั้งสามก็ยังคงไม่รู้ตัวอยู่ดีว่าตนเองกำลังทำเกินไป...
เมือ่กับไปถึงบ้าน วิลเลี่ยมเดินตรงดิ่งไปหาเตียงนอนของตนเองทันที มไ่มีการอาบน้ำ ไม่มีการเปลี่ยนเสื้อใดๆทั้งนั้น เมื่อล้มตัวลงนอนกับเตียงนุ่มๆปุ๊ปเขาก็ปิดตาเข้าสู่นิทราของตนเอง
โดยที่เจ้าต้นไม้กับผีสาวก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองหยุดการทะเลาะของพวกตนต้งแต่ที่วิลเลี่ยมเข้ามาในห้องแล้ว
"กีกี่กี้...กิกี"
เจ้าต้นไม้ร้องออกมา
"เจ้าจักบอกว่าท่านอลิซอยู่ในช่วงระดูกระนั้นหรือ?"
แองเจลิน่าพูดขึ้น ส่วนดิเรกนั้นพยายามตะกายออกมาจากตัววิลเลี่ยมเพราะมันนั้นถูกวิลเลี่ยมทับตอนที่เจ้าตัวทิ้งดิ่งลงกับเตียง
"ช่วงระดู..."
ดิเรกพึมพำ....ได้ข่าวว่าสตรีในช่วงระดูเป็นช่วงที่น่ากลัวที่สุดนี่นา...
มันเริ่มไปหาที่แอบ เจ้าต้นไปล่องหนตัวเอง ส่วนผีสาวสลายตัวเป็นธาตุอาการเข้าไปในรูปรอยยิ้มที่ตนเองสร้างไว้ในห้อง.....
วันรุ่งขึ้น
วิลเลี่ยมบเจอกับปัญหาอาการปวดท้องขั้นรุนแรงจนลุกไม่ได้ เขานอนขดตัวเองบนเตียง ใบหน้ามืดครึ้มน่ากลัวยิ่ง จนกระทั่งเวลาสาย เมดทั้งหลายเริ่มรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเพราะคุณหนูของพวกนางยังไม่ออกมาจากห้องเลย....เมดใจกล้าคนหนึ่งเดินไปเคาะประตูเรียก
"คุณหนูเจ้าคะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?"
นางเอ่ยถามออกมา วิลลี่ยมเงยหน้าขึ้น ตะโกนเสียงแผ่วตอบกลับไปอย่างอ่อนแรง
"ข้าปวดท้องระดู..."
สิ้นคำก็ทิ้งหัวลงกับเตียง เมื่อได้รับคำตอบ เมดจึงจัดหาเตรียมถุงน้ำร้อน แล้วถือวิสาสะเข้ามาในห้องเพื่อยื่นถุงน้ำร้อนให้วิลเลี่ยม
เขาไม่ได้ว่าอะไร แค่รับถุงน้ำร้อนนั่นมาแบบงงๆ
"ประคบที่ท้องนะเจ้าคะ มันอาจจะดีขึ้น เดี๋ยวพวกดิฉันจะได้เตรียมหาพืชสำหรับซับระดูจากตระกูลฟาร์มเมอร์มาให้เร็วที่สุดเจ้าค่ะ ดิฉันจะไปแจ้งนายท่านเพื่อให้นายท่านลาเรียนให้นะเจ้าคะ อาการหนักแบบนี้ถ้าท่านไปโรงเรียนคงจะยาก"
นางกล่าวก่อนจะเดินออกไปเพื่อสั่งการเมดคนอื่นๆ วิลเลี่ยมทำตามที่นางบอก อาการของเขาดีขึ้นนิดหน่อย...เขารู้สึกไม่เห็นด้วยกับการหยุดเรียน แต่ก็ต้องจำใจเพราะเหตุผลมันมีน้ำหนัก....สภาพนี้เขาไปเรียนแบบตั้งใจคงไม่ได้ เพราะจิตใจเขาตอนนี้ไปอยู่ที่ความเจ็บปวดบริเวณท้องของตนเอง สตรีตอนปวดท้องระดูทรมาณเช่นนี้เลยหรือ?....
วิลเลี่ยมเริ่มคิดนับถือสตรีทั้งหลายที่ทนรับความเจ็บปวดแบบนี้ในช่วงระดูขึ้นมา...
เสียแต่ว่าเทพตัวดีทั้งสามนั้นยังคงไม่รู้ถึงชะตากรรมต่อไปของตัวเอง ในวันนี้พวกเขาเองก็สุมหวัคิดแผนแกล้งวิลเลี่ยมอีกครั้ง ยังไงซะภารกิจจักต้องสำเร็จ!
พวกเขากินโพชั่นหายตัวแล้วไปยังห้องของวิลเลี่ยม
การแกล้งดำเนินต่อไปโดยให้ของใช้ในห้องถูกผลักตกลงมา...โดยที่ผู้รับกรรมคือผีสาว....
"มิสพรีเดเตอร์....บอกแล้วใช่หรือไม่คะว่าอย่าพังข้าวของในห้อง?"
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกเปี่ยมด้วยความน่ากลัวเปล่งออกมาจากปากของเด็กสาวที่ขดตัวอยู่บนเตียง ดวงตาสีแอเมทิกส์ตวัดไปมองวิญญาณผีสาวที่ยืนวิญญาณสั่นอยู่ข้างเตียง
"ข-ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ!"
นางปฎิเสธออกไป ดวงตาของวิลเลี่ยมหรี่ลง ราวกับการเตือน แองเจลิน่ารีบเก็บของที่ตกลงมาทันทีด้วยความกลัวว่าตนเองจักตายเป็นรอบที่สอง
ครานี้เป็นเตียงที่เลื่อนไปมาไม่หยุด โดยที่ผู้แกล้งคือชิลด์ที่กลั้นหัวเราะอยู่....
วิลเลี่ยมลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มือจับถุงน้ำร้อนแน่นจนแทบจะขยี้มันให้แหลก ผมสีครีมที่ฟูฟ่องเพราะไม่ได้หวีถูกมือเรียวสางจนเรียบขึ้นมานิดหน่อย....
ถ้าไม่ได้หูฝาดเหมือนเขาจะได้ยินเสียงหัวเราะ....มันเป็นเสียงที่คุ้นมาก...อย่างบอกนะว่า...
เขาตวัดสายตาไปยังที่มาของเสียง ทำให้ชิลด์กับพรรคพวกสะดุ้งสุดตัวทั้งยังร้องออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ลอดพ้นประสาทการรับรู้เสียงของวิลเลี่ยมไปได้แม้เพียงนิด
ใบหน้าที่ถมึงทึงอยู่แล้วของเขายิ่งหนักเข้าไปอีก คราวนี้หน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธาที่ถูกั่งสมมาเสียตั้งแต่เมื่อวาน ออร่าแห่งความนากลัวเปล่งออกมาจากร่างของเขาอย่างไม่ปิดบัง
"เดธ?"
น้ำเสียงกดต่ำที่น่ากลัวราวกับพญามัจจุราชของเขาดังขึ้นมาทำให้เทพทั้งสามผวา....แล้วก็สำนึกได้ว่าพวกตนนั้นตัดสินใจผิดไป
ไม่รอช้าเขาลึกขึ้นยืน ขาเรียวสาวเท้าไปยังที่กำเนิดเสียงอย่างรวดเร็ว มือของเขาจับบางสิ่งบางอย่างได้ ทันทีที่จับได้ก็ทุ่มมันลงกับพื้น
กร๊อบ!
มีเสียงของกระดูกหักดังขึ้นมา วิลเลี่ยมมองไปยังพื้นที่เขาทุ่มบางสิ่งที่มองไม่เห็นไป
"เจ้าเป็นคนทำใช่หรือไม่?"
น้ำเสียงที่น่ากลัวยังคงไว้เช่นเดิม เว้นแต่มันเริ่มกดต่ำมากขึ้น เทพทั้งสามปรากฎตัวขึ้นมา ส่วนดิเรก เจ้าต้นไม้ กับผีสาวนั้นกระโดดออกหน้าต่างอพยพหนีไปที่อื่นเรียบร้อย โดยที่ผีสาวกับต้นไม้นั้นไม่ลืมที่จะหายตัวก่อนด้วย ไม่รู้ว่าใครที่นายของพวกตนพูดถึง แต่ถ้านายของพวกตนนั้นโมโหขนาดนี้ รับรองคฤหาสต์แตกแน่ๆ...
"แหะๆ ข-ขอโท--"
เดธกล่าวพลางยิ้มแหยๆ ไม่ทันพูดจบมือของเขาก็ถูกเหยียบด้วยรองเท้าของวิลเลี่ยมที่ไม่ได้ถอดตั้งแต่เมื่อคืน มันเริ่มกด ขยี้อย่างหนักหน่วงจนได้ยินเสียงกระดูกแตก เทพแห่งความตายกลั้นเสียงร้องของตนเอง ถ้าคนได้ยินล่ะก็คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ ชิลด์ใช้พลังเวทย์ของตนเอง บิดเบือนสายลมให้เสียงที่เกิดขึ้นในห้องนี้หายไปอยู่ที่อื่น
"เหตุการณ์เมื่อวานนี้เจ้าก็เป็นคนทำใช่หรือไม่?"
เอียงคอน้อยๆก่อนจะถึงเท้ากลับไป ในใจเขาท่องบทสวดวนซ้ำไปซ้ำมา การกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสม มันไร้ซึ่งวินัย...ตระหนักได้อย่างนั้นวิลเลี่ยมจึงพยายามสงบสติตัวเองลง แต่ก็แทบจะล้มเหลว เพราะอาการปวดท้องระดูและอีกหลายอย่างทำให้สติของวิลเลี่ยมเริ่มแตก
ทั้งสามเทพพยักหน้าหงึกๆ...
เหงื่อกาฬเริ่มไหลออกมา พวกเขาเริ่มตระหนกได้แล้วว่าการตัดสินใจแกล้งวิลลี่ยมเมื่อวานนี้คือการกระทำที่ผิดพลาดอันใหญ่หลวง....
วิลเลี่ยมเริ่มเทศนาออกมา...แน่นอนว่าการถูกเทศนาโดยวิลเลี่ยมนั้น....เป็นบทลงโทษที่น่ากลัวที่สุดยิ่งกว่าการถูกเฆี่ยนตีเสียอีก...เจ้าต้นไม้กับผีสาวที่ผ่านประสบการณ์การโดนวิลเลี่ยมบ่นใส่โดยอ้างอิงจากหลักคำสอนของพระบิดา ทั้งยังยกเรื่องราวมากมายจากตำราทั้งหลายมาเป็นตัวอย่าง มาสี่ชั่วโมงเต็มๆย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ เมื่อใดที่นายของพวกตนนั้นเอ่ยปากบ่นแล้วล่ะก็...
ต้องมีคนฟังจนตายไปข้างหนึ่ง ถ้าไม่สลบระหว่างการฟังวิลเลี่ยมก็คงไม่หยุด...
และอย่าหวังว่าจะทำเป็นเมินได้ระหว่างที่โดนเทศนา เพราะสายตาที่แสนน่ากลัวนั่นจะจ้องมองเพื่อกดดันราวกับจะสดกดจิตไม่ให้ผู้ใดละสายตาจากตนเองได้...
เมดที่ตระเตรียมของเสร็จแล้วเดินมาเปิดประตู แต่พบว่าเปิดไม่ได้เพราะโดนชิลด์ร่ายเวทย์ล็อคไว้ตั้งแต่ต้น นางจึงตะโกนบอกคุณหนูของตนเองแล้วเดินจากไป...
ห้าชั่วโมงต่อมา...
ทั้งสามยังโดนวิลเลี่ยมบ่น โดยที่คนบ่นนั้นไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่เพียงนิด แซนด์ฮัลด์นั้นสลบเหมือนนอนตาเหลือกน้ำลายยืดตั้งแต่ชั่วโมงแรกแล้ว ส่วนชิลด์กับเดธก็เริ่มจะตาเหลือกตามเทพแห่งไฟไปด้วย...
ตึง!!!
วิลเลี่ยมเดินไปหยิบหนังสือมารยาทการเข้าสังคมที่ดีอันหนาเป็นสอกมาวางไว้กับพื้น ทำให้ทั้งสามสะดุ้งขึ้นมาทันที
"คัดหนังสือเล่มนี้หนึ่งพันจบส่งพรุ่งนี้ และต้องคัดการมือเท่านั้นห้ามใช้เวทย์มนต์..."
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกกล่าวออกมา ทั้งยังมองกดดันทั้งสามไม่ละสายตา...
เทพสามตนได้แต่กรีดร้องในใจ...
นี่มันฝันร้าย ฝันร้าย มันไม่ใช่เรื่องจริง!!!
ก่อนจะถูกวิลเลี่ยมลากไปนั่งคัดลายมือตรงพื้น...
---------------
อยากจะวาดรูประกอบ...แต่เสียดาย เมาส์ปากกายังไม่หายรวน! ฮือ! Q-Q แย่ที่สุดเลย//ยังไม่หายไปไหนน๊า มาต่อแล้ว ^^
.
.
ไม่รู้ทำไม แต่เรารู้สึกสะใจแปลกๆ
ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวถถถถ
โดนซะมั่งพวกไม่มีอะไรทำ วิลเลี่ยมลงโทษให้หนักๆ